นี่เป็ภาพที่น่ากลัวอย่างมาก ไม่ว่าใครที่มาเกี่ยวข้อง อดที่จะขมวดคิ้วแน่นมิได้ ความสิ้นหวังได้ทำให้เด็กสาวตัวน้อยสูญสิ้นเรี่ยวแรงทั้งหมดของนาง พวกนางไม่สามารถดิ้นรนอะไรได้อีก ภายใต้การจับตามองของปีศาจโลหิต พวกนางไม่มีความกล้าพอที่ฆ่าตัวตายเสียด้วยซ้ำ ทำได้เพียงรอที่คอยที่จะเป็เครื่องสังเวยเท่านั้น
ตึง.....!
หลังจากที่รีดเืออกมาจนหยดสุดท้าย หัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตโยนศพที่แห้งเหี่ยวของเด็กสาวออกไปจากแท่นบูชา
"คนต่อไป"
ดวงตาสีแดงดุจโลหิตของหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตได้เปิดขึ้น มันพูดด้วยเสียงแหบพร่า
ตุบ!
ในตอนนั้นเอง ได้มีอะไรบางอย่างร่วงหล่นจากฟ้ามายังแท่นบูชา มันได้หล่นมาตรงหน้าของหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิต เมื่อหัวหน้าเหลือบมองขึ้นไปว่ามันคืออะไร ทันใดนั้นมันได้คำรามออกมาด้วยความกราดเกรี้ยว
สิ่งที่ร่วงหล่นมาจากฟากฟ้าคือหัวของปีศาจโลหิตตนหนึ่ง ใบหน้าของมันแสดงถึงความหวาดกลัวจนถึงขีดสุด ไม่เพียงแต่ใบหน้าของมันชโลมไปด้วยเื เขี้ยวที่เป็เอกลักษณ์ของพวกมันเหล่าปีศาจโลหิตได้หายไปด้วย
"ใครกัน?!"
ทันใดนั้น หัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตที่ยืนอยู่บนแท่นบูชา ได้ปลดปล่อยพลังปีศาจของมันออกมา หัวหน้าปีศาจโลหิตมีพลังถึงขอบเขตแก่นแท้์ขั้นต้น เหล่าปีศาจโลหิตจะสามารถเป็หัวหน้าหน่วยได้จะต้องมีพลังถึงขอบเขตแก่นแท้์เป็อย่างต่ำ พวกมันยังสามารถฝึกทักษะสังเวยโลหิต โดยใช้เืของเด็กสาวมาเป็พลังให้มันได้อีกด้วย
นี่คือเหตุผลที่หัวหน้าหน่วยได้คร่ากุมเหล่าเด็กสาวจำนวนมากเพียงเพื่อใช้ในการบ่มเพาะทักษะสังเวยโลหิตของมัน หลังจากเหล่าเด็กสาวได้ถูกสังเวยไปจนหมดสิ้น มันก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นกลางได้ อย่างไรก็ตาม มันได้โกรธเกรี้ยวเป็อย่างมาก หลังจากที่มันเพิ่งจะสังเวยเด็กสาวคนแรก ก็ได้มีเื่เช่นนี้เกิดขึ้น
"ฮึ่ม! ทักษะปีศาจ และปีศาจเช่นพวกเ้า ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้บริสุทธิ์ ปีศาจอย่างพวกเ้าไม่ได้รับอนุญาตให้มีตัวตนอยู่อีก เ้าพวกบัดซบ!"
เสียงแค่นอย่างเ็าดังก้องจากฟ้า ปีศาจโลหิตทั้งหมดได้เงยหน้ามองขึ้นไป พวกมันทั้งหมดได้เห็นชายหนุ่มในชุดสีขาวพร้อมทั้งปีกโลหิตคู่หนึ่งบนหลัง ชายหนุ่มคนนี้เปล่งแสงสีทองในขณะที่เขากำลังถือศพไร้หัวอยู่ นั่นคือศพของปีศาจโลหิตนั่นเอง
ตูม!
