คำพูดของนางทำให้ผู้คนภายในสถานที่แห่งนี้กระตือรือร้นพวกเขาต่างมองข้ามคำที่นางกล่าวว่าอายุน้อยที่สุด ต่างคนต่างเสนอตนเองมีแม้กระทั่งส่งเสียงร้องะโ
“คุณชายน้อยจะน่าสนใจได้อย่างไร? ต้องให้พวกเราที่เป็ผู้ใหญ่แบบนี้จึงจะสามารถทำให้แม่นางพอใจเหลาเป่าส่งข้อความผิดหรือเปล่า?”
“แม่นางจิงอวิ๋นเป็ชิงก่วน* ครั้งนี้เป็ครั้งแรกที่ปรากฏตัวในเมืองหลวง นางจึงเคอะเขินไปบ้างก็เลยต้องหาคุณชายน้อยสักคนน่ะสิ” เหลาเป่าไม่ได้ร้อนใจ นางป้องปากหัวเราะ
“แต่ผู้ที่มาหอนางโลมส่วนใหญ่เป็ผู้ใหญ่หมดแล้ว หากมีอายุน้อยแล้วจะน้อยได้สักแค่ไหน?”
“ใครว่าไม่มี ข้านี่ไงที่อายุน้อยมาก?”
เสียงเอื่อยๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น ทั้งๆ ที่ยังไร้เดียงสาทว่ากลับสามารถกลบเสียงเอะอะโวยวายได้ทั้งหมด ราวกับดังอยู่ข้างหู
กงอี่โม่ไม่ได้สนใจเสียงห้ามปรามจากเด็กหนุ่มทางด้านหลังนางคนเดียวพิงราวแกะสลักมองลงไปด้านล่าง ท่าทางผ่อนคลาย ไม่เอาจริงเอาจังอีกทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนเป็หนุ่มน้อยเสเพล
ผู้คนทั้งหลายต่างเงยหน้าขึ้นมา โอ้! ดูเหมือนเป็คุณชายน้อยอายุประมาณสิบปีเท่านั้นเป็คุณชายวัยละอ่อนหน้าหยก แม้จะยืนอย่างไม่ใส่ใจทว่าทุกคนต่างเห็นท่วงท่าของเขาอย่างชัดเจน แค่ดูก็รู้ว่าเป็คุณชายจากตระกูลใหญ่
เพียงแต่ผู้คนในที่แห่งนี้หากไม่ใช่คนมีเงินก็จะเป็เหล่าขุนนางเวลานี้มีคนเงยหน้าะโใส่นาง “อายุยังน้อยมาเที่ยวเล่นหอนางโลมทำไม ดูเ้าสิเกรงว่ายังไม่หย่านมกระมัง?!”
คำพูดของเขาสร้างเสียงหัวเราะไปทั่วทั้งห้องโถง กงอี่โม่ทำท่าแคะหูนางย่นจมูก สบถในลำคอแล้วเอ่ยขึ้น “พวกเ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้ายังไม่หย่านม? วันนี้ข้ามาก็เพื่อหน้าอกของนาง!”
