บ้านลู่เป๋าเหยียน
หลังจากเปลี่ยนท่านอนไปเป็สิบท่า พยายามกล่อมตัวเองให้หลับเป็สิบที ูเี่อันก็ยังคงนอนไม่หลับ ปกติเธอมักจะหลับทันทีที่หัวถึงหมอน ทว่าวันนี้ ภาพที่ลู่เป๋าเหยียนอุ้มเธอยังคนวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ
มือแข็งแรงคู่นั้นที่ัักายเธอ อุณหภูมิร่างกายและไออุ่นจากหน้าอกของเขา ใบหน้าที่หล่อเหลาและรูปหน้าที่ดูดี วินาทีนั้นเหมือนเธอถูกเขากอดไปทั้งตัว ทุกอย่างทุกััเธอรับรู้ได้อย่างชัดเจนจนใจเธอเต้นรัวไม่เป็จังหวะ
เฮ้อ ออกจากอ้อมกอดเขามาตั้งนานแล้ว หยุดคิดได้แล้วน่า!
ถึงแม้ว่าทุกครั้งเธอจะควบคุมตัวเองได้ดี แต่ว่าครั้งนี้ท่าทางเธอจะหยุดความคิดตัวเองไม่ได้ ว่าแล้วเธอจึงลุกออกจากเตียงเพื่อเดินออกจากห้อง
คงต้องหาอะไรดื่มสักแก้วจะได้ใจเย็นลงหน่อย!
ยังไม่ทันลงไปถึงชั้นล่าง ูเี่อันก็เห็นลู่เป๋าเหยียนกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก เสียงแ่เบาของเขาดูนุ่มนวลอ่อนโยน ฟังจากเนื้อหาที่คุย เธอเดาได้ไม่ยากว่า คนที่เขากำลังคุยอยู่ด้วยก็คือหานรั่วซี
นอกเหนือจากเวลาที่ต้องแสดงละครตบตาคนอื่น ลู่เป๋าเหยียนไม่เคยใช้น้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้พูดกับเธอเลย แถมบางทียังชอบทำสีหน้าแบบไม่อยากจะคุยกับเธออีก
ตอนแรกเธอนึกว่าเขาเ็าอยู่แล้วเป็นิสัย แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า ที่จริงเขาเลือกที่จะเ็ากับเธอ
ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกััและทุกเสียงหัวใจเต้นที่เกิดจากเขาเมื่อครู่ หายออกไปจากสมองของูเี่อันในพริบตา หัวใจที่เต้นแรงระดับร้อยลดลงเหลือศูนย์ ทั้งหมดหยุดลงดั่งปาฏิหาริย์
เธอถอนหายใจแล้วจึงเดินกลับห้องไป ไม่นานก็เข้าสู่นิทรา
หลังลืมตาตื่นในวันรุ่งขึ้น ูเี่อันได้ลืมเื่ราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อวานไปแล้ว ในตอนนี้เธอเทความสนใจทั้งหมดของเธอให้กับอาหารเช้าแสนอร่อยตรงหน้า วันนี้มีเสี่ยวหลงเปาของโปรดเธออีกแล้ว
ลุงสวีหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาสองฉบับ และส่งหนึ่งในนั้นให้กับเธอ
“คุณผู้หญิงครับ มีข่าวของเหตุการณ์เมื่อวาน คุณอยากอ่านไหมครับ”
ูเี่อันรับมาแล้วจึงเริ่มเปิดอ่าน “พรืด” เธอหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “สื่อสมัยนี้แต่งเื่เก่งจริงๆ”
พาดหัวข่าวเขียนว่า “เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ลู่เป๋าเหยียนตามไปช่วยภรรยาสุดที่รักอย่างไม่คิดชีวิต” ตอนลู่เป๋าเหยียนตามพวกโจรไปพวกนักข่าวตามไปดูด้วยตัวเองหรือไง ถึงรู้ว่าเขาทำไปโดยไม่คิดชีวิต?
ยังไม่ทันหยุดหัวเราะดี เธอก็เห็นข่าวของหานรั่วซีที่อยู่ด้านล่าง
ั้แ่เล็กจนโต เธอไม่ค่อยชอบอ่านข่าวบันเทิงสักเท่าไร ถึงหานรั่วซีจะดังไปทั่วเอเชียก็ตาม แต่ถ้านับครั้งนี้ด้วยแล้ว เธอเคยอ่านข่าวของหานรั่วซีแค่เพียงสองครั้ง
ที่แปลกคือ เนื้อหาข่าวของทั้งสองครั้งไม่ต่างกันมากนัก ครั้งที่แล้วเป็ภาพหานรั่วซีถูกแอบถ่ายตอนเมาไม่ได้สติ ส่วนครั้งนี้เป็ภาพเธอนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ใต้คอนโดตัวเอง ทั้งสองข่าวต่างเขียนว่าเป็เพราะผิดหวังจากความรัก
มันไม่น่าเป็ไปได้นี่นา เมื่อวานลู่เป๋าเหยียนคุยโทรศัพท์จี๋จ๋ากับเธอขนาดนั้น หรือว่าตอนหลังพวกเขาทะเลาะกัน?
ูเี่อันแอบเงยหน้ามองลู่เป๋าเหยียน เขาไม่มองหนังสือพิมพ์สักนิด ยังคงหน้านิ่งไร้อารมณ์เหมือนเดิม เธอจึงตัดสินใจถ่ายทอดความรู้ให้กับเขา
“ผู้หญิงทุกคนล้วนอยากให้คนโอ๋ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเด็กหญิงหรือราชินีก็เถอะ” ูเี่อันพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ
ลู่เป๋าเหยียนเงยหน้ามอง “เธออยากจะพูดอะไร”
ูเี่อันวางหนังสือพิมพ์ลงตรงหน้าเขา ชี้ไปที่ข่าวของหานรั่วซี
“โอ๋เธอหน่อยก็หมดเื่แล้ว จะทะเลาะจนเป็ข่าวทำไมกัน ภาพลักษณ์เธอเสียหมด”
ลู่เป๋าเหยียนวางตะเกียบลง ยิ้มเย็น “ใครบอกเธอว่าผู้หญิง้าคนโอ๋?”
“เจียงเส้าข่ายไง” ูเี่อันตอบไปตามจริง “เขาเรียนรู้มาจากประสบการณ์คบผู้หญิง N ครั้งของเขาเลยนะ ฉันหวังดีถึงได้บอกนาย ไม่ต้องขอบคุณล่ะ”
เอี๊ยด! ลู่เป๋าเหยียนลุกขึ้นอย่างแรงจนเก้าอี้เสียดสีกับพื้นส่งเสียงดังแสบหู ูเี่อันไม่ทันได้เห็นสีหน้าของเขาว่าเป็อย่างไร เขาก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว เสี่ยวหลงเปาตรงหน้าเขายังไม่ถูกแตะเลยสักนิด
“อ้าว ไม่กินแล้วเหรอ” ูเี่อันร้องถามอย่างร้อนใจ ลู่เป๋าเหยียนเดินต่อไปโดยไม่หันกลับมามอง แต่ที่แปลกคือูเี่อันกลับไม่โกรธสักนิด
“จะรีบไปโอ๋เลยเหรอ ว่านอนสอนง่ายนะศิษย์คนนี้” เธอหยิบเข่งเสี่ยวหลงเปาที่อยู่ตรงหน้าลู่เป๋าเหยียนเมื่อครู่ มาไว้หน้าตนเองพร้อมยิ้มอย่างภูมิใจ
เมื่อเดินมาถึงประตูใหญ่ ฝีเท้าของลู่เป๋าเหยียนก็หยุดลง
เธอร้องเรียกเขาอย่างร้อนใจขนาดนั้น หรือว่าเป็ห่วงที่เขายังไม่ได้กินข้าวเช้า?
