บทที่ 15
“ไอ้ฟ้า…”
หมื่นฟ้าที่นั่งผูกเชือกรองเท้าอยู่บนสนามเงยหน้ามองเพื่อนสนิทที่เอ่ยเรียก เรียวที่อยู่ในชุดบอลพร้อมลงเล่นทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามเขาอย่างอารมณ์ดี
“ไร…”
“กูบอกพวกไอ้เฮียว่าวันนี้มึงจะพาคนสนิทมานั่งเชียร์ข้างสนาม”
หมื่นฟ้าพยักหน้ารับแล้วผูกเชือกรองเท้าต่อ “…”
“พวกมันตื่นเต้นใหญ่เลยเว้ย”
“อือ”
“…”
“กูก็ตื่นเต้น”
เรียวหัวเราะ หมื่นฟ้าไม่เคยชวนใครมาเชียร์ตอนเตะบอลเลย เพื่อนคนอื่นเปลี่ยนแฟนกันแทบจะทุกปี ได้รับกำลังใจจากคนสำคัญกันอย่างล้นหลาม มีแต่หมื่นฟ้าคนเดียวที่ใจแข็งไม่ยอมให้ใครมาเป็กำลังใจให้ตัวเองเลย
เมื่อวานตอนที่ไอ้ฟ้าบอกว่าชวนรักมาเชียร์แข่งบอล…
เขาแอบตื่นเต้นแทนมันจริง ๆ
“แต่กูไม่ได้บอกนะว่าน้องเป็ผู้ชาย”
“…” หมื่นฟ้าละสายตาจากรองเท้าแล้วสบตากับเพื่อนสนิท “เออ…สุดท้ายทุกคนก็ต้องรู้อยู่ดีว่าเขาคือคนในใจกู”
“สู้ ๆ มึง”
“หมายถึงแข่งบอล?”
“เปล่า…หมายถึงชีวิตรักของมึงน่ะ”
หมื่นฟ้ายกยิ้มมุมปากก่อนพยักหน้ารับเพื่อนสนิท เรียวตบไหล่เป็เชิงให้กำลังใจแล้วลุกจากไป เขาเตรียมรับมือกับคำถามที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่รักมาปรากฏตัวไว้แล้ว เพื่อนทุกคนรับรู้มาโดยตลอดว่าเขาชอบผู้หญิง และแน่นอนว่าเขาจะต้องอธิบายให้พวกมันฟังถึงการเปลี่ยนแปลง หมื่นฟ้ารู้ดีว่าการอธิบายเป็เื่ยากสำหรับเขา แต่ครั้งนี้เขาจะพยายามทำให้ทุกคนเข้าใจ
เข้าใจว่าความรักไม่มีรูปแบบตายตัว
เข้าใจว่าความรักไม่มีการแบ่งแยก
และเข้าใจว่าไม่มีอะไรจะพังทลายความรักที่เกิดขึ้นได้…
ถึงแม้ว่าตอนนี้ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน แต่หมื่นฟ้าคิดว่ามันไม่เร็วไปที่จะแนะนำที่รักให้ทุกคนรู้จัก เพราะสุดท้ายแล้วคนที่เขาอยากให้เพื่อน ๆ เจอก็คือ รัก นิรันดร์ คนเดียวเท่านั้น
หมื่นฟ้าไม่อาจคาดเดาอนาคตที่จะเกิดขึ้นได้ เขาเลยยึดความรู้สึกที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็หลัก เขาเชื่อว่าเราสองคนต่างรับรู้ได้ถึงบางอย่างที่ส่งถึงกัน
สิ่งนั้นคือกำลังใจ…
การที่เรา้ากำลังใจจากใครสักคน เขาคิดว่าคน ๆ นั้นจะต้องมีความสำคัญต่อหัวใจพอสมควร และที่รักก็กำลังก้าวข้ามผ่านบางอย่างเพื่อมารับกำลังใจจากเขาเช่นกัน
ที่รักจะสามารถข้ามผ่านทุกความรู้สึกเพื่อมาหาเขาได้
เพราะสะพานที่ทอดไปหาคือความรักที่มั่นคงของเขา
ต่อให้ที่รักเดินช้าหรือเร็ว
เขาก็ยังรอรับเสมอ
ทว่าทุกความคิดพลันหยุดลงเมื่อมีเสียงโวยวายเกิดขึ้นภายในสนาม หมื่นฟ้าเหลือบไปมองด้านหลังถึงได้รู้ว่าเพื่อนที่สนิทพอ ๆ กับเรียวกำลังเรียกร้องความยุติธรรมอะไรสักอย่างให้ทีมตัวเองอยู่ เขาส่ายหน้าเอือมระอากับความเล่นใหญ่ของเพื่อนแล้วหันกลับมาตรวจความเรียบร้อยของรองเท้าตัวเอง
“ไอ้ฟ้า…กูรำคาญไอ้เฮียฉิบหาย มึงไปเคลียร์ให้หน่อยดิ”
“มันเป็เหี้ยอะไร?”
“เด็กวิศวะไง เืร้อน…มันบอกว่าพวกเราจะโกงั้แ่ยังไม่ลงแข่ง”
“เดี๋ยวกูไป…”
“เออ รีบมา…”
หมื่นฟ้าถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ผู้หญิงหลายคนที่เป็เพื่อนของแฟนคนในทีมกำลังจ้องมองเขาอยู่ หมื่นฟ้ารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยพลางคิดต่อว่าพวกเพื่อนในใจที่ปล่อยให้คนนอกเข้ามาในสนามด้วย ทั้งที่การแข่งบอลครั้งนี้ควรจะมีแค่กำลังใจจากคนสำคัญเท่านั้น
ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งวุ่นวาย
ไม่ชอบความวุ่นวายเลย
“พวกมึงมันหัวหมอ คิดจะเอาไอ้ลี้กลับไปเล่นให้ทีมตัวเองเหรอ?”
“ที่ไหนล่ะ? ใครบอกมึงเพื่อนเฮีย ~”
“ก็ไอ้ลี้บอกกูว่าจะไปเล่นทีมพี่มันแล้ว”
คนตัวสูงเขวี้ยงขวดน้ำที่ถือติดมือมาด้วยใส่เพื่อนสนิท หมื่นฟ้าไม่ได้กลัวเด็กวิศวะคนนี้สักนิด “คิดว่าพ่อเป็เ้าของสนามฟุตบอลแล้วจะโวยวายยังไงก็ได้?”