พลังอันทรงพลังได้ปรากฎขึ้นบนฝ่ามือของเจียงเฉิน ได้ทำให้ศพแตกกระจายเป็เสี่ยงๆ กลายเป็เพียงหมอกเืเท่านั้น จากนั้นมันก็จางหายไปในกับความมืดยามค่ำคืน
"อวดดี!"
ปีศาจโลหิตะโออกมาอย่างกราดเกรี้ยว ตัวมันได้จัดเตรียมพิธีสังเวยโลหิตเป็อย่างดี ได้ถูกรบกวนทำให้มันโกรธถึงขีดสุด ในความคิดของมัน ไม่รู้ว่าเ้าหนุ่มนี่มันมากจากที่ไหน แต่มันรนหาที่ตาย
พรึ่บ....!
ปีกโลหิตของเจียงเฉินได้กระพือบินลงมาจากฟากฟ้า ทันใดนั้นปีศาจโลหิตแก่นแท้มนุษย์ทั้งสิบตนได้มาล้อมรอบตัวเขาไว้ พวกมันแยกเขี้ยวเล็บของมัน พร้อมที่จะฉีกเขาให้เป็ชิ้นๆ
"พวกเราสามารถฝืนลิขิต์ได้ แต่พวกเราไม่อาจให้ผู้คนต้องจมกับความทุกข์ทรมาน พวกเราในฐานะเหล่าผู้ฝึกตน พวกเราสามารถท้าทายลิขิต์ได้ แต่พวกเราจะไม่ลืมรากฐานของความเป็มนุษย์ไป!พวกเ้าปีศาจโลหิตไม่สมควรมีตัวตนอยู่ภายใต้ฟ้าดินอีก!"
เจียงเฉินะโออกมาเสียงดัง ตัวเขาย่อมมีหนทางแห่งเต๋าของตนเอง แม้ว่าเขาจะโเี้อำมหิต แต่เขาก็ใช้ความโเี้นั่นกับศัตรูของเขาเท่านั้น เขาเป็ชายซึ่งมีความแตกต่างอย่างชัดเจนในคนเดียวกันทั้งใจดีและโเี้ ในโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดที่ไร้ซึ่งเหตุผล เหล่าเด็กสาวตรงหน้าเขาทั้งอ่อนแอและไร้เดียงสา และเหล่าปีศาจโลหิตได้ล่วงละเมิดกฏขั้นพื้นฐานของมนุษย์ไป พวกมันจักต้องถูกกำจัด
ปิ้ง!ปิ้ง!ปิ้ง!.....
ทันใดนั้น มีแสงสีทองนับสิบสายถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเจียงเฉิน ลำแสงสีทองแต่ละสายราวกับคมดาบที่คมกริบ พวกมันพุ่งไปด้วยความเร็วสูง ตัดผ่านปีศาจโลหิตทั้งหมด
ปัง! ปัง! ปัง!............
ปีศาจโลหิตนับสิบได้ถูกลำแสงสีทองทะลวง พวกมันได้กลายเป็หมอกเืโดยสมบูรณ์ พวกมันตกตายอนาถ นี่คือแนวทางที่เจียงเฉินปฏิบัติต่อปีศาจโลหิต สังหารพวกมันโดยไม่เหลือแม้แต่ศพ หายไปจากโลกใบนี้โดยสมบูรณ์
"สารเลว!เ้ากล้าดียังไงถึงได้มาเข่นฆ่า ปีศาจโลหิตผู้สูงส่งอย่างพวกข้า?!หาที่ตาย!"
ความโกรธของหัวหน้าหน่วยได้พุ่งทะยานถึงขีดสุด มันไม่คาดคิดมาก่อนว่าชายหนุ่มที่ไม่รู้มาจากไหนจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ เพียงพริบตา ก็สามารถสังหารปีศาจโลหิตทุกตนได้อย่างง่ายดาย
บรึม!......
หัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตได้เคลื่อนไหว มันได้ปลดปล่อยฝ่ามือสีเืขนาดั์พุ่งเข้าใส่เจียงเฉิน
ฮึ่ม!
