ตอนที่เฟิงเหยาปรากฏตัวออกมานั้น หวังเทียนจั๋วก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็แย้มยิ้ม
“ศิษย์น้องเฟิงเหยา เ้ากลับไปที่สำนักแล้วไม่ใช่หรือ”
เขาถามขึ้นด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย
เฟิงเหยาไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่กัดฟันพูด
“เ้าจะทำอะไรกับหลงอวี้ ข้าไม่สนใจ แต่เ้าห้ามทำร้ายบิดาข้าเด็ดขาด!”
หวังเทียนจั๋วหัวเราะ
“ข้าจะทำอะไรใคร ผู้อื่นไม่อาจมาชี้นิ้วสั่งข้าได้! แต่หากศิษย์น้องเฟิงเหยาตกลงแต่งงานกับข้า เช่นนั้นเ้าก็จะไม่นับว่าเป็ ‘คนอื่น’ อีกต่อไป!”
“ใช่แล้ว”
ชายหนุ่มรูปงามที่หน้าตาคล้ายกับหลิ่วิเซวียนพูดพร้อมเสียงหัวเราะเช่นกัน
“น้องสาว คุณชายหวังเป็ถึงอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของตระกูลหวัง ทั้งตำแหน่งฐานะล้วนสูงส่งเกินพอที่จะแต่งกับเ้าแน่นอน!”
เฟิงเหยาได้ยินเช่นนั้นก็กัดฟันเบาๆ มองดูหวังเทียนจั๋ว ก่อนจะหันไปมองเฟิงฉางเกอครู่หนึ่ง
“แต่งงานกับเ้าก็ได้ แต่ข้าจะยังไม่ไปกับเ้าตอนนี้”
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดเฟิงเหยาก็กล่าวขึ้นอย่างเ็า
“ปีนี้ ข้าเพิ่งจะอายุสิบหกปีเท่านั้น รอให้ข้าอายุสิบแปดปี ข้าจะไปเยือนที่ตระกูลหวังอย่างแน่นอน คุณชายหวังที่เป็ถึงคนของตระกูลขุนนาง คงไม่กลัวว่าข้าจะผิดคำพูดอยู่แล้วถูกไหม!”
“สองปี!”
ในดวงตาของหวังเทียนจั๋วฉายเเววสนใจ เอ่ยพูดอย่างมีเลศนัย
“ข้าย่อมไม่กลัวว่าเ้าจะผิดคำพูดอยู่แล้ว ผู้คนที่นี่ล้วนได้ยินคำพูดของเ้าอย่างชัดเจน เพียงแต่หากเ้าคิดจะใช้เวลาสองปีนี้ตามหาที่พึ่งที่ทัดเทียมกับตระกูลหวังของข้าล่ะก็ ข้าว่าเ้าล้มเลิกความคิดไปจะดีกว่า!”
เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้มันแทงใจดำของเฟิงเหยาเข้าเต็มๆ เพียงแต่หวังเทียนจั๋วก็ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด
เขามั่นใจในตระกูลหวังของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม!
เวลาสองปี จะว่าสั้นก็ไม่สั้นมาก จะว่านานมันก็ไม่นานเหมือนกัน
เวลาแค่นี้ เฟิงเหยาจะไปหาที่พึ่งอะไรได้ หรือถ้าจะบอกว่าเฟิงเหยาคิดจะใช้เวลาสองปีนี้พัฒนาตัวเองจนสามารถขัดขืนกับตระกูลหวังได้ ก็ยิ่งเป็ไปไม่ได้เข้าไปใหญ่
ตระกูลหวังเป็ถึงหนึ่งในสี่ตระกูลขุนนางใหญ่แห่งอาณาจักรต้าถัง มีทรัพยากรมหาศาล มีอำนาจสูงส่ง สามารถเทียบเคียงกับสำนักลัทธิใหญ่อย่างลัทธิสยบฟ้าได้เลยทีเดียว!