“มึงมาก็ดีแล้วไอ้ฟ้า…มาเคลียร์กับกูเลย หมายความว่ายังไงที่ไอ้ลี้จะไปอยู่ทีมมึง”
“หมายความว่ารุ่นพี่อย่างมึงโดนมันหลอก”
“…”
เพื่อนหลายคนที่อยู่ทีมไอ้เฮียส่ายหน้าก่อนจะเดินไปนั่งที่ข้างสนาม ทุกคนคงหมดศรัทธากับกัปตันทีมที่โดนรุ่นน้องหลอก หมื่นฟ้าพยักพเยิดหน้าไปที่น้องชายของเขาที่เดินหัวเราะเข้ามาในสนาม
“หวงลี้ขนาดนั้น…ถึงขนาดต้องมาทวงกับพี่ฟ้าเลย”
“กูบอกเลยนะไอ้ลี้ ถ้าไม่มีมึงนะ…ทีมกูไม่เข้าใกล้คำว่าชนะเลย”
“ไอ้เฮีย!! แล้วพวกกูล่ะ ไม่ได้ช่วยทีมเลยหรือไง…”
หมื่นฟ้าถอนหายใจ กว่าจะแข่งได้แต่ละครั้งไอ้เฮียจะชอบเล่นใหญ่ตลอด มันเป็ลูกชายเ้าของสนามบอลหญ้าเทียมแห่งนี้ หากเล่นแพ้จะเสียชื่อไปถึงพ่อของมันด้วย ไอ้เฮียเลยต้องพยายามเอาชนะทีมเขาให้ได้
แต่นี่ก็เข้าปีที่ 3 แล้ว
มันยังไม่เคยชนะเลย
“แล้วไหนวะ...คนเชียร์ข้างสนามของมึง?”
หมื่นฟ้ากำลังจะปฏิเสธเพื่อน ทว่าคนตัวเล็กที่ใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำทำให้เขาเปลี่ยนไปพยักพเยิดหน้าให้เพื่อนหันไปมองที่ประตูทางเข้า “นั่นไง…คุณเขามาแล้ว”
“ไหนวะ…นั่นมันเบบแฟนไอ้ดอม”
“คนนั้น…” หมื่นฟ้าขมวดคิ้วใส่เพื่อนก่อนจะจับท้ายทอยมันให้มองตรงไปที่ตัวดื้อของเขา “ผู้ชายที่ใส่เสื้อยืดสีขาว หน้าตาน่ารัก ๆ ”
“คะ คนนั้นเหรอวะ?”
“เออ เห็นหรือยังไอ้สัด…ถ้าไม่เห็นก็ไปควักลูกตาออกเถอะ”
“พี่ฟ้า ~”
“ครับ…ตัวดื้อ”
“อะ โอ๊ย ๆ ไอ้เชี้ยฟ้า....” เฮียร้องด้วยความเ็ปก่อนจะยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองหลังจากที่หมื่นฟ้าปล่อยมือแล้ววิ่งไปหาเ้าของรอยยิ้มสดใส หมื่นฟ้าเปลี่ยนไปมากจริง ๆ อย่างที่เรียวเล่าให้ฟัง แต่แค่ไม่คิดว่าคนที่เปลี่ยนเสือให้กลายเป็แมวจะเป็เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนนั้น
“ไง…คุณหมื่นฟ้าเปลี่ยนไปอย่างที่กูบอกไหม?”
“เด็กคนนั้นเป็แฟนมันเหรอวะ?”
“ยัง…เพื่อนเราอยู่ในสถานะแอบรักเขา”
“โกหกกูปะ?”
เรียวหัวเราะก่อนเอ่ย “ถ้าเป็เื่จริง พ่อมึงจะยกสนามฟุตบอลให้กูปะ?”
“สัด!! ลูกแท้ ๆ อย่างกูเขายังไม่ยกให้…ลูกนอกมดลูกอย่างมึงก็อย่าหวัง” เฮียมองเพื่อนสนิทที่กำลังลูบหัวเด็กผู้ชายคนนั้นด้วยความเอ็นดูอย่างไม่เชื่อสายตา “ไอ้ฟ้าไปหัดใช้สายตาอ่อนโยนแบบนั้นั้แ่เมื่อไหร่วะ?”
“ของแบบนี้ไม่ต้องหัด…มันเป็โดยสัญชาตญาณ อยู่ที่ว่าเราจะเอามาใช้กับใคร”
เฮียเบ้ปากก่อนมองเรียวยืนกอดอกยิ้มกริ่มขณะมองหมื่นฟ้ากับกำลังใจสำคัญพูดคุยกันอยู่ “แล้วมึงเป็เหี้ยอะไร? ยิ้มเหมือนไปรักกับเขาด้วย”
“กูเป็เพื่อนที่ดีไง…เห็นเพื่อนมีความสุขก็สุขตามไปด้วย ไม่เหมือนมึงหรอก…”
“อะ อ้าว..ไอ้เหี้ยนี่…ว่ากูแล้วเดินหนีเฉย กลับมาให้กูกระทืบเลยนะไอ้เรียว”
หมื่นฟ้าละสายตาจากคนตัวเล็กแล้วหันมองเพื่อนสนิทสองคนที่ไล่เตะกันอยู่ เรียวกับเฮียชอบตีกันั้แ่เรียนมัธยมแล้ว
“พี่ฟ้าครับ…รักต้องนั่งเชียร์พี่ฟ้าตรงไหนครับ?” คนตัวเล็กถามพลางคลี่ม้วนกระดาษแผ่นใหญ่ที่เป็ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าออก เ้าตัวยิ้มจนตาหยีพอกระดาษแผ่นนั้นถูกกางสุดความยาว “รักพร้อมมาก ๆ เลยครับ”
หมื่นฟ้าอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นป้ายเชียร์ที่คุณตัวดื้อทำมาให้เขาโดยเฉพาะ บนกระดาษสีขาวแผ่นนั้นมีตัวหนังสือสีฟ้าขนาดกำลังพอดีที่เขียนข้อความว่า คุณท้องฟ้า ซู่ ~ ซู่ ~
แต่สิ่งที่ทำให้เขาหลุดยิ้มกว้างออกมาคือรูปของเ้าตัวที่ยิ้มแฉ่งชูสองนิ้วอยู่หลังข้อความ ที่รักตัดต่อเอารูปครึ่งตัวของตัวเองใส่ลงไปในป้ายเชียร์ด้วย หมื่นฟ้ายิ้มกว้างจนกลายเป็หัวเราะเพราะความน่ารักของคุณเขา
หัวใจของที่รักต้องใหญ่กว่าตัวกี่เท่าถึงได้กล้าขนาดนี้
แต่ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า…ที่รักทำทุกอย่างด้วยหัวใจจริง ๆ
“ตัวดื้อจริง ๆ เลยครับ…” พูดก่อนจะเอื้อมมือไปจับแก้มแดง ๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“พี่ฟ้าชอบป้ายเชียร์อันนี้ไหมครับ? ...ถ้าไม่ชอบรักจะได้เก็บไว้แล้วส่งเสียงเชียร์อย่างเดียว”
“ทำไมตัวดื้อถึงคิดว่าพี่ฟ้าจะไม่ชอบครับ?”
“เผื่อพี่ฟ้าจะอาย…”
หมื่นฟ้าอมยิ้มตอนเห็นคนตัวเล็กพูดพร้อมยิ้มแห้ง ๆ เป็ครั้งแรกที่เขาเห็นความไม่มั่นใจผ่านแววตาของที่รัก “แล้วตอนที่ตัวดื้อนั่งทำป้ายเชียร์ให้พี่ฟ้า…ตัวดื้ออายไหมครับ?”