เจียงเฉินแค่นเสียงเ็า พลังที่มองไม่เห็นได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ฝ่ามือโลหิตที่ทรงพลังได้ถูกทำลายในทันที หลังจากนั้น เจียงเฉินได้ชี้นิ้วของเขาดุจใบดาบ ดัชนีทองคำขนาดั์ทั้งสามสายได้ปรากฎขึ้นอย่างฉับพลัน จากนั้นได้พุ่งเข้าใส่แท่นบูชา
ตูม!
หกดัชนีสุริยันนั้นเป็ทักษะยุทธที่ทรงพลังอย่างยิ่ง แท่นบูชาได้ถูกสร้างขึ้นจากหินที่แข็งแกร่งได้พังพินาศ
หัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตตกตะลึงกับสิ่งที่มันได้เห็น ในตอนนี้มันรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของชายหนุ่มตรงหน้ามัน มันรู้ว่าตัวมันไม่อาจต่อกรกับชายหนุ่มคนนี้ได้ ดังนั้นมันไม่อยากยุ่งกับเ้าหนุ่มนี่อีก จึงบินขึ้นบนฟ้าและพยายามหลบหนี
"เ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก"
เจียงเฉินใช้ปีกโลหิตของเขาบินไล่ตามด้วยความเร็วสูง เขาสามารถจับหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตไว้ได้ ปีกโลหิตของเขาสับไปยังหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิต หัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตที่เป็ถึงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นต้นได้กรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชขณะที่โดนสับขาดสองท่อน
เจียงเฉินยื่นมือคว้าไปยังแกนพลังงานปีศาจสีแดงจากศพของหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิต มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายของปีศาจ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ให้พลังงานมากมายยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับดวงจิตอสูร
เจียงเฉินบีบฝ่ามือของเขา ได้ทำให้แกนพลังงานปีศาจขนาดเท่ากำปั้นแตกสลาย กลายเป็แสงสีแดงลอยเข้าสู่ร่างกายของเจียงเฉิน
"ทักษะร่างแปลงั!"
เจียงเฉินะโออกมา เขาได้โคจรทักษะร่างแปลงั แกนพลังงานปีศาจถูกดูดซับโดยสมบูรณ์ภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้น พลังปีศาจได้ถูกชำระล้างด้วยทักษะร่างแปลงั เหลือเพียงพลังงานที่บริสุทธิ์ ปราณและโลหิต แกนพลังงานปีศาจได้ช่วยเจียงเฉินสร้างตราประทับัเพิ่มอีกสองดวง จนตอนนี้มีตราประทับัในทะเลลมปราณของเขาถึงแปดสิบเจ็ดดวง
หัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตนั้นแข็งแกร่ง มันแข็งแกร่งยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไปในระดับพลังเดียวกัน แต่ไม่อาจต้านการโจมตีของเจียงเฉินได้แม้กระบวนท่า ด้วยความแข็งแกร่งของเจียงเฉินในปัจจุบัน เขาสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นต้นได้ในเสี้ยววินาที
เจียงเฉินเก็บปีกและร่อนลงที่หุบเขา เหล่าเด็กสาวตื่นตระหนกใจ้องมองไปยังเจียงเฉินด้วยความหวาดกลัว ยังไม่ฟื้นสติจากการตกตะลึง
"พวกเ้ามาจากเมืองหงหยาง?"
เจียงเฉินถามพวกนาง แต่เด็กสาวทั้งหมดยังมีท่าทีตื่นตระหนกอยู่ ไม่พูดอะไรออกมา เจียงเฉินยิ้มบางและพูด
"ไม่ต้องกลัว ข้าเป็ศิษย์จากนิกายเซวียนอี้ เหตุผลที่ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อสังหารปีศาจโลหิตเท่านั้น ตอนนี้พวกเ้าปลอดภัยแล้ว"
แม้ว่าเหล่าเด็กสาวจะถูกเติมเต็มไปด้วยความกลัว แต่เมื่อพวกนางได้ยินคำว่า 'นิกายเซวียนอี้' และ 'ปลอดภัย' นอกจากนี้ชายหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่ตรงหน้าของพวกนางปฏิบัติต่อพวกนางดีกว่าปีศาจโลหิตที่โหดร้ายป่าเถื่อนพวกนั้น พวกนางรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ได้เข่นฆ่าปีศาจโลหิตเพื่อช่วยเหลือพวกนางไว้
"พวกเรามาจากเมืองหงหยางเ้าค่ะ!แต่มีบางคนไม่ใช่ เ้าพวกปีศาจโลหิตต่ำช้ามาก!ขอบคุุณท่านผู้มีพระคุณ ที่เมตตาช่วยชีวิตพวกเราไว้เ้าค่ะ!"
