ตอนที่ 4
เล่ห์เหลี่ยม
เธอพูดออกมาเสียงดังพร้อมตั้งท่าเตรียมเผด็จศึก ไม่รู้หรอกว่าจะสามารถแตะต้องตัวเขาด้วยความสามารถที่มีได้ไหม แต่หากใช้ความสามารถไม่ได้.. ซิ่วเหมย ไม่สิ! ไป๋ลี่เซียนคนนี้ก็จะงัดมารยาหญิงออกมาใช้บ้างคงไม่ผิดกติกาหรอกมั้งนะ
สายตาของทหารทุกคนหันมามองที่เธอเป็ประกายอย่างคนที่มีความหวัง หลงเยี่ยนยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นการกระทำของพระชายาตนเอง เขาไม่มีความคิดเลยว่าเธอนั้นจะสามารถเข้ามาแตะต้องเขาได้ ภาพของสตรีที่แม้แต่เดินยังล้มแบบเธอจะเอาอะไรมาเข้าถึงตัวเขากัน แต่หากนางยังอยากจะเป็ขี้ปากของเหล่าทหารเขาก็ไม่คิดจะขัดข้อง
“เ้ามั่นใจหรือ”
เขาถามออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เ็า น้ำเสียงนั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเขากำลังสบประมาทเธออยู่ ลี่เซียนไม่ตอบอะไรเขาอีก ทำเพียงกำดาบในมือให้แน่นขึ้นเป็คำตอบ
"มั่นใจ!"
เสียงหวานคำรามก้องพร้อมยกยิ้มที่มุมปากด้วยความมั่นใจ สองเท้าะโเข้าไปหาเป้าหมายอย่างรวดเร็วเธอตวัดดาบในมือใส่หลงเยี่ยนไม่ยั้งด้วยความรู้ที่เรียนมา การเคลื่อนไหวของเธอรวดเร็วและแม่นยำราวกับท่วงท่าที่ฝึกฝนมาอย่างหนัก กระบี่ของเธอพุ่งตรงไปยังจุดที่คาดว่าจะเจาะไปยังร่างของเขา
ชายหนุ่มหรี่ตามองท่าทางของเธออย่างไม่อยากเชื่อสายตา ใบหน้าของสตรีผู้นี้ไม่มีความหวาดกลัวใดอยู่ในแววตานั้นเลยแม้แต่น้อย นั่นยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจในตัวของเธอเข้าไปอีก ท่าทางการจับดาบนั้นเดิมทีเขาคิดว่าเธออาจจะแค่เลียนแบบเหล่าทหาร แต่การตวัดดาบที่โจมตีนั้นไม่ใช่การโจมตีมั่ว ๆ อย่างแน่นอน
ทหารที่ยืนดูอยู่นอกสนามต่างพากันหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเห็นท่าทางของพระชายาของท่านแม่ทัพ พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินแม่ทัพพูดถึงนางเลยสักครั้ง จากที่ได้ยินมานางเป็บุตรีที่ไม่ถูกใส่ใจของเ้ากรมการคลัง แล้วเหตุใดนางถึงมีฝีมือมากเพียงนี้ แต่ถึงนางจะมีฝีมือมากเพียงไร พวกเขาก็รู้ดีว่าการโจมตีนี้แม้จะดูเร็วและเฉียบคม แต่แม่ทัพหลงเยี่ยนไม่ใช่คนที่จะแพ้การโจมตีแบบนี้ได้ง่าย ๆ
หลงเยี่ยนเพียงแค่ยืนอยู่กับที่ ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเลยแม้แต่น้อย เขาใช้แค่ดาบปัดป้องการโจมตีของลี่เซียนแบบสบาย ๆ ในขณะที่เธอนั้นเคลื่อนไหวอีกครั้งอย่างรวดเร็ว อาวุธในมือของเธอพุ่งตรงไปที่ชายเสื้อของหลงเยี่ยน แต่เขาก็แค่ยกดาบขึ้นมาปัดอาวุธของเธอออก แค่พริบตาเดียวเท่านั้นเขาทำให้ดาบที่พุ่งมาจอดนิ่งอยู่กลางอากาศ
หญิงสาวในิดหน่อยก่อนจะชักดาบกลับ เธอกวาดสายตามองเขาอีกครั้งและพยายามมองหาจุดอ่อน
“เ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้.. เลิกเล่นได้แล้ว”
เขาพูดเสียงเ็าราวกับกำลังพยายามประเมินลี่เซียนในทุกการเคลื่อนไหว
“ข้ายังไม่ได้บอกว่าข้าจะยอมแพ้.. ท่านก็แค่ทำตัวเป็คู่มือให้ข้าก็พอ ไม่ต้องพูดมาก!”
