“วิ้ด!”
เสียงกระเรียนเหมันต์บนท้องฟ้ากำลังวิวัฒนาการ
ทว่าสายตาของทุกคนกลับไม่ได้มองไปที่จั๋วอวี้หวั่น ต่างมองไปทางจั๋วอวิ๋นเซียนที่อาจหาญเทียมฟ้า ในใจพวกเขารู้สึกคาดไม่ถึง
ผู้คนในเขตชายแดนล้วนแต่ได้ยินมาว่านายน้อยตระกูลจั๋วสามิญญาขาดหนึ่งมาั้แ่เด็ก ทั้งยังไร้ซึ่งพร์ ดังนั้นชีวิตของเขาคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทำได้เพียงใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาและตายไปแบบคนธรรมดา
ทว่าเมื่อครู่นี้จั๋วอวิ๋นเซียนตบหน้าคุณหนูตระกูลซีโหลว จากนั้นใช้กระบี่จ่อคอของอีกฝ่าย เพียงพูดไม่เข้าหูก็แทงไปหลายกระบี่แล้ว ทั้งยังใช้วิธีนี้ข่มขู่ผู้บำเพ็ญเซียนระดับรวมพลังด้วย…
นี่เป็สิ่งที่คนธรรมดาสามารถทำได้หรือ? หรือว่าจั๋วอวิ๋นเซียนกับนายน้อยขยะที่เคยได้ยินเป็คนละคนกัน?
……
“จั๋วอวิ๋นเซียน เ้าควบรวมตราประทับแล้วหรือ? เป็ไปได้อย่างไร?”
หลังจากใจเย็นลงแล้วซีโหลวรั่วเมิ่งก็ฟื้นคืนสติกลับมา ในเมื่อจั๋วอวิ๋นเซียนยังไม่มีพลังิญญา เช่นนั้นอีกฝ่ายต้องจุดเพลิงิญญาแล้วแน่ๆ มิเช่นนั้นเพียงใช้พลังกาย คงไม่มีทางตบหน้า โดยที่นางไม่รู้ตัวได้ อีกทั้งยังจับตัวนางได้อย่างง่ายดาย
แต่จั๋วอวิ๋นเซียนสามิญญาขาดหนึ่ง ไร้พร์ จะควบรวมตราประทับได้อย่างไร! นอกจาก…เขามีความลับบางอย่าง!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ซีโหลวรั่วเมิ่งมิได้รีบร้อนแล้ว กลับอยากรู้ว่าจั๋วอวิ๋นเซียนมีความลับอะไรซ่อนอยู่!
“แผ่นดินเซียนฉยงกว้างใหญ่ ทุกสิ่งล้วนเป็ไปได้ ต่อให้ไร้พร์ ก็ใช้ความเพียรเข้าสู้ เื่นี้น่าแปลกตรงไหน?”
จั๋วอวิ๋นเซียนถือกระบี่สั้นด้วยใบหน้าและสายตาที่ไร้ความรู้สึก ซีโหลวรั่วเมิ่งมิอาจมองเห็นข้อมูลที่เป็ประโยชน์จากสายตาของเขาได้เลย
“ไร้พร์…แต่ใช้ความเพียรพยายามหรือ…”
พอลองมาคิดดูแล้วซีโหลวรั่วเมิ่งจึงนึกอะไรขึ้นได้ “ใช่แล้ว เ้าแอบใช้ผลฉุนหยางหรือสมบัติิญญาอื่นใช่หรือไม่ จึงควบรวมตราประทับขึ้นมาได้! มิน่าเล่าก่อนหน้านี้จั๋วฟู่ไห่ถึงได้ตามหาสมบัติวิเศษและโอสถิญญามากมาย ที่แท้พวกเ้าก็คิดจะปิดบังทุกคน!”
เมื่อคิดว่าผลฉุนหยางอาจจะถูกจั๋วอวิ๋นเซียนใช้ไปแล้ว ในใจของซีโหลวรั่วเมิ่งก็เกิดความเคียดแค้น! หากไม่มีผลฉุนหยาง ประสิทธิภาพของผลฉุนหยินในมือนางจะลดลงอย่างมาก ไม่รู้จะหลอมจิตสี่รอบได้เมื่อใด
“……”
ซีโหลวรั่วเมิ่งคาดการณ์ไปต่างๆ นานา แต่จั๋วอวิ๋นเซียนกลับไม่ตอบสนอง กระบี่สั้นยังคงจ่อที่คอของอีกฝ่ายไม่ขยับแม้แต่น้อย
ครั้งนี้ในที่สุดเหลียนเว่ยฉีก็นั่งไม่ติดกับที่แล้ว
ก่อนหน้านี้เขายังรอดูเื่สนุก คิดว่าซีโหลวรั่วเมิ่งคงไม่เป็ไร แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเมื่อครู่เกือบพลาดแล้ว ถึงกับถูกเด็กน้อยคนหนึ่งเล่นงานเสียได้
“ทุกคนหยุดก่อน! อย่าเพิ่งวู่วาม!”