“ข้าจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเ้า รู้แค่ว่าข้าจะทำตามสัญญาแน่นอนก็พอแล้ว”
เฟิงเหยาพูดอย่างเ็า
“ได้ ข้าตกลง ข้าจะไม่ลงมือกับรองขุนพลเฟิง”
หวังเทียนจั๋วพยักหน้าอย่างสง่างาม จิตสังหารในดวงตาพลันหายไป
“แต่ว่า เ้าต้องให้บิดาเ้าหลีกทางไปเสีย! ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ข้าก็ต้องฆ่าไอ้คนที่ชื่อหลงอวี้นี่ให้ได้!”
“ท่านพ่อ ท่านหลีกทางเถิด”
เฟิงเหยาได้ยินเช่นนั้นก็หันมาทางเฟิงฉางเกอ ดวงตาแฝงความคาดหวัง
“ข้ากับท่านแม่ทิ้งท่านไม่ลง ก็เลยกลับมาดูสักหน่อย ถ้าไม่ทำอย่างนี้ล่ะก็ เกรงว่า...”
“ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว”
เฟิงฉางเกอมีสีหน้าเด็ดเดี่ยว ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น
“ข้าไม่มีทางมองดูเสี่ยวอวี้ถูกผู้อื่นฆ่าตายต่อหน้าต่อตาแน่!”
ดวงตาของเขาแฝงความรู้สึกเ็ป เขารู้ดีว่าเฟิงเหยาไม่ได้ชอบพอหวังเทียนจั๋วเลย แต่เพื่อช่วยชีวิตเขา จึงตอบตกลงหวังเทียนจั๋ว!
นี่มันคือการแต่งงานที่น่าอัปยศ เป็ความอัปยศของตระกูลเฟิง เป็ความอัปยศของเขาเฟิงฉางเกอ!
แต่กระนั้นตัวเขาก็ไร้พลังที่จะขัดขวางเื่เหล่านี้ หากในอดีตเขาไม่ได้รับาเ็ มีหรือที่เขาจะจัดการหวังเทียนจั๋วคนเดียวไม่ได้?
น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาไร้พลังที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้!
สิ่งที่เขาทำได้ มีแค่การขวางหวังเทียนจั๋วไว้เพื่อปกป้องหลงอวี้อย่างสุดชีวิตเท่านั้น!
ตอนนั้น เป็ท่านขุนพลที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
ตอนนี้ ต่อให้เขาต้องตาย ก็ต้องปกป้องสายเืเพียงหนึ่งเดียวของท่านขุนพลให้ได้!
“เ้าคิดว่าจะขวางทางข้าได้อย่างนั้นหรือ”
หวังเทียนจั๋วมองเห็นแววตาอันหนักแน่นของเฟิงฉางเกอก็อดส่งเสียงหัวเราะเ็าไม่ได้ จากนั้นก็ก้าวเท้าออกไป ิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ส่งเสียงคำรามอีกครั้ง
แรงกดดันอันดุดันสาดโถมไปทางเฟิงฉางเกอ ทำให้อีกฝ่ายขยับตัวไม่ได้ทันที!
“หลีกไป!”
หวังเทียนจั๋วตะคอกอย่างดุร้าย ยกมือขวาขึ้น พริบตานั้นก็มีเสียงพยัคฆ์คำราม แรงกดดันอันทรงพลังซัดเฟิงฉางเกอจนกระเด็นไปไกลสิบกว่าจ้างเลยทีเดียว!
“ท่านพ่อ!”
เฟิงเหยาเห็นเช่นนั้น ก็รีบวิ่งมาประคองเฟิงฉางเกอไว้
“เสี่ยวอวี้!”
เฟิงฉางเกอหน้าถอดสี รีบพุ่งออกไปช่วย แต่ก็ถูกเฟิงเหยารั้งไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ปล่อยให้เขาไป
หวังเทียนจั๋วค่อยๆ ก้าวไปทางหลงอวี้ที่ได้รับาเ็!
หลงอวี้ตอนนี้กระดูกแขนข้างขวาได้แหลกเละ ชีพจรได้รับาเ็ เมื่ออยู่ใต้แรงกดดันของิญญาแท้ราชันพยัคฆ์แล้ว เแค่จะยืนก็ทำไม่ได้
“เ้าเพิ่งวรยุทธ์ขั้นแปด แต่กลับทำร้ายข้าาเ็ได้ ไม่เลว ไม่เลวจริงๆ!”
