ว่ากันว่าเถ้าแก่เฉิงเคยดื่มสุรามามากมายนับไม่ถ้วน ทว่าดื่มอย่างไรก็ไม่เมา เพื่อที่จะมอมเมาตนเองจึงได้คิดค้นสุราสูตรหนึ่งที่มีนามว่าสุราเกล็ดน้ำค้างขาวออกมา ไม่มีผู้ใดทราบว่าข่าวลือนั้นจริงเท็จมากเพียงใด ทว่าสุราเกล็ดน้ำค้างขาวนั้นมาจากหอการค้าเสวียนคงจริงๆ อีกทั้งมีไว้สำหรับมอบเป็ของขวัญ ไม่มีการนำมาวางขาย สุราชนิดนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็สุราที่แรงที่สุดในดินแดนเสวียนคง
กูเฟยเยี่ยนที่ดื่มสุราเก่งยังใ ดังนั้นจึงไม่ต้องกล่าวถึงเหมยกงกงเลย ทว่าจวินจิ่วเฉินนั้นยังคงสงบนิ่งเช่นเคย
ไม่ช้าคนรับใช้ก็นำสุราสมุนไพรทั้งหมดออก จากนั้นจึงนำสุราเกล็ดน้ำค้างขาวออกมามากมายหลายเหยือก จวินจิ่วเฉินกับเถ้าแก่เฉิงนั่งเผชิญหน้ากัน โดยที่อารมณ์ของเถ้าแก่เฉิงนั้นค่อนข้างจะดี “หนุ่มน้อย จะให้เรียกว่าอย่างไร? ”
จวินจิ่วเฉินเอ่ยตอบ “ข้าน้อยสกุลเฉิน นามว่าเฉิน”
“เฉินเฉิน?”
เถ้าแก่เฉินกล่าวอีกครั้ง “ข้าเลือกสุรามาแล้ว ดังนั้นเ้าเลือกเลยว่าจะประลองอย่างไร! ”
จวินจิ่วเฉินมีความตรงไปตรงมามาก “สามเหยือก ผู้ที่ดื่มหมดก่อนคือผู้ชนะ! ถ้าอาเจียนสุราออกมา นับว่าแพ้”
เถ้าแก่เฉิงดีอกดีใจทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ เขาจึงหันไปมองกูเฟยเยี่ยนพลางเอ่ยออกมาว่า “นังหนู พวกเ้าที่ทำการค้าขายน้ำสุรา แม้กระทั่งผู้คุ้มกันก็ยังเป็ผู้เชี่ยวชาญอย่างนั้นหรือ! ”
ผู้ที่ไม่ได้อยู่สายงานนี้อาจจะคิดว่าจวินจิ่วเฉินตั้งกฎเกณฑ์ที่น่าขันสิ้นดี เนื่องจากสำหรับผู้ที่ดื่มสุราแล้ว การดื่มสุราสามเหยือกเป็เื่ที่ง่ายดายดั่งพลิกฝ่ามือ ทว่าทันทีที่คนในสายงานนี้ได้ยินกฎเกณฑ์เช่นนี้ จะรู้ว่านี่ถือเป็การท้าทายที่ยิ่งใหญ่
สำหรับสุราเกล็ดน้ำค้างขาวนั้น ผู้ที่มีความสามารถในการดื่มสุราระดับหนึ่ง ดื่มได้ไม่เกินหนึ่งเหยือก ผู้ที่มีความสามารถในการดื่มสุรายอดเยี่ยม ดื่มได้ไม่เกินสองเหยือก ผู้ที่มีความสามารถในการดื่มสุราขั้นสูง ดื่มได้ไม่เกินสามเหยือก วงในมีข่าวลือมาว่าความสามารถในการดื่มสุราที่แท้จริงของเถ้าแก่เฉิงก็คือสุราเกล็ดน้ำค้างขาวสามเหยือก!