“ไม่ครับ จะอายได้ยังไง…รักตั้งใจทำมาเชียร์พี่ฟ้าเลยนะครับ อยากให้พี่ฟ้าเห็นตอนที่วิ่งอยู่ในสนาม พี่ฟ้าจะได้มีกำลังใจเยอะ ๆ ” คนตัวเล็กพูดอธิบายปากยุบยิบก่อนจะส่งยิ้มน้อย ๆ ให้เขา “แต่รักไม่คิดว่าสนามที่พี่ฟ้ามาแข่งบอลจะเป็สนามหญ้าเทียมแบบนี้…พอมาที่นี่ป้ายเชียร์เลยดูใหญ่ไปหน่อย”
“พี่ฟ้าไม่อายหรอกครับ ทุกครั้งที่เห็นป้ายเชียร์และรูปชูสองนิ้วของตัวดื้อ…พี่ฟ้าจะต้องเตะเข้าสักลูก”
ที่รักยิ้มกว้างจนปากบานก่อนจะพยักหน้ารับ “คุณท้องฟ้า ซู่ ~ ซู่ ~ นะครับ” เ้าตัวพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่ข้อความในป้ายเชียร์ “เหมือนในป้ายเลยครับพี่ฟ้า”
“ครับ…”
“รัก มานั่งตรงนี้เร็ว ๆ เขาจะเริ่มแข่งกันแล้ว…เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าเป็ลูกบอลโดนเตะล้มกลิ้งหรอก”
“โธ่ ~ เมื่อไหร่พี่เบบจะเลิกแซวรักแบบนี้สักทีนะ”
“เดี๋ยวพี่ฟ้าไปเตรียมตัวก่อนนะครับ…”
“ค้าบบบ ...”
หมื่นฟ้าวิ่งกลับไปเตรียมตัวที่กลางสนาม ในขณะที่เขาวอร์มร่างกายอยู่นั้นเพื่อนหลายคนที่อยู่ในทีมก็ชี้ไปที่ข้างสนาม หมื่นฟ้าคิดว่าพวกมันคงแอบเล็งเพื่อนของแฟนใครสักคนเหมือนทุกปี
“คุณท้องฟ้า ใครวะ?”
“ใส่รูปตัวเองมาด้วยนะ…จะว่าน่ารักก็ได้ว่ะ”
“ผู้ชายอะไร จิ้มลิ้มฉิบหาย…”
คนตัวสูงเริ่มหงุดหงิดที่เพื่อนในทีมสนใจคุณตัวดื้อของเขา ตอนที่เขายืนคุยกับที่รักข้างสนามพวกมันคงไม่ได้สังเกตถึงได้พูดแบบนั้น
“เด็กใครวะ?”
“เด็กกู!”
“ฮะ!!!!”
หมื่นฟ้าขมวดคิ้วเข้มพอเพื่อนห้าคนที่วอร์มร่างกายอยู่ข้าง ๆ อุทานเสียงดังพร้อมกัน พวกนั้นกะพริบตาปริบ ๆ มองเขาสลับกับคนตัวเล็กที่ชูป้ายอยู่ข้างสนาม
“มึงชอบผู้ชายแล้วเหรอไอ้ฟ้า?”
“พวกมึงเข้าใจผิด”
“นั่นไง..พวกกูว่าแล้วววว.......”
“กูไม่ได้แค่ชอบ…แต่กูรัก”
“…”
“…”
เขาถอนหายใจใส่เพื่อนร่วมทีมก่อนจะเดินไปประจำตำแหน่ง ในระหว่างที่รอการแข่งขันเริ่มก็หันไปมองคนที่อยู่ข้างสนามเพื่อเติมกำลังใจ หมื่นฟ้าอมยิ้มก่อนพยักหน้ารับคนที่โบกป้ายเชียร์ไปมา มันเป็ในตอนนั้นที่รอยยิ้มของที่รักบอกอะไรบางอย่างกับเขา
พี่ฟ้าจะสู้…สู้กับทุกอย่าง
เพื่อให้รอยยิ้มนั้นอยู่เป็นิรันดร์…
ที่รักพยายามชูป้ายเชียร์ให้สูงที่สุดเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น เขาเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจพอเห็นหมื่นฟ้าเล่นบอลในสนาม เ้าตัวทั้งวิ่งเร็วและมีทักษะการเล่นฟุตบอลที่ดีเยี่ยม เขาจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ดูบอลกับพ่อคือตอนอายุสิบห้า หลังจากนั้นที่รักไม่เคยดูฟุตบอลอีกเลยเพราะรู้สึกเบื่อ
แต่วันนี้หัวใจกลับเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น คล้ายกับเขาเป็นักบอลที่ลงไปเล่นเองแล้วมีเืสูบฉีดตลอดเวลา
“เบอร์สิบนะครับ! ตอนนี้หมื่นฟ้าครองบอลอยู่นะครับ!”
“…พี่ฟ้าสู้ ๆ ค้าบบบ” ที่รักละมือข้างหนึ่งออกจากป้ายเชียร์แล้วเอาป้องปากหวังให้เสียงของตัวเองดังขึ้น
หมื่นฟ้าบุกมาถึงเขตของทีมคู่แข่งด้วยความรวดเร็ว ที่รักแทบจะหยุดหายใจตอนที่อีกทีมวิ่งเข้ามาสกัดขาหมื่นฟ้า แต่เ้าตัวก็ะโข้ามได้อย่างง่ายดายแล้วหมุนตัวหลบคนที่ดักรออยู่ข้างหน้าได้ด้วย
“พี่ฟ้าสุดยอด!!!! ...เจ๋งสุด ๆ เลยครับ” คนที่เผลอะโเสียงดังด้วยความดีใจผงกศีรษะเพื่อขอโทษคนที่อยู่ข้าง ๆ พี่เบบใช้มือกระตุกชายเสื้อเขาเบา ๆ ที่รักถึงได้รู้ว่าตัวเองเผลอลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว “แหะ ๆ เชียร์มันไปหน่อยน่ะครับ”
“ไปแล้ว ๆ ….หมื่นฟ้าไปแล้ว ~”
“ได้หรือไม่ได้ครับ…ลูกนี้จะได้หรือไม่ครับ!”
ที่รักลุ้นไปกับคนพากย์บอลที่น่าจะเป็เพื่อน ๆ ของหมื่นฟ้า “พี่ฟ้า…เตะให้เข้านะครับ”
“ได้ไหม?!”
“เข้าไปแล้ว!!!!”
