นกเผิงั์ปีกทองเหินขึ้นสูงลิ่ว ไอปิศาจปกคลุม ปิดฟ้าบังตะวัน เซียวเฉินในเวลานี้คือราชันแห่งน่านฟ้า
เขาสบสายตากับเนี่ยอวิ๋นเหอตรงๆ อย่างเย็นเยียบ “รับความตาย!”
น้ำเสียงเ็าดังจากปากของนกเผิงั์ จากนั้น นกเผิงั์ก็คายลำแสงเทพที่ทรงพลังดุจอสุนีบาต อานุภาพแห่งปิศาจอันเกรียงไกรพุ่งทะยานดุจเกลียวคลื่น ไร้ช่องว่างให้โจมตี
เซียวเฉินซึ่งกลายเป็นกเผิงั์มองลงมา ไอปิศาจคลี่คลุมท้องฟ้า
ชั่ววินาทีนี้ แววตาของคนจำนวนมากแปรเปลี่ยน ผู้ชมการประลองพากันถอยหลังด้วยเกรงว่าจะกระทบมาถึงตนเอง เวลานี้ แม้แต่อาจารย์ใหญ่ของห้าสถานศึกษาที่อยู่บนหอสูงเหนือประตูเมืองก็เริ่มมีสีหน้าเคร่งขรึม
เพราะเคล็ดวิชาของเซียวเฉินประหลาดเกินไป
ถึงกับสามารถกลายร่างเป็ปิศาจได้!
ร้อยปีพันปีมานี้ยังไม่เคยมีคนทำได้มาก่อน ทว่าเซียวเฉินกลับเป็ผู้บุกเบิกคนแรก!
จะไม่ทำให้ทุกคนใสุดขีดกับฉากนี้ได้อย่างไร หลังจากจั๋นอวี่ใก็มีสีหน้าเคร่งขรึม ส่วนคนอื่นๆ แสดงสายตาละโมบ มีใครบ้างที่ไม่อยากฝึกเคล็ดวิชาอันแข็งแกร่ง มีใครบ้างที่ไม่แสวงหามรรคาแห่งผู้เข้มแข็ง? โดยเฉพาะในโลกนี้ การที่จะเลื่อนขั้นให้สูงขึ้นอีก มีเพียงการรู้แจ้งเท่านั้น มิใช่สิ่งที่การฝึกวิชาสามารถทำได้
รู้แจ้งมรรคาแห่งโลกยะ แหล่งกำเนิดปวงสรรพวิชา จึงอาจบรรลุได้
เพียงแต่โอกาสเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง
เคล็ดวิชาของเซียวเฉินชุดนี้ต้องมีความลับบางอย่างที่สามารถทำให้มนุษย์กลายเป็ปิศาจได้ และในนั้นต้องมีมหามรรคแน่นอน
แม้แต่สีหน้าของลั่วเทียนอู่ก็แปรเปลี่ยนนิดๆ เห็นพลังแห่งดาราร่วงลงมาบนร่างของนกเผิงั์ปีกทองที่อยู่ตรงเวทีประลองเป็สายๆ นกเผิงั์แหงนหน้ากู่ร้องยาวนาน เสียงยิ่งแผ่ศักดาให้ไพศาล ราวกับหลังจากอาบแสงเทวะแล้ว ร่างจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
ตูม!
แสงเทพโจมตีร่างของเนี่ยอวิ๋นเหออย่างหนักหน่วง
แสงเทพแปรเป็วิชชุฟาดเปรี้ยงลงมาอย่างบ้าคลั่ง ดุจสามารถสะบั้นธารดาราและภูผา
สองตาของเนี่ยอวิ๋นเหอมีสีแดงฉานดุจย้อมด้วยโลหิตสดอย่างชัดเจน พลองทองดั่งถูกเทพมารล่อลวง กวาดล้างทุกสิ่งที่พุ่งเข้าใส่จนสิ้น แม้แต่อัสนีเทพก็แตกสลายลงด้วยไม้พลอง ราวกับไม้พลองของเขาสามารถกำจัดทุกสิ่งได้ ไร้ช่องโหว่ให้โจมตี ไม่มีวิชาใดสามารถทำลายเข้าไปได้ เหมือนถือไม้พลองด้ามเดียวเฝ้าด่าน ทหารหมื่นนายยากที่จะล่วงผ่าน
“เนี่ยอวิ๋นเหอแข็งแกร่งมาก...”
สีหน้าของซูเฉินเทียนและเซียวหวงเคร่งขรึมอย่างยิ่ง ต่อให้เป็เซียวหวงก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะเนี่ยอวิ๋นเหอในเวลานี้ได้
แต่เซียวเฉินก็มีฝีไม้ลายมือเช่นกัน แปลงร่างเป็นกเผิงั์ พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
คนทั้งสองเข่นฆ่ากัน ต่างฝ่ายต่างโลหิตอาบ
พรวด!