หวังเทียนจั๋วมาถึงตรงหน้าของหลงอวี้ ตาเป็ประกายเ็า
“แต่น่าเสียดายที่วันนี้ เ้าต้องตายด้วยมือของข้าหวังเทียนจั๋วผู้นี้!”
หลังสิ้นเสียง เฟิงฉางเกอที่อยู่ข้างๆ ก็ตาเบิกโพลงด้วยความโมโห
หลงอวี้จะมาตายทั้งอย่างนี้ได้อย่างไร?
เขาเป็ผู้สืบสายเืเพียงหนึ่งเดียวของท่านขุนพล พร์ที่แสดงออกมาให้เห็นในวันนี้ก็ร้ายกาจเข้าขั้นน่ากลัวถึงเพียงนี้ จะปล่อยให้ไอ้กระจอกอย่างหวังเทียนจั๋วฆ่าตายได้อย่างไร?
ผู้คนทั้งหมดต่างจับจ้องสายตาไปที่หวังเทียนจั๋ว ต่างก็อยากดูว่าเขาจะลงมือฆ่าหลงอวี้อย่างไร!
แต่ในตอนนั้นเอง บนท้องฟ้าก็ได้มีเสียงแหลมสูงของนกอินทรีดังขึ้น หวังเทียนจั๋วสีหน้าเปลี่ยนทันที
“ใคร?”
หวังเทียนจั๋วรู้สึกราวกับว่าตัวเองถูกเพ่งเล็งจากระยะไกล ถ้าขยับเพียงเล็กน้อยจะถูกกระหน่ำโจมตีใส่ราวกับพายุคลั่งก็ไม่ปาน
นี่คือสัญชาตญาณของยอดฝีมือระดับิญญาแท้
หวังเทียนจั๋วรู้สึกว่าถ้าขยับตัวจะถูกฆ่าตายทันที!
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
เสียงหัวเราะอันหยิ่งผยองของชายผู้หนึ่งดังสนั่นมาจากที่ไกลๆ ต่อจากนั้นก็ได้มีชายหนุ่มในชุดรัดรูปสีดำปรากฏบนหลังคาคฤหาสน์ตระกูลเฟิง
ชายหนุ่มชุดดำผู้นี้ มีรูปโฉมงามสง่า รอยยิ้มน่าเกรงขาม มองดูผู้คนทั้งหมดจากเบื้องบน บรรยากาศสูงส่งเหนือธรรมชาติ!
พอหลงอวี้มองเห็นเขา ก็เกิดความรู้สึกประหลาดใจ ‘ปู้สิง’?
ชายหนุ่มชุดดำผู้นี้คือลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับหนึ่งของลัทธิสยบฟ้า ปู้สิง!
เสียงร้องอันแหลมสูงนกอินทรีเมื่อครู่นี้มันก็ดังมาจากิญญาแท้อินทรีนภาที่กำลังบินทะยานบนเวหาด้านหลังของเขาอย่างหยิ่งผยองน่าเกรงขามนั่นเอง!
ปู้สิงเองก็เป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้เช่นกัน เมื่อิญญาแท้อินทรีนภาปรากฏ พริบตานั้นหวังเทียนจั๋วก็ถูกสยบอยู่กับที่ไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกนิ้วเลยทีเดียว!
“ปู้สิง?
หวังเทียนจั๋วเงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นร่างของปู้สิงก็หน้าถอดสีทันที”
ตัวเขาที่เป็คนของตระกูลหวังจะไม่รู้จักฐานะของปู้สิงได้อย่างไร? หนึ่งในเก้าอัจฉริยะรุ่นเยาว์แห่งอาณาจักรต้าถัง ปู้สิง แข็งแกร่งยิ่งกว่าเขาหลายเท่า!
แต่ทันทีที่เขาหลุดพูดคำว่า ‘ปู้สิง’ ออกมาแล้ว ชายหนุ่มชุดดำที่ยืนอยู่บนหลังคาคฤหาสน์ก็พลันสีหน้าตึงเคร่งทันที
“เ้าว่าอะไรนะ?”