“เฮ้ ~”
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็กองเชียร์ของฝ่ายไหนต่างพากันลุกส่งเสียงร้องเชียร์ให้หมื่นฟ้ากันระงม จนนักฟุตบอลของฝ่ายตรงข้ามต้องกำราบกองเชียร์ของตัวเองให้นั่งลง
“โอ้โฮ ~ สุด ๆ ไปเลยคนนี้”
“หมื่นฟ้าฟอร์มดีไม่มีตก…แม้จะไม่มีกำลังใจข้างสนามอย่างคนอื่นเขา แต่เล่นได้ดีจริง ๆ เลยนะครับคุณยอด ~”
“ใช่ครับ ๆ ”
ที่รักหันไปมองคนพากย์สองคนที่พูดออกไมค์อยู่ข้างสนามพลางคิดว่าปีนี้หมื่นฟ้ามีกองเชียร์แล้ว เ้าตัวไม่ได้มาแข่งโดยไม่มีกำลังใจอย่างทุกปี
“ปีนี้มีแล้ว ๆ ”
“จริงเหรอครับคุณเรียว?” คนพากย์ที่ได้ยินเพื่อนเก่าะโบอกเอ่ยถามออกไมค์
“ให้ไอ้ฟ้ายืนยันเอง”
ที่รักมองคนตัวสูงที่วิ่งไปหาคนพากย์ทั้งสองคนที่กวักมือเรียก หมื่นฟ้าหอบหายใจก่อนจะพยักหน้ารับ แต่ทั้งสองไม่ยอมปล่อยให้เ้าตัวกลับไปเล่นง่าย ๆ
“ไหนครับคุณหมื่นฟ้า…กำลังใจของคุณอยู่ไหน?”
“…”
ที่รักเอียงตัวกระซิบถามพี่สาว “พี่เบบ แข่งบอลอะไรพักคุยได้ด้วย?”
“ก็แข่งแบบตามใจฉันไง…แข่งกันเองมีแต่เพื่อน ๆ ทั้งนั้น เอาสนุก…ไม่สนใจเื่เวลากับกฎกติกามากหรอก”
“แล้วไหนพันลี้ว่าจริงจัง?”
“มันก็จริงจังนั่นแหละ คือไม่มีทีมไหนอยากแพ้…แต่ก็ชอบทำไร้สาระ หาเื่เรียกเพื่อนในทีมมาแซวนอกเวลาแบบนี้” พี่เบบว่าพลางหัวเราะ
“…”
“หรือไอ้เรียวโกหกพวกผมครับ?”
“เปล่า…”
“…”
“กำลังใจอยู่ตรงนั้น…” เพราะไมค์ถูกจ่ออยู่ที่ปากของหมื่นฟ้า ทุกคำพูดเลยชัดเจน เ้าตัวชี้มาทางเขาก่อนจะเอ่ย “ชูป้ายหน่อยครับที่รัก”
“ฮิ้ววววว ~”
“ปีนี้มีกำลังใจโว้ย ~”
คนพากย์ส่งเสียงแซวทำให้ที่รักใบหน้าร้อนผ่าว แต่ก็ต้องยกป้ายเชียร์ขึ้นสูง ๆ ตามที่เ้าตัวร้องขอ ที่หมื่นฟ้าบอกว่าไม่อาย ตอนนี้ที่รักเชื่อแล้วว่าไม่อายเลยจริง ๆ
“อะ ๆ พอแล้ว แซวกันพอหอมปากหอมคอ กลับเข้าสู่การแข่งขันได้!”
“เสียเวลาเพราะมึงสองตัวแหละไอ้ฉิบหาย!”
“ทำไมครับคุณเฮีย…จะเล่นช้าหรือเร็วทีมคุณก็แพ้”
“ไอ้สัด!!”
คนทั้งสนามพากันยิ้มขำก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศตึงเครียดอีกครั้ง เพราะทีมของหมื่นฟ้าได้คะแนนนำไปก่อน อีกทีมเลยเริ่มรุกหนักมากขึ้น โจมตีไม่หยุดจนกองเชียร์หายใจกันแทบไม่ทัน
“เอาแล้วครับ…สองพี่น้องตระกูลพิสุทธิ์จะบวกกันเองแล้วครับ!!”
“ได้ไหม? ...พันลี้จะแย่งบอลมาจากหมื่นฟ้าได้ไหม…”
“ไม่ได้นะครับ! ...หมื่นฟ้าหลอกล่อเก่งมาก”
ที่รักดูบอลไม่ละสายตาจนไม่ทันได้สังเกตกองเชียร์คนใหม่ที่นั่งลงข้าง ๆ เขา แต่เพราะว่าคนข้างกายสะกิดแขนถึงได้รู้ว่าเป็คนที่รู้จักกันเป็อย่างดี
“อ้าว ใกล้…”
“มาเชียร์พี่ฟ้าเหรอ?”
“ใช่ ๆ …ใกล้มาเชียร์ใคร พี่ดอมใช่ไหม?”
“เอ่อ…เปล่า”
“หือ?”
“เราเอาเสื้อมาคืนพันลี้น่ะ…”
“เอาเสื้อมาคืนลี้?”
“ใช่ พอดีเมื่อ่อาทิตย์ก่อนเสื้อเราเปื้อน แล้วเราต้องรีบเข้าเรียนวิชาสำคัญ บังเอิญเจอพันลี้พอดี…พันลี้ก็เลยให้ยืมเสื้อก่อน”
“อ๋อ…แบบนี้นี่เอง แต่ใกล้อยู่เชียร์บอลด้วยกันก่อนสิ สนุกนะ”
“…เราก็คงต้องรอจนพันลี้แข่งเสร็จ เพราะเ้าตัวบอกให้รอ”
“โอเคเลย…” ที่รักละสายตาจากคนข้างกายที่ตอนนี้กำลังทักทายกับพี่เบบเพื่อเชียร์คุณท้องฟ้าต่อ “พี่ฟ้า ~ ลูกนี้เตะให้เข้านะค้าบ ~”
“เอาอีกแล้วครับท่านผู้ชม…คุณหมื่นฟ้าบุกอีกแล้ว บุกรัว ๆ เลยพ่อเอ๊ยยย ~”
“เหมือนเขาเล่นอยู่คนเดียวในสนามเลยนะครับ ฮ่า ๆ”
“เข้าไม่เข้า…เข้าไม่เข้า!!!”