เด็กสาวได้คารวะต่อเจียงเฉิน คนอื่นๆก็ได้ทำตามนางทันที
เจียงเฉินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หากเขามาช้ากว่านี้เพียงไม่กี่นาที เหล่าเด็กสาวต้องถูกฆ่าตายหมดเป็แน่ เมืองหงหยางเป็เพียงเมืองธรรมดาทั่วไปภายในเขตหวงฉี และอยู่ภายในอาณาเขตหวงฉี ลองจินตนาการถึงช่องโหว่ของเมืองเหล่านี้ หากปีศาจโลหิตได้บุกเมืองหงหยางครั้งใหญ่ จะเกิดหายนะครั้งใหญ่ที่ไม่อาจจินตนาการได้
เจียงเฉินปลดปล่อยพลังหยวนออกมา ก่อตัวเป็ตาข่ายขนาดใหญ่จากนั้นเขาห่อหุ้มเหล่าเด็กสาวด้วยตาข่ายนั่น และบินขึ้นบนท้องฟ้ากลับไปยังที่ที่เขาจากมา
ภายในหุบเขาที่ห่างออกไปหนึ่งร้อยลี้ หวงต้าแหว่งหางของมันอย่างเยือกเย็น แต่จางเหว่ยและสหายเดินวนไปมาอย่างร้อนใจ
"หยุดเดินวนซะที! พวกเ้าทำให้บิดาผู้นี้เวียนหัวไปหมดแล้วนะ!เมื่อเ้าหนุ่มนั่นลงมือ ย่อมรับประกันว่ามันจะต้องสำเร็จ"
จางเหว่ยและคนอื่นรีบขอโทษขอโพยหวงต้าด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่พวกเขาได้เห็นถึงความโเี้อำมหิตของเ้าหมานี่ พวกเขาจะกล้าแสดงท่าทีดูถูกได้เช่นไร?
"พี่จางเหว่ย ดูนั่น!คุณชายเจียงกลับมาแล้ว!"
"ดูนั่น น้องเสี่ยวและคนอื่นๆก็อยู่ด้วย พวกนางยังมีชีวิตอยู่!"
ชายสองคนเห็นเจียงเฉินบินอยู่บนฟ้า พร้อมกับหิ้วเหล่าเด็กสาวมาด้วย พวกเขาจำได้เด็กสาวบางคนมาจากเมืองหงหยางของพวกเขา
เมื่อเหล่าเด็กสาวได้พบกับสหายของพวกนาง พวกนางก็ไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป พวกนางร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น เพื่อให้สิ่งเลวร้ายที่ผ่านมาเป็ประสบการณ์ของพวกนาง
"คุณชายเจียงเฉิน ท่านเป็ผู้มีพระคุณของพวกเรา โปรดรับการคารวะจากพวกเราไปด้วย!"
จางเหว่ยกับสหายของเขาคารวะต่อเจียงเฉินพร้อมกัน พวกเขาซาบซึ้งในสิ่งที่เจียงเฉินได้ทำลงไป หากไม่ใช่เพราะเจียงเฉิน พวกเขาคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ พวกเขาคงเป็เพียงแค่ซากศพที่เหี่ยวแห้งไปแล้ว
"ช่างเถอะ แล้วเมืองหงหยางห่างจากที่นี่แค่ไหน?"