เนี่ยอวิ๋นเหอที่มีโลหิตสดหลั่งไหลหวดพลองทองลงบนหลังของนกเผิงั์อย่างหนักหน่วง ลำแสงของนกเผิงั์โจมตีไป คนทั้งสองกระอักโลหิตสด พวกเขาสู้ศึกนี้อย่างไม่คิดชีวิต เพราะผู้รอดชีวิตมีได้คนเดียว ไม่เช่นนั้น ขอเพียงยังมีลมหายใจ หากไม่ตายก็จะไม่เลิกรา
กี๊ซ!
นกเผิงั์ขยับปีกอีกครั้ง จู่โจมด้วยรังสีกระบี่ที่สามารถผ่ามิติได้
รวดเร็วถึงขีดสุด
ฟันลงบนร่างของเนี่ยอวิ๋นเหอในพริบตา โลหิตสดสาดกระเซ็น เนี่ยอวิ๋นเหอร้องอย่างเ็ป เซียวเฉินแววตาเป็ประกาย เงาร่างเคลื่อนไหวนิดๆ ดุจสามารถเคลื่อนย้ายได้ในพริบตา รวดเร็วจนทำให้เนี่ยอวิ๋นเหอจับตัวไม่ได้ เนี่ยอวิ๋นเหอาเ็อย่างต่อเนื่อง โลหิตย้อมเวทีเป็สีแดงสด แต่กลับยังไม่ล้มลงไป
“เซียวเฉิน นี่เ้าบีบคั้นข้าเองนะ”
เนี่ยอวิ๋นเหอคำรามอย่างเดือดดาล ครู่ถัดมา ร่างของเซียวเฉินพลันชะงัก เพราะเขารู้สึกได้ว่าร่างกายของตนเองหนักดุจขุนเขา ความเร็วลดฮวบ ส่วนเนี่ยอวิ๋นเหอชูพลองทองขึ้นฟ้าแล้วหวดลงมาอย่างแรง ปีกของนกเผิงั์ทะลุเป็รูในพริบตา นกเผิงั์ร้องโหยหวน โลหิตฉีดพุ่ง
“ไสหัวไปเสีย” เซียวเฉินคำรามอย่างบ้าคลั่ง สองตามีเปลวเพลิงไหวระริก กระแทกเนี่ยอวิ๋นเหอกระเด็นลอยไป
เนี่ยอวิ๋นเหอมองสภาพของเซียวเฉินแล้วเอ่ยยิ้มๆ “เซียวเฉิน เ้าจะใช้สิ่งใดมาสังหารข้าได้?”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามอย่างปิดไม่มิด
เซียวเฉินไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่สภาวะบนร่างเย็นเยียบถึงขีดสุด เวลานี้ เซียวเฉินยังมีร่างเป็นกเผิงั์ ยืนอย่างหยิ่งทะนงอยู่กลางฟ้า แววตาคมปลาบ หากสายตาสามารถสังหารคนได้ เซียวเฉินคงสับเนี่ยอวิ๋นเหอเป็ชิ้นๆ ไปนานแล้ว
“วิชาลับเผิงทอง สังหารเรียบในเสี้ยววินาที”
น้ำเสียงของเซียวเฉินชัดเจนและกังวานทั่วนภา
เวลานี้ ทั่วร่างของเขาเปล่งรังสีปิศาจอันเรืองโรจน์ นกเผิงั์เป็นายแห่งท้องนภา ความเร็วไร้เทียมทาน
เซียวเฉินเหมือนมีพลังเทพปกป้อง ทะลวงการผูกมัดด้วยแรงโน้มถ่วงของเนี่ยอวิ๋นเหอได้ในพริบตา เงาร่างรวดเร็วถึงขีดสุดจนไม่เห็นแม้กระทั่งเงาตกค้าง ความเร็วเช่นนี้ ต่อให้เป็ผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าก็สู้ไม่ได้ ทว่าเซียวเฉินมีความเร็วถึงขนาดนี้ในขั้นเสวียนฟ้าสี่ชั้นฟ้า นับว่าหาได้ยากยิ่ง
แววตาของเนี่ยอวิ๋นเหอเปลี่ยนเป็ดุร้ายกระหายเื
เนี่ยอวิ๋นเหอที่มีไอชั่วร้ายพวยพุ่งนั้น กวัดแกว่งพลองทองอย่างรวดเร็วจนแทบจะเหนือกว่าที่เขาสามารถรับได้ เวลานี้ ไม่เห็นเงาร่างของทั้งคู่บนเวที เห็นแต่เงาแสงและเคล็ดวิชาปะทะกันไม่หยุดหย่อน
ตูม!
การปะทะกันแต่ละครั้งก่อให้เกิดเสียงดังะเืเลื่อนลั่น
ปึง!