จวินจิ่วเฉินตั้งกฎเกณฑ์ดังกล่าว เถ้าแก่เฉิงกล่าวว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งก็เป็ความจริง
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกวิตกกังวลแต่ก็ยังคงยิ้มแย้ม “แน่นอนอยู่แล้ว! ดังนั้นเถ้าแก่เฉิงสามารถวางใจที่จะร่วมมือทำการค้ากับพวกเราได้”
ไม่ช้าคนรับใช้ก็นำสุราทั้งสามเหยือกมาตั้งวางตรงหน้าของจวินจิ่วเฉินกับเถ้าแก่เฉิง โดยที่เปิดฝาไว้แล้วทุกขวด ชั่วพริบตาเดียวกลิ่นหอมกรุ่นจากสุราก็กระจายตัวออกมา สุราชนิดนี้ไม่เหมือนสุราสมุนไพรที่มีความอุ่นร้อน กลิ่นของสุราเกล็ดน้ำค้างขาวมีความบริสุทธิ์มาก อีกทั้งยังมีไอเย็นที่ง่ายต่อการดึงดูดให้ผู้คนหลงชอบ
กูเฟยเยี่ยนตึงเครียดจนต้องไปอยู่ข้างๆ จวินจิ่วเฉิน ทว่านางไม่กล้าเข้าใกล้มากนักเพราะกลัวว่าจะไปเกะกะเขา ในส่วนของเหมยกงกงลืมเลือนสิ่งที่เทียนอู่ฮ่องเต้กำชับไว้เรียบร้อย ตัวเขาเองก็เขยิบมาใกล้จวินจิ่วเฉินเช่นกัน อีกทั้งยังมีความตึงเครียดมากกว่ากูเฟยเยี่ยนถึงสามเท่า ทางด้านของซ่างกวนฟูเหรินยังคงนั่งอยู่ที่เดิมด้วยความผ่อนคลาย เพราะนางเชื่อมั่นในตัวของสามีตนเองมาก
จวินจิ่วเฉินกับเถ้าแก่เฉิงต่างก็สุขุมเยือกเย็นจนทำให้ผู้คนมองไม่ออกถึงความวิตกกังวลและความผ่อนคลาย ครั้นทั้งสองคนเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วจึงกล่าว “เชิญ” กันและกันด้วยความสุภาพ จากนั้นจึงเริ่มดื่มขึ้น!
สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายคือ ภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด ทั้งสองคนไม่ได้หยิบยกเหยือกสุรามากระดกดื่มคำใหญ่เฉกเช่นการประลองปกติ
เถ้าแก่เฉิงผ่อนคลายสบายใจตามอารมณ์ เขานำสุรามาเทลงถ้วยพลางสูดดมกลิ่นหอมแล้วเผยถึงความสบายอกสบายใจ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกดื่ม ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจระยะเวลาและไม่กลัวว่าจะพ่ายแพ้ในการแข่งขันนี้ เขายังคงดื่มสุราคนเดียวอย่างเหนื่อยหน่ายและเผยให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวและเหน็บหนาวในจุดสูงสุดเล็กน้อย
ทางด้านของจวินจิ่วเฉินนั้นเคลื่อนไหวเทสุราเชื่องช้ายิ่งกว่า ครั้นเทเต็มขอบถ้วยก็ไม่รีบดื่ม แต่มองสี ดมกลิ่น ก่อนจะจิบเล็กน้อยพลางครุ่นคิดถึงรสชาติ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงดื่มคำที่สองต่อ เขาดื่มสุราช้ากว่าเถ้าแก่เฉิง เชื่องช้าทว่าสง่างาม ทรงเกียรติทว่าเหนื่อยหน่าย ผู้ที่ไม่ทราบอาจจะคิดว่าเขากำลังชิมรสชาติสุราด้วยจิตใจที่เอ้อระเหย
เหมยกงกงมองตาค้าง กูเฟยเยี่ยนยังคงตึงเครียด ในส่วนของซ่างกวนฟูเหริน นางไม่ประหลาดใจกับการกระทำของสามี แต่ประหลาดใจกับการกระทำของจวินจิ่วเฉินที่ให้ความสง่างามและสุขุมเยือกเย็นมากกว่าสามีของตนเอง
ชายหนุ่มคนนี้ใช่ผู้เชี่ยวชาญเสียที่ใด! เขาคือผู้เชี่ยวชาญในผู้เชี่ยวชาญต่างหาก!