แววตาอันหยิ่งผยองของปู้สิงพลันจ้องเขม็งมาบนตัวของหวังเทียนจั๋ว ราวกับอินทรีนภาที่โบยบินอยู่บนท้องฟ้า ที่ในที่สุดก็หาเหยื่อเจอแล้ว!
ความรู้สึกนี้ทำให้หวังเทียนจั๋วใจเต้นเร็วขึ้นทันที!
“แย่แล้ว ลืมเลยว่าห้ามเรียกชื่อต่อหน้ามัน...”
หวังเทียนจั๋วพลันเหงื่อแตกเต็ม หน้า!
ตอนที่เขาพึ่งมาถึงหวังเทียนจั๋วใหม่ๆ นั้น เขาก็วางท่าใหญ่โตราวกับเป็ผู้ปกครองของเมืองอวี้กวนแห่งนี้ก็ไม่ปาน เป็ผู้บงการทุกสิ่ง
แต่พอตอนนี้ได้เผชิญหน้ากับปู้สิงแล้ว เขาพลันเกิดความประหวั่นครั่นคร้ามในใจ กลัวว่าหากอีกฝ่ายพิโรธอาจลงมือฆ่าเขาทิ้งทันทีก็เป็ได้!
นี่คือข้อดีของการมีพลังแข็งแกร่ง
“เ้าเป็ใครกัน บังอาจเรียกขานคุณชายหวังเช่นนี้?”
ในตอนนั้นเอง เสียงพูดอันโอหังเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เป็ชายที่ปากแหลมราวกับลิง หนึ่งในลูกสมุนทั้งสี่ของหวังเทียนจั๋ว ตอนที่มองไปที่ปู้สิงบนหลังคานั้น สีหน้าของเขาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความดูแคลน
ลูกสมุนของหวังเทียนจั๋วคนนี้มีพลังระดับวรยุทธ์ขั้นแปด ในเมืองอวี้กวนนับเป็ตัวตนระดับยอดฝีมือเช่นกัน มันทำให้เขารู้สึกเหิมเกริมได้ใจ
เห็นได้ชัดว่าเ้าหมอนี่ไม่รู้จักปู้สิง การกระทำของมันเหมือนเป็ประกาศยุติชีวิตของตัวเองก็ไม่ปาน
“ข้าเป็ใครน่ะหรือ เ้าก็ลองถามนายของเ้าดูสิว่าข้าเป็ใคร?”
ปู้สิงแสยะยิ้มเ็า พลันมีเสียงร้องอันแหลมสูงของอินทรีดังขึ้น จากนั้นิญญาแท้อินทรีนภาที่ด้านหลังเขาก็ได้บินโฉบ พุ่งตัดอากาศอย่างเกรี้ยวกราดไปทางลูกสมุนที่ส่งเสียงเมื่อครู่นี้
เพียงพริบตาเดียว ลูกสมุนคนนั้นก็ถูกพละกำลังอันมหาศาลบดขยี้หัวใจจนแหลกสลาย มันเบิกตาโต ก่อนจะค่อยๆ ทรุดลง!
ด้วยความแข็งแกร่งของปู้สิง การจะฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับวรยุทธ์ขั้นแปดทั่วไปคนหนึ่งไม่จำเป็ต้องลงมือเองเลยด้วยซ้ำ เพียงิญญาแท้อินทรีฟ้าก็สามารถบดขยี้หัวใจของศัตรูให้แหลกเป็ชิ้นๆ ได้แล้ว!
หลังจากนั้นิญญาแท้อินทรีนภาที่กำลังโบยบินอยู่ก็เปลี่ยนทิศทางพุ่งตรงเข้าใส่หวังเทียนจั๋วต่อทันที
“หวังเทียนจั๋ว เ้าบังอาจดูิ่รังแกลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้า เ้าไม่เห็นหัวลัทธิสยบฟ้าแล้วใช่ไหม”
เสียงพูดอันหยิ่งผยองของปู้สิงดังขึ้น เขาดีดตัวลงมาจากฟ้า พุ่งทะยานใส่หวังเทียนจั๋วราวกับลมพายุพร้อมกับิญญาแท้อินทรีย์นภา!