“เข้า!!!! เข้าไปอีกแล้ว ~”
“โอ้โฮ…คงเป็เพราะรูปน่ารัก ๆ บนป้ายเชียร์แน่ๆ เลยครับที่ทำให้คุณหมื่นฟ้าฮึกเหิมได้ขนาดนี้”
“ไอ้ฟ้า!! มึงเอาบอลกลับไปเล่นบ้านคนเดียวเลยไป ถ้าจะไม่แบ่งให้พวกกูเล่นเลยแบบนี้” กัปตันทีมคู่แข่งโวยวายขึ้น
“เอาแล้วครับ…ลูกชายเ้าของสนามฟุตบอลเริ่มงอแงแล้วนะครับ”
“งอแงพ่อมึงสิ! ปีหน้าปลดพวกมันออกจากทีมพากย์ทีนะ กูหงุดหงิดเหลือเกิน”
ที่รักเข้าใจถึงการแย่งชิงที่นั่งข้างสนามที่พี่สาวเล่าให้ฟังบนรถแล้ว เพราะบรรยากาศตลอดการแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเป็กันเองแบบนี้ หลายคนถึงได้อยากเข้ามาดู นอกจากจะได้ลุ้นจนแทบลืมหายใจแล้วยังได้หัวเราะอีกต่างหาก
“หมดครึ่งแรก! ทุกคนแยกย้ายไปหาโค้ชทีมตัวเองได้ครับ”
“ใครครับโค้ชของแต่ละทีม”
“กูกับมึงไงครับ…”
ขวดน้ำหนึ่งขวดถูกยื่นมาจากคนที่อยู่ข้าง ๆ พี่เบบพยักหน้าก่อนจะยัดขวดน้ำใส่มือเขา “เวลาพักครึ่งแรก…คนที่เป็กำลังใจต้องเอาน้ำไปให้นักบอลนะ”
“อะ อ๋อ…รักไม่เคยมาก็เลยไม่รู้”
ที่รักรับขวดน้ำแล้วเดินเอาไปให้หมื่นฟ้าที่วิ่งมาหาที่ข้างสนาม เขากวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ภายในนี้ถึงได้รู้ว่ากองเชียร์ทุกคนต่างมีน้ำมาให้นักบอลที่ตัวเองมาเชียร์อย่างที่พี่เบบบอกจริง ๆ
“น้ำครับพี่ฟ้า…”
“ขอบคุณนะครับ” หมื่นฟ้ารับไปแล้วดื่มแค่นิดเดียว “ลูกแรกให้ตัวดื้อ…ลูกที่สองให้...ที่รัก”
ที่รักเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นยิ้ม “ก็คนเดียวกันนี่ครับพี่ฟ้า…”
“…” หมื่นฟ้าอมยิ้มก่อนเอ่ย “ลูกที่สามให้ใครดีครับ?”
ที่รักครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วยิ้มกว้างออกมา “ให้เราครับ”
“ได้เลยครับ”
“ซู่ ~ ซู่ ~ นะครับพี่ฟ้า”
หมื่นฟ้าที่เหงื่อโชกตัวพยักหน้ารับแล้วคืนขวดน้ำให้เขา เ้าตัววิ่งกลับเข้าไปในสนามเมื่อมีเสียงสัญญาณเตือนหมดเวลาพัก คนตัวสูงส่งยิ้มให้เขาก่อนจะขยับปากพูดโดยไม่ออกเสียง
เหมือนว่าเราจะใช้วิธีนี้จนเคยชิน
เพราะที่รักสามารถอ่านปากหมื่นฟ้าออกว่า
‘ลูกที่สามของเรา’
ที่รักยิ้มกว้างพร้อมพยักหน้ารับอีกฝ่าย เขาวิ่งกลับมานั่งที่ข้างสนามเพื่อรอดูลูกที่สามของหมื่นฟ้า ที่รักไม่รู้ว่าหมื่นฟ้าจะทำได้ไหม…
แต่เขาอยากขอบคุณ…
ขอบคุณสำหรับลูกที่หนึ่ง…ของตัวดื้อ
และลูกที่สอง…ของที่รัก
50%
ทว่าครึ่งหลังไม่ง่ายสำหรับหมื่นฟ้าเลย เพราะพันลี้ที่เครื่องติดโชว์ฝีเท้าจนทุกคนในสนามต้องลุกส่งเสียงฮือฮา ไม่นานนักเพื่อนสนิทของเขาก็เตะบอลเข้าโกลได้อย่างน่าประทับใจ ที่รักเผลอลุกขึ้นตบมือด้วยความดีใจจนทำให้ใครบางคนขมวดคิ้วใส่ เขาเลยโบกมือไปมาเพื่อปฏิเสธก่อนจะส่งยิ้มหวาน ๆ กลับไปให้หมื่นฟ้า
“รักตบมือให้พี่ฟ้าครับ…เชียร์พี่ฟ้าคนเดียวเลย” พูดเสียงแ่เบาก่อนจะนั่งลงที่เดิม ใกล้กับพี่เบบที่นั่งขนาบข้างอยู่หัวเราะในลำคอทำให้เขาสงสัยจนต้องเอ่ยปากถาม “สองคนหัวเราะอะไรกันครับ?”
“ก็หัวเราะคนที่กลัวโดนงอนยังไงล่ะ…เพื่อนก็อยากเชียร์แต่ก็กลัวเขาจะน้อยใจ ลำบากแล้ว”
“ระ รัก แค่…”
“เมื่อกี้พี่ฟ้าจ้องรักใหญ่เลยนะ คงอยากให้รักเชียร์พี่ฟ้าคนเดียว”
“โธ่…แบ่ง ๆ กันสิครับพี่ฟ้า” พอพูดจบใกล้ก็หัวเราะแล้วส่งมือมาขยี้หัวเขา
“ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้เนี่ยรัก…เราอยากจะขโมยกลับบ้านจริง ๆ เลย”
“บ้านใกล้มีข้าวกะเพราหมูกรอบไข่เจียวกับผ้าห่มชาลี บราวน์ ไหม?”
“มี ๆ ”
“งั้นไม่ต้องขโมยเราหรอก เราเดินตามเลย”
ใกล้หัวเราะแล้วหยิกแก้มของเขาหนึ่งที “น่ารักมาก ๆ ”
คนโดนชมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนหันมาให้กำลังใจคนในสนามเหมือนเดิม ตอนนี้หมื่นฟ้าได้ครองบอลอีกครั้ง ที่รักเลยรีบหยิบป้ายเชียร์ขึ้นมาชูสูง ๆ แล้วส่งเสียงเป็กำลังใจให้หมื่นฟ้าสุดพลัง
“มาแล้ว ๆ หมื่นฟ้ามาแล้วครับ!”
“พันลี้ก็ตามมาติด ๆ แล้วครับ”
“ได้ไหม.... พันลี้แย่งบอลได้ไหม?!”
“ยัง ๆ …หมื่นฟ้าพักบอลที่มุมสนามเพื่อหาทางหนีแล้วครับ”
“คุณเห็นภาพหักหลบเมื่อกี้ไหมครับคุณยอด?”
