"ข้าจำได้"ฮองเฮาอวี่เหวินเอ่ย
"นั่น..."เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว คำพูดหยุดชะงัก
ฮองเฮาอวี่เหวินเหลือบมองนางสำหรับคุณหนูรองจวนเหนียน นางรู้ว่าเหนียนยวี่ได้รับความรักจากองค์หญิงใหญ่ชิงเหอและใกล้ชิดสนิทสนมกับจ้าวอี้ทว่านึกไม่ถึงเลยว่าเมื่อคืน...เหนียนยวี่นางจะคอยปกป้องตนมาตลอด!
หากในยามปกติ นางจะมีมารยาทกับเหนียนยวี่แค่ยามที่อยู่ต่อหน้าองค์หญิงใหญ่ชิงเหอเท่านั้นทว่ายามนี้ ร่วมทุกข์มาด้วยกัน กลับทำให้ฮองเฮาอวี่เหวินยามที่เผชิญหน้านาง ลดอะไรออกไปมากมาย
"เ้าไม่จำเป็ต้องปิดบังอะไรพูดออกมาได้" ฮองเฮาอวี่เหวินตรัส
เหนียนยวี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและสุดท้ายก็เลือกที่จะถามคำถามที่อยู่ในใจ "เช่นนั้นพระองค์รู้หรือไม่เพคะว่าผู้ใดคิดไม่ดีกับพระองค์?"
ในเมื่อฮองเฮาอวี่เหวินได้สติฟื้นคืนมาแล้วและจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ จากความเฉลียวฉลาดของนางนางน่าจะมีความคิดของตน
เป็ตามคาด ทันทีที่เหนียนยวี่เอ่ยจบความเกลียดชังก็ปะทุขึ้นในดวงตาที่สงบนิ่งของฮองเฮาอวี่เหวิน
"เป็นาง! เป็นาง!นอกจากนางแล้ว ยังเป็ผู้ใดได้อีก?" ฮองเฮาอวี่เหวินกัดฟันแน่น“นาง้าจะสังหารข้า ไม่นึกเลยว่านางจะลงมือรวดเร็วเช่นนี้”
นางหรือ?
"นางคือใครหรือเพคะ?" เหนียนยวี่ไล่ถามต่อ
ทว่าฮองเฮาอวี่เหวินกลับเพียงแค่ตื่นเต้นจนยากจะระงับเท่านั้นเพียงครู่เดียวก็สงบนิ่งลงมา เหนียนยวี่เห็นความสงบในดวงตาฮองเฮานางรู้ว่าฮองเฮาอวี่เหวินจะไม่ให้คำตอบนี้กับนาง
ตามคาด ฮองเฮาอวี่เหวินเงียบไปครู่หนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นานฮองเฮาอวี่เหวินก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง “เ้าไม่ได้รับอนุญาตให้พูดถึงเื่ที่เกิดขึ้นในสวนร้อยสัตว์เมื่อคืนนี้”
ไม่อนุญาตให้พูดถึงหรือ?
อย่างไรก็ตามเหนียนยวี่ก็ยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะเหตุใด? เห็นได้ชัดว่ามีคน้าสังหารนางทว่านางกลับไม่ไล่ตาม แต่ยังปิดบังเื่นี้ด้วย?
เื่นี้ผิดปกติเกินไป และเื่ผิดปกตินี้...มันเกี่ยวข้องกับ"นาง" คนนั้นคนที่ฮองเฮาอวี่เหวินเอ่ยอย่างนั้นหรือ?
ในใจเหนียนยวี่เกิดคำถามมากมาย ทว่านางเป็คนฉลาดรู้ว่าควรทำอย่างไรและจะพูดอะไร โดยเฉพาะยิ่งอยู่ต่อหน้าฮองเฮาของแคว้นนางนี้!