เงาร่างของคนทั้งสองปรากฏขึ้นพร้อมกัน เทพมารแปรเปลี่ยนของเนี่ยอวิ๋นเหอสลายไป ส่วนเซียวเฉินก็คืนสู่ร่างมนุษย์
ร่างของทั้งคู่อาบโลหิต เส้นผมยาวพลิ้วไหวตามสายลม ไอสังหารฟุ้งตลบ
สายตาของเซียวเฉินและเนี่ยอวิ๋นเหอทอประกายเย็นเยียบ
เนี่ยอวิ๋นเหอมองเซียวเฉินแล้วยิ้มกล่าว “พี่ใหญ่ หลายปีที่ผ่านมาท่านเติบโตขึ้นไม่น้อย ตอนนี้ก็มิใช่เศษสวะที่ถูกใครๆ เหยียดหยามรังแกตามใจชอบเหมือนในตอนนั้นอีกแล้ว” เื่ที่เนี่ยอวิ๋นเหอคิดไม่ถึงคือเศษสวะที่แค่เขาพลิกฝ่ามือก็บีบให้ตายได้อย่างง่ายดายนั้น บัดนี้แข็งแกร่งขึ้นมาก ทั้งยังเป็ศัตรูกับเขาด้วย
ระหว่างที่พูดจา สีหน้าของเนี่ยอวิ๋นเหอก็ค่อยๆ อึมครึม
เซียวเฉินกลับหัวร่อหยัน “แต่เ้ายังย่ำอยู่ที่เดิมตลอดเวลา ดังนั้น วันนี้เ้าถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องตาย!” น้ำเสียงของเซียวเฉินแหบเล็กน้อย แต่แฝงความเชื่อมั่นอยู่รางๆ เื่นี้ทำให้เนี่ยอวิ๋นเหอไม่ชอบใจ เพราะเขาไม่ชอบท่าทางของเซียวเฉินที่ก่อนทำเื่อะไรต้องมีแผนการไว้เรียบร้อยแล้วเสมอมา เหมือนเซียวเฉินควบคุมทุกอย่างไว้
“ดูสิว่าเ้าจะเหิมเกริมไปได้นานเพียงใด?”
เนี่ยอวิ๋นเหอแค่นเสียง เขาใช้พลองในมือโจมตีไป ส่วนเซียวเฉินกุมเบิกฟ้า รังสีกระบี่วูบวาบ หมื่นกระบี่ก้มกราน
เคร้ง!
สะเก็ดไฟกระเด็นไปรอบทิศ พวกเขาต่างถอยหลัง
ศึกนี้เหมือนคนทั้งสองไม่อาจเอาชนะกันได้
“สู้!” แต่ทั้งสองกลับสู้กันอย่างบ้าคลั่ง ต่อให้เหน็ดเหนื่อย กระอักโลหิตอย่างต่อเนื่องก็ยังไม่หยุดมือ ทุกคนดูอย่างอกสั่นขวัญแขวน มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ที่อยู่ด้านล่างเวทีเริ่มขอบตาแดงก่ำ รู้สึกปวดใจเมื่อได้เห็นสภาพเช่นนี้ของเซียวเฉิน ส่วนเสิ่นเล่ยกลับมองเงียบๆ ไม่เอ่ยวาจา แต่แววตาเป็ห่วงเป็ใย นางมิใช่ไม่กังวล แต่ไม่คิดจะแสดงออก
เซียวหวง ซูเฉินเทียน กู้สิงเฉิน และฉู่เฉินเฟิงต่างฝ่ามือชื้นเหงื่อเพราะเซียวเฉิน
การต่อสู้แบบนี้ ต่อให้สุดท้ายผู้ชนะคือเซียวเฉิน ก็จะทิ้งอันตรายแอบแฝงไว้บนร่างกาย
ทว่าเซียวเฉินแพ้ไม่ได้ ต้องชนะอย่างเดียว
ฉับฉับ!
เสียงคมอาวุธสองสายแทงเข้าสู่ร่าง ทุกคนทนดูตรงๆ ไม่ได้
เซียวเฉินแทงกระบี่เข้าช่องท้องของเนี่ยอวิ๋นเหอ ส่วนพลองทองของเนี่ยอวิ๋นเหอก็ทะลุทรวงอกด้านขวาของเซียวเฉิน โลหิตนองเต็มเวที การต่อสู้ครั้งนี้มีกลิ่นคาวเือย่างเข้มข้น ทำให้คนส่วนมากรู้สึกว่าน่ากลัว แต่กลับปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือการต่อสู้ที่เร้าใจที่สุด
“เ้าถามข้าว่าจะสังหารเ้าอย่างไรมิใช่หรือ? ข้าก็ใช้กระบี่สังหารเ้าน่ะสิ!”
ยามพูดจา ปากก็กระอักโลหิต ส่วนเนี่ยอวิ๋นเหออเนจอนาถยิ่งกว่าเซียวเฉิน
คนทั้งสองหยุดมือพร้อมกันและแค่นเสียงหนักๆ ทั้งคู่
“หึหึ พี่ใหญ่ ท่านชนะแล้ว...”