งู้ม...งู้ม.....
ราวกับว่าหมูป่าหนามอัคคีจะนอนหลับและกรนออกมา ทุกๆครั้งที่มันหายใจจะมีฟองอากาศสีทองออกมาจากจมูกพร้อมกับพลังอันแข็งแกร่ง หากว่ามีฝุ่นทรายอยู่ตรงหน้ามัน แค่เพียงลมหายใจของมันก็สามารถที่จะทำให้เกิดพายุทรายได้
"บัดซบ!หมูป่าหนามอัคคีทรงพลังยิ่ง หากว่าตัวข้าสามารถทะลวงเข้าไปสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ ข้าจักสามารถสังหารมันได้โดยง่าย!"
หวงต้าพูดกับเจียงเฉินผ่านััเทวะ แม้ว่าสายเืของหมูป่าหนามอัคคีจะสูงส่ง หากว่ามันเทียบกับสายเืกิเลนแล้ว มันยังห่างชั้นกันนัก
"พลังของหมูป่าหนามอัคคีร้ายกาจนัก กระทั่งลมหายใจของมันเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้!ข้าคิดว่าแม้นักพรตเซวียนอี้มาด้วยตนเองก็ไม่อาจจะเอาชนะมันได้ หากข้าสามารถดูดซับดวงจิตอสูรของหมูป่าหนามอัคคีได้ ข้าจักสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นปลายได้ และข้าก็จะเหลืออีกเพียงก้าวเดียวสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์! ดวงจิตอสูรของหมูป่าหนามอัคคีสามารถทำให้ข้าสร้างตราประทับัเพิ่มได้อย่างน้อยอีกสามร้อยดวง!"
ดวงตาของเจียงเฉินเปล่งประกาย แต่น่าเสียดาย การที่จะจัดการหมูป่าหนามอัคคีนั้นยากไม่ต่างจากการปีนป่าย์ เพราะเ้าตัวใหญ่นี่มันแข็งแกร่งมาก
"เ้าหนู เ้าคิดจะล้มเลิกการรักษาหยวี่น้อยงั้นรึ?"
หวงต้าถลึงตาใส่เจียงเฉินอย่างโกรธเกรี้ยว
"ล้อเล่นน่ะล้อเล่น มีสัตว์อสูรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์มากมายอยู่ที่นี่ และเมื่อข้าลงไปยังนรกอเวจี ข้าไม่จำเป็ต้องห่วงเื่ขาดแคลนดวงจิตอสูร ดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคีจะใช้เพื่อปรุงยาหกสุริยันเพื่อช่วยเหลือหยวี่น้อย"
เจียงเฉินอธิบายให้หวงต้าฟัง แม้ว่าเขาจะ้าดวงจิตอสูรของหมูป่าหนามอัคคี เขารู้ว่าในตอนนี้เยี่ยนเฉินหยวี่้าดวงจิตอสูรนี้มากกว่าตัวเขา
"แล้วตอนนี้พวกเราจักทำอย่างไร?อย่าบอกนะว่าต้องเฝ้าดูมันจากที่นี่ตลอดทั้งวัน?"
หวงต้าเริ่มหมดความอดทน
"เ้าคิดเห็นอย่างไรล่ะ?หรือเ้าอยากจะลอง?"
มุมปากเจียงเฉินยกขึ้นเผยรอยยิ้มมีความสุข
"หุบปากไป!"