"เพคะ แต่เมื่อคืนนี้ท่านแม่ทัพหลวงก็ได้ช่วยชีวิตพระองค์ไว้ด้วยเช่นกันเพคะ"เหนียนยวี่ย่อเข่าคำนับท่าฝูเชินให้ฮองเฮาอวี่เหวิน ความหมายในคำพูดนี้คือเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนางรู้และฉู่ชิงเองก็รู้ด้วยเช่นกัน
"ฉู่ชิง..."ฮองเฮาอวี่เหวินหรี่ตาลง ครุ่นคิดชื่อนี้ อารมณ์ในดวงตาทำให้ผู้คนไม่เข้าใจ
เมื่อฉู่ชิงกลับมาที่ถ้ำเขานำผลไม้ป่ามาด้วยเล็กน้อย คนฉลาดเช่นเขาจึงสังเกตเห็นได้ทันทีว่าฮองเฮาอวี่เหวินกลับมาเป็ปกติแล้ว ทว่าไม่ได้เอ่ยอะไร
หลังจากนั่งพักอยู่สักครู่หนึ่ง ทั้งสามก็ออกจากถ้ำ
เมื่อถึงสถานที่ที่ต่อสู้กับชายชุดดำเมื่อคืนบนพื้นกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย
ไม่เพียงแค่เหนียนยวี่เท่านั้นทว่าฉู่ชิงเองก็แปลกใจ
เมื่อคืนที่ผ่านมา คนชุดดำมากกว่าสิบคนตายที่นี่อย่างแน่นอนทว่า...เหตุใดถึงไม่มีสิ่งใดเลย?
"หรือจะเป็เขา?"เหนียนยวี่พึมพำ เมื่อนึกถึงคนที่หลบหนีไป อาศัยแค่แรงของเขาคนเดียวก็เก็บกวาดศพพวกนี้ออกไปได้เลยหรือ?
กลิ่นไหม้ในอากาศ ทำให้เหนียนยวี่ขมวดคิ้วเดินไปที่หน้าต้นไม้เตี้ยๆ ต้นหนึ่ง นางเอื้อมมือลูบเบาๆ บนใบไม้
ฉู่ชิงสังเกตเห็นการกระทำของนางจึงเดินตามมาข้างหน้า ชั้นบาง ๆของฝุ่นบนใบไม้ทำให้ความสงสัยในใจของคนสองคนชัดเจนขึ้นทันที
ทั้งสองมองหน้ากัน สายตาประสานรวมเป็หนึ่ง
“ท่านแม่ทัพหลวงไปโรงน้ำชาฟังเื่เล่ามาแล้วหรือ?” จู่ๆ เหนียนยวี่ก็เอ่ยขึ้น ก่อนที่ฉู่ชิงจะตอบกลับ เหนียนยวี่ก็เอ่ยต่อไปว่า“ข้าเคยได้ยินมาว่าในเจียงหูมียาชนิดหนึ่ง หากตราบใดที่ร่างกายเปื้อนเืหรือเืประพรมบนร่าง เมื่อถูกแสงแดดสาดส่องแผดเผา ร่างกายจะลุกไหม้ทว่าจะไม่มีเปลวไฟ และสุดท้ายก็จะกลายเป็เถ้าถ่าน..."
และสถานการณ์ตรงหน้านี้...
ในใจทั้งสองเข้าใจแจ่มแจ้งเผาทำลายศพอย่างไร้ร่องรอยหรือ?
"เื่ที่เ้าเคยได้ยินนี่ใช้ได้เลยนะ"ฉู่ชิงเลิกคิ้ว คุ้นชินกับเื่ที่เหนียนยวี่รู้ ทั้งที่นางไม่น่าจะรู้ได้
ดูเหมือนว่ามีใครบางคนไม่้าให้ผู้อื่นค้นพบอะไรและเปิดเผยเบาะแสเพราะอย่างนั้นจึงได้เผาศพทิ้งไปงั้นหรือ?
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉู่ชิงเหลือบมองเหนียนยวี่ “เช่นนั้นคนคนนั้นที่หลบหนีไปเมื่อคืนนี้ก็คงออกไปจากที่นี่แล้ว?”