ลี่เซียนเอ่ยออกไปด้วยความหงุดหงิด เธอหงุดหงิดที่ชายผู้นี้เอาแต่ป้องกันไม่มีท่าทางที่จะโจมตีเธอเหมือนที่เขาทำกับทหารพวกนั้น
"ท่านแม่ทัพเหตุใดท่านถึงไม่ลงมือ.. นี่ท่ากำลังออมมือให้ข้างั้นหรือ"
"แล้วไม่ดีหรือ หากข้าลงมือกับเ้าป่านนี้ลงไปนอนข้างสนามแล้วกระมัง"
"ใครอยากให้ท่านออมมือกัน! ไร้สาระ!"
เธอพูดเสียงดังแล้วเริ่มลงมืออีกครั้ง มือเล็กกำดาบพร้อมตวัดไปข้างหน้า เธอรู้แล้วว่าฝีมือของเธอนั้นไม่มีทางสู้หลงเยี่ยนได้เลย แต่เมื่อนึกถึงสุราฮวาจื่อที่เลื่องชื่อนั้นเธอก็มีแรงฮึกขึ้นมาอีกครั้ง
"เพื่อสุราฮวาจื่อ! สู้โว๊ย!"
หลงเยี่ยนมองท่าทางที่ไม่ยอมแพ้ของเธอแล้วทำให้เขาเปลี่ยนความคิดเล็กน้อย เดิมทีคิดว่านางอาจจะแค่มาก่อกวนหรือเล่นสนุก แต่ท่าทางของนางในเวลานี้กลับดูจริงจังกับการต่อสู้นี้มาก ฝีมือนางก็ถือว่ามีฝีมืออยู่บ้าง หากนางได้ประมือกับเหล่าทหารมั่นใจได้เลยว่านางเอาชนะได้สบาย เพียงแต่เมื่อมาอยู่ตรงหน้าเขานางเป็เพียงสตรีผู้หนึ่งเท่านั้น
"งั้นข้าจะเล่นกับเ้าอีกหน่อยละกัน"
เขาเปลี่ยนจากป้องกันเป็เริ่มโจมตีนางเล็กน้อย และสิ่งที่เขารู้สึกได้เลยก็คือนอกจากที่ลี่เซียนนั้นจะโจมตีเป็ขั้นตอนเป็จังหวะแล้ว การตั้งรับและป้องกันก็ถือว่าใช้ได้ ถึงแม้ว่าเรี่ยวแรงนั้นจะบางเบาไปเสียหน่อยเพราะเป็เรี่ยวแรงสตรี แต่หากต่อสู้จริง ๆ นางก็ถือว่าออกรบได้สบาย
เขาขยับเข้าไปใกล้ตวัดดาบสามครั้งจนเธอนั้นถอยหลังแล้วล้มลงอย่างง่ายดาย ดาบในมือเล็กกระเด็นออกไปไกลตัว ดาบยาวในมือของหลงเยี่ยนชี้ไปที่ใบหน้าของเธอนิ่ง ๆ หญิงสาวมีท่าทางใเล็กน้อยจนเขานั้นรู้สึกใจคอไม่ดี การล้มของนางเมื่อครู่ก็ไม่ใช่ว่าจะเบาไม่รู้ว่าาเ็แค่ไหน
ในขณะที่หลงเยี่ยนกำลังมั่นใจว่าเขาควบคุมสถานการณ์ได้ สองเท้ากำลังจะหันหลังกลับไปเมื่อเห็นว่าสตรีผู้นี้นั่งนิ่ง ๆ อยู่ที่พื้น แต่ทว่าจังหวะนั้นเอง ลี่เซียนยกยิ้มมุมปากพร้อมทั้งขยับตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้า เธอหยิบมีดสั้นที่พกไว้จากข้างเอวขึ้นมาและเล็งไปที่ชายเสื้อของเขา
ในพริบตาเดียวมีดสั้นก็ตัดชายเสื้อของหลงเยี่ยนออกจนขาดเป็ทางยาว เสียงของมันดังก้องไปทั่วสนามฝึก ทหารทุกคนที่ยืนดูเหตุการณ์ต่างเบิกตากว้างด้วยความใ พวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครกล้าและบ้าบิ่นได้เท่าสตรีผู้นี้มาก่อน
แม่ทัพปีศาจที่ทุกคนเล่าขานหันกลับมามองอย่างรวดเร็ว ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่นอกจากลี่เซียนจะไม่ได้หวาดกลัวหรือสะทกสะท้านแล้วนางกลับยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดีเสียด้วย
“ข้าเองก็ไม่ได้อยากจะทำให้แม่ทัพเช่นท่านาเ็หรอก แต่เสื้อผ้าของท่านก็ต้องนับรวมในการท้าดวลนี้ใช่ไหม”
คำพูดของลี่เซียนทำให้หลงเยี่ยนโมโหเล็กน้อย เขามองไปที่ชายเสื้อของตนเองที่ขาดวิ่น เขามือเศษผ้าในมือของเธอนิ่ง ก่อนจะปรายตามองเธอเขม็ง
“ดี! ครั้งนี้เ้าชนะ แต่อย่าได้คิดว่าจะมีครั้งต่อไป เพราะข้าจะไม่มีทางแพ้ให้กับสตรีที่มีเล่ห์เหลี่ยมเช่นเ้าอีกเป็ครั้งที่สอง”
“เช่นนั้นท่านก็ต้องเปลี่ยนของรางวัลในการดวลให้น่าสนใจน้อยกว่านี้เสียหน่อยแล้ว”
"เ้าขึ้นมาบนลานประลองเพราะสุราฮวาจื่องั้นหรือ"
"หากไม่ใช่.. แล้วท่านคิดว่าอะไรที่ดึงดูดให้ข้ามาหันดาบใส่ท่านได้กันละ"
แม่ทัพหลงเยี่ยนหรี่ตามองเธอเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เหตุใดนางถึงสนใจในสุราฮวาจื่อ ทั้งที่ในจวนก็มีอยู่หลายไหนางไม่เคยสนใจและแตะต้องมันเลยแม้แต่น้อย แต่วันนี้นางกลับขึ้นมาประลองเพื่อแย่งชิง.. ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ
'สตรีผู้นี้มีเื่ให้แปลกใจมากเสียจริง'
“ในเมื่อท่านแม่ทัพยอมแพ้แล้ว ข้าขอให้ท่านนำสุราฮวาจื่อที่เลื่องชื่อมาที่ค่ายฝึก เพื่อให้เหล่าทหารใต้บัญชาของท่านได้คลายเครียด ท่านคิดเห็นเช่นไร”
ลี่เซียนพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ขณะเดียวกันนางก็ส่งยิ้มให้กับทหารที่ยืนอยู่รอบ ๆ ทันทีที่ได้ยินคำพูดของนางเหล่าลูกน้องใต้บัญชาของหลงเยี่ยนต่างส่งเสียงดีใจกันยกใหญ่ พวกเขาหันมากล่าวขอบคุณเธอด้วยความนอบน้อมจนเธอนั้นยิ้มแก้มปริ หลงเยี่ยนเองก็ไม่ได้ตอบอะไรเธอ เขาหันไปมองที่ทหารหลายคนที่ยืนอยู่แถว ๆ นั้นแล้วสั่งเสียงเย็น
“เ้าเอาตราหยกของข้าไปที่หอบุปผา.. แล้วเอาเหล้ากลับมาที่ค่ายฝึก”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้