ต้องทราบเอาไว้ว่าข่าวลือวงในเป็ความจริงทั้งหมด สุราเกล็ดน้ำค้างขาวก็คือสูตรที่เถ้าแก่เฉิงคิดค้นและกลั่นออกมาด้วยตนเอง สุรานี้รุนแรงจนแทบจะไม่มีผู้ใดสามารถดื่มได้มากกว่าสามเหยือก ในส่วนของตัวเถ้าแก่เฉิงเองก็ดื่มได้มากที่สุดประมาณสี่เหยือก ภายใต้่เวลาที่เขามีสภาพดี เขาจะสามารถดื่มได้มากกว่าสี่เหยือก ถ้าอยู่ใน่ที่สภาพไม่ค่อยดีนัก เขาจะสามารถดื่มจนเกือบจะหมดเหยือกที่สี่ได้
สุรานี้ยิ่งดื่มเร็วเกินไป อารมณ์ครึ้มเมาก็จะมาเร็วมากกว่าเดิม ถ้าดื่มอย่างดุเดือด กระเพาะด้านในก็จะไม่สามารถกักเก็บเอาไว้ได้ ง่ายต่อการอาเจียนออกมา ดังนั้นถ้า้าให้ตนเองดื่มได้มากเพียงใด ก็จำเป็ต้องดื่มให้ช้ามากเพียงนั้น
สายตาของเถ้าแก่เฉิงเหลือบมองจวินจิ่วเฉินแวบหนึ่งด้วยความประหลาดใจเช่นกัน ทว่าเขาต่างจากซ่างกวนฟูเหรินตรงที่เขาไม่ได้ประหลาดใจที่จวินจิ่วเฉินมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุราเกล็ดน้ำค้างขาว สิ่งที่เขาชื่นชมคือภายใต้สถานการณ์การแข่งขันอันตึงเครียดเช่นนี้ จวินจิ่วเฉินที่อายุยังน้อยกลับกลั้นอารมณ์ความตึงเครียดและไม่มีความสะทกสะท้านใดๆได้
หลายปีมานี้เขาได้พบผู้คนมากมาย ถึงแม้ว่าจะรู้จักสุราเกล็ดน้ำค้างขาวดี แต่ก็ไม่เคยมีใครสามารถสงบนิ่งเฉกเช่นชายหนุ่มตรงหน้านี้ได้เลย ถ้าเขาคาดเดาไม่ผิดชายหนุ่มคนนี้จะต้องเป็ผู้ที่มีแรงบันดาลใจที่จะทำงานชิ้นใหญ่อย่างแน่นอน
รอยยิ้มของเถ้าแก่เฉิงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอารมณ์ดีอย่างยิ่ง จวินจิ่วเฉินทราบว่าเถ้าแก่เฉิงกำลังมองเขาอยู่ ใบหน้าของเขายังคงไร้ความรู้สึกและนั่งดื่มสุราอยู่คนเดียวราวกับว่าตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง เรียวคิ้วปรากฏถึงความเยือกเย็นและโดดเดี่ยว
สุราให้ความเพลิดเพลินและบรรเทาความทุกข์ การที่เราจะดูว่าใจของบุรุษโดดเดี่ยวหรือไม่ ให้ดูสายตาใน่เวลาที่เขาดื่มสุรา ถ้าหากกล่าวว่าความโดดเดี่ยวของเถ้าแก่เฉิงคือยิ่งสูงยิ่งเหน็บหนาว เช่นนั้นความโดดเดี่ยวของจวินจิ่วเฉินดูเหมือนว่าจะมีมาแต่กำเนิด เขาเ็าเฉยเมยโดยธรรมชาติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสรรพสิ่งภายนอกเลย
ในที่สุดสุราที่ค่อยๆ ดื่มก็หมดลงหนึ่งเหยือก
