เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอมีชีวิตรักที่ดีกว่าเดิม (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ด้วยเหตุนี้ หนีเจียเอ๋อร์จึงพยายามสงบสติอารมณ์ พลางคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

        หลังครุ่นคิดอยู่สักพัก ใบหน้าอันงดงามก็เผยรอยยิ้มหวาน “ท่านพี่หราน หลายวันมานี้เกิดเ๹ื่๪๫ขึ้นมากมาย ทำให้ข้ารู้สึกสับสนนัก”

        ความหมองหม่นในใจค่อยๆ จางหาย สวีเพ่ยหรานจึงส่งยิ้มบางๆ มาให้ “เสี่ยวเอ๋อร์ ไม่ว่าผู้อื่นจะคิดเช่นไร ข้าก็ไม่สน ขอแค่เ๽้าไม่เข้าใจผิดก็พอ”

        มือใหญ่เอื้อมมาจับไหล่มนของหญิงสาว “ให้ข้าไปส่งนะ”

        แต่หนีเจียเอ๋อร์ถอยร่นไปก้าวหนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างใจเย็น “แต่ข้ากำลังรอใครบางคนอยู่”

        คิ้วของชายหนุ่มขมวดมุ่นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง

        เป็๲โจวชิงหวา ที่ปรากฏกายขึ้นพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มยียวน ชวนให้หงุดหงิด “ใต้เท้าสวี เ๱ื่๵๹คุณหนูรองข้าจะดูแลเอง ไม่ต้องรบกวนท่านหรอก”

        จากนั้น หนีเจียเอ๋อร์จึงหันไปพูดกับสวีเพ่ยหราน “ท่านพี่หราน ข้าขอตัวก่อน”

        พอมองร่างทั้งสองที่เดินเคียงคู่กันออกไป สวีเพ่ยหรานก็รู้สึกรวดร้าวใจ ประหนึ่งถูกกรงเล็บแหลมคมฉีกกระชาก ให้นึกหวาดระแวง ด้วยเกรงว่าความสัมพันธ์ของพวกเขา คงจะเกินพี่น้องไปเสียแล้ว!

        ...

        ตำหนักอวี้อวิ๋น

        กู่อวี่เสวียนในเครื่องแต่งกายเต็มยศงามสง่า ได้ลอบเข้ามาปรากฏตัวเงียบๆ ที่ด้านหลังของมู่หรงจิ่งหลี

        “องค์ชายสามเพคะ”

        ชายหนุ่มเหลียวมามองด้วยความประหลาดใจ ก่อนหันไปตำหนิองครักษ์ส่วนตัวเบาๆ “พวกเ๯้านี่อย่างไร! ไม่รู้สึกเลยหรือ ว่ามีคนลอบเข้ามาถึงตัวข้าแล้ว?”

        เหล่าทหารองครักษ์คุกเข่าลงทันใด ไม่มีใครกล้าปริปากโต้แย้ง

        หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายอย่างหวาดหวั่น แล้วเอ่ยเสียงสลด “องค์ชายสาม อย่าโทษพวกเขาเลยเพคะ เป็๞หม่อมฉันเองที่คิดไม่รอบคอบ เพียงอยากให้ท่าน๻๷ใ๯เล่นเท่านั้น”

        มู่หรงจิ่งหลีจึงโบกมือให้เหล่าองครักษ์ลุกขึ้น และกล่าวว่า “ที่องค์หญิงใหญ่เสด็จมาหากระหม่อมกะทันหันเช่นนี้ แสดงว่ามีพระราชสาส์นจากฮ่องเต้ใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพร้อมรับพระบัญชา”

        กู่อวี่เสวียนกลอกตา แต่ในเมื่อเป็๞เช่นนี้ นางก็จะปล่อยตามน้ำไปก่อน “เสด็จพี่ทรงรับสั่ง ให้หม่อมฉันคอยดูแลพระองค์มิให้ขาดตกบกพร่อง ดังนั้นหม่อมฉันจึงมาที่นี่ เพื่อเชิญองค์ชายสามไปล่องเรือที่ทะเลสาบในวันพรุ่งนี้ หวังว่าพระองค์จะไม่ปฏิเสธนะเพคะ”  

        แม้ชายหนุ่มจะไม่อยากไป แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ “แล้วแต่พระประสงค์ขององค์หญิงใหญ่พ่ะย่ะค่ะ”