นางอายุยังน้อยแต่กลับกล้ากล่าวคำลามก ทำให้ผู้คนรู้สึกขัดตามีคนกล่าวอย่างสนุกสนาน “ดูเขาทำตัวบ้าคลั่งสิ แต่เกรงว่าจะตัวเตี้ยเกินไปคงสูงแค่หน้าอกของนาง”
“ข้าเห็นพวกเ้าบางคนกำลังอิจฉาข้าอย่างชัดเจน”กงอี่โม่ไม่ยอมรับในคำพูดของเขา นางหันไปมองเหลาเป่า
“ข้าตอบรับแล้ว ยังไม่เรียกแม่นางจิงอวิ๋นออกมาอีก”
“อืม อืม ข้าจะไปเชิญนางเดี๋ยวนี้” เหลาเป่ากวาดตามองนางจากนั้นจึงพยักหน้าหลายครั้ง
เดิมทีบริเวณรอบๆ มีเสียงผีผาดังแว่วๆ ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็เสียงดังก้องกังวานเมื่อได้ยินว่าสาวงามจะปรากฏตัวแล้ว ทุกคนจึงไม่ขยับปากอีก ต่างจ้องมองไปที่เวทีอารมณ์ของผู้คนพุ่งถึงจุดสูงสุด
“เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจงใจเจาะจงมาที่เ้าแล้วทำไมเ้าจึงไปอีก?!” เซินสือเย่จิ้มศีรษะกงอี่โม่อย่างแรงเขากล่าวอย่างอ่อนใจที่นางไม่ได้ดั่งใจ
“เซินสือเย่ เ้ากล้ารึ ลองจิ้มข้าอีกครั้งสิ?!” กงอี่โม่ไม่ทันระวังตัวจึงเซไปเล็กน้อย นางจ้องตาอย่างโกรธจัด
เซินสือเย่ท่าทีอ่อนลงทันที เขากวาดตามองคนอื่น เด็กหนุ่มคนอื่นๆต่างทยอยก้มหน้าราวกับมองไม่เห็น เขาจึงสบถออกมาพร้อมกล่าวขึ้น
“ก็กลัวว่าเ้าจะหลงกลคนอื่น หากเป็อะไรไปท่านพี่รัชทายาทของเ้าจะต้องมาเอาเื่ข้าอย่างแน่นอน”
กงอี่โม่เหลือบตามองเขา สายตาของนางสะท้อนว่าเข้าใจอย่างชัดเจนราวกับกำลังกล่าวว่า ''เป็ห่วงข้าก็พูดออกมาตรงๆคนบ้าอำนาจอย่างท่านยังกลัวเขาอีกหรือ? ''
เซินสือเย่ถูกนางจ้องจนรู้สึกอึดอัด ขณะที่คิดจะะเิอารมณ์นั้นด้านล่างเวทีกลับมีเสียงโห่ร้องดังกึกก้องเกรงว่าแม่นางจิงอวิ๋นที่สร้างความสั่นะเืไปทั้งเมืองหลวงจะออกมาแล้วกระมัง?
กงอี่โม่รีบชะโงกศีรษะเข้าไปดู กลับเห็นสตรีคลุมด้วยผ้าสีแดงปรากฏตัวอย่างอ่อนช้อยพวกนางมีหน้าตางดงาม รูปร่างอรชรกำลังเต้นระบำไปตามเสียงผีผาในจังหวะเร่งเร้าขึ้นเรื่อยๆ ผ้าโปร่งสีแดงพลิ้วไหวเวลานี้ผู้ชมทั้งหลายต่างมองตาค้าง ทว่าแล้วสตรีนางไหนคือแม่นางจิงอวิ๋นล่ะ?
“ขอเชิญคุณชายน้อยลงมาเถิดแม่นางจิงอวิ๋นกล่าวว่าหวังว่าท่านจะเป็ผู้จูงนางออกมา” กงอี่โม่ลูบปลายคาง เวลานี้เหลาเป่าพลันขึ้นเวทีพร้อมหัวเราะ
คำพูดของเหลาเป่าทำให้ผู้คนด้านล่างเวทีต่างอุทานอย่างประหลาดใจสตรีงดงามเหล่านี้ยังไม่ใช่จิงอวิ๋นอีกหรือ? แล้วจิงอวิ๋นจะงามหยาดเยิ้มมากเพียงใดล่ะ?!