หวงต้าขยับร่างออกห่างเจียงเฉิน เว้นระยะห่างจากเขา
"เ้าหมูป่าหนามอัคคีแข็งแกร่งเกินไป หากปะทะซึ่งหน้าพวกเราไม่มีโอกาสที่จะชนะแม้แต่น้อย พวกเราจักต้องวางกลยุทธ์ เก็บพลังและลมหายใจเสีย จากนั้นรออยู่ที่นี่ หมูป่าหนามอัคคีได้อาศัยอยู่ที่หุบเขาสายหมอกเป็เวลานาน มันจักต้องมีสิ่งที่ทำเป็กิจวัตรของตนเอง ตอนนี้ต้องจับตามองกิจวัตรของมันเสียก่อน"
เจียงเฉินพูดขึ้น
หนึ่งคนและหนึ่งหมาซ่อนลมหายใจขณะที่จับตามองหมูป่าหนามอัคคีที่กำลังนอนอย่างเงียบๆ หวงต้าหาวออกมา และพูดออกมาด้วยท่าทางหดหู่
"ท่านย่าทวดมันเถอะ นี่คือสิ่งที่มันทำทั้งหมด?!พวกเราได้แต่อยู่ที่นี่มองสัตว์อสูรมันนอนหลับ มันทำให้บิดาง่วงขึ้นมาแล้วสิ"
เจียงเฉินจ้องมองไปยังหวงต้า เขาเองก็รู้สึกหดหู่เช่นกัน ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็ยอดนักบุญอันดับหนึ่งในใต้หล้า แต่ตอนนี้เขากำลังซ่อนตัวและดูสัตว์อสูรมันนอน นี่มันไร้สาระชัดๆ!
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง แสงแดดได้ทอดตกไปยังหัวของพวกเขา ตอนนี้มันเป็่เวลาบ่ายแล้ว มันเป็่เวลาที่พลังหยางบริสุทธิ์ที่สุด หมูป่าหนามอัคคีที่กำลังนอนอยู่ได้ลืมตาขึ้นมาและมันดูน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง
อี๊สสส!!!
หมูป่าหนามอัคคีคำรามออกมาเสียงดังลั่น หลังจากนั้นร่างกายที่ใหญ่โตของมันค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆจากพื้น ความสูงจากสองจ้างได้กลายเป็ห้าจ้าง และขาที่หนาและแข็งแกร่งได้ปกคลุมด้วยเกล็ดสีทองดูเหมือนเสาขนาดั์ทั้งสี่
ใหญ่มาก หมูป่าหนามอัคคีราวกับเนินเขาสีทองขนาดย่อม ร่างกายของมันส่องแสงเปล่งประกายและไม่มีผู้ใดสามารถมองมันตรงๆได้
หมูป่าหนามอัคคีได้ตื่นขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้เจียงเฉินและหวงต้ามีท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขามิกล้าที่จะส่งเสียงใดๆแม้แต่น้อย และพวกเขาได้เก็บลมหายใจอย่างมั่นคง
แท้จริงแล้วหมูป่าหนามอัคคีไม่ได้คาดว่าจะมีผู้บุกรุกมายังอาณาเขตของมัน ดังนั้นมันจึงไม่ได้ให้ความสนใจในบริเวณรอบๆ ไม่ใช่เพราะว่าััของมันอ่อนด้อยแต่อย่างใด มันเป็เพราะเจียงเฉินและหวงต้านั่นหลบซ่อนตัวได้เยี่ยมยอดมาก หากเป็ผู้อื่นคงโดนหมูป่าหนามอัคคีตรวจพบแล้ว
อี๊สสส!!!
ทันใดนั้นหมูป่าหนามอัคคีได้คำรามออกมาอีกครั้ง เสียงคำรามดังก้องทั่วป่า มันขยับร่างะโขึ้นสู่ท้องฟ้าและพุ่งไปยังอีกทิศทางหนึ่ง ไม่นานมันก็หายไปจากสายตาของเจียงเฉินและหวงต้า
"มันไปแล้ว?"
หวงต้าหรี่ตาลง
"มันเป็่เวลาบ่าย มันเป็่ที่มีพลังหยางบริสุทธิ์อุดมสมบูรณ์มากที่สุด เ้าหมูป่าหนามอัคคีมันควรที่จะทำการบ่มเพาะต่อสิ เหตุใดมันถึงเลือกที่จะไป่เวลานี้?"
