หลังจากที่ถ่ายเทพลังิญญาเข้าไปในผลึกิญญา
จุดแสงหลายจุดปรากฏลอยอยู่ภายในผลึกิญญา ทว่าผลึกิญญามีเพียงสีเทาๆ
“ข้ารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นทันตาเห็น พลังิญญาของเนี่ยหลียังอ่อนกว่าของข้าเสียอีก!” ลู่เพียวกระพริบตาพูด
ตู้เจ๋อถลึงตามองลู่เพียว
เนี่ยหลีไม่ได้ใส่ใจ จำนวนพลังิญญามิใช่สิ่งสำคัญสำหรับเขา สิ่งที่เนี่ยหลีสนใจอยู่ในขณะนี้คือความเปลี่ยนแปลงของพลังิญญา
อาณาเขติญญาสีแดง มีรูปแบบกระจัดกระจาย ไม่มีคุณสมบัติใดๆ
ไม่มีคุณสมบัติ อาณาเขติญญากระจัดกระจาย เนี่ยหลีฝืนยิ้ม อาณาเขติญญาทุกชนิดล้วนแข็งแกร่ง แต่หากจะถามว่าอาณาเขติญญาลักษณะไหนอ่อนด้อยที่สุด นั่นก็ต้องเป็ลักษณะแบบกระจัดกระจายเช่นนี้ เพราะไม่มีลักษณะที่พิเศษใดๆ และรูปแบบอาณาเขติญญาก็ไม่เกาะกลุ่มกัน ที่แท้อาณาเขติญญาแต่ดั้งเดิมของข้าเป็เช่นนี้ ภายหลังยังฝึกยุทธ์มากมายหลายอย่างจนยุ่งเหยิงไปหมด จึงได้สับสนไร้ระเบียบเยี่ยงนี้
มิน่าเล่า ในชาติก่อน หลังจากที่อาศัยอยู่ในบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาตั้งนาน ข้าก็ยังไม่อาจทะลวงด่านยุทธ์ขึ้นไปได้ ที่แท้ต้นเหตุของปัญหาคือสิ่งนี้นี่เอง
อาณาเขติญญาที่ไม่มีคุณลักษณะเป็สิ่งที่ไม่เสถียรที่สุดและยังแปรเปลี่ยนง่ายที่สุด
เนี่ยหลีจมอยู่ในความคิด หากจะมีเคล็ดวิชาใดเหมาะสมกับอาณาเขติญญาที่ไม่มีคุณลักษณะ ก็มีอยู่เพียงสามอย่างเท่านั้น ได้แก่เคล็ดวิชากฎ์เทียนเต้า เคล็ดวิชาเทพาโต้วจั้น และเคล็ดวิชาแห่งความว่างเปล่าซือคง ในสามอย่างนี้ เคล็ดวิชาเทียนเต้ามีความลึกซึ้งที่สุด เคล็ดวิชาโต้วจั้นมีความอหังการมากที่สุด และเคล็ดวิชาซือคงมีความลึกลับมากที่สุด หากพูดถึงความสำเร็จในอนาคตข้างหน้าก็น่าจะเป็เคล็ดวิชาเทียนเต้า แต่ทว่าเคล็ดวิชาเทียนเต้าก็เป็วิชาที่ฝึกยากที่สุด
เมื่อมีอาณาเขติญญาไร้คุณลักษณะ การฝึกยุทธ์ย่อมช้ากว่าผู้คนทั่วไป แต่หากฝึกเคล็ดวิชาเทียนเต้าได้สำเร็จ นั่นย่อมแข็งแกร่งที่สุด เนื่องเพราะมันมีคุณสมบัติอันหลากหลายสอดคล้องกับความไร้คุณลักษณะของอาณาเขติญญา หากฝึกเคล็ดวิชาเทียนเต้าได้สำเร็จ ก็จะสามารถฝึกวิชายุทธ์ของทุกคุณลักษณะได้ทุกรูปแบบ ส่งผลให้ผู้ฝึกมีอำนาจสูงสุด ทั้งยังสามารถเปิดเส้นทางของตนเองได้อีกด้วย