คิดดังนั้นจึงหันกลับไปมอง กลับพบว่าูเี่อันกำลังกินเสี่ยวหลงเปาของเขาอยู่! เขาเรียนรู้ความจริงอะไรบางอย่าง
ูเี่อันไม่ได้ห่วงเขาสักนิด เธอห่วงเสี่ยวหลงเปาของเขาต่างหาก!
ลู่เป๋าเหยียนคิดอย่างหงุดหงิด ‘อ่านสีหน้าคนอื่นไม่เป็เอาซะเลยผู้หญิงคนนี้!’
ลุงสวีไม่ต้องดูสีหน้าลู่เป๋าเหยียนก็รู้ว่าเขากำลังโกรธสุดขีด จึงเดินเข้ามาหาูเี่อันด้วยความเป็ห่วง
“คุณผู้หญิง ที่จริงคุณชายกับหานรั่วซี...”
“อ๋อ” ูเี่อันทำท่าเหมือนจะสื่อว่าเธอเข้าใจ “ไม่ต้องบอกหนูหรอกค่ะว่าพวกเขารักกันแค่ไหน หนูเข้าใจดีค่า~”
ลุงสวีถึงกับถอนหายใจ “ผมล่ะอยากจะให้คุณผู้หญิงเข้าใจน้อยกว่านี้สักนิด”
เข้าใจน้อยลงอีกสักหน่อย คุณชายของเขาจะได้ไม่โกรธถึงขนาดนั้น...
ูเี่อันได้ยินไม่ชัดว่าลุงสวีพูดอะไร เลยนึกว่าเขาคงกำลังบ่นกับตัวเอง ว่าแล้วจึงก้มหน้าก้มตาจัดการเสี่ยวหลงเปาต่อไปอย่างมีความสุข
หลังกินข้าวเสร็จเธอก็ออกเดินทางไปสถานีตำรวจ ่นี้เมือง A สงบสุขดี ไม่มีคดีใหญ่อะไร ูเี่อันจึงนั่งว่างอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ท่องอินเทอร์เน็ตฆ่าเวลา
แต่จู่ๆ ลั่วเสี่ยวซีก็แชร์ลิงก์ของเว็บบอร์ดชื่อดังแห่งหนึ่งมาให้เธอ
เธอเข้าไปดูในลิงก์ที่ได้รับ ก็เห็นกระทู้หนึ่งที่เพิ่งถูกตั้งขึ้นเมื่อเช้านี้ แต่มีคนตอบกลับแล้วไม่ต่ำกว่าหมื่นคอมเมนต์
กระทู้มีชื่อว่า “จขกท.อยากให้ช่วยสืบหาหญิงสาวนิรนามที่ทำให้นางฟ้าของเราเสียน้ำตา ภรรยาของลู่เป๋าเหยียน”
เ้าของกระทู้ใช้ชื่อว่า “ราชินีรั่วซีฉันรักคุณ” ซึ่งเป็ชาวเมือง A แฟนคลับตัวยงของหานรั่วซี เธอทนไม่ไหวที่เห็นหานรั่วซีต้องเสียน้ำตาถึงสองครั้ง เธอแน่ใจว่าคนที่ทำให้ราชินีของเธอกลายเป็แบบนี้ก็คือ ภรรยานิรนามของลู่เป๋าเหยียน
เพราะฉะนั้น “ราชินีรั่วซีฉันรักคุณ” คนนี้จึงมาตั้งกระทู้ให้ทุกคนช่วยตามหาว่าภรรยาลู่เป๋าเหยียนคือใคร เพื่อแก้แค้นให้กับนางฟ้าของพวกเธอ ตอนนี้เธอมีข้อมูลบางอย่างอยู่ในมือ เธอแน่ใจว่าภรรยาของลู่เป๋าเหยียนเป็คนเมือง A มีอาชีพไม่ธรรมดา เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในอเมริกา และเธอได้ไปออกงานพร้อมกับลู่เป๋าเหยียนมาเมื่อคืน หลายคนรู้แล้วว่าเธอคือใคร เพราะฉะนั้นคงสืบหาตัวได้ไม่ยาก
เื่นี้แสดงให้เห็นว่าแฟนคลับของหานรั่วซีมีมากขนาดไหน ผนวกกับข้อมูลที่ “ราชินีรั่วซีฉันรักคุณ” มีอยู่ในมือ ทำให้หลายคนเข้าร่วมการตามหาในครั้งนี้ แต่ก็มีบางคนออกมาเตือนว่า “การแฉข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นเป็การกระทำที่ผิดกฎหมาย” แต่ก็ถูกบรรดาแฟนคลับและเ้าของกระทู้ตอกกลับอย่างไม่มีชิ้นดี
ในข้อความตอบกลับนับหมื่นข้อความ เก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์สนับสนุนเ้าของกระทู้ และ แปดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในนั้นเข้าร่วมการสืบหาตัวเธอในครั้งนี้
ลั่วเสี่ยวซีส่งข้อความมาด้วยความเป็ห่วง : ูเี่อัน เธอแย่แน่! หนีออกนอกประเทศไปสักพักจนกว่าเื่จะซาลงดีไหม
ูเี่อันบิดี้เีแล้วตอบไปอย่างไม่ทุกข์ร้อน : เธอคิดว่าซากศพกับคนพวกนี้อะไรน่ากลัวกว่า?
ลั่วเสี่ยวซีคิดเปรียบเทียบในใจแล้วตอบว่า : ศพคนน่ากลัวกว่าอยู่แล้ว
ูเี่อัน : เอาล่ะ ฉันขอตัวไปวิจัยศพผู้ตายต่อดีกว่า
จากข้อความนี้สื่อได้ว่า ขนาดศพคนเธอยังไม่กลัว นับประสาอะไรกับคนพวกนี้?
ลั่วเสี่ยวซีตอบกลับเป็จุดและเครื่องหมายใมายาวๆ เพื่อแสดงความนับถือเพื่อนคนนี้อย่างสุดซึ้ง ูเี่อันนิ่งเกินคน ขนาดซากศพเธอยังไม่กลัว
ในตอนนั้นเอง มือถือเธอก็ดังขึ้น ถังอวี้หลันได้โทรเข้ามา
“สวัสดีค่ะคุณน้า”
“เจี่ยนอัน!” เสียงของถังอวี้หลันดูร้อนใจเป็อย่างมาก “เมื่อวานเกิดเื่ขนาดนั้นทำไมหนูไม่บอกน้าสักคำ ถ้าวันนี้ไม่ได้เห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ น้าคงไม่รู้ว่าหนูถูกลักพาตัวไป แล้วนี่หนูเป็ยังไงบ้างลูก ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม”
คุณน้ารัวประโยคยาวเหยียดใส่เธออย่างไม่หยุดพักจนเธอฟังแทบไม่ทัน แต่ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย ความรู้สึกแบบนี้...ช่างอบอุ่นและยอดเยี่ยม
เธอยิ้ม “หนูไม่เป็ไรค่ะคุณน้า คุณน้าลืมไปแล้วเหรอว่า หนูก็นับเป็ตำรวจครึ่งหนึ่งนะคะ คงไม่มีใครทำอะไรหนูได้ง่ายๆ”
“น้าไม่สบายใจเลย น้าว่าจะไปหาหนูที่สถานีตำรวจสักหน่อย” ถังอวี้หลันยืนยัน
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากให้คุณน้ามา แต่เธอไม่รู้ว่าควรจะแนะนำคุณน้าให้เพื่อนร่วมงานรู้จักในฐานะอะไร เธอคิดแล้วจึงพูดว่า
“คุณน้า หนูไม่เป็ไรจริงๆ คุณน้าไม่ต้องลำบากมาหาหนูหรอกค่ะ พรุ่งนี้ก็สุดสัปดาห์แล้ว หนูไม่ต้องเข้างาน เดี๋ยวหนูแวะไปเยี่ยมคุณน้าเองดีไหมคะ”
ได้ยินดังนั้นถังยวี้หลันจึงรู้ตัวว่า หากตนรีบร้อนจะไปหาอาจจะรบกวนูเี่อันทำงานได้ จึงพยักหน้า
“เอางั้นก็ได้ลูก แล้วน้าจะรอหนูอยู่ที่บ้านนะ”
“ค่ะ คุณน้า”
หลังจากวางสาย ูเี่อันก็ยังคงยิ้มอย่างมีความสุข
เธอไม่ได้ััความรักของแม่ั้แ่อายุสิบห้า คำพูดและการกระทำของถังอวี้หลันในวันนี้ ทำให้เธอได้ััถึงความรักและห่วงใยของแม่ที่ไม่ได้เจอมานาน ตอนแรกที่เธอตกลงแต่งงานกับลู่เป๋าเหยียน นอกจากเหตุผลที่เป็ความลับนั่นแล้ว ส่วนหนึ่งก็เพราะคุณน้า
เธอชอบคนใจดีและสนุกสนานอย่างคุณน้ามาก สำหรับเธอคุณน้าก็เหมือนแม่อีกคน
เพราะมีแผนสำหรับสุดสัปดาห์นี้แล้วเลยรู้สึกอารมณ์ดีเป็พิเศษ วันรุ่งขึ้นหลังกินข้าวเช้าเสร็จ เธอหยิบใบชาที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวานแล้วจึงเตรียมตัวออกจากบ้าน
ลู่เป๋าเหยียนเห็นเธอกำลังจะออกไปอย่างอารมณ์ดีจึงถามขึ้นว่า “เธอจะไปไหน”
“ฉันจะไปหาคุณน้า” ูเี่อันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตานี่เป็ลูกชายคุณน้านี่นา
“นายจะไปด้วยไหมล่ะ ถ้านายไปด้วยกันคุณน้าคงดีใจมาก”
พูดจบก็กะพริบตาปริบๆ มองเขาเหมือนรอคอยให้เขาตอบรับ
ลู่เป๋าเหยียนนิ่งคิดไปสักพัก ทีู่เี่อันพูดมาถูกหมดทุกอย่าง เขาแค่นึกไม่ถึงว่า คนที่ชอบทำอะไรตามอำเภอใจอย่างูเี่อัน เห็นแบบนี้ก็เป็คนกตัญญูเหมือนกัน แถมคนที่เธอกำลังจะไปหาก็คือแม่ของเขาเอง
ูเี่อันนึกว่าลู่เป๋าเหยียนกำลังลังเลจึงถลึงตาใส่
“ไปหาแม่ตัวเองแท้ๆ นายจะลังเลอะไรอีก ลูกอกตัญญู!”
“...” มุมปากของลู่เป๋าเหยียนถึงกับกระตุก
“ไม่ไปก็เื่ของนาย” ูเี่อันหมุนตัวกำลังจะเดินจากไป “ฉันไปคนเดียวก็ได้”
ลู่เป๋าเหยียนรีบจับมือเธอไว้ทันที เขาหยิบกุญแจรถและลากเธอให้เดินตามมาอย่างหงุดหงิด
“ฉันบอกตอนไหนว่าจะไม่ไป” ถึงที่จริงวันนี้เสิ่นเยว่ชวนจะนัดเขาไปเล่นบาสที่นอกเมืองก็เถอะ
ูเี่อันยิ้ม “ฉันว่าแล้ว ว่าพี่เป๋าเหยียนไม่ใช่คนแบบน้าน~”
ลู่เป๋าเหยียน “...”
ูเี่อันมองมือเขาที่กำลังกุมมือของเธอแล้วแย้มยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
เธอกับเขาจับมือกันไปเยี่ยมถังอวี้หลัน เื่ที่เมื่อก่อนแค่คิดเธอยังไม่กล้า แต่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้น ทางเดินข้างหน้าช่างดูสดใส ทุกอณูของหัวใจเต็มไปด้วยความอิ่มเอม
เธอนึกอยากจะะโเสียงดังๆ ให้แม่ผู้ล่วงลับของเธอได้ยินว่า ณ วินาทีเธอมีความสุขมากแค่ไหน
่เวลาแบบนี้ ถึงฝนจะตกฟ้าจะร้องเธอก็ไม่กลัว