เจียงเฉินขมวดคิ้วด้วยความงุนงง
"มันอยากจะไปไหนก็ปล่อยมันไปเถอะ อย่างไรก็ตาม ใช้โอกาสนี้ตรวจดูภายในถ้ำกันเถอะ"
หวงต้าะโขึ้นและเตรียมเดินไปยังถ้ำแต่เจียงเฉินรั้งมันไว้
"เ้าหนู เหตุใดเ้ารั้งข้าไว้เล่า?"
หวงต้าแยกเขี้ยว
"ระวังตัวหน่อยสิ หากว่าเ้าหมูป่าหนามอัคคีมันกลับมา พวกเราจะซวยเอา"
เจียงเฉินลากหวงต้ากลับมาไปยังที่ซ่อนเดิมของพวกเขา
"ใช้เวลาจับตาดูกิจวัตรของหมูป่าหนามอัคคีอีกสักหน่อยเถอะ จากนั้นพวกเราจะมาคุยกันว่าจะทำกันอย่างไรต่อไป"
เจียงเฉิน้าที่จะตรวจสอบให้ละเอียด คู่ต่อสู้ของพวกเขาน่ากลัวมาก ไม่อาจที่จะวู่วามได้ พวกเขาจะต้องรู้ถึงกิจวัตรทั้งหมดของมันก่อนที่จะคิดหาทางจัดการมัน
รอผ่านไปอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และหวงต้าได้บ่นมาตลอดครึ่งชั่วโมงนี้ มันยังตำหนิเจียงเฉินว่าขี้ขลาด เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงมันมากพอที่จะให้มันได้ก่อเื่ร้ายแรงในถ้ำหมูป่าหนามอัคคี
แต่เจียงเฉินยังคงทำหน้าตาย เขาจะไม่ผลีผลามลงมือก่อนที่จะค้นพบกิจวัตรประจำวันของหมูป่าหนามอัคคี
ฟ้าว.....
ในตอนนั้นเองหมูป่าหนามอัคคีได้กลับมาแต่ไกล เจียงเฉินและหวงต้าเห็นได้ชัดเจนที่ปากของมันอ้าอยู่เมื่อมันบินกลับมา ภายในปากของมันมีบางสิ่งส่องประกายเปล่งแสงอยู่ มันเป็ของเหลวบางอย่าง
ตึง!
หมูป่าหนามอัคคีลงจอดบนสนามทำให้เนินเขานั้นสั่นะเืทั้งหมด หลังจากนั้นมันเดินเข้าไปยังถ้ำและใช้เวลาที่นั่นราวๆครึ่งชั่วโมง
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง หมูป่าหนามอัคคีได้ออกมาจากถ้ำและนอนลงที่เดิม จากนั้นมันก็นอนอีกครั้งหนึ่ง
"มันหลับอีกครั้งหนึ่ง"
หวงต้ากรอกตาของมัน ในที่สุดมันก็พบผู้ที่นอนได้มากกว่ามัน
"อดทนไว้ รอต่อไปก่อนเถอะ"
เจียงเฉินพยายามเกลี้ยกล่อม เ้าหมานี่ขาดความอดทนอย่างมาก
เ้าหมูป่าหนามอัคคีนี่รู้วิธีการนอนเป็อย่างดี มันตื่นเพียง่บ่ายในวันถัดไป และถัดไปอีกครั้งใน่เวลาหนึ่งของวัน มันได้บินออกจากสนามในทิศทางเดิมกับที่ๆมันไปครั้งก่อน
"มันไปอีกแล้ว ในเวลาเดียวกันด้วย"
หวงต้าหรี่ตามอง
"เช่นนั้นนี่เป็กิจวัตรประจำวันของมัน เมื่อวานเมื่อตอนหมูป่าหนามอัคคีกลับมา ข้าคิดว่ามีบางสิ่งที่อยู่ในปากของมัน เ้าเองก็เห็นใช้ไหม?"