เถ้าแก่เฉิงดูเหมือนผู้ที่ยังไม่ได้ดื่มสุรา จวินจิ่วเฉินยิ่งเหมือนไม่แตะต้องเลย สีหน้าของทั้งสองคนไร้ความรู้สึก ั์ตาเ็า ราวกับสมองปลอดโปร่งยิ่งกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มสุราเสียอีก ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนเหยือกสุราเพื่อตรวจสอบ ครั้นแน่ใจว่าไม่มีสุราหลงเหลือแม้แต่หยดเดียวจึงโยนออกไป
เถ้าแก่เฉิงยิ้มแย้ม ในคราแรกจวินจิ่วเฉินไม่ได้้าเผยยิ้ม แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเองอยู่ในฐานะของผู้คุ้มกัน จึงฝืนยิ้มกลับไป เถ้าแก่เฉิงมองออกทันทีว่าจวินจิ่วเฉินฝืนยิ้ม มุมปากของเขาแข็งทื่อเล็กน้อย ไม่ช้าก็หัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความสง่างามและเป็กันเอง
ทั้งสองคนเริ่มเทสุราเหยือกที่สองแทบจะในเวลาเดียวกัน และแทบจะดื่มหมดพร้อมกัน ในขณะที่จวินจิ่วเฉินวางขวดสุราว่างเปล่าลง ใบหน้าของเขาไม่มีแม้แต่ความมึนเมา
ครั้นมองไปที่ั์ตาเ็าและชัดเจนของเขา เถ้าแก่เฉิงก็ประหลาดใจอีกครั้ง ความประหลาดใจในครั้งนี้มีสาเหตุมาจากความสามารถในการดื่มสุราของจวินจิ่วเฉิน! หลายปีมานี้ นี่เป็ครั้งแรกที่มีคนทำให้เขารู้สึกประหลาดใจในความสามารถของการดื่มสุรา นอกจากตัวเขาแล้ว บนดินแดนเสวียนคงแห่งนี้ยังมีผู้ที่ดื่มสุราเกล็ดน้ำค้างขาวเหยือกที่สองหมดโดยที่ไม่มีความมึนเมาปรากฏอยู่บนใบหน้า
ในที่สุดเถ้าแก่เฉิงก็เริ่มเอาจริงเอาจังขึ้นมา
สุราเหยือกที่สามและเป็เหยือกสุดท้ายถูกนำมาวางตรงหน้าของชายทั้งสอง!
ทั้งกูเฟยเยี่ยนกับเหมยกงกงต่างก็รู้สึกประหม่าอย่างสุดซึ้ง และในที่สุดซ่างกวนฟูเหรินก็มองไปที่จวินจิ่วเฉิน การแสดงออกถึงความผ่อนคลายในตอนแรกหายไปแล้ว แม้ว่านางจะยังไม่เครียดแต่ก็เริ่มมีความจริงจังขึ้นมา
สุราเหยือกนี้จะตัดสินผลแพ้ชนะ!
ทันใดนั้น!
จวินจิ่วเฉินก็หยิบเหยือกสุราขึ้นมาพลางเงยศีรษะกระดกดื่มคำใหญ่ลงท้องไป
เขาไม่กลัวอาเจียนสุราหรือ?
วินาทีนี้ทุกคนต่างก็ตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะทำเช่นนี้ รวมไปถึงเถ้าแก่เฉิงด้วยเช่นกัน กูเฟยเยี่ยนได้สติเป็คนแรก นางเข้าใจแล้วว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะสู้ให้ถึงที่สุดแล้ว!