“ไม่รู้แล้ว ๆ เพราะหมื่นฟ้ารอดมาได้แล้วครับ…”
ที่รักรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นหมื่นฟ้าเข้าใกล้เขตคู่แข่งมากขึ้น “พี่ฟ้า…สู้ ๆ ค้าบ” และในวินาทีถัดมาหมื่นฟ้าก็เตะลูกบอลอัดเข้าโกลเต็มแรง
“เฮ!!! เข้าไปแล้วครับ ~”
“เย้!! คุณท้องฟ้าสุดยอด ~” ที่รักลุกขึ้นชูป้ายจนสุดความยาวของแขน หมื่นฟ้าที่อยู่ในสนามหันมาสบตากับเขาก่อนจะยิ้ม
คนตัวสูงที่อยู่กลางสนามยกมือขึ้นชูสามนิ้วแล้วเอามืออีกข้างที่ว่างอยู่ชี้ที่ตัวเองก่อนจะชี้มาที่เขา ภาษากายที่หมื่นฟ้าสื่อทำให้ที่รักกลั้นยิ้มไม่ไหวจนต้องปล่อยให้ตัวเองยิ้มออกมา
ชูสามนิ้วหมายถึง…ลูกที่สาม
ชี้เข้าหาตัวเองแล้วชี้มาที่เขาหมายถึง…เรา
ลูกที่สามของเรา
เป็ในตอนนี้เองที่หัวใจกลับมาเต้นแรงอีกครั้งทั้งที่ไม่ได้อยู่ใกล้หมื่นฟ้า เพราะสิ่งนี้ถึงทำให้ที่รักรู้ว่าหมื่นฟ้าเลื่อนขั้นจากคนสนิทได้อย่างรวดเร็วโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว ตอนนี้เขายอมรับว่าหมื่นฟ้าเป็คนสำคัญของเขาไปแล้ว ที่รักคิดว่าคนที่มีอิทธิพลต่อหัวใจจะต้องเป็คนสำคัญ…เพราะไม่ว่าเขาจะอยู่ใกล้หรือไกล
หัวใจของเราจะตอบสนองเขาเสมอ
อย่างในตอนนี้ที่มันเต้นแรง…
#กี่หมื่นฟ้า
“วันนี้ขอขอบคุณกองเชียร์ทุกคนมาก ๆ เลยนะครับ”
“ใช่ครับ…พวกเราหวังว่าจะทำให้ทุกคนยิ้มได้ไม่มากก็น้อย…ไว้เจอกันปีหน้านะครับ ~”
กองเชียร์ทุกคนตบมือให้คนพากย์และนักฟุตบอลทั้งสองทีมที่ช่วยสร้างรอยยิ้มตลอดทั้งวันนี้ ก่อนจะทยอยกันออกจากสนามฟุตบอล แต่ก็ยังมีกองเชียร์บางคนและนักฟุตบอลบางส่วนที่หลงเหลืออยู่บ้าง
“ไม่มีปีหน้าแล้วไอ้เหี้ย…อายฉิบหาย กลับบ้านไปพ่อได้ตีหัวกูแตกแน่ ๆ ”
“ทำใจเหอะไอ้เฮีย…พ่อเป็เ้าของสนามฟุตบอลก็ใช่ว่าลูกจะเก่งเหมือน เวย์น รูนีย์”
“เออ ปลอบใจกูได้ดี”
หมื่นฟ้าทิ้งตัวนั่งลงบนโต๊ะไม้ยาวในขณะที่เพื่อนหลายคนนอนแผ่อยู่บนพื้นหญ้าอย่างเหนื่อยอ่อน เขาเพิ่งแยกมาจากคุณตัวดื้อเพื่อมาอยู่กับเพื่อนเก่า ในบรรดาเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันั้แ่มัธยม มีเรียวเพียงคนเดียวที่ได้เจอกันบ่อยสุด นั่นเป็เพราะเรียวเป็หุ้นส่วนของร้านเขา พวกเราไม่ได้รวมตัวกันได้ง่าย ๆ เพราะเวลาเรียนที่ต่างกัน หมื่นฟ้าเลยอยากมีเวลาอยู่กับเพื่อนเก่าที่สนิทกันอีกสักหน่อย
‘ตัวดื้อครับ…นั่งคุยกับเบบและใกล้ไปก่อนได้ไหมครับ พี่ฟ้าขอไปหาเพื่อนแป๊บหนึ่ง’
‘ได้เลยครับพี่ฟ้า…ยังไงรักก็ต้องรอกลับพร้อมพี่เบบอยู่แล้ว…พี่เบบก็รอพี่ดอมคุยกับเพื่อนอยู่เหมือนกัน คงอีกสักพักเลยครับกว่าจะกลับ’
‘ครับ…รอพี่ฟ้าก่อนนะครับ’
‘ค้าบ…’
หมื่นฟ้าอมยิ้มขณะมองคนตัวเล็กที่คุยอยู่กับใกล้ คุณตัวดื้อนั่งอยู่อีกฝั่งซึ่งอยู่ไกลกันพอสมควร เขาไม่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองฝ่ายแต่หมื่นฟ้าพอจะเดาออกว่าเ้าตัวกำลังชมเขาให้ใกล้ฟังอยู่ เพราะที่รักชอบพูดคำว่า ‘พี่ฟ้า’ บ่อย ๆ
เขาอ่านปากออก…
“ที่ยิ้มนี่เป็เพราะอยากเยาะเย้ยคนแพ้อย่างกูหรืออะไรไอ้ฟ้า?”
“ให้รอยยิ้มกูปลอบใจมึง”
“อย่า ๆ …อย่าเอาวิธีจีบเด็กมาใช้กับกู”
“…”
เพื่อนทุกคนพากันหัวเราะ ก่อนไอ้เฮียจะเอ่ยถามต่อ “ชอบเขามากไหมวะ?”
“มากพอจนกลายเป็รัก”
“ฮิ้ว ~” หมื่นฟ้าส่งเท้าไปถีบที่เป้ากางเกงของไอ้เฮียที่นอนหงายอยู่ตรงหน้าเขา “อย่า ๆ กูยังไม่มีเมีย ขอเก็บไว้ใช้ก่อน”
“ทำไมต้องเป็คนนี้วะ?” โก้เพื่อนอีกคนถามขึ้น
“กูไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องเป็คุณเขา…รู้แค่ว่าถ้าไม่ใช่เขา กูก็ไม่รักใครแล้ว”
“จำไว้ไอ้เฮีย…หัดทำตัวให้หนักแน่นเหมือนไอ้ฟ้ามันบ้าง”
“กูไม่เคยขออะไรพวกมึงเลย…” หมื่นฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนที่เป็มาตลอด แต่เพราะความสัมพันธ์ที่ยาวนานของพวกเขาเลยทำให้เพื่อนรู้ว่าครั้งนี้…ครั้งนี้จริงจังกว่าทุกครั้ง “ครั้งนี้กูขออะไรอย่าง”
“ว่ามา!”
“ขอแค่เชื่อว่ามันคือรัก”
“…”
“รักที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในใจกู”
“…”
หมื่นฟ้ารู้ดีว่ามันเป็เื่ยากที่จะเชื่อ แต่ถ้าทุกคนได้รับรู้ถึงความพยายามของเขาตลอดสองปีที่ผ่านมา เขาเชื่อว่าทุกคนจะเชื่อได้โดยที่เขาไม่ต้องขอร้อง
“คนที่ทำให้พวกกูเชื่อได้คือมึงนะไอ้ฟ้า…”
“เออ…พวกกูเชื่อั้แ่ชั่วโมงแรกแล้ว”
“จริง…คนแบบมึงถ้าไม่สนใจก็คือไม่มองเลย แต่มึงแสดงออกขนาดนี้…สายตาของมึงมันบอกทุกอย่างแล้ว”
“พวกกูเชื่อเว้ย!”