เจียงเฉินถาม
"ใช่ มีบางอย่างอยู๋ในปากของมัน"
หวงต้าผงกหัว
"ไปเถอะ ไปดูกันว่าเ้าหมูป่าหนามอัคคีมันไปที่ใด"
หลังจากพูดจบเจียงเฉินได้ยืนขึ้นและเดินไปยังทิศทางที่หมูป่าหนามอัคคีไป ในครั้งนี้เขาและหวงต้าไม่ได้บินไป พวกเขาได้เดินอยู่บนพื้น การบินส่งผลให้เกิดการรบกวนพลังหยวนตามธรรมชาติ จะทำให้หมูป่าหนามอัคคีค้นพบถึงตัวตนของพวกเขา
สิบลี้ห่างจากถ้ำหมูป่าหนามอัคคีเป็หุบเขา ตอนนี้ใจกลางหุบเขาจะมีหนองน้ำอยู่และที่ใจกลางของหนองน้ำมีหินก้อนใหญ่ลอยอยู่ หินนั้นกลวงและตอนนี้หมูป่าหนามอัคคีได้ก้มหัวมันไปยังด้านในของหินกลวงนั้น
เจียงเฉินและหวงต้าทั้งคู่เห็นของเหลวใสภายในหินนั้น ของเหลวนั้นใสมากเมื่อสะท้อนกับแสงอาทิตย์มันราวกับผลึก พวกเขารู้ว่าของเหลวนั่นคือสิ่งใด มันเป็วารีกำเนิดพลังที่หายากเช่นเดียวกับที่พวกเขาพบในถ้ำม่านวารี มันทำให้พวกเขาแปลกใจว่าที่นี่มีวารีกำเนิดพลังด้วย
ในตอนนี้หมูป่าหนามอัคคีได้ยื่นลิ้นของมันลงไปในวารีกำเนิดพลัง มันไม่ได้ดื่มวารีกำเนิดพลังแต่อย่างใด มันนำลิ้นจุ่มลงไปโดยมิได้ขยับเขยื้อน
"มันกำลังทำอะไรน่ะ?"
หวงต้าถามด้วยความสงสัย
"มันกำลังปลดปล่อยพลังชีวิตของตน เหตุใดมันจึงต้องปลดปล่อยพลังชีวิตของมันลงไปยังวารีกำเนิดพลังด้วย?"
เจียงเฉินขมวดคิ้ว หมูป่าหนามอัคคีใช้เวลาที่พลังหยางบริสุทธิ์อุดมสมบูรณ์ที่สุดในการปลดปล่อยพลังชีวิตของมันไปยังวารีกำเนิดพลัง และพฤติกรรมของมันทำให้เจียงเฉินงุนงงจริงๆ หากว่ามันมาที่นี่เพื่อดื่มวารีกำเนิดพลัง นั่นเป็เื่สมเหตุสมผลอยู่ วารีนี้เป็ดั่งสมบัติหายาก ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์อสูรต่าง้ามัน
แต่ไม่เพียงแค่หมูป่าหนามอัคคีไม่ดื่มวารีกำเนิดพลัง มันยังปล่อยพลังชีวิตของมันออกมา มันไม่ได้เกิดผลดีอันใด มันส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังไปอย่างมาก
ครึ่งชั่วโมงถัดมา หมูป่าหนามอัคคีได้เปิดปากกลืนวารีกำเนิดพลังที่ผสมกับพลังชีวิตของมัน หลังจากนั้นมันะโขึ้นฟ้าและบินกลับไปยังที่ๆมันมาด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่บนหนองน้ำ
"เช่นนั้นนี่เป็วารีกำเนิดพลังในปากของมันเมื่อวานนี้สินะ"
หวงต้าพูดขึ้น
"ไร้สาระชะมัด"
เจียงเฉินกรอกตา
"ว๊ะก่ะก่ะ มีวารีกำเนิดพลังมากมายอยู่ที่นี่!อย่าปล่อยให้มันเสียเปล่าเลย ให้บิดาดื่มให้ชื่นใจหน่อยเถอะ"