น่าสนใจ กงอี่โม่คลี่ยิ้ม นางพลันตบราวเบื้องหน้าจากนั้นจึงพลิกตัวลงไป ท่ามกลางเสียงอุทานของผู้คน นางเหาะเหินอยู่กลางอากาศทิ้งตัวลงกลางเวทีอย่างสวยงาม ทำให้สตรีทั้งสี่ที่เต้นระบำอยู่บนเวทีผงะถอยหนีในชั่วพริบตา กลางเวทีจึงเหลือนางเพียงผู้เดียว
ที่แท้คุณชายน้อยก็มีวรยุทธ์ยอดเยี่ยม
มีผู้คนไม่น้อยที่ชอบความตื่นเต้น พวกเขาจึงโห่ร้องขึ้นมากงอี่โม่โบกมือ เมื่อทุกคนเงียบลงแล้ว นางส่งยิ้ม เสียง ''พรึบ'' ดังขึ้นนางคลี่พัดที่หยิบจากบนโต๊ะของหลี่เคอเมื่อสักครู่ ท่วงท่าสง่างามหยิ่งผยอง
“แม่นางจิงอวิ๋นใช่ไหม? ข้ามาแล้ว เ้าเตรียมพร้อมหรือยัง?” นางคลี่ยิ้มเ้าเล่ห์ ทว่าเนื่องจากริมฝีปากแดงฟันขาวสะอาดท่ายิ้มร้ายกาจของนางจึงดูน่ารักน่าชัง
ขณะที่กล่าวนั้นนางสาวเท้าเดินไปยังเบื้องหน้าผ้าโปร่งที่ทิ้งตัวอยู่กลางเวที นางโค้งตัวลงยื่นมือออกมา ทำความเคารพอย่างสุภาพ
ผู้คนทั้งหลายต่างกลั้นลมหายใจ ทุกคนต่างจ้องมาที่นี่พวกเขาอยากเห็นสาวงามที่มีชื่อเสียงะเืทั่วใต้หล้าพวกเขาอยากรู้ว่าจะมีลักษณะเช่นไรกันแน่?
เสียงผีผาค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆท่ามกลางความเงียบสงบนั้นกลับมีเสียงกู่เจิงนุ่มนวลดังขึ้น เวลานี้เสียงหัวเราะมีเสน่ห์ของสตรีดังลอยมายังไม่เห็นตัวนาง แต่ได้ยินเสียงก่อน น้ำเสียงไพเราะเช่นนี้ราวกับเสียงหยกไข่มุกกระทบจาน ช่างเขย่าหัวใจของผู้คนนัก
“ได้รับกำลังใจจากทุกท่าน จิงอวิ๋นรู้สึกเป็เกียรติอย่างยิ่ง”
ทั้งๆ ที่เป็เพียงคำง่ายๆ ไม่กี่คำเมื่อนางกล่าวออกมากลับน่าหลงใหล กงอี่โม่หรี่ตาเล็กน้อยนางอยากรู้ว่าบุคคลผู้นี้ฝึกวิชายั่วยวนมาหรือไม่?