ในหัวของเหนียนยวี่ผุดภาพหัวหน้าชายชุดดำเมื่อคืนมองไปตามทิศทางของป่าพุ่มหนาม
หาก้าออกจากที่นี่จะต้องผ่านป่าพุ่มหนามนั่น และตอนนี้มีคนเข้ามาถึงสามกลุ่มแล้วค่ายกลในป่าพุ่มหนาม ไม่รู้ว่าความยากในยามนี้จะยกระดับไปถึงขั้นใดแล้วแม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็ผู้มีฝีมือสูงเชี่ยวชาญศาสตร์ฉีเหมินตุ้นเจี่ย[1]ผู้หนึ่งแต่เกรงว่าก็ยังเป็เื่ยากที่จะหลบหนีออกไป
ถึงแม้เขาจะออกไปจากเขาวงกตแล้ว...
เหนียนยวี่เหลือบมองฉู่ชิง ในเมื่อฉู่ชิงอยู่ที่นี่เช่นนั้นข้างนอกสวนร้อยสัตว์ในยามนี้ เกรงว่าน่าจะมีหลายคนรออยู่
“ข้าคิดว่าท่านแม่ทัพหลวงน่าจะทุกข์ใจที่พวกเราไม่อาจออกจากที่นี่ได้”เหนียนยวี่เอ่ยออกมาตรงๆ แม้เป็นางก็ยังไม่อาจมั่นใจว่าจะสามารถออกจากเขาวงกตได้ทว่าฉู่ชิงเล่า?
บุรุษผู้นี้เป็ที่รู้จักในฐานะเด็กอัจฉริยะคนแรกเมื่อตอนที่เขายังเด็กคิดดูแล้วก็มิได้เป็แค่ชื่อเสียงที่เล่าลือ
"ไปกันเถิด"ฉู่ชิงพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น คนกลุ่มนี้เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง
ณ สวนร้อยสัตว์ ในเวลานี้
เมื่อวาน หลังจากที่ฉู่ชิงเข้าไปในสวนร้อยสัตว์คนอื่นๆ ก็เดินตามเข้ามาด้วย ทว่าพวกเขาไม่กล้าเข้าไปในป่าพุ่มหนาม
ด้านนอกป่าพุ่มหนาม
ฮ่องเต้หยวนเต๋อ องค์หญิงใหญ่ชิงเหอค้างอยู่ที่นี่เกือบทั้งคืน
เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปความกังวลบนใบหน้าของคนหลายคนเริ่มรุนแรงขึ้น
“เสด็จพี่ ป่าพุ่มหนามแห่งนี้ คาดเดาไม่ได้และเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆแม้เป็ฉู่ชิงที่เดินเข้าไป แม้เขาจะเจอพี่สะใภ้กับยวี่เอ๋อร์แล้ว ตอนที่กลับมาเกรงว่าเื่มันคงจะไม่ง่ายดาย เสด็จพี่ ชิงเหอขอพระราชทานพระราชโองการเพคะ ขอทรงโปรดเผาทำลายป่าพุ่มหนามนี่เถิดเพคะ”เสียงขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอดังขึ้น เดินไปเดินมาทั้งคืน ยามนี้นางเหนื่อยล้าและทนไม่ไหวแล้วแม้แต่เสียงนางก็ยังอ่อนลงไม่น้อย
ไม่รู้ว่าตอนนี้ยวี่เอ๋อร์...
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเองก็นึกไม่ถึงเลยว่าการหายตัวไปบุตรีบุญธรรมคนนี้จะส่งผลต่อจิตใจของนางมากถึงเพียงนี้
"เผาหรือ?" ฮ่องเต้หยวนเต๋อขมวดคิ้วและะโออกมาอย่างรุนแรง"นี่คือสิ่งที่เซี่ยวหนิงไทเฮาทิ้งไว้ จะเผามันได้อย่างไร?"
คลื่นอารมณ์แปรปรวนกะทันหันของฮ่องเต้หยวนเต๋อ ทำให้องค์หญิงใหญ่ชิงเหอขมวดคิ้วและขึ้นเสียงตอกกลับไปว่า “หรือว่าแท้จริงแล้ว ท่านอยากจะมองดูพี่สะใภ้และยวี่เอ๋อร์ทั้งสองคนถูกขังตายในนั้น?แล้วเื่ที่เกิดขึ้นกับจี้เยวี่ยในตอนนั้นอีกป่าพุ่มไม้นี่มันควรจะเผาทิ้งไปตั้งนานแล้ว และสวนร้อยสัตว์นี่ก็ควรทำลายไปตั้งนานแล้วด้วยเช่นกัน!”
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนั้นสีหน้าขององค์หญิงชิงเหอยิ่งดูไม่น่ามอง ดวงตาคับคั่งไปด้วยอะไรบางอย่าง "ท่านที่ปกป้องสวนร้อยสัตว์นี่ไว้เป็เพราะนี่เป็สิ่งที่เสด็จแม่ทิ้งไว้ให้จริงๆ อย่างนั้นหรือ?"
ร่างกายฮ่องเต้หยวนเต๋อสั่นสะท้านราวกับมีบางอย่างถูกเปิดเผย แววตาและสีหน้าของเขาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น “หากไม่ใช่เพราะเสด็จแม่แล้วจะเป็เพราะอะไรได้อีก? แม้นางไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิดเจิ้น ทว่าอย่างไรก็เป็มารดาที่ดูแลเจิ้นเจิ้นเองก็ไม่อาจลืม ที่นี่มีทั้งเืเนื้อและจิตใจของเสด็จแม่มีความทรงจำของเสด็จแม่ เจิ้นจะทำลายทิ้งไปได้อย่างไร?”
การทะเลาะวิวาทกันอย่างกะทันหันระหว่างสองพี่น้องทำให้ทุกคนในที่นั้นกลั้นหายใจและตื่นใ ทุกคนรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องเต้หยวนเต๋อและองค์หญิงใหญ่ชิงเหอนั้นดีอย่างมากทว่าไม่นึกเลยว่ายามนี้พวกเขาจะอยู่กันคนละฝั่งและรุนแรงเยี่ยงนี้
ทั้งยังเข้มข้นขนาดนี้!
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเหลือบมองเสด็จพี่ของตนเอง ลอบหัวเราะในใจเสด็จพี่คิดว่านางไม่รู้ความคิดเขาจริงหรือ?
สูดหายใจลึก ครู่หนึ่งองค์หญิงใหญ่ชิงเหอดูเหมือนจะกลับมาใจเย็นได้เอ่ยปากขึ้นมาอย่างราบเรียบว่า “แม้เพราะเสด็จแม่เลยไม่ยอมทำลายสิ่งที่นางหลงเหลือไว้เช่นนี้ จากที่เห็นและจากสถานการณ์ในยามนี้ก็ต้องจำใจทำอะไรสักอย่าง ไม่ยึดทิฐิอีกพี่สะใภ้อวี่เหวินเป็ลูกสะใภ้ที่เสด็จแม่รัก ทั้งยังเป็องค์หญิงแคว้นตงหลีการอารักขาความปลอดภัยของนางเป็สิ่งที่สำคัญมาก เสด็จพี่ไม่รู้แต่ข้าคิดว่าิญญาของเสด็จแม่ที่อยู่บนสรวง์เองก็กังวลเช่นกัน ปีนั้นสูญเสียองค์หญิงจี้เยวี่ยไปหากตอนนี้ต้องสูญเสียฮองเฮาอวี่เหวินไปอีกคนละก็...สวนร้อยสัตว์แห่งนี้เทียบกับฮองเฮาคนหนึ่งท่านลองชั่งน้ำหนักดูเถิด...”
[1]ฉีเหมินตุ้นเจี่ยคือ ศาสตร์พยากรณ์อย่างหนึ่ง จัดเป็สุดยอดวิชาลึกลับของจีนโบราณทั้ง 3 ฉีเหมินตุ้นเจี่ยเป็ศาสตร์ที่ว่าด้วยการอธิบายรูปแบบพลังงานณ เวลาหนึ่ง ว่า ณ เวลานั้นมีผังงานในแต่ละชั้นพลังงานเป็อย่างไร จะส่งผลอย่างไรในอนาคตแล้วจะใช้มันให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร