ป้าที่ทำการไปรษณีย์มองเด็กสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู เห็นได้ชัดว่าหลงใหลในแสตมป์ลิงชุดนี้จริงๆ "จริงสิจ๊ะ ป้าจะหลอกหนูทำไม ถ้าหนูยังอยากได้อีก ก็มาใหม่วันหลังนะจ๊ะ รับรองว่ามีของแน่นอน"
หมี่หลันเยว่เกาะขอบโต๊ะ ถามอย่างใจจดใจจ่อ "ป้าคะ ป้าช่วยเก็บไว้ให้หนูได้ไหมคะ หนูจะมาดูทุกวันเลย" เธออยากจะให้เื่นี้เป็ที่แน่นอน เพราะกลัวว่าพอมาถึง แสตมป์พวกนั้นจะถูกฉีกแบ่งเป็ชิ้นๆ ราคาจะได้ไม่เท่ากัน
"หนูน้อย เมืองเล็กๆ อย่างเรา ขายแสตมป์ได้ช้า ไม่ต้องรีบร้อนหรอกจ้ะ ต่อให้เดือนหน้าค่อยมาซื้อ ก็ยังมีแน่นอน ป้าไม่ปล่อยให้หนูมาเสียเที่ยวหรอก ไม่ต้องมาทุกวันก็ได้ ไม่ต้องใจร้อนด้วย" ป้าหลังโต๊ะขำกับท่าทางกระวนกระวายของเด็กสาว คงกลัวว่าจะซื้อไม่ได้น่ะสิ จะเป็ไปได้ยังไงกัน
"ไม่ใช่ๆ ค่ะ ป้า หนูไม่ได้จะซื้อแค่สองสามแผ่น พอมันมาถึง ป้าขายให้หนูทั้งหมดเลยได้ไหมคะ หนูมีธุระต้องใช้จริงๆ นะคะ ถ้าป้าไม่เชื่อ หนูจะวางเงินไว้ให้ป้าก่อนก็ได้ค่ะ" หมี่หลันเยว่เป็ห่วงจริงๆ ว่าป้าเขาจะฉีกแสตมป์ขายแยก คงน่าเสียดายแย่ ของเก่าแก่ในอนาคตเลยนะ
"จะเอาหมดเลยเหรอ หนูน้อย ถึงแสตมป์จะแค่แปดเฟิน แต่แปดร้อยดวง มันก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ ที่บ้านหนูจะยอมให้ซื้อเยอะขนาดนี้เหรอ" ถึงจะชอบแค่ไหน ที่บ้านคงไม่ยอมควักเงินมากมายให้เด็กสาวซื้อแสตมป์หรอกมั้ง
"จริงๆ ค่ะ ป้า พอมันมาถึง ป้าช่วยเก็บไว้ให้หนูด้วยนะคะ นี่ค่ะ นี่สิบหยวน หนูฝากป้าไว้ก่อน ป้าช่วยเขียนใบเสร็จรับเงินให้หนูหน่อยนะคะ" หมี่หลันเยว่ควักธนบัตรสิบหยวนออกมาจากกระเป๋าสะพายลายดอกไม้ ป้าคนนั้นถึงกับตาโต
"ป้าคะ..." หมี่หลันเยว่โบกเงินต่อหน้าป้า ป้าถึงได้สติ "ไม่ต้องๆ หนูมาซื้อเลยก็ได้ ไม่ต้องวางเงินหรอก" ไม่นึกเลยว่าเด็กสาวตรงหน้าจะเอาแสตมป์ทั้งหมดแปดร้อยดวงไปจริงๆ แปดร้อยดวงเลยนะ ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกันกว่าจะเก็บเงินก้อนนี้ได้ แต่พอมองธนบัตรใบใหญ่ในมือเด็กสาว ก็รู้ว่าไม่ได้ล้อเล่น ไม่รู้ว่าบ้านไหนเลี้ยงลูกตามใจขนาดนี้
"ป้าคะ งั้นรบกวนป้าด้วยนะคะ พอมันมาถึง ป้าอย่าเพิ่งแกะผนึกนะคะ ให้หนูมาแกะเอง" หมี่หลันเยว่กลัวจริงๆ ว่าป้าจะแกะแสตมป์ออกจากแผง เลยกำชับอีกครั้ง พอได้ยินอย่างนั้น ป้าคนนั้นถึงกับงง
"ไม่แกะผนึก? ไม่ได้หรอกจ้ะหนู ตอนเรารับจดหมาย เราต้องเปิดดูว่าข้างในมีอะไรเสียหายไหม ไม่งั้นพอเปิดใช้แล้วค่อยเจอว่าเสียหาย จะไปโทษใครได้ล่ะ แบบนี้ไม่ได้แน่นอน"
จริงด้วย ตัวเองใจร้อนเกินไป คิดน้อยไปหน่อย "งั้น...ป้าคะ ที่นี่ปกติไปรษณีย์มาถึงกี่โมงคะ หนูจะมารอแกะกับป้า อย่าหาว่าหนูเื่มากเลยนะคะ หนูมีธุระต้องใช้แสตมป์พวกนี้จริงๆ ถึงได้ระวังขนาดนี้" เห็นป้าเริ่มทำท่าไม่พอใจ หมี่หลันเยว่รีบอธิบาย กลัวว่าป้าเขาจะโกรธ ไม่สนใจตัวเอง ตอนนี้การค้าขายเป็ของรัฐ ต่อให้ไม่ขายให้ตัวเอง พวกเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนว่าของจะขายออกช้าแค่ไหน
"ป้าอยากรู้จริงๆ ว่าหนูจะเอาแสตมป์พวกนี้ไปทำอะไร"
หมี่หลันเยว่หยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋า เปิดให้ป้าดู ข้างในสอดกระดาษห่อลูกกวาดแผ่นใหม่เอี่ยมไว้ทุกหน้า แม่ไปเอาของที่บริษัทการค้า ป้าขายลูกอมคนหนึ่งให้มา เธอชอบหมี่หลันเยว่มาก
"หนูชอบค่ะ ป้าดูสิ หนูชอบสะสมของสวยๆ พวกนี้ กระดาษห่อลูกอมในหนังสือหนูก็ใหม่ๆ ทั้งนั้น พวกที่ใช้แล้วมันจะยับ จะปูยังไงก็ไม่เรียบ หนูยังชอบของสีสดๆ ด้วย" เธอเก็บหนังสือใส่กระเป๋าสะพายลายดอกไม้ แล้วพูดว่า "แสตมป์ก็เหมือนกันค่ะ คนอื่นเขาสะสมแต่ที่ใช้แล้ว แต่หนูชอบที่ไม่เคยใช้ เรียบๆ สวยดี"
เธอยอมแพ้เด็กน้อยคนนี้จริงๆ ครอบครัวนี้ก็เลี้ยงลูกตามใจเกินไป แต่เด็กน้อยสวยขนาดนี้ ปากหวานพูดจาดี ใครๆ ก็คงเอ็นดู
"ก็ได้ๆ ป้าจะรอหนูมาแกะ แต่หนูต้องมาก่อนแปดโมงนะ ปกติรถไปรษณีย์จะมาก่อนแปดโมงครึ่ง"
"ได้ค่ะๆ หนูจะมาตรงเวลาแน่นอน แล้ว่นี้ หนูจะมาทุกวัน จนกว่าจะได้แสตมป์ ขอบคุณนะคะคุณป้า" หมี่หลันเยว่โค้งให้ป้า หน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
"รู้แล้วจ้ะ ป้าจะรอนะ รีบกลับบ้านไปเถอะ เดี๋ยวที่บ้านเป็ห่วง"
พอได้รับคำมั่นสัญญาจากป้าที่ทำการไปรษณีย์ หมี่หลันเยว่ก็สบายใจ แต่เธอไม่ได้กลับบ้าน กลับไปที่ทำการไปรษณีย์เล็กๆ อีกสองแห่ง
เพราะเธอคิดขึ้นมาได้ว่า ที่ทำการไปรษณีย์ใหญ่คนพลุกพล่าน แสตมป์คงขายได้เร็วกว่า แต่ที่ทำการไปรษณีย์เล็กๆ คนน้อย แสตมป์ที่เหลืออาจจะเยอะกว่าก็ได้ คนเรานี่คิดต่างมุมจริงๆ บางเื่ถ้าลองคิดดูดีๆ ผลลัพธ์ก็จะต่างกันมาก
ด้วยความคิดนี้ หมี่หลันเยว่มุ่งหน้าไปยังที่ทำการไปรษณีย์เล็กๆ และก็เป็อย่างที่คิด ในที่ทำการไปรษณีย์เล็กๆ ทั้งสองแห่ง เธอซื้อแสตมป์รูปลิงได้ถึงสี่สิบหกดวง แถมยังมีแบบยี่สิบดวงติดกันหนึ่งแผง แบบสี่ดวงติดกันสี่แผง ถือเป็ปาฏิหาริย์ หมี่หลันเยว่เก็บแสตมป์ใส่กระเป๋าอย่างทะนุถนอม แล้วรีบกลับบ้าน
พอถึงบ้าน หมี่หลันเยว่ก็เริ่มหาของที่เหมาะจะใส่สมบัติของตัวเอง "หาอะไรอยู่เหรอลูก บอกแม่สิ เดี๋ยวแม่ช่วยหา" เห็นลูกสาววุ่นวายจนเหงื่อท่วมตัว หวังหย่วนฉิงก็สงสาร เลยชุบผ้าขนหนูเปียกหมาดๆ มาเช็ดเหงื่อให้
"อ๋อ แม่คะ หนูจะเก็บแสตมป์ อยากหาอะไรใส่แสตมป์ค่ะ"
หมี่จิ้งเฉิงยืนอยู่ตรงประตูพอดี เขาอยากจะมาดูว่าลูกสาวหาอะไร พอได้ยินว่าจะหาอะไรใส่แสตมป์ เขาก็โล่งอก "โธ่ จะหาของแบบนี้บอกพ่อก็ได้นี่ จะได้ไม่ต้องรื้อนู่นค้นนี่ มาๆ พ่อมีสมุดสะสมแสตมป์สองเล่ม มาเลือกเอาที่ชอบไปเลย เอาไปใช้สะสมได้เลย"
หมี่จิ้งเฉิงใจกว้างให้ลูกสาวเลือก แต่ลูกสาวไม่ได้้าแบบนั้น "พ่อคะ หนูไม่ได้จะสะสม หนูจะเก็บแสตมป์ แบบที่เป็แผงๆ น่ะค่ะ พ่อพอมีอะไรที่ใส่แสตมป์ได้ทั้งแผง แล้วเก็บได้นานๆ โดยไม่ยับไหมคะ" ไม่รู้ว่าลูกสาวจะเก็บแสตมป์เป็แผงทำไม แต่หมี่จิ้งเฉิงสนับสนุนทุกการกระทำของลูกสาวเสมอ
"แสตมป์ทั้งแผงมันใหญ่แค่ไหน แผงหนึ่งมี..." หมี่จิ้งเฉิงไม่เคยสังเกตว่าแสตมป์แผงหนึ่งมีกี่ดวง หมี่หลันเยว่รีบตอบ "แผงหนึ่งมีแปดสิบดวงค่ะ"
"แปดสิบดวง มันก็กินที่เยอะนะ ให้พ่อคิดก่อน อะไรที่เก็บได้นานๆ แล้วไม่ทำให้กระดาษเสียหาย อย่างแรกต้องกันน้ำเข้า ยากต่อการเป็เชื้อรา ป้องกันความชื้น ป้องกันการแข็งตัว ป้องกันไฟไหม้ กล่องกระดาษและกล่องหวายตัดทิ้งไปก่อน..."
"กล่องใส่เอกสารก็เหมาะ แต่ก็ต้องตัดทิ้ง มันเล็กไป ใส่ของที่ลูกจะใส่มันไม่ได้ งั้นก็คงต้องใช้กล่องเหล็กแล้ว ถึงมันจะไม่กันไฟ แต่ก็ต้องยอมแล้วลูก พ่อว่ามันไม่มีอะไรดีเลิศไปหมดหรอก" หมี่จิ้งเฉิงวิเคราะห์ให้ลูกสาวอย่างจริงจัง แล้วเสนอทางออกแรก "กล่องเหล็กก็ดี แต่จะมีแบบที่พอดีไหม ไม่ใหญ่ไป ก็ไม่เล็กไป" หมี่หลันเยว่ไม่ยอมให้แสตมป์รูปลิงที่อุตส่าห์ไปหามาถูกฉีกออกจากแผงแน่นอน
"ลูก อะไรๆ ก็ต้องใช้สมองคิดนะ อย่าคิดแต่ว่าจะเอาของวางแผ่ราบ ลองคิดดูสิ พวกภาพวาดม้วนๆ อะไรพวกนั้น พอกางออกมามันใหญ่แค่ไหน แต่พออยู่ในหลอดกระดาษเล็กๆ ก็ใส่ได้แล้ว ใช่ไหม" หมี่จิ้งเฉิงชี้แนะแนวทางให้ลูกสาว
"ที่พ่อหมายถึง คือให้ม้วนแสตมป์แบบภาพวาดเหรอคะ หนูกลัวมันจะเสียน่ะสิคะ" เธอไม่ค่อยไว้ใจ มันไม่ใช่แค่แปดหยวนสิบหยวน มันอาจจะเป็ทรัพย์สินหลายสิบล้านเลยนะ
"ภาพวาดมันต้องแน่นหน่อย แต่เราไม่ต้องม้วนแสตมป์ให้แน่น แค่ม้วนหลวมๆ ให้มันเข้ากล่องได้ก็พอ" หมี่หลันเยว่กระจ่างทันที ความคิดของพ่อดีจริงๆ "พ่อคะ พ่อฉลาดที่สุดเลย พ่อ..." หมี่หลันเยว่ะโเข้ากอดพ่อ ชมไม่หยุด
"พอแล้วๆ ชมพ่อมากไปเดี๋ยวพ่อลอยได้ เอาเป็ว่าช่วยลูกสาวคนสวยของบ้านเราได้ก็พอ"
หมี่จิ้งเฉิงเตรียมกล่องขนมเหล็กให้หมี่หลันเยว่อีกอัน หมี่หลันเยว่ลองเอาแสตมป์แบบยี่สิบดวงติดกันลองใส่ดู ปรากฏว่าพอดีเป๊ะ ราวกับสั่งทำ พ่อยังทดสอบคุณสมบัติกันน้ำให้ก่อน มั่นใจว่าผ่านเกณฑ์แล้ว ยังปูพื้นและติดกระดาษวาดเขียนหนาๆ ที่ผนังด้านใน หมี่หลันเยว่พอใจมาก
เื่ที่เหลือก็แค่รอไปเอาแสตมป์รูปลิงเข้าบ้าน หมี่หลันเยว่ไปเตรียมเงินมาเรียบร้อย หกสิบสี่หยวน สำหรับหมี่หลันเยว่ตอนนี้ ถือว่าจิ๊บจ๊อย ในสมุดบัญชีของเธอ เดิมทีก็เก็บเงินไว้กับพี่ชายบ้างแล้ว ต่อมาแม่ก็ให้เงินเดือนจากรายได้หนึ่งในสิบของร้านหนังสือ อีกทั้งร้านขายของชำซึ่งเป็ร้านขายขนมเล็กๆ ก็ทำให้เธอและพี่ชายมีรายได้ไม่น้อย
รวมๆ แล้วในสมุดบัญชีของเธอมีเงินมากกว่าเจ็ดร้อยหยวน ถือเป็ทรัพย์สินก้อนโตในครอบครัวเล็กๆ ในยุค 80 แต่ในบ้านหมี่หลันเยว่อย่างน้อยมีสมุดบัญชีแบบนี้ถึงสามเล่ม แถมยังมีเล่มที่มากกว่าเธอและพี่ชายอีก
เธอเอาเงินไปแล้วเริ่มวิ่งไปทำการไปรษณีย์ทุกวัน วันแรกๆ สองวันแรกที่บ้านยังไม่ค่อยสนใจ วันที่สามก็เริ่มรู้สึกผิดสังเกต เพราะหมี่หลันเยว่เป็เด็กเรียบร้อย นอกจากมีธุระจำเป็ที่ต้องออกไปข้างนอกจริงๆ จะไม่ไปเดินเล่นตามถนน
"หลันเยว่ มีเื่อะไรหรือเปล่า ให้พี่ช่วยไหม" หมี่หลันหยางมาหาน้องสาวก่อน ใน่ปิดเทอม ร้านที่บ้านเปิดตลอดวัน เขาเป็คนแรกที่สังเกตว่าน้องสาวไม่อยู่บ้าน เพราะ่เช้าๆ เขาเป็คนดูแลร้าน
"อ๋อ ไม่มีอะไรพิเศษนี่คะ หนูบอกแล้วนี่ว่าจะซื้อแสตมป์ อีกไม่กี่วันของก็จะมาแล้ว หนูต้องไปดูตอนแกะเอง พวกเขาไม่มีเวลาที่แน่นอนว่าจะมาเมื่อไหร่ หนูเลยต้องไปทุกวันแต่เช้า" หมี่หลันเยว่ไม่ได้ปิดบังเื่ที่จะซื้อแสตมป์ เพียงแต่ไม่ได้บอกมูลค่าแฝงของแสตมป์เ่าั้
"เดี๋ยวพี่ไปเป็เพื่อน ไปวิ่งข้างนอกทุกวันมันไม่ปลอดภัย"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูไปเองได้ ที่ร้านก็ต้องมีคนอยู่"
"ก็ยังมีพ่อกับแม่ไง พวกเขาก็ปิดเทอมแล้ว ให้เขาดูสองวัน พี่จะไปเป็เพื่อนเธอก่อน"
หมี่หลันหยางยืนกราน และพ่อแม่ก็เห็นด้วย หมี่หลันหยางก็เลยเริ่มไปเป็เพื่อนกับน้องสาวที่ทำการไปรษณีย์ทุกวัน ในที่สุดในวันที่ห้า "หนูมาแล้วเหรอ มีใบนัดส่งมาแล้ว แสตมป์อยู่ในรถไปรษณีย์เที่ยวนี้แหละ"
ดีจริงๆ หมี่หลันเยว่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ รอรถไปรษณีย์มาถึงหลังที่ทำการ เธอหมอบอยู่บนโต๊ะ มองผ่านหน้าต่างด้านหลัง เห็นป้าหิ้วของห่อหนึ่งเข้ามาจากประตูหลัง "มาๆ หนู มาเปิดดูกัน"
เธอแกะห่ออย่างระมัดระวัง พอเห็นแสตมป์รูปลิงสีแดงข้างใน หมี่หลันเยว่ก็ตื่นเต้น ในที่สุดก็ได้มาอยู่ในมือแล้ว