ปึ้ง!
เกราะกำบังไร้รูปร่างปรากฏขึ้นกลางอากาศ
เ้าหมาหัวโตชนเข้าเต็มๆ จนหน้าแบน มองแล้วน่าขำสิ้นดี
ต่อมามันก็โดนแรงโต้กลับจนหน้าคะมำอย่างแรงบนผนังน้ำแข็งห่างไกล มันกลิ้งเจ็ดแปดตลบ ตามึนจนมองเห็นดาว ทิ้งรอยรูปหมาประทับไว้บนผนังน้ำแข็ง ชัดแจ๋วอย่างกับแกะสลัก
มันถูกกระบวนอักขระกันท่าไว้ด้านนอก
แต่เพียงแค่สั่นหัวเบาๆ แล้วมองเ่ิูอย่างเดิม มันแลบลิ้นยิ้มกว้าง สีหน้าเปี่ยมอารมณ์สุดๆ
แววตานั้น ราวกับพบพานความหวังเมื่อสิ้นหวังไปแล้ว
ในส่วนลึกของดวงตามีแววฮึกเหิมอย่างไร้สาเหตุ
มันตรงเข้าหาเ่ิู ส่ายหางไปมาด้วยความเร็ว หัวโตๆ เผยรอยยิ้มเนื้อเต้น มันถอยหลังไปหลายก้าว เท้าหลังถีบพื้น ล่องลอยดั่งฟิ้ว กลายเป็ลำแสงปรี่เข้าหาเยี่ยงยินดีไม่สนสภาพตัวเองว่าจะเป็เช่นไร
ปึ้ง!
โดนชนกระเด็นอีกหน
คราวนี้แรงหนักกว่าคราวก่อน
แต่มันก็ยังผุดลุกขึ้นยืนอย่างเร็ว แล้วกระโจนเข้าหาอีก
ปึ้ง!
ยังคงชนจนกระเด็น
ปึ้งๆๆ!
ในโพรงน้ำแข็งใต้พิภพอันเย็นเยียบและเดียวดาย มีเสียงพุ่งชนประดับประดาไม่ขาดตอน
เ่ิูรีบเร่งโบกมือ เป็สัญญาณบอกให้มันไม่ต้องรีบร้อน
ตอนนี้เองที่เ่ิูเพิ่งเห็นว่าผนังน้ำแข็งตรงข้ามเขานี้ ทุกส่วนที่มีร่องรอยชนอัดแน่นนั้นมีแต่รอยร่างของเ้าหมาหัวโตทั้งสิ้น ปราดมองลวกๆ แล้วอย่างน้อยก็ต้องหลายพันรอย ทับถมกันเป็ชั้นๆ ครั้นจะนับก็นับไม่ถ้วน
เ่ิูเข้าใจขึ้นมาแล้ว
มีความเป็ไปได้มากว่าหลังจากที่เขาโดนจู่โจมจนาเ็สาหัสและสลบไป ชายอาภรณ์ดำเิ่ิ๋พาเขามาที่โพรงน้ำแข็งลึกลับเพื่อปรุงยา เ้าหมาหัวโตคงเหมือนกับสัตว์เลี้ยงทั่วๆ ไป เิ่ิ๋จึงน่าจะทิ้งมันไว้ แต่ว่าเ้าตะกละนี่ก็มีความจงรักภักดีน่าดู ถึงได้ตามเขามาถึงที่นี่ อยากจะช่วยเขาแต่หมดหนทางจะข้ามอักขระปกป้องนั้นมาได้ ไม่รู้ว่าริลองพุ่งเข้ามากี่หน กลับถูกกระบวนอักขระกันจนกระเด็นไปชนเข้ากับผนังน้ำแข็งด้านหลังนั่นทุกครั้งไป...
นึกถึงตรงนี้แล้ว เ่ิูพลันเกิดความซาบซึ้งมิใช่เบา
“เอาล่ะ เอาล่ะ เ้าตะกละ ก่อนอื่นอย่าเพิ่งพุ่งเข้าใส่เลย เ้ารอข้าอยู่ข้างนอกพอ ข้ายังมีเื่บางอย่างต้องสะสางให้เสร็จก่อน แล้วเราค่อยออกไปกัน!” เ่ิูโบกมือให้เ้ากินล้างกินผลาญ บ่งบอกว่าเขาจะระวังตัวอย่างดี
เ้าหมาหัวโตเข้าใจเจตนาของเด็กหนุ่มในทันที
มันถอยห่างจากกระบวนอักขระ แลบลิ้นให้เ่ิู ส่ายหัวไปมา ท่าทีประจบประแจงนักเมื่อกึ่งนั่งยองๆ อยู่บนพื้น สั่นหางอย่างรอคอย
เ่ิูคลี่ยิ้ม เขาหันหลังเดินมาจนถึงหน้าหม้อยา
เขาเริ่มใคร่ครวญอะไรบางอย่าง
หม้อทองเหลืองยอดเมฆาตรงหน้านี้เป็สมบัติล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย แค่เศษเสี้ยวเส้นผมเดียวของมันยังทำให้เิ่ิ๋ผู้สุดแสนปุถุชนกลายเป็าายาได้ เป็สิ่งเหนือชั้น เ่ิูไม่มีทางปล่อยมันไปแน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าปัญหาอยู่ที่มันสูงสี่เกือบห้าเมตรเต็มๆ นี่สิ ไหนจะเป็ทองเหลืองหล่อหลอมจากวัตถุดิบชั้นครูไม่ทราบที่มา ไม่รู้ว่าหนักเท่าไรด้วย เ่ิูลองอยู่หลายครั้งก็ไม่อาจยกมันขึ้นมาได้เลย
“ไม่ต้องแล้ว แรงแขนของข้าตอนนี้อย่างน้อยต้องประมาณล้านจินยังยกหม้อยานี่ไม่ขึ้นเลย...”
เ่ิูในัก
เขากลับไม่รู้เลยว่า ก่อนหน้านี้เิ่ิ๋เองก็ยกหม้อยานี้ไม่ขึ้น เขาเก็บมันไว้ในวงแหวนตลอดมา พอถึงเวลาก็ใช้ศาสตร์สุญญากาศหยิบมันออกมา การจะพกพาไปไหนมาไหนจึงไม่เปลืองแรง เพียงแต่อุปกรณ์สุญญากาศของเ่ิูนั้นโดนเผาตอนอยู่ในหม้อไปหมดแล้ว...ความจริงแล้วต่อให้มีอยู่ ย่ามสารพัดนึกสุญญากาศของเ่ิูก็ต่ำชั้นเกินไป ไม่มีทางเทียบกับวงแหวนของเิ่ิ๋ได้ และยิ่งไม่มีทางบรรจุสมบัติชิ้นนี้ได้ด้วยเช่นกัน
คิดพลางลองกลั่นหม้อยาตามหม้อดินฟ้าปรารถนาแยกจาก
มีความเปลี่ยนแปลงไวดังคาด
เ่ิูค่อยๆ รู้สึกอย่างลับๆ ว่าตนเองมีการตอบสนองแปลกประหลาดต่อหม้อทองเหลืองยอดเมฆานี้อย่างยากจะพรรณนาเป็คำพูด
พริบตาต่อมา หม้อยาหนักอึ้งพลันสั่นเล็กน้อย มันลอยโคจรอย่างรวดเร็ว หดเล็กลงไวจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า ชั่วแวบเดียวก็หดเหลือขนาดเท่านิ้วมือ ลอยล่องมาร่วงลงบนฝ่ามือเ่ิู
เ่ิูเพียงรู้สึกถึงความเบาบางเหมือนไม่มีอะไรอยู่เลย
“เบาไปแล้ว...ความรู้สึกนี่น่าอัศจรรย์ดีจริง หนักขนาดนั้นเปลี่ยนเป็เบาเหมือนขนนกเสียได้ หรือมันจะนับข้าเป็นายแล้วนะ ฮ่าๆ...เอ๋ นี่มัน...แม่เ้า ข้ามองเห็นข้างในมันได้ด้วยหรือนี่...”
เ่ิูเจอว่าตัวเองสามารถมองเห็นภายในของหม้อทองเหลืองยอดเมฆาได้ตามใจปรารถนา
จะอัศจรรย์ใจเกินไปแล้วนะ
เิ่ิ๋ได้หม้อยานี้มาหลายสิบปีก็ไม่อาจมองภายในของมันได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นแล้ว ตอนเขากลั่นเ่ิูคงไม่ต้องเสียแรงมาคอยเคาะถามหรอก แค่มองปราดเดียวก็มองเห็นทุกความเป็ไปจนหมดนี่
เห็นทีหลายสิบปีผ่านพ้น าายาหงส์ฟ้าผู้นี้จะมิเคยได้การยอมรับจากเตาทองเหลือยอดเมฆาเลย
เ่ิูหัวเราะเฮยๆ อย่างสุขใจ
เกิดให้เิ่ิ๋รู้เข้า จะเลิกนอนเป็ศพลุกมากระอักเืสดๆ อีกสามจินได้หรือเปล่าหนอ?
เ่ิูสำรวจภายในหม้อโดยละเอียดลออ
เิ่ิ๋ถูกเผาเป็ผุยผงตามคาด ซากร่วงหล่นลงทาบทับก้นบึ้งของหม้อยา
นอกจากกลุ่มธุลีส่วนนี้แล้ว ภายในหม้อทองเหลืองยอดเมฆาก็หามีสิ่งอื่นใดอยู่ไม่ เิ่ิ๋คงเห็นภายในนี้เป็ที่ของความตายมาโดยตลอดจึงไม่กักเก็บอะไรไว้เลยนอกจากเอาไว้ปรุงยาอย่างเดียว ความว่างเปล่าถึงจะน่าแปลกก็กลายเป็ไม่แปลกอยู่ดี
“เก็บไว้ก็ขวางหูขวางตา เทมันออกมาก็พอ...”
เพียงคิดเช่นนี้ ฝาหม้อทองเหลืองก็เปิดออก ปล่อยกลุ่มธุลีสีดำร่วงออกมา
เป็เถ้ากระดูกของเิ่ิ๋นั่นเอง
เ่ิูนิ่งไป ฉับพลันก็หัวเราะร่าอย่างห้ามไม่อยู่
หม้อทองเหลืองยอดเมฆานี่เป็สมบัติสมปรารถนาจริงแท้
สมบัติสมปรารถนาคือสมบัติที่สามารถอ่านจิตใจของเ้านายได้ออก ศาสตราวุธที่เปลี่ยนแปลงและสำแดงอำนาจตามความปรารถนาของผู้ นับแต่สมัยเทพมารเป็ต้นมา สมบัติสมปรารถนาปรากฏออกมาให้เห็นน้อยมาก มีเพียงบุคคลสำคัญระดับเบื้องบนเท่านั้นที่อาจมีไว้ใน สมบัติต่างระดับชั้นอานุภาพก็จะต่างกัน ทว่าล้วนแล้วแต่คือสมบัติล้ำค่าทั้งสิ้น
เ่ิูไม่นึกไม่ฝันว่าหม้อทองเหลืองยอดเมฆานี้จะเป็สมบัติสมปรารถนา
พอเห็นเช่นนี้แล้ว มันคงมิได้เป็แค่หม้อยาธรรมดาแล้วกระมัง
เิ่ิ๋มีของดีอยู่กับตัวแต่ไม่เคยสำเหนียกรู้เอาเลย เอาสมบัติทรงค่าขนาดนี้มาทำเป็หม้อยา ไม่เรียกว่าตาบอดแล้วจะเรียกอะไรได้
เ่ิูดีใจจนแทบรับไม่ไหว
เป็การเก็บเกี่ยวนอกเหนือความคาดหมายจริงแท้
ไม่เคยคิดว่าหม้อทองเหลืองยอดเมฆาจะมีที่มาไม่ธรรมดา ไม่เคยคิดว่าหม้อดินฟ้าปรารถนาแยกจากจะควบคุมหม้อยานี้ได้ ด้วยความบังเอิญประสบพบแห่งโชคชะตา ทำให้เ่ิูได้สมบัติชิ้นนี้มา เพียงเท่านี้ อันตรายที่เขาทนรับไว้ก่อนหน้าก็คุ้มค่าแล้ว
“เอ๊ะ? นี่มันอะไรอีกล่ะ?” พอเ่ิูมองทะลุเข้าไปในหม้อยาอีกทีกลับเห็นของเล็กๆ กะพริบอยู่เสียอย่างนั้น
เขาคิดให้นำมันออกมาจากหม้อ
เป็แหวนวงหนึ่ง
แหวนขาวเงินรูปอสรพิษคาบอัญมณีสีแดงหม่นไว้ในคมเขี้ยว
“แหวนของเิ่ิ๋หรือ?”
เ่ิูทราบที่มาที่ไปของมันอย่างรวดเร็ว
เิ่ิ๋โดนกลั่นกลายเป็ผง ของอย่างอื่นบนร่างกายเขาราพณาสูรสิ้น แต่แหวนวงนี้กลับยังเหลือรอด เห็นได้ชัดว่าเป็ของชั้นสูงหาตัวจับยาก น่าจะเป็ของวิเศษอย่างหนึ่ง ภายในอาจจะแอบซ่อนสมบัติหรือทรัพย์สินอย่างอื่นที่เิ่ิ๋สะสมมานานไว้ก็เป็ได้
เ่ิูใจเต้น เขาชักตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว
ทว่าไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไร ก็มีแต่จะต้องกินแห้วเท่านั้น
แหวนวงนี้ติดตั้งผนึกสุญญากาศเอาไว้ พลังของเ่ิูในตอนนี้กับความแตกฉานของกระบวนอักขระนี้ยังห่างชั้นกันเกินไป เขาไม่อาจเปิดมันออกเพื่อดูข้างในได้
“แต่ก็ไม่เป็ไร เก็บแหวนนี่ไว้กับตัวก่อน พอพลังมากพอแล้วค่อยคิดหาวิธีเปิดมัน ถึงเวลานั้นค่อยหยิบเอาของข้างในออกมาก็ยังไม่สาย” เ่ิูคิดพลางอารมณ์ดีขึ้นมาใหม่
เขาเก็บแหวนไว้ในหม้อทองเหลืองยอดเมฆา
หลังจากลองอยู่หลายครั้ง เ่ิูก็รับเอาหม้อทองเหลืองยอดเมฆาไปเก็บไว้ในน้ำพุิญญาตาที่สี่ของโลกตันเถียนเขาได้สำเร็จ ชุบเลี้ยงและให้ความชุ่มชื้นมิได้ขาด
จากนั้น เด็กหนุ่มจึงเริ่มจัดการปัญหาร่างกายตัวเองบ้าง
เพราะสูบเอาพลังและพลังงานเข้าตัวมากเกินไป ร่างกายของเขาถึงอยู่ในสภาพอิ่มตัวสุดฤทธิ์ แม้จะทำให้บุกเบิกน้ำพุิญญาไปถึงตาที่สิบได้ในรวดเดียว แต่พลังงานที่ตกตะกอนอยู่กลับอุดมสมบูรณ์เกินไป ทำให้ร่างกายเขาบวมเป่งและอิ่มตัวเกินขอบเขต
“ต้องหาวิธีผลาญพลังงานปราณส่วนเกินนี้ออก!”
เ่ิูคิดไปคิดมาก็คิดออก มีเพียงทางเดียวคือต้องเพิ่มระดับตัวเอง บุกเบิกน้ำพุิญญาตาที่สิบเอ็ด ได้ผลาญพลังปราณทางหนึ่ง อีกทางหนึ่งก็ได้ลดขีดจำกัดการสั่งสมปราณของตัวเขาเองด้วย มีแต่จะต้องขยายและใช้ไปพร้อมๆ กันเท่านั้นถึงจะผลาญพลังงานส่วนเกินนี้ได้หมดจด
“ข้าคะเนว่าข้าเป็คนเดียวในประวัติศาสตร์ที่กลุ้มเพราะพลังปราณมากเกินไป”
เ่ิูเยาะเย้ยตัวเอง
จากนั้นจึงเริ่มฝึกฝนต่อในโพรงน้ำแข็งแห่งนี้
เพราะอาณาของเขาในตอนนี้ ไม่กินอะไรสักเดือนสองเดือนก็ไร้ปัญหา
เวลาผ่านไปว่องไวนัก
พริบตาก็ล่วงเลยมาหนึ่งเดือน
ในหนึ่งเดือนนี้ เ่ิูเอาแต่นั่งขัดสมาธิไม่ขยับตัว เหมือนก้อนหินดีๆ นี่เอง ร่างกายมีพลังปราณพันรอบเป็ลูกคลื่น เหมือนแสงเรืองรองบนผิวน้ำ เดี๋ยวก็หายเดี๋ยวก็โผล่ สูดเอาอากาศเข้าปากเหมือนสูดเล่น แล้วก็เปราะบางเหมือนจะตายเมื่อไรก็ได้ ราวกับจะแหลกลาญ สภาพการณ์น่าพิศวงเป็ที่ยิ่ง
และเส้นผมกับขนคิ้วก็กลับมาเป็เหมือนเดิมแล้ว
ผมยาวเท่าเอวสีดำแ่า ราวกับน้ำตกสีทมิฬระแผ่นหลัง เมื่อเข้าอาณาเนื้อฟ้าแล้ว ร่างกายก็พลอยเติบโตไวขึ้นไปด้วย
หมาหัวโตเฝ้าอยู่นอกกระบวนอักขระเป็เวลาหนึ่งเดือนเต็ม
นับแต่วันแรก มันก็เอาแต่แลบลิ้นทำน่ารักจ้องเ่ิูไม่วางตา ความรู้สึกพึ่งพาเหมือนเด็กกำพร้าหาพ่อแม่ตัวเองเจอแล้วอย่างไรอย่างนั้น ทว่าภายหลังเมื่อเ่ิูไม่ขยับเลย หัวโตก็เริ่มสัปหงก
นับั้แ่กินัวานรผืนหิมะเป็ต้นมา เ้าตะกละนี่ก็ง่วงบ่อยเป็ว่าเล่น ท่าทางเหมือนคนนอนไม่เต็มอิ่มตลอดเวลา
เ่ิูฝึกฝนมาหนึ่งเดือน
หมาหัวโตก็นอนครบหนึ่งเดือนเช่นกัน
วันนี้เอง
เ่ิูผู้อยู่ในกระบวนอักขระลืมตาขึ้นฉับพลัน
ผมยาวของเขาล่องลอยขึ้นเชื่องช้า
อากาศภายในโพรงน้ำแข็งเวียนวนราวกับวังน้ำวน ม้วนเอาฝุ่นธุลีและเศษน้ำแข็งเล็กๆ ขึ้นมา
ร่างกายที่เคยพองบวมบังเกิดความเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้ด้วยั์ตา
พริบตาเดียว ร่างกายของเขาก็ฟื้นฟูกลับไปเป็แข็งแรงคล่องแคล่วเช่นเดิม
กล้ามเนื้อแกร่งงดงาม ร่างกายสูงใหญ่ ในแสงรำไรลอดโพรงน้ำแข็ง มีบางอย่างคือพลังปราณลูกคลื่นอันแ่าแล่นออกมาจากกายเ่ิู มีร่างเขาเป็ศูนย์กลาง ไอโปร่งใสเบาบางแล่นจากทุกรูขุมขนของเด็กหนุ่ม เอ่อท้นออกมาอย่างเงียบเชียบ จากนั้นจึงกลายเป็ัเงินปราณสิบห้าสาย บิดเป็เกลียวคดเคี้ยวพันรอบกายผู้เป็นาย มีรูปร่างแต่ไร้ตัวตน เหมือนจะเป็จริงและเหมือนเป็ภาพฝัน สุรเสียงครางครวญแห่งัเลือนลั่นไปทั่วโพรงน้ำแข็ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้