คนอื่นมองไม่ออก ทว่าโจวหลู่ชิงมองออก เหยียนอู๋อวี้ชื่นชมเขามากขึ้นอีกเล็กน้อย นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “โรคระบาดเหอเป่ยเป็เพียงเบี้ยในเกมอำนาจสำหรับคนที่อยู่เหนือกว่าก็เท่านั้น ท่านโจวเคยคิดหรือไม่ว่ามันมีความหมายอันใดสำหรับชาวเหอเป่ย?”
โจวหลู่ชิงตะลึงเล็กน้อยและฟังนางพูดต่อ “กรมการคลังเป็ตำแหน่งที่ทุกคนต่างจ้องตาเป็มัน ทุกคนคิดหาทางอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ได้มันมาโดยไม่สนวิธีการ จึงลืมจุดที่สำคัญอย่างชีวิตประชาชน! สำหรับชาวเหอเป่ยแล้ว โรคระบาดครั้งนี้พรากชีวิตญาติสนิทมิตรสหาย ทำลายบ้านเรือนของพวกเขา ลากชีวิตพวกเขาลงนรก กระทั่งจบชีวิตของพวกเขา อำนาจ ความรุ่งเรืองมั่งคงเกี่ยวอันใดกับพวกเขา? พวกเขาเป็ผู้บริสุทธิ์ที่สุด”
หลังจากโจวหลู่ชิงรู้สึกประหลาดใจก็เผยสีหน้าละอายใจออกมา ั้แ่เหยียนอู๋อวี้ะโออกมาร่วมในแผนการในครั้งนี้ เขาก็เอาแต่นึกถึงเป้าหมายและความตั้งใจของเหยียนอู๋อวี้จนลืมจุดสำคัญที่สุดไปเสียสนิท ไม่มีผู้ใดคิดจะแก้ปัญหานี้ ไม่มีผู้ใดเลย ทุกคนต่างจับจ้องตำแหน่งนั้น แม้กระทั่งไม่คำนึงถึงการสังหารหมู่อีกครั้ง ทว่ากลับเป็ประชาชนที่ต้องทุกข์ทรมานกับโรคระบาดที่เหอเป่ย!
เหยียนอู๋อวี้พูดต่อ “ไทเฮาปกป้องข้ามามาตลอด กับองค์หญิงใหญ่ ข้ายิ่งมิอาจปรากฏตัวได้ มีเพียงซ่งอี้เฉินที่เป็ทางลัดสุดท้าย นอกจากนี้หากเปรียบเทียบกับสตรีสองคนนั้น ซ่งอี้เฉินใส่ใจประชาชนยิ่งกว่าพวกเขา จุดนี้ท่านโจวน่าจะมองออก”
แน่นอนว่าโจวหลู่ชิงมองออก หลังจากซ่งอี้เฉินได้รับเทียบยาก็ดำเนินการยับยั้งการแพร่กระจายของโรคระบาดทันที แม้เขาจะได้กรมการคลังมาจากการกระทำครั้งนี้ ทว่าก็มีประชาชนจำนวนมากได้รับประโยชน์เพราะสิ่งนี้ โจวหลู่ชิงหลีกเลี่ยงจุดนี้ไม่ได้
โจวหลู่ชิงไม่ได้คิดถึงเื่พวกนี้ ทว่าสตรีอายุสิบเจ็ดตรงหน้าผู้นี้กลับคิดได้ นางเป็เพียงบุตรสาวเ้าเมืองที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ในห้องก่อนเข้าวัง หลังเข้าวังก็ยิ่งมีชีวิตความเป็อยู่ที่หรูหรา เรียกได้ว่าไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบาก ทว่านางกลับคิดถึงจุดนี้และไปจัดการได้รวดเร็วยิ่งกว่าผู้ใดด้วยซ้ำ
การวางแผนและการมีนิสัยเวทนาคนเช่นนี้แตกต่างจากประสบการณ์ชีวิตของนางอย่างสิ้นเชิง เว้นเสียแต่ว่า...…
โจวหลู่ชิงนึกถึงประโยคที่นางพูดข้างหูตนเองก่อนจะจากไปครั้งล่าสุด...…
จะเป็นางจริงหรือ? คนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง...…
โจวหลู่ชิงที่กำลังมีความรู้สึกซับซ้อนมองแววตาเหยียนอู๋อวี้อย่างค้นหามากยิ่งขึ้น ทว่าเหยียนอู๋อวี้ก็ยืนอยู่เช่นนั้นเพื่อให้เขาตรวจสอบอย่างใจเย็น ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ละสายตาไป ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เขาก็ไม่สามารถสรุปได้ในทันทีเพราะอารมณ์เขาสับสนยุ่งเหยิงจนเกินไป การสรุปคำตัดสินภายใต้ความวุ่นวายนั้นไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมด! ไม่เพียงแต่ไม่น่าเชื่อถือ ทว่ายิ่งทำให้เื่ย่ำแย่ไปกว่าเดิมอีกด้วย
จอมทัพอวิ๋นมอบของชิ้นนี้ให้เขา แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยกล้าหละหลวม จนถึงตอนนี้ก็ยิ่งไม่กล้าชะล่าใจเพราะกลัวว่าจะทำให้จอมทัพอวิ๋นผิดหวัง
หลังจากตระกูลอวิ๋นล่มสลาย เขาก็ยังยึดถือสิ่งเหล่านี้ไว้ แม้จะยังสุขุมรอบคอบ ทว่าบางครั้งก็ยังสงสัยว่าไม่มีตระกูลอวิ๋นแล้ว จะมีสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่ออันใดอีก?
เขาไม่เคยคิดที่จะยืนอยู่เบื้องหน้ามนุษย์โลก และยิ่งไม่คิดจะเอาทุกสิ่งที่ควบคุมอยู่ในมือไปช่วยผู้ใดเลย การทำเื่เหล่านี้มีความหมายอันใด?
ทว่าอีกเสียงหนึ่งในใจบอกเขาว่ามันต้องมีประโยชน์แน่ๆ เมื่อโอกาสมาถึงทุกอย่างย่อมปรากฏออกมาแน่นอน
เหยียนอู๋อวี้คือโอกาสของเขาหรือ?
การล้างแค้นให้ตระกูลอวิ๋นเป็สิ่งที่สตรีอ่อนแอคนหนึ่งตรงหน้าสามารถทำได้จริงหรือ?
โจวหลู่ชิงไม่ได้มีอคติต่ออิสตรี หากเบื้องหน้าเขาเป็อีกคนหนึ่ง บางทีเขาอาจมอบทุกอย่างถึงมือนางโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว ทว่า…...ทว่านางไม่ใช่คนคนนั้น ที่เขาไม่ไว้ใจไม่ใช่แค่เพราะตัวตนของเหยียนอู๋อวี้ ทว่าเป็เพราะความสามารถของนางด้วย
โจวหลู่ชิงถอนหายใจ “นายหญิงไม่ได้้าเพียงบันทึกประจำวันพวกนี้ แต่ยัง้าเอกสารของตระกูลเซียวด้วย นายหญิงพบอันใดหรือ?
“ท่านโจวรู้หรือไม่ว่าไทเฮาร่วมมือกับตระกูลเซียว?” เหยียนอู๋อวี้ถาม
โจวหลู่ชิงพยักหน้า “เซียวจ่างไห่บรรลุข้อตกลงบางอย่างกับไทเฮาแล้ว ส่วนเซียวจ่างเฟิงก็ติดตามองค์หญิงใหญ่มาโดยตลอด ข้าน้อยเพิ่งค้นพบเื่นี้เมื่อสองปีก่อน”
ก่อนหน้านี้เคยคาดเดากับจวินอู๋เสียไปแล้ว แม้เหยียนอู๋อวี้จะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทว่าก็ไม่ได้มากเกินไป นางเพียงแค่ถามว่า “เป็เพราะคุณชายทั้งสองของตระกูลเซียวไม่ลงรอยกันหรือ?”
“เื่นี้พูดแล้วยาว นายหญิงเองก็เคยเห็นแล้ว ข้าเชื่อว่าต้องพบอันใดใหม่ๆ บ้าง” โจวหลู่ชิงพูดพลางเหลือบมองนางแวบหนึ่ง “เมื่อครู่นายหญิงก็พูดว่า้าสืบสวนด้วยตนเอง หากข้าน้อยพูดก่อนเกรงว่าจะเหมือนเป็การวางอคติเอาไว้”
นี่เป็การเอาคำพูดของนางเมื่อครู่มาย้อนนางหรือ? เหยียนอู๋อวี้ทำสิ่งใดไม่ถูก เมื่อก่อนดูเหมือนโจวหลู่ชิงก็มีท่าทีต่อบิดาตนเองเช่นนี้ หลายปีมานี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
นางจำต้องพูดว่า “ท่านโจวพูดได้ถูกต้อง” พูดจบนางก็เขี่ยนิ้วบนโต๊ะเบาๆ แล้วถามอีก “มีข่าวอู๋หยาบ้างหรือไม่?”
สีหน้าโจวหลู่ชิงเปลี่ยนไปตามคำพูดนี้ ความรู้สึกผิดตีรวนขึ้น เขาส่ายศีรษะพลางกล่าว “ในวันนั้นที่ตระกูลอวิ๋นทุกคนถูกพาตัวไป ข้าน้อยพยายามเดินไปทั่วทุกที่ ก็ยังอับจนหนทาง สามปีต่อมาพยายามตามหาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าคุณชายสามถูกคุมขังอยู่ที่ใด”
“เพียงแค่หายไป ไม่ได้ถูกฆ่าใช่หรือไม่?” เหยียนอู๋อวี้ระงับความปั่นป่วนในใจและพูดยืนยันอีกครั้ง
“วันนั้นสังหารทุกคนยกเว้นคุณชายน้อย” โจวหลู่ชิงตอบ “ทว่าคุณชายน้อยไม่ได้หนีออกไปแน่นอน พวกเขาลงมือเร็วมาก จอมทัพอวิ๋นและผู้าุโท่านอื่นต่าง...…ต่างก็ไม่...…”
โจวหลู่ชิงพูดพลางรู้สึกเศร้าใจ จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเล่าต่ออย่างไร
นี่เป็ครั้งแรกที่เหยียนอู๋อวี้ได้ยินข่าวของบิดาหลังจากผ่านไปห้าปี
ห้าปีมานี้นางพยายามหลีกเลี่ยงเื่ราวในอดีต ไม่พูดถึง ไม่นึกถึง ไม่ปล่อยให้ตนเองตกอยู่ในนั้น นางเพียงแค่กลัวว่าจะควบคุมตนเองไม่ได้ ตอนนี้จู่ๆ ได้ยินคนอื่นเอ่ยถึงเื่นี้ น้ำตานางเอ่อคลอจนไหลริน
หากไม่ฟัง ไม่รับรู้เหตุการณ์ในวันนั้นก็ยังหลอกตนเอง แสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและแสร้งทำเหมือนว่าบิดาหลบหนีไปได้ หากได้รับรู้ก็จะปกปิดภาพมายานั่นได้ยาก
“ไม่ต้องพูดเื่นี้อีกแล้ว” นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวตอบอย่างสงบนิ่ง
เสียงลมหายใจถี่ๆ ดังเข้าไปในหูโจวหลู่ชิง ทว่าเขากลับรู้สึกได้ถึงความตื่นตระหนกของนางอย่างชัดเจน เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้างดงามไร้ที่ตินี้ ไม่รู้เหตุใด จู่ๆ เขาก็เกิดความรู้สึกคุ้นเคยที่ยากจะอธิบาย
เป็ภาพมายาหรือ นึกไม่ถึงว่าจะพบรอยแดงลอยอยู่บนใบหน้าซีกซ้ายของนาง
โจวหลู่ชิงตั้งสติ จากนั้นก็มองค้นหาในแววตานางมากขึ้นอีก
ความเ็ปเสียดแทงกระดูกเริ่มลุกลามไปทั่วร่างกาย เหยียนอู๋อวี้รู้ว่าฤทธิ์ยากำลังจะหมด นางจึงพูดทันที “ตรวจสอบต่อไป เริ่มจากฝั่งไทเฮา ไม่ใช่แค่ไทเฮา รวมถึงเหยียนเฉิงเซี่ยงด้วย จะต้องมีเบาะแสแน่นอน!”
ทันทีที่นางเปล่งเสียง โจวหลู่ชิงย่อมก้มหน้าลง เขาจึงพลาด่ที่รอยแดงปรากฏบนใบหน้านาง จากนั้นก็ได้ยินเหยียนอู๋อวี้พูดเสียงเบา “ท่านโจวกลับไปก่อนเถิด หากมีเื่อื่น ข้าจะให้ฉางฮวนกับซวงสี่ไปตามท่าน”
เหยียนอู๋อวี้เชิญแขกกลับ โจวหลู่ชิงจึงไม่กล้าอยู่ต่อและรีบออกไปทางหน้าต่างทันที
ก่อนที่เขาจะไป เขาเหลือบเห็นแค่เพียงใบหน้าด้านซ้ายของเหยียนอู๋อวี้ ซึ่งเผยสีหน้าเหนื่อยล้าเท่านั้น ในใจรู้สึกแปลกอยู่บ้าง เขาได้ยินมาว่าเหยียนอู๋อวี้สุขภาพไม่ดีเอามากๆ ดูเหมือนว่าจะเป็เช่นนั้นจริง ความสงสัยที่มีต่อนางจึงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเื่