เซียวจื่อเซวียนนำเงินห้าตำลึงมาวางไว้บนโต๊ะอย่างรวดเร็ว
รวมกับเงินเมื่อครู่ของเซี่ยยวี่หลัว มีทั้งหมดสิบห้าตำลึง
อยู่ข้างนอกสามเดือนกว่า แม้เงินสิบห้าตำลึงแทบจะไม่มีประโยชน์เลย แต่ก็ยังดีกว่ามีเงินติดตัวแค่สองตำลึง
เซี่ยยวี่หลัวกัดฟัน เก็บเงินสิบห้าตำลึงไว้ในถุงเงินใบหนึ่ง ตัวเองไม่ได้เก็บเงินไว้แม้แต่อิแปะเดียว จากนั้นจึงกล่าวกับเซียวจื่อเซวียน “ได้ยินว่าบุตรชายของท่านปู่เซียวเป็คนขายข้าวสารอาหารแห้ง เช่นนั้นเขาจะไปในตัวอำเภอหรือไม่?”
เซียวจื่อเซวียนพยักหน้า “ใช่ ท่านอาเซียวเหลียงจะไปซื้อข้าวสาร แป้ง และน้ำมันในตัวอำเภอเป็ประจำ”
เซี่ยยวี่หลัวเก็บถุงเงินไว้ในอกเสื้อพร้อมกล่าว “ไปกัน เราไปที่บ้านท่านปู่เซียว”
เซียวจื่อเซวียนไม่รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวจะทำอะไร เงินอยู่ที่นางทั้งหมด แต่เซียวจื่อเซวียนกลับไม่รู้สึกกังวลแม้แต่น้อย เพียงสงสัยว่าจะนำเงินสิบห้าตำลึงไปทำอะไร
ทั้งสามคนมาถึงบ้านท่านปู่เซียว
เหมือนกับตอนที่มาวันก่อน ท่านปู่เซียวยืนสูบยาสูบอยู่หน้าประตู มีรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน บุรุษวัยกลางคนอายุประมาณสามสิบห้าถึงสามสิบหกปีรูปร่างกำยำกำลังวิ่งขึ้นวิ่งลง ขนย้ายข้าวของในรถม้าลงมา
เซียวจื่อเซวียนเห็นเขาแต่ไกล จึงกล่าวกับเซี่ยยวี่หลัว “นั่นคือบุตรชายของท่านปู่เซียว ท่านอาเซียวเหลียง”
เมื่อก่อนเซียวเหลียงเป็นายพราน สร้างตัวโดยอาศัยการล่าสัตว์ ในภายหลังเพราะคนในครอบครัวบอกว่าการล่าสัตว์นั้นลำบากและอันตรายเกินไป หากเผชิญกับสัตว์ร้ายก็อาจมีอันตรายถึงชีวิต จึงนำเงินที่ได้จากการล่าสัตว์ไปเปิดร้านขายข้าวสารและน้ำมันในตัวเมือง เพราะทำการค้าอย่างสุจริตและของที่ขายก็เป็ของดี กิจการในตัวเมืองจึงไม่เลวนัก
เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าบุตรชายของท่านปู่เซียวจะไปในตัวอำเภอเป็ครั้งคราว ก็รู้สึกยินดียิ่ง ช่างบังเอิญนักที่ได้พบในวันนี้พอดี
เมื่อพวกเขาไปถึงหน้าบ้าน ท่านปู่เซียวจึงเห็นอย่างชัดเจนว่าคนที่มาคือสองพี่น้องเซียวจื่อเซวียน
เขาสูบยาสูบทีหนึ่ง พ่นควันออกจากปาก แย้มรอยยิ้มกว้าง “จื่อเซวียนกับจื่อเมิ่งเองหรือ พวกเ้ามาได้อย่างไร?”
ทั้งสองคนเอ่ยเรียกท่านปู่เซียวและท่านอาเซียวเหลียงด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน เซียวเหลียงเดินมา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “จื่อเซวียนจื่อเมิ่งมางั้นหรือ… ภรรยาเซียวยวี่ก็มาด้วย”
เขากล่าวทักทายเซี่ยยวี่หลัวก่อน เซี่ยยวี่หลัวทักทายกลับอย่างมีมารยาท ท่านปู่เซียวส่งเสียงเ็าคราหนึ่ง ทำเสมือนเซี่ยยวี่หลัวเป็อากาศธาตุ
“จื่อเซวียน จื่อเมิ่ง ท่านอาเซียวเหลียงของพวกเ้านำอาหารมาจำนวนหนึ่ง เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป ท่านปู่จะให้พวกเ้าได้กินของอร่อย!” ท่านปู่เซียวกล่าววาจาเย้าหยอกกับเด็กสองคน ไม่มองเซี่ยยวี่หลัวแม้แต่แวบเดียว
เซียวเหลียงเห็นว่าบิดาของตนไม่สนใจเซี่ยยวี่หลัว ก็ได้แต่ยิ้มเก้อๆ “ขอโทษด้วย ท่านพ่อของข้าก็เป็เช่นนี้”
คนที่ชอบก็ชอบเสียยิ่งกว่าอะไร คนที่ไม่ชอบ ก็จะไม่ยอมมองแม้แต่แวบเดียว
เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “ท่านอาเซียวเหลียง วันนี้ที่ข้ามา เพื่อมาหาท่าน!”
“หาข้า?” เซียวเหลียงประหลาดใจ “เ้าหาข้ามีอะไรงั้นหรือ?”
สองพี่น้องเซียวจื่อเซวียนมองไปทางเซี่ยยวี่หลัว ไม่รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวจะทำอะไร ท่านปู่เซียวก็รู้สึกประหลาดใจ สตรีจิตใจชั่วร้ายผู้นี้จะมาหาบุตรชายของตนเองทำไม!
“หากจะทำเื่ผิดต่อฟ้าดิน เ้าก็รีบไปซะ!” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นของท่านปู่เซียวดูบึ้งตึง โมโหยิ่งนัก
เซี่ยยวี่หลัวเอ่ยเรียกท่านปู่เซียว ไม่ได้โกรธเพราะคำตำหนิของเขา เพียงยิ้มพร้อมกล่าว “ท่านอาเซียวเหลียง ไม่นานมานี้สามีของข้าไปสอบในตัวอำเภอ พวกเราอยู่ที่บ้านก็ไม่วางใจ เกรงว่าเขาอยู่ข้างนอกจะลำบาก จึงอยากขอให้ท่านช่วย หากท่านได้ไปในตัวอำเภอใน่หลายวันนี้ ช่วยไปหาสามีของข้า มอบเงินเหล่านี้ให้เขาได้หรือไม่!”
นางนำถุงเงินออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นส่งให้เซียวเหลียง
เซียวเหลียงตกตะลึงจนลืมรับ
แต่ถุงเงินดูพอง ด้านในน่าจะมีเงินไม่น้อย
“ในนี้มีเงินสิบห้าตำลึง หากใช้อย่างประหยัด ฝืนใช้สักสามเดือน น่าจะยังพอไหว” พอเซี่ยยวี่หลัวคิดถึงเื่ที่เซียวยวี่อยู่ข้างนอกมีเงินให้ใช้แค่สองตำลึง ก็รู้สึกผิดจนทนไม่ไหว
ตัวอยู่ข้างนอก ต้องกินดื่มต้องหาที่พัก ทั้งยังต้องซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียน มีเงินติดตัวแค่สองตำลึง แบบนี้ไม่ต่างจากขอทานเลย
ท่านปู่เซียวหันมองมาทางนี้ด้วยอาการตกตะลึง
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งก็มองเซี่ยยวี่หลัวด้วยความตกตะลึงไม่ต่างกัน
เมื่อครู่เซี่ยยวี่หลัวนำเงินมาสิบห้าตำลึง เซียวจื่อเซวียนประหลาดใจมากว่าเซี่ยยวี่หลัวจะนำมาทำอะไร นึกว่านางมาที่นี่เพื่อซื้อของ แต่ใครจะรู้ว่านางจะขอให้ท่านอาเซียวเหลียงส่งเงินไปให้พี่ใหญ่
ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่มีเงินติดตัวแค่สองตำลึง เพื่อประหยัดเงิน พี่ใหญ่จึงออกเดินทางก่อน เพื่อไม่ต้องนั่งรถ อาศัยขาทั้งคู่ของตัวเองเดินทางไปสอบ
แต่ตอนนี้...
เซียวจื่อเซวียนตกตะลึงยิ่ง มองเซียยวี่หลัวด้วยความรู้สึกคาดไม่ถึง
เซี่ยยวี่หลัวที่เป็แบบนี้ เขายังไม่เคยเห็นมาก่อน!
“เ้า… เ้าพูดจริงหรือ?” ท่านปู่เซียวรู้สึกผิดคาดจนลืมสูบยาสูบ ยาสูบในกล้องยาสูบไหม้จนมีควันสีขาวลอยขึ้น เขาถึงกับเมินมันไป
เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าวาจาของตนในวันนี้ต่างจากตัวเองในอดีตโดยสิ้นเชิง แต่เป็เื่ช่วยไม่ได้ เซี่ยยวี่หลัวคนเดิมช่างเห็นแก่ตัว แต่นางในตอนนี้ ไม่อาจทำเช่นนั้นได้!
เดิมทีนางยังมีถ้อยคำดีๆ อีกมากมายอยากฝากบอกเซียวยวี่ อย่างไรเสียเซียวเหลียงก็จะไปพบเขา ย่อมสามารถฝากบอกได้ เพียงแต่ ฝากบอกถ้อยคำเ่าั้ให้เซียวยวี่ผ่านบุรุษอีกคนหนึ่ง เซี่ยยวี่หลัวพูดไม่ออก
เซียวเหลียงเพิ่งเรียกสติคืนกลับมา รีบขานตอบว่า “อ่อ” ติดต่อกันสามครั้ง
ตอนรับถุงเงินมา เหรียญอิแปะภายในกระทบกันเกิดเสียง “กรุ๊งกริ๊ง” ดังขึ้น ภายในมีเหรียญอิแปะจำนวนไม่น้อย
เซียวจื่อเซวียนรู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวนำเงินทั้งหมดที่มีใส่ไว้ในถุงเงินแล้ว
ตอนนี้ ถุงเงินนั่นจะถูกส่งไปให้พี่ใหญ่
เขารู้สึกตื่นเต้นแทบอยากะโโลดเต้น ทั้งยังรู้สึกว่าภาพลักษณ์ของเซี่ยยวี่หลัวในสายตาเขากำลังขยายใหญ่ขึ้นนับหมื่นจ้าง [1]
เซียวเหลียงเห็นท่าทางจริงจังผิดปกติของเซี่ยยวี่หลัว จู่ๆ ก็รู้สึกว่าถุงเงินในมือนั้นช่างหนักอึ้ง
“มีอะไรจะฝากบอกอายวี่หรือไม่?” เซียวเหลียงเอ่ยถาม
เขาไปในตัวอำเภอเป็ประจำ ดังนั้นจึงรู้ตำแหน่งของสนามสอบ ถึงเวลาเพียงขับรถม้าไปในตัวอำเภอ เพียงรออยู่หน้าประตูของสนามสอบในวันที่การสอบสิ้นสุด เขาย่อมหาเซียวยวี่พบ
เซี่ยยวี่หลัวขมวดคิ้วงามเล็กน้อย คิดอยู่ครู่หนึ่ง เพียงกล่าว “ให้เขาตั้งใจสอบ ที่บ้านมีข้า ให้เขาวางใจ บอกเขาว่าอย่าประหยัดเงิน จุดที่ควรใช้ก็ต้องใช้เสีย!”
ท่านปู่เซียวก็ถูกเซี่ยยวี่หลัวทำให้รู้สึกตะลึง
แม่หนูผู้นี้ เหตุใดถึงกลายเป็แบบนี้ไปได้
ท่านปู่เซียวกระซิบเสียงเบา “อาเซวียนเขียนหนังสือเป็ไม่ใช่หรือ? ถ้าอย่างไรเ้าเขียนจดหมายส่งไป?”
เซียวจื่อเซวียนขานตอบ แต่ไม่ได้เขียนยาวนัก เขียนเพียงสองประโยค ให้พี่ใหญ่วางใจไปสอบ ไม่ต้องเป็ห่วงเื่ที่บ้าน นอกจากนั้นยังเน้นย้ำอีกประโยคหนึ่ง พี่สะใภ้ใหญ่ดีต่อพวกเขามาก ไม่ต้องกังวล
เซี่ยยวี่หลัวไม่รู้ว่าเซียวจื่อเซวียนเขียนอะไรลงไปบ้าง แต่กลัวว่าถึงเวลาเซียวเหลียงจะหาคนลำบาก จึงเสนอให้เขาเขียนป้ายขนาดใหญ่ไว้ด้านนอกสนามสอบ เขียนชื่อเซียวยวี่ไว้ ขอเพียงผู้เข้าสอบที่ออกทางประตูสามารถมองเห็น ก็จะหาเขาพบอย่างราบรื่น
ระหว่างทางกลับ เซี่ยยวี่หลัวเดินอยู่ข้างหน้า จูงมือเซียวจื่อเมิ่งไว้ เดินกลับบ้านไปเงียบๆ โดยไม่กล่าวอะไร เซียวจื่อเซวียนเดินตามหลังห่างไปไม่กี่ก้าว มองแผ่นหลังเหยียดตรงของเซี่ยยวี่หลัวด้วยอาการเหม่อลอย
เชิงอรรถ
[1] จ้าง หน่วยวัดความยาวของจีน 1 จ้าง = 3.33 เมตร