“ศิษย์พี่ปู้ ข้าไม่รู้ว่าเ้าหมอนี่เป็ลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้า!”
หวังเทียนจั๋วรีบอธิบาย ิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ที่อยู่ด้านหลังแผดเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ดีดตัวออกไปคิดจะต้านรับการโจมตีของปู้สิง
แต่พลังของอินทรีนภาของปู้สิงนั้นแข็งแกร่งกว่าราชันพยัคฆ์หลายเท่า
แค่เสียงร้องของอินทรีนภาเพียงเสียงเดียว ร่างเงาของิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ก็ถูกลมพายุอันเกรี้ยวกราดเป่าทำลายจนสลาย ิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ที่หวังเทียนจั๋วภาคภูมิใจหนักหนา ถูกทำลายทิ้งไปในพริบตา
ต่อจากนั้นิญญาแท้อินทรีเวหาก็ได้กระพือปีกอันใหญ่โตของมันจนเกิดเป็ลมพายุอันเกรี้ยวกราดดูดหวังเทียนจั๋วเข้าไป
“ในเมื่อเ้าคิดจะฆ่าลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้า เช่นนั้นมาดูกันว่าวันนี้ใครกันแน่จะเป็ฝ่ายถูกฆ่า!”
ปู้สิงหัวเราะอย่างโอหังและน่าเกรงขาม พอยกมือขึ้นพัดหวังเทียนจั๋วที่อยู่ใต้พายุขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็ถูกิญญาแท้อินทรีนภาคาบทันที!
“ข้าเป็ถึงคนของตระกูลหวังแห่งเขตพระราชฐานเชียวนะ เ้าบังอาจกล้าฆ่าข้าอย่างนั้นรึ!”
เมื่อเผชิญกับภัยร้ายที่คุกคามถึงชีวิต หวังเทียนจั๋วก็คิดจะใช้ชื่อของตระกูลมาข่มขู่ตามความเคยชิน
“ข้าบรรลุมหาพลังสยบฟ้าจากการสังเกตอินทรีนภา แล้วเหตุใดข้าต้องหวาดกลัวตระกูลเ้าที่เป็เพียงหนอนแมลงในป่าด้วย?”
ปู้สิงหัวเราะ
. “ช่างเถิด ในเมื่อวันนี้เ้าใช้ิญญาแท้มารังแกศิษย์น้องหลงอวี้ ข้าจะไว้ชีวิตเ้าหนึ่งครั้ง รอวันหน้าค่อยให้ศิษย์น้องหลงอวี้มาปลิดชีวิตเ้าด้วยตัวเอง!”
หลังสิ้นเสียง ลมพายุก็สลายไป หวังเทียนจั๋วพลันตกลงมาจากบนฟ้า
เกิดเสียงกระแทกดังสนั่น เขาตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง หวังเทียนจั๋วที่าเ็อยู่ก่อนแล้ว รวมกับที่เขาไม่ได้สะกดปราณปรภพไว้ ทำให้ชีพจรในตัวเขาถูกปราณปรภพกัดกร่อนแล้ว!
“แค่กๆ!”
หวังเทียนจั๋วกระอักเืคำหนึ่งออกมา พยุงตัวขึ้นอย่างยากลำบาก มองไปที่ปู้สิงด้วยสายตาเคียดแค้น
“ความอับอายในวันนี้ ข้าจะจดจำไว้ วันหน้าข้าต้องล้างอายครั้งนี้แน่!”
“ไสหัวไปเสีย คำพูดนี้ รอให้เ้ามีพลังมากพอก่อนค่อยพูดก็ไม่สาย”
ปู้สิงแสยะยิ้มอย่างองอาจ ราวกับว่าไม่เห็นหวังเทียนจั๋วในสายตา
การต่อสู้ระหว่างอินทรีนภาและราชันพยัคฆ์นั้นรู้ผลในเวลาสั้นๆ เพียงครู่เดียว ทำให้ผู้คนรอบข้างต่างที่ตะลึงงัน พูดอะไรไม่ออก
เื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ว่าเื่ไหนก็ล้วนสามารถทำให้เขาตื่นตะลึงสุดขีดได้ทั้งสิ้น!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้