เหลียนเว่ยฉีรีบโบกมือห้ามปรามป้าเหลยหลิงเอาไว้ จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็มิตร “คือว่า นาย…นายน้อยจั๋ว มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจา เ้าปล่อยคุณหนูซีโหลวก่อนได้หรือไม่?”
“ไม่ได้!”
จั๋วอวิ๋นเซียนปฏิเสธทันที ทำให้เหลียนเว่ยฉีหน้าเสีย ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้เขาจะมีความสามารถก็ทำอะไรไม่ได้! ในที่สุดเขาก็เห็นแล้วว่าจั๋วอวิ๋นเซียนคนนี้เป็คนบ้า ต่อให้ตายก็ต้องลากคนตายตามไปด้วย! จะจัดการกับคนเช่นนี้มิอาจใช้กำลังได้
……
สถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายหยุดชะงัก บรรยากาศหนักอึ้ง
สายตาของจั๋วอวิ๋นเซียนไม่เคยออกห่างจากพี่สาวของตนเลย
ิญญาเซียนวิวัฒนาการต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง จั๋วอวี้หวั่นมีพร์และจิตใจระดับสูง กระบวนการจึงใช้เวลาไม่นานนัก เพียงครู่เดียวก็ฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์แล้ว
“น้องพี่…”
จั๋วอวี้หวั่นเดินมาด้านข้างจั๋วอวิ๋นเซียนเงียบๆ นางจ้องมองซีโหลวรั่วเมิ่งอย่างเ็า ในใจรู้สึกซับซ้อน อันตรายเมื่อครู่นี้หากไม่ใช่จั๋วอวิ๋นเซียนออกโรง เกรงว่านางคงไม่มีทางผ่านหายนะไปได้อย่างราบรื่นแน่
ที่จริงแล้วจั๋วอวี้หวั่นอยากจะพูดอะไรบางอย่างและมีข้อสงสัยมากมาย แต่นางรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เก็บคำพูดไว้ในใจก่อนดีกว่า ห้ามพูดหรือถามอะไรทั้งสิ้น มิเช่นนั้นอาจทำให้เื่ใหญ่ยิ่งขึ้น
ลุงเยี่ยนก็เดินมาด้านข้างจั๋วอวิ๋นเซียน เขาตบบ่าอีกฝ่ายอย่างชื่นชม
เด็กหนุ่มที่ผอมแห้งและเก็บตัวเงียบคนนั้นเติบโตมาขนาดนี้แล้วโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย ทั้งยังสามารถช่วยเหลือคนข้างกายได้อีกด้วย
“น้องพี่ เ้าคิดจะจัดการนางอย่างไร?”
เมื่อนิพพานจากสายฟ้า ิญญาเซียนวิวัฒนาการแล้ว พลังของจั๋วอวี้หวั่นจึงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พลังปราณหนาวเย็นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่นางกลับถอยออกมาปล่อยให้จั๋วอวิ๋นเซียนตัดสินใจ
เมื่อครุ่นคิดครู่หนึ่ง จั๋วอวิ๋นเซียนกล่าวพลางมองไปที่ห่างไกล “ติดต่อกำไลสื่อิญญาของท่านพ่อไม่ได้ น่าจะเกิดเื่บางอย่าง…พวกเรารอท่านพ่อกลับมาตรงนี้แหละ”
“ดี”
จั๋วอวี้หวั่นพยักหน้า นางเลือกยืนด้านหน้าจั๋วอวิ๋นเซียนเงียบๆ เหมือนคิดจะป้องกันอันตรายให้เขา
……
ทันใดนั้นซีโหลวรั่วเมิ่งกล่าวออกมาว่า “จั๋วอวิ๋นเซียน เ้า…ปล่อยข้าได้หรือไม่? เื่เหล่านี้ข้ามิได้เป็คนตัดสินใจ เ้าจับข้าไปก็ไร้ประโยชน์”
จั๋วอวิ๋นเซียนกล่าวอย่างเป็ธรรมชาติ “ใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับเื่นี้?”