หวงต้าหัวเราะออกมาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
"ไม่ได้เด็ดขาด!หากว่าเ้าดื่มวารีกำเนิดพลัง มันจะทำให้หมูป่าหนามอัคคีรู้ตัว หากว่าข้าคาดไม่ผิดพลาด หมูป่าหนามอัคคีจะมายังที่นี่อีกในวันรุ่งขึ้น หากมันพบว่าวารีกำเนิดพลังหายไป มันจะโกรธเกรี้ยวเป็แน่"
เจียงเฉินยังดึงหลังหวงต้าไว้
เมื่อพวกเขากลับมายังจุดซ่อนตัว พวกเขาเห็นหมูป่าหนามอัคคีได้ออกมาจากถ้ำอีกครั้ง วารีกำเนิดพลังในปากของมันก็หายไปด้วย แต่คลื่นพลังของวารีกำเนิดพลังไม่ได้อยู่ในตัวของมัน ตรงกันข้าม ดูเหมือนว่ามันจะสูญเสียพลังชีวิต และไม่นานมันก็นอนลงบนสนามและหลับนอนต่อ
ใน่สองวันถัดมา หมูป่าหนามอัคคีได้กระทำกิจวัตรเช่นเดิม มันบินไปยังหนองน้ำ่บ่าย นำวารีกำเนิดพลัง เข้าไปยังถ้ำ แล้วก็นอน
"หมูป่าหนามอัคคีไม่ได้ดื่มวารีกำเนิดพลังเพื่อตัวมันเอง มันจักต้องมีสิ่งสำคัญที่มันเอาใจใส่อย่างมากอยู่ในถ้ำ พวกเราจะเข้าไปยังถ้ำ่บ่ายวันพรุ่งนี้"
เจียงเฉินได้ตัดสินใจแล้ว หลังจากที่ใช้เวลาไปสามวันในที่สุดเขาก็พบกิจวัตรประจำวันของหมูป่าหนามอัคคี เห็นได้ชัดว่ามีบางสิ่งสำคัญมากที่หมูป่าหนามอัคคีได้เอาใจใส่เป็อย่างมากอยู่ภายในถ้ำ ดังนั้นอาจจะมีสิ่งที่สามารถทำให้เจียงเฉินสามารถใช้จัดการกับหมูป่าหนามอัคคีได้
ใน่บ่ายวันรุ่งขึ้น เหมือนดั่งก่อนหน้านี้ หมูป่าหนามอัคคีได้ไปยังหนองน้ำอีกครั้ง หลังจากที่ออกจากที่นี่แล้ว เจียงเฉินและหวงต้าได้ะโขึ้นและเข้าไปยังถ้ำทันทีด้วยความเร็วดุจสายฟ้า พวกเขารู้ว่าหมูป่าหนามอัคคีจะใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก่อนที่จะกลับมา เช่นนั้นพวกเขาจึงมีเวลามากเกินพอ
ถ้ำของหมูป่าหนามอัคคีนั้นใหญ่โตมาก เรียบง่ายตรงใจกลางของถ้ำมีหนองน้ำเล็กๆอยู่ ใจกลางหนองน้ำมีไข่สีทองขนาดเท่ากับหัวของมนุษย์ ไข่นั่นเปล่งแสงสีทองออกมา
มีชั้นแสงสีทองอยู่รอบๆไข่ทองคำราวกับวงแหวนทองคำ มีอักขระสีทองนับไม่ถ้วนอยู่รอบๆไข่ อุดมด้วยพลังชีวิตได้ออกมา และภายใต้ไข่ทองคำคือวารีกำเนิดพลังที่บรรจุพลังชีวิตของหมูป่าหนามอัคคีเอาไว้
"นี่เป็ไข่ของหมูป่าหนามอัคคี มันเป็ลูกของมัน ไม่แปลกเลยที่หมูป่าหนามอัคคีจะใส่พลังชีวิตลงไปในวารีกำเนิดพลัง"
ในที่สุดเจียงเฉินก็เข้าใจว่าทำไมหมูป่าหนามอัคคีจึงยอมสูญเสียพลังชีวิตของตน