หากฝึกเคล็ดวิชาทั่วไป อาณาเขติญญาจะสามารถบรรจุจิตของสัตว์อสูรได้เพียงตนเดียว หากได้จิตอสูรที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมา ก็ต้องใส่จิตอสูรตนใหม่เข้าไปแทนที่จิตอสูรเดิมได้ แต่หากฝึกเคล็ดวิชาเทียนเต้า ผู้ฝึกจะสามารถหลอมรวมกับจิตอสูรที่มีคุณลักษณะต่างๆ กันได้ถึงเจ็ดตน แต่ละครั้งที่หลอมรวมจิตอสูรเข้าไป พลังก็จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างก้าวะโครั้งหนึ่ง หากหลอมรวมจิตอสูรครบเจ็ดตน จะทำให้พลังปราณและพลังยุทธ์ก้าวหน้าขึ้นถึงระดับที่ไม่อาจจินตนาการได้เลยทีเดียว
เนี่ยหลีลังเลอยู่นาน แม้อัตราการฝึกยุทธ์ไม่รวดเร็ว เทียบแล้วช้ากว่าตู้เจ๋อ ลู่เพียวและเพื่อนๆ อยู่มาก แต่หากฝึกสำเร็จ เช่นนั้นเคล็ดวิชาเทียนเต้าย่อมทรงอานุภาพที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!
เนี่ยหลีท่องเคล็ดวิชาและเริ่มลงมือเดินลมปราณจากขั้นพื้นฐาน ในอนาคตข้างหน้าเขาอาจต้องใช้ยาวิเศษมากมายเพื่อช่วยเหลือ เวลานี้เพียงต้องเริ่มฝึกจากขั้นต้นเพื่อให้พื้นฐานมั่นคงเสียก่อน
เห็นเนี่ยหลีเริ่มฝึกลมปราณ ตู้เจ๋อ ลู่เพียวและพวกในห้องก็เริ่มฝึกเคล็ดวิชาของตน เริ่มดูดซับพลังปราณจากโลกและ์เพื่อเพิ่มพูนอาณาเขติญญาของตน ยิ่งพวกเขาฝึกฝนก็ยิ่งพบว่าเคล็ดวิชาที่พวกตนฝึกนั้นลึกลับและลึกซึ้งเพียงใด
หกคน หกอาณาเขติญญาหมุนวนอย่างรวดเร็ว ซัดสาดเป็ระลอกอย่างรุนแรง
ไม่ว่าจะเป็ตู้เจ๋อ ลู่เพียวหรือนักเรียนสามัญชนทั้งสามคน พลังิญญาของพวกเขาเริ่มดีขึ้นเป็อันมาก
ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นช่างน่าอัศจรรย์ใจ ไม่ว่าอย่างไร เคล็ดวิชาที่เนี่ยหลีมอบให้พวกเขาล้วนเป็เคล็ดวิชาระดับสะท้านโลกะเืโลกันตร์ เมื่อได้เริ่มต้น ความก้าวหน้าในการฝึกย่อมรวดเร็วกว่าเคล็ดวิชาทั่วไปนับสิบหรือนับร้อยเท่า
เนี่ยหลีกำลังเดินลมปราณด้วยเคล็ดวิชาเทียนเต้า บัดนี้เขาไม่มัวคิดว่าการฝึกของตนจะเร็วจะช้าเท่าไหร่ ตรงกันข้าม กลับ้าให้พื้นฐานของตนมีความมั่นคงไปทีละก้าวๆ อาณาเขติญญาของเขาเปลี่ยนรูปไปไม่หยุดราวกับคลื่นทะเล พลังิญญาส่วนหนึ่งกระเพื่อมไหว เนี่ยหลีรู้สึกว่าพลังิญญาของตนเพิ่มขึ้นเป็อันมาก
ขั้นแรกของการฝึกพลังิญญาก็เพื่อก้าวขึ้นถึงระดับที่กายใจเป็หนึ่ง ด้วยความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของพลังิญญา อาณาเขติญญาก็ยิ่งสาดซัดกระเพื่อมไหว ค่อยๆ กระจายแสงสีฟ้าออกมา
เนี่ยหลีและพวกอยู่ในห้องสมุด มุ่งมั่นกับการฝึกลมปราณ