“ข้า…ข้าก็ไม่รู้”
สายตาของซีโหลวรั่วเมิ่งสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลง
จั๋วอวิ๋นเซียนถือกระบี่สั้นแน่น เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ถ้าเช่นนั้นเ้าคงเป็เพียงคนไม่สำคัญ ฆ่าเ้าไปก็คงไม่เป็อะไรกระมัง?”
“จั๋วอวิ๋นเซียน เ้า…อย่าทำอะไรบ้าๆ!”
ซีโหลวรั่วเมิ่งตัวแข็งทื่อ นางอดใจสั่นไม่ได้ ต่อให้นางเ้าแผนการมากเพียงใด ถึงอย่างไรก็เป็เพียงเด็กสาวอายุสิบสี่สิบห้าปี เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายถึงชีวิต ย่อมรู้สึกหวาดกลัวเป็ธรรมดา
“อย่า…อย่าฆ่าข้า!”
ซีโหลวรั่วเมิ่งสูดลมหายใจเข้าข่มความกลัวในใจ “จั๋วอวิ๋นเซียน ข้ารู้ว่าเ้ามีป้ายพิเศษสำนักเซียนเทียนซู แต่ถึงอย่างไรเ้าก็มิใช่ศิษย์แท้จริง ถ้าสังหารผู้บริสุทธิ์เ้าก็มิอาจหลีกเลี่ยงโทษปะาได้”
“สังหารผู้บริสุทธิ์? อย่างเ้าหรือคนบริสุทธิ์?”
เมื่อได้ยินคำถามของจั๋วอวิ๋นเซียน ซีโหลวรั่วเมิ่งไม่รู้จะตอบเช่นไร ทำได้เพียงรู้สึกโมโหที่ถุงเก็บของถูกอีกฝ่ายชิงไป มิเช่นนั้นนางคงไม่ถูกรังแกเช่นนี้
“หยุดนะ…”
มีเสียงะโดังก้อง จากนั้นก็มีสตรีบินลงมาจากบนฟ้าะโใส่จั๋วอวิ๋นเซียนด้วยความโกรธ “เป็ไอ้สุนัขอย่างเ้าอีกแล้ว ที่กล้าทำร้ายน้องหญิงรั่วเมิ่ง! ข้าจะสังหารตระกูลจั๋วมิให้เหลือแม้แต่หมูหมากาไก่เลย!”
“……”
ทุกคนล้วนพูดไม่ออก เื่เก่ายังไม่จบเื่ใหม่มาอีกแล้ว! พวกเขาเพิ่งเคยพบเป็ครั้งแรก คนที่มาหาเื่แต่ยังกล้ากล่าววาจาเหมือนตนเองมีเหตุมีผลเช่นนี้ แม่นางน้อยคนนี้เป็ใครกัน?
“พี่หญิงเฟยเยี่ยน! ช่วยข้าด้วย!”
เมื่อได้ยินคำขอให้ช่วยของซีโหลวรั่วเมิ่ง สีเฟยเยี่ยนดวงตาแดงก่ำ หัวใจแทบจะแหลกสลาย “น้องหญิงรั่วเมิ่งอย่าได้หวาดกลัว พี่หญิงไม่ดีเอง พี่หญิงมาช้าไป…”
เมื่อกล่าวจบสีเฟยเยี่ยนพุ่งตรงไปหาจั๋วอวิ๋นเซียน เงาอสรพิษพร่ามัวปรากฏขึ้นด้านหลัง ใต้เท้ามีวงแสงสีฟ้าเข้ม…มันคือิญญาเซียนระดับขุนพล
“กลับไปเสีย!”
จั๋วอวี้หวั่นฟาดฟันกระบี่ กระเรียนเหมันต์โบยบินไปปะทะกับการโจมตีของสีเฟยเยี่ยน
“บัดซบ! พวกเ้าทุกคนสมควรตาย!”
สีเฟยเยี่ยนเผยสีหน้าดุร้าย หยิบยันต์กระบี่แผ่นหนึ่งออกมา…ทว่าเมื่อนางเตรียมตัวลงมืออีกครั้ง จั๋วอวิ๋นเซียนกลับใช้กระบี่แทงที่ไหล่ของซีโหลวรั่วเมิ่งเสียก่อน!