เพียงไม่นานนางก็ไม่มีเวลาคิดนอกเื่อีกแล้วเนื่องจากหลังมือของนางพลันหนักขึ้น มีมืออ่อนนุ่มข้างหนึ่งทาบลงมา
ผู้คนภายในห้องโถงต่างเงียบงัน ทั้งๆ ที่มีเพียงมือข้างเดียวทว่ากลับขาวนวลเนียนละเอียด นิ้วเรียวยาวได้สัดส่วนต่างว่ากันว่ามือของสตรีคือใบหน้าที่สอง ไม่รู้ว่าใบหน้าของนางจะงดงามสมบูรณ์แบบเช่นนี้หรือไม่
“รบกวนคุณชายน้อยแล้ว”
เดิมทีกงอี่โม่กำลังเหม่อลอย เมื่อได้ยินประโยคนี้นางจึงเลิกคิ้วขึ้น “ไม่รบกวน ไม่รบกวน เช่นนั้นเชิญแม่นางออกมาเถิด”
มืองามอีกข้างเปิดม่านออก สตรีสูงโปร่งอรชรปรากฏตัวอย่างสง่างามทั้งๆ ที่เป็เพียงการกระทำอันเรียบง่ายทว่าเมื่อนางเป็ผู้แสดงออกมากลับดูสูงส่งงดงาม กิริยาอ่อนช้อยเดิมทีนางกำลังก้มหน้า เมื่อเห็นทุกคนเงียบงัน นางจึงเงยหน้าขึ้นมาอย่างประหลาดใจจากนั้นจึงคลี่ยิ้มตามมา
“ข้าน้อยจิงอวิ๋น ที่นี่ช่างมีมารยาทนัก”
เสียงอุทานดังกระหึ่มจนหอนางโลมแทบถล่ม
แม้กระทั่งกงอี่โม่ยังรู้สึกตกตะลึง นางเคยเห็นสาวงามนับไม่ถ้วนทว่ามีส่วนน้อยที่งดงามถึงเพียงนี้ หากให้นางกล่าวตามจริงมีเพียงเซ่อเจิ้งอ๋องที่ฝึกฝนจนกลายเป็ปีศาจแล้วจึงจะสามารถเทียบเคียงได้
สตรีที่มีความงามถึงระดับหนึ่งจะไม่สามารถใช้พู่กันและน้ำหมึกเขียนพรรณนาออกมาได้อีกต่างกล่าวกันว่าสาวงามไม่ได้งามที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่งามถึงภายในเสน่ห์ของแม่นางจิงอวิ๋นผู้นี้ได้ซึมลึกถึงกระดูก ทุกกิริยาทุกการกระทำล้วนมีเสน่ห์จับใจ
ใต้ดวงตาดอกท้ออันสดใสเป็ประกายมีไฝเม็ดเล็กๆ เม็ดหนึ่งไฝเม็ดนี้ปรากฏอยู่บนหางตาราวกับการวาดัแต้มั์ตาทำให้ผู้ที่มองั์ตาคู่นั้นรู้สึกขนลุกไปครึ่งร่างและกงอี่โม่ในเวลานี้ก็รู้สึกเช่นนี้ด้วยเช่นกัน
สมกับฉายาสาวงามอันดับหนึ่งในใต้หล้าอย่างแท้จริง หากจะกล่าวโทษบางอย่างก็คงเป็เื่ชาติที่แล้วเพราะเหตุใดนางจึงไม่เคยได้ยินเื่ราวของสาวงามนางนี้?
“ข้าน้อยเพิ่งเคยมาที่นี่ ไม่รู้ว่าควรแสดงบทเพลงเช่นไรดีอีกสักครู่หวังว่าคุณชายน้อยจะช่วยชี้แนะข้าบ้าง” จิงอวิ๋นไม่ได้สนใจผู้ชมด้านล่างเวทีที่มองตนอย่างนิ่งงันดวงตาของจิงอวิ๋นกวาดตามมองกงอี่โม่อย่างสนใจ จากนั้นจึงคลี่ยิ้มพร้อมกล่าวขึ้น
สาวงามคลี่ยิ้มเป็ความงามเหนือสิ่งใดด้านล่างเวทีเกิดเสียงสูดลมหายใจลึกๆ เต็มไปทั่วสายตาอิจฉาต่างมองมาที่ร่างของกงอี่โม่ แม้กระทั่งสวีหยวนที่อยู่ชั้นบนก็มองอย่างนิ่งงัน
“หากรู้ล่วงหน้าข้าคงไม่พาองค์หญิงมาแล้ว หากนางไม่อยู่ข้าจะต้องเป็ผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดคนนั้น”
*
ชิงก่วน
(
清
馆
)
เป็สตรีที่สร้างความเพลิดเพลินโดยการขายศิลปะแต่ไม่ได้ขายเรือนร่าง นอกจากต้องมีรูปลักษณ์งดงามแล้ว พวกนางยังต้องรู้หนังสือขับขานบทกวี และวาดภาพได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้