“เชื่อว่าหลงน้องมากด้วย”
หมื่นฟ้าหัวเราะก่อนพยักหน้ารับเพื่อนทุกคน “ขอบใจพวกมึง…ขอบใจที่เข้าใจกู”
“เอาน้องมาให้กูฟัดแทนคำขอบใจได้ไหมวะ?”
“ไอ้เหี้ย!”
“เดี๋ยวไอ้ฟ้า…เรียกกูชัด ๆ กูชื่อเฮีย…โกรธจนเรียกชื่อกูเพี้ยนไปหมด”
“ฮ่า ๆ ” เรียวหัวเราะพอเห็นหมื่นฟ้าจ้องเขม็งใส่เพื่อน
ดอมที่นอนอยู่ลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ย “ก่อนจะผ่านไอ้ฟ้า…มึงต้องผ่านกูก่อนไอ้เฮีย กูก็หวงเหมือนกัน”
“ยากเลยกู…เห็นหน้าตาจิ้มลิ้มแล้วอยากจะฟัดแรง ๆ ให้ร้องไห้”
“อีกแล้วนะไอ้เหี้ย!”
“มึงก็อย่าไปยั่วไอ้ฟ้าดิวะ? ...เดี๋ยวสนามบอลก็ลุกเป็ไฟหรอก”
“แข่งกันจีบน้องปะล่ะ?”
“แข่งพ่อมึงดิ…กูเฝ้าของกูมาตั้งนาน”
เฮียกลั้นยิ้มก่อนเอ่ย “แต่กูมีเกียร์นะโว้ย…บางทีกูอาจจะน่าสนใจกว่ามึง”
“…”
“เอาเกียร์ไปแลกกับใจน้องแบบนี้…”
“มีเกียร์แล้วเกียร์มัวเปล่าวะ?” บอลถาม
“ห่า…ถามแบบนี้ก็เสียระบบเด็กวิศวะหมดดิครับ”
“…”
“ใช่ครับ…เกียร์มัวมากด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มีให้กลัวเลยสัด” เพื่อนพากับขำพรืด ส่วนเฮียส่ายหน้าน้อย ๆ ทำได้แค่ยอมรับความจริง ก่อนถามหมื่นฟ้าที่นั่งมองใครบางคนที่อยู่อีกฝั่งของสนาม “แล้วเด็กกราฟิกมีอะไรบ้างครับ?”
หมื่นฟ้าละสายตาจากคนตัวเล็กแล้วส่ายหน้า “ไม่มีเกียร์ แต่ก็คงกลัวเมียเหมือนกัน”
“เชี้ย!! มันได้โว้ย ~”
“ฮิ้ววว ~”
หมื่นฟ้าไม่ได้อายที่โดนเพื่อนโห่แซว แต่เขากลัวคนตัวเล็กจะสงสัยว่ากลุ่มเขาคุยอะไรกันถึงได้ส่งเสียงดัง เขาเลยตัดบทด้วยการถามเื่แพลนไปทะเล่อาทิตย์หน้า
“แล้วเื่ไปทะเลว่าไง?”
“เปลี่ยนเื่เก่งงงง”
“ไอ้สัด!”
“เค ๆ งั้นกูขอเป็ตัวแทนอธิบายทริปนี้ละกัน…ก็คือว่าไปเช้ากลับเย็นและจากที่ดูวันหยุดของพวกเราทุกคนแล้ว คงต้องไปวันเสาร์ เพราะทุกคนหยุดหมด”
“…”
“กูเอาใบรายชื่อมาด้วย ใครไปก็ลงชื่อเลย ใกล้ ๆ วันกูจะโทรจิกอีกรอบ ใครลงชื่อแล้วไม่ไปกูจะตัดออกจากกองมรดก”
เรียวส่ายหน้าขณะรับใบรายชื่อมาจากเพื่อนพลางคิดว่าไอ้เฮียชอบทำให้ยุ่งยาก แค่ไปทะเลต้องลงชื่อเหมือนไปทัศนศึกษา “ใครไปบ้างบอกมาเลย เดี๋ยวกูลงชื่อให้…”
“ดอม…เบบไปใช่ไหม?” หมื่นฟ้าหันไปถาม
“เออ…”
“เรียว…งั้นใส่ชื่อคุณเขาไปด้วย”
“ได้เลยครับ”
“ใส่ชื่อใกล้ไปด้วย…”
“ใครวะใกล้?”
“น้องกูเอง” ดอมตอบ
“เออ ๆ …เอาพันลี้น้องรักกูไปด้วยนะ วันนี้อุตส่าห์เตะให้ได้ตั้งหนึ่งประตู ไม่งั้นกูอายฉิบหายเลย”
“มึงนี่พึ่งใบบุญลี้จริง ๆ เลยนะไอ้เฮีย”
“คุยธุระเสร็จแล้วใช่ไหม? ...เดี๋ยวกูขอไปหาคุณเขาก่อน ให้เขารอนานแล้ว”
“ไปเถอะพ่อ…”
“ไม่ใช่พ่อ”
“แล้วมึงจะเป็อะไรครับเพื่อนฟ้า?”
“ป๊า” หมื่นฟ้าพูดเสร็จก็ลุกออกไป เพื่อนทุกคนมองหน้ากันแล้วคิดว่าหมื่นฟ้าเปลี่ยนไปมากจริง ๆ
“มันรักเขามากจริง ๆ นั่นแหละ” โก้ว่า
“ตอนแรกที่กูมาบอกพวกมึงว่าไอ้ฟ้าชวนคนสำคัญมาเชียร์ข้างสนาม…พวกมึงคิดว่าผู้หญิงใช่ไหม?”