หนึ่งวัน สองวัน ... วันเวลาผ่านพ้นไป พลังิญญาของเนี่ยหลีค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากห้าจุดจนถึงกว่าสามสิบจุดแล้ว
อัตราเร็วเช่นนี้นับว่าน่าอัศจรรย์นัก หากเสิ่นซิ่วรู้ว่าความก้าวหน้าของเนี่ยหลีรวดเร็วจนน่ากลัวปานนี้ ไม่รู้ว่านางจะคิดอย่างไร
เนี่ยหลียังนับว่าช้า ตู้เจ๋อ ลู่เพียวและพวกมีความก้าวหน้ารวดเร็วกว่าเนี่ยหลีมากนัก โดยเฉพาะตู้เจ๋อ เกรงว่าอีกไม่นานก็คงก้าวถึงระดับทองแดง
ลองคิดๆ ดู หากพวกเขาฝึกจนจบระดับหนึ่งแล้ว ไม่รู้ว่าพลังิญญาของพวกเขาจะก้าวหน้าไปถึงเพียงใด?
สองเดือนก้าวถึงระดับทองแดงหนึ่งดาว สำหรับเนี่ยหลีเื่นี้ไม่นับว่ามีปัญหาอะไร และบางทีเนี่ยหลีอาจจะสามารถพัฒนาขึ้นถึงระดับสองดาวหรือสามดาวได้ภายในเวลาสองเดือนนี้เสียด้วยซ้ำ! การทดสอบที่จะมีขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้านี้ ไม่ทราบว่าเสิ่นซิ่วจะมีสีหน้าเช่นไร?
เวลานี้ ในชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้น
หลายวันที่ผ่านมานี้ ที่นั่งของเนี่ยหลีและพวกต่างว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าพวกเขาหายไปที่ไหนกัน
ใกล้ถึงคืนวันที่สามแล้ว เนี่ยหลีคงไม่ลืมหรอกใช่หรือไม่? ในใจเซียวหนิงเอ๋อร์เฝ้ารอคอยให้ถึงเวลากลางคืนโดยเร็ว ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เซียวหนิงเอ๋อร์ที่กำลังนั่งเงียบอยู่ตรงที่ประจำของนางก็เริ่มมีสีหน้าแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย ใบหน้าก็วาดรอยยิ้มอ่อนโยนจริงใจขึ้นมา ยิ่งแลดูงดงามชวนมองยิ่งนัก พวกนักเรียนชายในห้องพากันมองจนเซ่อแล้ว
เยี่ยจื่ออวิ๋นสงสัยในใจยิ่งนัก สองสามวันนี้เซียวหนิงเอ๋อร์มักเหม่อลอย ทำให้นางรู้สึกสงสัยในเื่นี้ เกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่จึงทำให้เซียวหนิงเอ๋อร์เหม่อลอยได้ถึงเพียงนี้ เซียวหนิงเอ๋อร์คงมิได้แอบชอบเนี่ยหลีอยู่หรอกนะ? เยี่ยจื่ออวิ๋นไม่เข้าใจ เด็กหนุ่มที่ชื่อเนี่ยหลีผู้นั้นมีอันใดดี เขาจึงสามารถทำให้เซียวหนิงเอ๋อร์ผู้ถือตัวชื่นชอบเขาได้
เสิ่นซิ่วบรรยายอยู่หน้าชั้นเรียนและชำเลืองมองไปยังที่นั่งว่างเปล่าหกที่ด้านหลัง ในใจร้องฮึ เนี่ยหลีคงกำลังพยายามฝึกอย่างหนัก แต่จะเป็เช่นไรเล่า? เนี่ยหลีคิดว่าหากมันฝึกหนักก็จะสามารถเพิ่มพลังิญญาจากห้าจุดจนถึงร้อยจุดได้ภายในเวลาเพียงสองเดือนหรือ? นี่เป็เื่ที่เป็ไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง!