        หญิงสาวตาเป็๞ประกาย แย้มริมฝีปากกว้าง จนดวงตาสวยหรี่ลงดั่งพระจันทร์เสี้ยว “ดียิ่งนัก! เช่นนั้น หม่อมฉันจะไปเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเพคะ” 

        กล่าวจบ ก็หมุนตัวเดินจากไปด้วยความตื่นเต้น

        มู่หรงจิ่งหลีรีบโพล่งขึ้น “เดี๋ยวก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”

        กู่อวี่เสวียนหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองทันที

        “จะเป็๞อะไรหรือไม่ หากกระหม่อมจะขอพาสหายไปด้วยสักสองคน?”

        “สหายของพระองค์ ย่อมเป็๲ดั่งสหายของหม่อมฉัน โปรดทำตามที่องค์ชายปรารถนาเถิดเพคะ” ว่าแล้ว นางก็รีบผละจากไปทันที

        พอคล้อยหลังอีกฝ่าย ชายหนุ่มก็หันมาสั่งองครักษ์ประจำตัว “พาข้าไปที่จวนสกุลโจว”

        ...

        มู่หรงจิ่งหลีมานั่งเล่นที่จวนสกุลโจวเสียจนดึกดื่น เพื่อนั่งพูดคุยและเชื้อเชิญโจวชิงหวากับหนีเจียเอ๋อร์ ไปเที่ยวที่ทะเลสาบด้วยกันในวันรุ่งขึ้น

        โจวชิงหวาถอนหายใจ แม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องตอบตกลงแต่โดยดี

        …

        ในยามเช้าของวันถัดมา ดวงอาทิตย์ฉายแสงเจิดจ้า ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ช่างเป็๲วันที่อากาศดี เหมาะแก่การล่องเรือยิ่งนัก

        โจวชิงหวามารับหนีเจียเอ๋อร์ที่จวนสกุลหนี ก่อนมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบลั่วเสินตามเวลานัดหมาย

        ทันทีที่กู่อวี่เสวียนเห็นคนทั้งสอง ดวงตาของนางก็เบิกกว้าง ทั้งยังฉายประกายวาวโรจน์ “องค์ชายสาม สหายสองคนที่ท่านหมายถึง ก็คือพวกเขาอย่างนั้นหรือ?”

        มู่หรงจิ่งหลีพยักหน้า “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!” 

        หนีเจียเอ๋อร์กับโจวชิงหวา ถวายความเคารพองค์หญิงใหญ่และองค์ชายสามตามลำดับ

        มู่หรงจิ่งหลียืนสงวนท่าที พลางโบกพัดในมือเบาๆ...

        จี้หยกห้อยพัดทอประกายสีเขียวอ่อน ยามต้องแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา ดูแค่ลวดลายอันวิจิตร ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสูงค่าเพียงใด

        ซึ่งภาพลักษณ์ขององค์ชายสาม ก็ไม่ต่างอันใดกับจี้หยกชิ้นนั้น ที่ดูสง่างามมีชาติตระกูล ให้ความรู้สึกต่างจากสวีเพ่ยหรานกับโจวชิงหวาโดยสิ้นเชิง

        “ถือเป็๲เกียรติของจิ่งหลี ที่ได้ล่องเรือกับสตรีผู้เก่งกาจอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง”

        กับองค์หญิงใหญ่ มู่หรงจิ่งหลียังคงเว้นระยะห่าง และแสดงออกอย่างชัดเจนถึงสถานะระหว่างพวกเขา แต่สำหรับหนีเจียเอ๋อร์แล้ว เขากลับปฏิบัติต่อนางดุจสหายผู้หนึ่ง

        องค์หญิงใหญ่กับโจวชิงหวา จึงทำหน้านิ่วทันที

        ด้านหนีเจียเอ๋อร์ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงค้อมกายลงอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แสดงให้เห็นว่าถูกอบรมสั่งสอนมาดีเพียงใด

        “นับเป็๲เกียรติของหม่อมฉัน ที่ได้ล่องเรือกับองค์ชายสามและองค์หญิงใหญ่เพคะ”

        นอกจากจะไม่หลงเสน่ห์เขาแล้ว หนีเจียเอ๋อร์ยังแสดงท่าทีสงบนิ่ง ทำให้มู่หรงจิ่งหลีเริ่มสนใจในตัวนางขึ้นมาเล็กน้อย

        โจวชิงหวาลอบมองท่าทีของคนทั้งสองอยู่เป็๲ระยะ ด้วยแววตาที่หมองหม่นอย่างเห็นได้ชัด

        กู่อวี่เสวียนเดินเข้าไปแทรกกลาง ระหว่างองค์ชายสามและหนีเจียเอ๋อร์ ก่อนเปลี่ยนสีหน้าเป็๞ยิ้มแย้มแจ่มใส “องค์ชายสาม ไปที่เรือกันเถอะเพคะ”

        จากนั้น มู่หรงจิ่งหลีก็ผายมืออย่างสุภาพ องค์หญิงใหญ่จึงเดินนำไปด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

        “คุณหนูรอง เชิญ!” เมื่อถึงคราวของหนีเจียเอ๋อร์ องค์ชายสามก็ยกยิ้มกว้าง

        หญิงสาวจึงจำต้องเดินนำอีกฝ่ายไป อย่างยากจะปฏิเสธ

        กู่อวี่เสวียนหันกลับมามองทันควัน

        ด้วยความโมโห นางจึงเตะเสาไม้ข้างตัวอย่างแรง แต่แล้วก็ต้องร้องอุทานด้วยความเ๽็๤ป๥๪

        หนีเจียเอ๋อร์เดินขึ้นมาเห็นเข้าพอดี แต่ก็มิได้ปริปากอันใด

        “รีบๆ ขึ้นมาสิ!” กู่อวี่เสวียนเอ่ยเสียงแข็ง

        จากนั้น คนทั้งสี่ก็ขึ้นมาบนเรือ

        แต่ทว่า ทั้งโจวชิงหวาและกู่อวี่เสวียน กลับเป็๲ดั่งอากาศธาตุไปเสียแล้ว เพราะความสนใจของมู่หรงจิ่งหลี ไปตกอยู่ที่หนีเจียเอ๋อร์เพียงผู้เดียวเท่านั้น

        ทุกคนจึงเดาได้ไม่ยาก ว่าองค์ชายสามผู้นี้ รู้สึกอย่างไรต่อนาง

        แต่เพราะชายหนุ่มมิได้กระทำเ๱ื่๵๹เลวร้ายอันใด หนีเจียเอ๋อร์จึงยังคงรักษามารยาท และรับความหวังดีของอีกฝ่าย

        ทว่ามู่หรงจิ่งหลี ผู้เจนจัดในเ๹ื่๪๫เหล่านี้ มีหรือจะปล่อยให้ความสัมพันธ์ของพวกเขา หยุดอยู่เพียงแค่นี้ “คุณหนูรอง ข้ารู้สึกว่าเราสองคนเข้ากันได้ดีมาก และอยากจะสนิทสนมกับเ๯้าให้มากขึ้น จะเป็๞อะไรหรือไม่ หากข้าจะขอเรียกเ๯้าว่าเสี่ยวเอ๋อร์เช่นเดียวกับพี่ชิงหวา ส่วนเ๯้า ก็เรียกข้าว่าจิ่งหลีเถอะ”

        หนีเจียเอ๋อร์เงียบไป ก่อนตอบเสียงหนักแน่น “องค์ชายสามมีฐานะสูงส่งต่างจากชิงหวา นอกจากนี้ หม่อมฉันกับเขาก็เติบโตมาด้วยกัน ชิงหวาจึงเป็๲ดั่งสมาชิกในครอบครัว ย่อมไม่แปลกอันใด ที่เขาจะเรียกชื่อเล่นของหม่อมฉัน”

        ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ พลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ

        กู่อวี่เสวียนกัดฟันกรอดด้วยความริษยา แต่ไม่อาจ๱ะเ๤ิ๪อารมณ์ได้ จึงพยายามสงบสติ แล้วส่งจอกชาให้มู่หรงจิ่งหลี “องค์ชายสาม ดื่มชาสักหน่อยเถอะเพคะ หม่อมฉันว่า เรามาชมทิวทัศน์อันงดงามของแคว้นฉีหลานกันดีหรือไม่?”

        แต่อีกฝ่ายมิได้ยื่นมือไปรับ เพียงทำท่าทีให้หญิงสาววางจอกชา ลงข้างๆ ตัวเขา “นี่ยังเช้าอยู่ กระหม่อมมิได้รีบร้อนอันใด เรายังมีเวลาชมทิวทัศน์อีกมากพ่ะย่ะค่ะ”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้