“เออดิ…มันมีประวัติชอบผู้ชายซะที่ไหน”
“แล้วตอนที่เห็นที่รักครั้งแรกพวกมึงใมากไหม?” ดอมถาม
“กูว่าให้ไอ้เฮียเป็ตัวแทนพูดเื่นี้ดีกว่า…”
“ไอ้สัด เื่ยาก ๆ โบ้ยให้กูเลยนะ…” เฮียนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะพูดต่อ “มันไม่ถึงกับใว่ะ…แค่สงสัยว่ามันไปชอบน้องเขาตอนไหน ทำไมกูถึงไม่รู้เลย”
“…”
“เราโตกันแล้ว…มันไม่ใช่่เด็ก ๆ ที่ต้องมองว่าเพื่อนแตกต่าง ถ้ามันทำอะไรที่ต่างจากเพื่อนในกลุ่ม”
“…”
“แล้วยิ่งเป็เื่ของความรักด้วย เราไม่มีสิทธิ์ไปกำหนดรูปแบบความรักของคนอื่นเลย เขาจะรักใครมันก็เื่ของเขา เรามีสิทธิ์แค่ยินดีกับเขา…แค่นั้นจริง ๆ ”
“…”
“ส่วนเื่ของความเหมาะสม…กูว่าบางคู่ก็โดนสิ่งนี้กดดัน แล้วคนที่กดดันก็คือคนรอบข้างที่ไม่ยอมรับ บ้างก็บอกว่าไม่เหมาะสมกัน ดูเข้ากันไม่ได้ อะไรอีกหลาย ๆ อย่างที่ทำให้บั่นทอนความรัก…แต่ถ้าคนสองคนรักกันจริง ๆ คำนี้แม่งไม่มีผลเลย…อย่างที่ไอ้ฟ้าทำให้คำนี้หายไปจากหัวกู”
“…”
“สรุปเื่นี้ง่าย ๆ จากเพื่อนอย่างพวกกู…ไอ้ฟ้ายังไม่อายแล้วกล้าพาน้องมาเปิดตัว มันให้เกียรติคนที่มันรักขนาดนี้ แล้วมันก็ให้ความสำคัญกับพวกเราเหมือนกันถึงได้พามาให้รู้จัก…มันทำขนาดนี้แล้วนะ เพื่อนทุกคนก็ควรจะเคารพและให้เกียรติความรักของมันเหมือนกัน”
“โอ้โฮ เฮีย ~ ั้แ่คบกันมาก็เพิ่งเห็นจะพูดดีก็วันนี้…พวกมึงจดใส่กระดาษไว้เลย กำกับวันเวลาไว้ด้วย”
“เขียนใส่กระดาษว่าอะไร?”
“ว่าวันนี้มึงมีสมองแล้ว”
“ไอ้สัด!!!”
“ฮ่า ๆ ”
“กูดีใจแทนฟ้าที่พวกมึงเปิดใจมากขนาดนี้…” ดอมพูด
“เพื่อนกัน…จะคิดอะไรเยอะวะ มีหน้าที่ให้กำลังใจก็ให้ไป มันเจ็บมาก็พาไปแดกเหล้าย้อมใจ หน้าที่เพื่อนไม่ได้เหนื่อยมากหรอก…แต่ถ้าเพื่อนกวนส้นตีนมาก ๆ ก็จะกลุ้มใจนิด ๆ ”
“เช่นมึง…”
เฮียส่งเท้าไปถีบขาเรียวหนึ่งทีก่อนจะหันมองหมื่นฟ้าที่นั่งคุยกับคนตัวเล็กอยู่ข้างสนาม เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงทันที เฮียโทรหาเ้าหน้าที่คุมวิทยุกระจายเสียงภายในสโมสรของพ่อเพื่อสั่งให้เปิดเพลง
“กูช่วยแล้วนะไอ้ฟ้า…”
“อะไรวะมึง?”
“รอดู ๆ”
เมื่อทำนองเพลงดังขึ้นหมื่นฟ้าก็เงยหน้าจ้องมองมาทางพวกเขาทันที เฮียยิ้มขำแล้วตีมือกับเรียวพอเห็นหมื่นฟ้าชูนิ้วกลางให้พวกเขาขณะที่คนตัวเล็กหันหน้าไปอีกทาง
“ไอ้เหี้ย…มันเขินโว้ย…ฮ่า ๆ ”
“ไม่เขินได้ไงวะ? ...เพลงน่ารักซะขนาดนั้น”
หมื่นฟ้ารีบลดมือลงวางไว้ข้างกายพอคนตัวเล็กหันกลับมาคุยด้วยเหมือนเดิม เขาอยากจะพุ่งไปตบหัวเรียงคนที่คิดจะแกล้งกันด้วยวิธีนี้ เมื่อกี้เขากับคุณตัวดื้อยังคุยกันได้เรื่อย ๆ แต่พอเพลงเริ่มก็เข้าสู่ความเงียบ…
‘เพียงได้คุยเพียงได้สบสายตา วันเวลาอันตรธานหายไป ทุกอย่างต้องหยุดทันทีเมื่อฉันพบเธอ ชัดแค่เธอทุกอย่างเบลอจากใจ เจอกี่ครั้งที่เราได้ใกล้กัน เธอและฉันเหมือนมีแรงฉุดไว้ แต่ไม่มีใครยอมจะพูดคำลา คล้ายว่ามันจะเป็วันสุดท้าย’
หมื่นฟ้ายิ้มพลางมองคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าเม้มริมฝีปากอยู่ข้าง ๆ และแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อนั่นทำให้เขาเคลื่อนมือที่วางไว้ข้างกายให้เข้าใกล้มืออีกฝ่ายมากขึ้น
ไม่ได้ัักันมากมาย ไม่ได้สบตากันอย่างลึกซึ้ง…เพียงแค่วางมือไว้ชิดติดกัน
‘อาจเป็เธอและฉันนั้น Fall in love baby มีอะไรเชื่อมเราบางอย่าง ทีละเล็กละน้อยค่อย ๆ เป็ภาพลาง ๆ บวกความรักนั้นกำลังก่อตัว อยู่ในใจฉันและเธอเข้าแล้ว’
“ตัวดื้อครับ…”
“ครับพี่ฟ้า?”
‘เก็บความรู้สึกไว้สักวันก็คงได้บอกรักเธอ’
“พี่ฟ้าอยากให้ตัวดื้อมาเชียร์ทุกปีได้ไหมครับ?”
‘คงไม่นานคงจะมีเวลาดีดีให้สองเรา You will be my love’
‘ได้สิครับ’
และความเงียบก็กลับมาอีกครั้ง…แต่เป็ความเงียบที่เกิดจากรอยยิ้ม
เรายิ้มให้กัน…
“บ๊ายบายครับพี่ฟ้า”
“ครับ…”
ที่รักโบกมือลาหมื่นฟ้าครั้งสุดท้ายก่อนที่รถจะเคลื่อนออกจากสนามฟุตบอล พี่ดอมทิ้งรถไว้ที่นั่นเพื่อจะขับรถมาส่งเขาสองคน ขากลับที่รักเลยต้องมานั่งข้างหลังคนเดียว ที่รักรู้สึกว่าบางอย่างมันเริ่มชัดเจนขึ้นมาอีกหน่อย เป็ความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่ากำลังเกิดขึ้น…และมันอาจจะมากขึ้นกว่านี้อีก
ไลน์ ~
M.FAH : เดินทางปลอดภัยนะครับคุณท้องทะเล
ที่รัก : อย่ากลับดึกนะครับคุณท้องฟ้า
M.FAH : ครับ
ที่รัก : พี่ฟ้าครับ…เพลงเมื่อกี้ ชื่อเพลงอะไรเหรอครับ?
M.FAH : ความรักกำลังก่อตัว
ที่รัก : ขอบคุณครับพี่ฟ้า
ที่รักยิ้ม…
ขอบคุณนะครับที่ทำให้รู้ว่ามันกำลังก่อตัวแล้วจริง ๆ :)
TBC
#กี่หมื่นฟ้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้