เจียงเฉินถามขึ้น
"ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก เพียงแค่สามร้อยลี้เท่านั้น การปรากฎกายของปีศาจโลหิตในครั้งนี้ เริ่มต้นจากเมืองหงหยาง"
จางเหว่ยเอ่ยปากพูด
"สามร้อยลี้งั้นรึ ไม่ไกลเท่าไร"
เจียงเฉินผงกหัว ระยะทางเพียงแค่สามร้อยลี้ สำหรับเขาแล้ว เขาสามารถไปถึงในระยะเวลาสั้นๆ
"คุณชายเจียงเฉินโปรดช่วยเมืองหงหยางของพวกเราจากหายนะครั้งนี้ด้วยขอรับ ข้าได้ยินมาว่าราชันย์จันทราโลหิตอยู่เื้ัของปีศาจโลหิตทั้งหมด! เหล่าตระกูลที่แข็งแกร่งภายในเมืองศิลาเหลืองกำลังยุ่งกับการหาทางแก้ปัญหานี้ พวกเขาจึงไม่สามารถช่วยเราได้"
จางเหว่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ในตอนนี้เจียงเฉินเป็เพียงความหวังเดียวสำหรับเมืองหงหยาง
"สบายใจได้ เหตุผลที่ข้ามาที่นี่เพื่อสังหารราชันย์จันทราโลหิต จางเหว่ยนำทางข้าไปเมืองหงหยางทีซิ"
เจียงเฉินพูดออกมา เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินพูดบนใบหน้าจางเหว่ยและคนอื่นๆเผยถึงความปิติยินดีทันที พวกเขาได้เห็นถึงความร้ายกาจของเจียงเฉินด้วยตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น เจียงเฉินเป็ศิษย์ของนิกายเซวียนอี้ ด้วยชื่อเสียงของนิกายได้ช่วยให้มั่นใจในความสามารถของเขา พวกเขาเชื่อว่าเจียงเฉินจะช่วยพวกเขาได้ เมืองหงหยางจะได้หลุดพ้นกับเื่นี้เสียที
ด้วยความช่วยเหลือของเจียงเฉินและหวงต้า จางเหว่ยและคนอื่นๆฮึกเหิมขึ้น พวกเขามุ่งหน้าตรงไปยังเมืองหงหยาง
"จางเหว่ย ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหงหยางมีระดับการบ่มเพาะใดรึ?"
เจียงเฉินถามออกมา
"ท่านผู้มีพระคุณ เมืองหงหยางเป็เพียงเมืองเล็กๆในแคว้นฉี มีเพียงท่านเ้าเมืองที่ระดับการบ่มเพาะถึงขอบเขตแก่นแท้์ขั้นต้น อย่างไรก็ตามท่านเ้าเมืองก็อายุมากแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะจัดการกับปีศาจโลหิตที่ทรงพลังได้"
จางเหว่ยพูด
เจียงเฉินผงกหัวเงียบๆ เมืองหงหยางนั้นมีขนาดเล็ก แต่เมื่อเทียบกับเมืองชื่อกับเมืองเทียนเซียง มันยังแข็งแกร่งกว่ามาก นี่สินะผลของความแตกต่างของดินแดน
ในเมืองหงหยางมีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์เพียงคนเดียว หากปีศาจโลหิตตัดสินใจบุกโจมตีเมือง เพียงแค่หัวหน้าหน่วยเพียงตนเดียว เมืองนี้ก็จะถูกทำลายอย่างง่ายดาย แต่โชคดีที่ปีศาจโลหิตไม่ได้มาที่นี่มานานมากแล้ว ยังไม่สายเกินไปที่เจียงเฉินจะช่วยเหลือ
เจียงเฉินและหวงต้านั้นรวดเร็วมาก เพียงไม่นานพวกเขาก็ไม่ถึงเมืองหงหยาง เมื่อมองจากไกลๆก็พบว่าไฟได้ลุกไหม้ทุกหนแห่ง ควันดำได้ลอยสู่ท้องฟ้า
"ไม่ดีแล้ว เมืองได้เกิดหายนะขึ้นแล้ว พวกปีศาจโลหิตได้เข้ามาเข่นฆ่าผู้คนในเมืองแล้ว!"
ทันใดนั้นท่าทีของจางเหว่ยเปลี่ยนไป สิ่งที่เขากังวลมาตลอดที่สุดมันได้เกิดขึ้นแล้ว