หากเนี่ยหลีมีอาณาเขติญญาเหนือระดับสีเขียวหรือสีฟ้าก็ยังพอจะมีโอกาสอยู่บ้าง ทว่าเนี่ยหลีมีเพียงอาณาเขติญญาสีแดง! ในความคิดของนาง เนี่ยหลีพ่ายแพ้แล้ว! เนี่ยหลีกล้าขัดแย้งกับนางในชั้นเรียนต่อหน้าสาธารณชน นี่ก็คือสิ่งที่มันต้องชดใช้!
นางพอจะคิดออกอยู่บ้าง เมื่อเนี่ยหลีถูกขับไล่ออกจากโรงเรียนเมื่อไหร่ เนี่ยหลีจะเคราะห์ร้ายเพียงใด
เสิ่นซิ่วทำหน้ายิ้มเยาะบางๆ ขณะบรรยายต่อไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย “อาณาเขติญญาเจ็ดชนิด สีแดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า คราม ม่วง อาณาเขติญญาสีแดงมีคุณภาพต่ำสุด หลายร้อยปีของเมืองกวงฮุย มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถฝึกจนเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินได้ หากไม่มีสถานการณ์พิเศษอันใด อาณาเขติญญาสีแดงย่อมมีข้อจำกัดในการกักเก็บพลังิญญา ซึ่งอยู่ในราวหกร้อยจุด ยิ่งกักเก็บมาก ก็ยิ่งยากขึ้น!”
ได้ยินคำพูดของเสิ่นซิ่ว พวกนักเรียนสามัญชนที่กำลังตั้งใจเล่าเรียนต่างพากันแสดงสีหน้าผิดหวัง พลังิญญามีได้เพียงหกร้อยจุดเป็อย่างมาก ซึ่งก็หมายความว่านอกเสียจากคนผู้นั้นจะมีโชคให้เสี่ยงอยู่บ้าง อย่างมากพวกเขาก็เป็ได้แค่นักสู้ระดับทองแดงห้าดาวเท่านั้น
พวกนักเรียนที่มีอาณาเขติญญาสีแดงอดที่จะบ่นถึงความอยุติธรรมของโชคชะตามิได้ เหตุใดพวกเขาจึงมีอาณาเขติญญาสีแดง
“มีบางเื่ราวที่ถูก์กำหนดมาให้ั้แ่เกิด พวกเราต้องยอมจำนนกับวาสนาของตน บางคนก็คาบช้อนเงินช้อนทองมาั้แ่เกิด และบางคน ั้แ่เกิดมาก็มีฐานะต่ำต้อยเป็แค่สามัญชน!” เสิ่นซิ่วทำเสียงหัวเราะ
เยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อร์หน้าบึ้งคิ้วขมวดด้วยความรังเกียจ พวกนางไม่ชอบเสิ่นซิ่วเลยแม้แต่น้อย และคำพูดของเสิ่นซิ่วก็มากเกินกว่าจะยอมรับได้เสียจริง เมืองกวงฮุยอยู่ในภาวะถูกสัตว์อสูรคุกคามเสมอมา กระนั้นเสิ่นซิ่วยังเอาแต่กระพือให้เกิดความแตกแยกระหว่างสามัญชนกับชนชั้นสูง ไม่คำนึงถึงภาพรวมจนมากเกินไป
เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นซิ่ว เด็กนักเรียนสามัญชนต่างพากันกำหมัดของตนแน่น ฝ่ามือแทบจะมีเืไหลซิบๆ ออกมาแล้ว แม้พวกเขาโกรธเคืองกับคำพูดของเสิ่นซิ่วอย่างยิ่ง ทว่าทุกคนก็ยังต้องอดกลั้นไว้ มิใช่ทุกคนจะมีความกล้าพอที่จะขัดแย้งกับอาจารย์ผู้หนึ่งด้วยการใช้การลาออกจากโรงเรียนเป็ข้อพนัน
พวกเขาไม่กล้าทำเช่นนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงนับถือเนี่ยหลีจากใจจริง
สิ่งที่เนี่ยหลีไม่รู้ก็คือคำสบประมาทเย้ยหยันนักเรียนสามัญชนของเสิ่นซิ่วได้กลายเป็แรงขับเคลื่อนสำหรับนักเรียนสามัญชนทั้งหลาย นักเรียนสามัญชนแทบทุกคนอยากให้เนี่ยหลีชนะ และขับไล่เสิ่นซิ่วผู้เลวร้ายผู้นี้ออกไปจากโรงเรียน การกระทำที่ผ่านมาของเนี่ยหลีชนะใจนักเรียนสามัญชนเหล่านี้
เวลาผ่านไป เื่ที่เนี่ยหลีขัดแย้งกับเสิ่นซิ่วและตระกูลเสินเซิ่งต่อหน้าสาธารณชน รวมถึงเื่ท้าพนันกับเสิ่นซิ่วได้แพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียนเซิ่งหลัน นักเรียนทั่วโรงเรียนต่างพูดคุยกันถึงเื่นี้
“เขากล้าพูดว่าภายในเวลาสองเดือน เขาจะเพิ่มพลังิญญาจากห้าจุดจนถึงร้อยจุด ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ!”
“ใช่แล้ว แม้แต่อัจฉริยะระดับอาณาเขติญญาสีฟ้ายังอาจจะทำมิได้เลย!”
“ข้าหวังว่าเนี่ยหลีจะชนะ เกลียดขี้หน้านางหญิงใจร้ายเสิ่นซิ่วผู้นั้นเสียจริง”
“ข้าก็ด้วย แม้ความหวังที่เขาจะชนะนั้นต่ำนัก” นักเรียนโรงเรียนเซิ่งหลันกว่าเจ็ดสิบส่วนเป็ลูกชาวบ้าน เนี่ยหลีขัดแย้งกับเสิ่นซิ่วและตระกูลเสินเซิ่งเพื่อยืนอยู่ข้างพวกเขา เพราะฉะนั้นในใจของพวกเขาล้วนยืนอยู่ข้างเนี่ยหลี
มีคนมากมายที่ไม่ชอบตระกูลเสินเซิ่ง ทว่าก็มีเด็กจากครอบครัวชั้นสูงบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับเนี่ยหลี
ต่อให้ตระกูลเสินเซิ่งเป็ฝ่ายผิด แต่ไม่ว่าอย่างไรตระกูลเสินเซิ่งก็เป็ถึงหนึ่งในสามตระกูลหลักแห่งเมืองกวงฮุย การกระทำของเนี่ยหลีคือการขัดแย้งกับผู้ที่าุโกว่า ดูิ่ผู้มีอำนาจ! พวกเขากระทั่งเห็นเนี่ยหลีเป็ขยะของชนชั้นสูงไปเสียแล้ว
“บางคนชอบมั่วสุมอยู่กับพวกชาวบ้าน แล้วจะทำอย่างไรได้?” พวกเขาถากถางเนี่ยหลี
ใกล้ค่ำแล้ว
นักเรียนโรงเรียนเซิ่งหลันทุกคนกำลังกินมื้อค่ำ และห้องสมุดก็ว่างลง เนี่ยหลี ตู้เจ๋อ ลู่เพียวและพวกกินอาหารด้วยกันและก็กลับไปที่ห้องสมุดเพื่อฝึกต่อ
“เนี่ยหลี พลังิญญาข้าได้แปดสิบเก้าจุดแล้ว ด้วยอัตราเร็วระดับนี้ ข้าคงสามารถเลื่อนขึ้นสู่ระดับทองแดงหนึ่งดาวได้ภายในอาทิตย์นี้!” ตู้เจ๋อกระซิบ น้ำเสียงของเขาฟังดูตื่นเต้นอย่างห้ามไม่อยู่ ความเร็วในการฝึกยุทธ์ระดับนี้หากให้เขาคิด ย่อมเป็เื่สุดจะคิดถึงได้!
“ไม่เลว” เนี่ยหลียิ้มบาง อัตราเร็วระดับนี้ไม่เกินความคาดหมายของเนี่ยหลี
มิใช่แค่ตู้เจ๋อ ลู่เพียว เว่ยหนานและพวกก็ดีใจตื่นเต้นเช่นกัน พลังิญญาของพวกเขามีความก้าวหน้าอย่างยิ่ง ด้วยอัตราเร็วในขณะนี้ แม้สำหรับพวกเขา การเลื่อนขึ้นสู่ระดับทองแดงหนึ่งดาวภายในสองเดือนข้างหน้าก็มิใช่เื่ที่เป็ไปไม่ได้เช่นกัน
พลังิญญาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง ราวกับฝันไป!
“พวกเราต้องทำยาวิเศษสักหน่อย หากมียาวิเศษ ความเร็วในการฝึกยุทธ์ของเราจะยิ่งเร็วขึ้น!” เนี่ยหลีพูด
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี หัวใจของตู้เจ๋อและลู่เพียวกระตุกวูบ จริงสิ พลังิญญาของพวกเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วภายในเวลาสั้นๆ นี่ยังเป็ผลลัพธ์ที่ไม่ได้กินยาวิเศษใดๆ หากมียาวิเศษ ความเร็วในการฝึกยุทธ์จะน่าอัศจรรย์ถึงเพียงใด?
แต่ว่า แล้วพวกเขาจะไปหายาวิเศษได้จากที่ไหนกัน?
ยาวิเศษที่สามารถเพิ่มความก้าวหน้าให้แก่การฝึกยุทธ์ได้ อย่างน้อยต้องมีราคานับหมื่นเหรียญจิตอสูร!
แม้ว่าพวกเขาเคยออกไปล่าแกะเขาโค้งและเก็บเงินได้ถึงกว่าหมื่นหกพันเหรียญจิตอสูร แต่ก็ใช้เงินซื้อผลึกิญญาไปแล้วมากมาย เหลืออยู่อีกแค่หมื่นเหรียญจิตอสูรเท่านั้น
“พวกเ้าอยู่ในห้องสมุดฝึกลมปราณต่อไปก่อน ข้ามีธุระต้องออกไปทำคืนนี้ ข้าจะหาวิธีเปลี่ยนเงินหมื่นเหรียญจิตอสูรที่เหลือให้ได้มากขึ้น!” เนี่ยหลีหัวเราะ หากมีเงินมากขึ้น พวกเขาก็จะสามารถซื้อยาวิเศษที่ช่วยเพิ่มความก้าวหน้าแก่การฝึกยุทธ์ได้
ไม่รู้ว่าเนี่ยหลีกำลังจะทำสิ่งใด แต่ในเมื่อเนี่ยหลีวางแผนไว้แล้ว พวกเขาก็ไม่ถามอะไรมาก
คืนนี้เนี่ยหลีและเซียวหนิงเอ๋อร์นัดแนะกันไว้! หากเนี่ยหลีสามารถช่วยเซียวหนิงเอ๋อร์รักษาอาการาเ็ได้ก็ถือว่าเป็เื่ดี
ตู้เจ๋อ ลู่เพียว เพื่อนยากพวกนี้อย่างไรก็คิดไม่ถึง เนี่ยหลีออกไปก็เพื่อพบเทพธิดาหนิงเอ๋อร์ของพวกมัน หากรู้คงต้องอกแตกตายเป็แน่ เ้าบ้าเนี่ยหลี เห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อน!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้