ซากหมื่นกระดูก
เมื่อเย่เทียนเซี่ยมาเยือนซากหมื่นกระดูกอีกครั้งท้องฟ้าก็ยังคงเป็เวลากลางคืนและมีอากาศเหม็นเน่าจนทำให้คนแทบอาเจียนอยู่เหมือนเดิม หลังจากเย่เทียนเซี่ยเดินทางด้วยความยากลำบากทั้งกลางวันและกลางคืนโดยไม่หยุดพักเป็เวลาสองวัน วันที่สามเขาก็ตัดสินใจกลับมาที่เมืองเทียนเฉินแล้วเข้าไปในซากหมื่นกระดูกอีกครั้ง
ครั้งแรกที่มาถึงที่นี่เขาทำได้เพียงขมวดคิ้วแล้วออกเดินทางตามหาบางสิ่งบางอย่างเป็เวลานาน แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะครั้งนี้เย่เทียนเซี่ยไม่ได้มาคนเดียว แต่เขามากับคู่หูอีกสองตัวซึ่งก็คือเหยาเหยาและเสี่ยวเป้ย
คุณสมบัติของเหยาเหยาในอดีตนั้นอ่อนแอเกินไป เพียงแค่ถูกมอนสเตอร์ตัวอื่นโจมตีสักสองครั้งก็ตายได้ทันที แต่หลังจากที่ความสามารถของมันเติบโตขึ้นอย่างกะทันหันในถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง ไม่เพียงคุณสมบัติและพลังในการเยียวยาของมันจะะเิออกมา แต่มันยังมีทักษะประเภทป้องกันเพิ่มขึ้นมาหลายอย่างด้วย เมื่อมีปราการแห่งการชำระแค้นและปราการเกราะ์อยู่กับตัว หากมีใครคิดจะทำร้ายมันก็คงต้องดูก่อนว่ามันจะยอมหรือไม่ ต่อไปเย่เทียนเซี่ยก็ไม่ต้องกังวลเื่ความปลอดภัยของเหยาเหยาอีกแล้ว
และเสี่ยวเป้ย มันใช้เวลาสองวันจัดการบรรดามอนสเตอร์ที่เข้ามาใกล้จนระดับของมันเพิ่มขึ้นมาจนถึงเลเวล 5 แล้ว พลังชีวิตของมันก็เพิ่มขึ้นมาจนถึง 1,500 หน่วย พลังโจมตีก็ขยับสูงขึ้นไปถึง 450 หน่วย ความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เย่เทียนเซี่ยต้องอิจฉาอยู่หน่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็เหยาเหยาหรือเสี่ยวเป้ยก็ไม่มีใครแสดงท่าทีรับไม่ได้กับกลิ่นที่อาจฆ่าคนตายได้ในที่แห่งนี้เลย กลับกัน พวกมันกลับมองไปที่บรรยากาศรอบๆด้วยความสนใจจนทำให้เย่เทียนเซี่ยหมดคำจะพูด เขาเรียกม้าเหงื่อโลหิตออกมาจากนั้นก็พุ่งเข้าไปในซากหมื่นกระดูกที่อยู่ด้านหน้า
แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนที่เขาเข้ามาที่นี่เลยอย่างสิ้นเชิง
ครั้งแรกที่เขาเข้ามาในซากหมื่นกระดูกเขาใช้เวลาไปสองชั่วโมงเต็มๆในสถานที่ที่เหมือนไร้จุดสิ้นสุดแห่งนี้ แล้วในนาทีสุดท้ายเขาถึงได้พบกับิญญานักรบที่โผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหันกลุ่มหนึ่ง เขาดูเหมือนจะตระหนักได้ในตอนนั้นว่า...........ถ้าสามารถหาิญญานักรบเจอได้สักตนหนึ่งแล้วเอาชนะมันได้ เขาถึงจะสามารถปลุกความโกรธของนักรบตัวอื่นๆขึ้นมาได้........... นี่เป็เพียงสิ่งเดียวที่เขาคิดออก สถานการณ์แบบนี้จะต้องไม่ใช่เื่ที่ไร้สาเหตุแน่ มันน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับกระดูกของเทพาแน่นอน
แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายของเขาก็คือเขายังไม่ทันได้ลองกระตุ้นิญญานักรบเลยแม้แต่ตัวเดียว ทว่าเพียงเขาก้าวเท้าเข้ามาในซากหมื่นกระดูกพื้นที่โดยรอบก็ปั่นป่วนขึ้นมาทันที อาวุธและเกราะเก่าๆแต่ละชิ้นเริ่มลอยขึ้นมาจากซากกระดูกบนพื้น จากนั้นไอเทมแต่ละชิ้นก็เริ่มรวมตัวกันกลายเป็นักรบร่างโปร่งใสที่สวมเกราะหนักอึ้งพร้อมกับปลดปล่อยสายลมเย็นเฉียบออกมาและในมือของมันก็ถือสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนอาวุธเอาไว้ด้วย
ทำไมมันถึงปรากฏตัวขึ้นมาทั้งๆที่เพิ่งเริ่มแบบนี้ล่ะ? เย่เทียนเซี่ยหยุดชะงักและเกิดความสงสัยขึ้นภายในใจ และขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั่นเอง ิญญานักรบทั้งสิบเอ็ดตนก็ที่ถืออาวุธเอาไว้ในมือก็พุ่งเข้ามาโจมตีเขาจากคนละทิศทาง
“เมี๊ยว!” เย่เทียนเซี่ยยังไม่ทันได้ขยับตัวเสี่ยวเป้ยก็ร้อง “เหมียว” ออกมาแล้วะโออกไปจากหลังของม้าตัวที่เขาขี่ทันที ทว่าร่างของมันยังไม่ทันจะร่วงลงบนพื้นการโจมตีด้วยหมัดแมวเหมียวก็ระดมพุ่งเข้าใส่ิญญานักรบที่อยู่ด้านหน้าสุดเสียแล้ว ตัวเลขความเสียหายสี่ตัวลอยขึ้นมาซ้ำกันจนกลายเป็ความเสียหายที่สามารถฆ่ามันได้ภายในเสี้ยววินาทีด้วยการโจมตีเพียงสองครั้ง เกราะและอาวุธที่เพิ่งจะรวมตัวกันแตกกระจายไปกลางอากาศก่อนมันจะร่วงลงไปบนพื้นดินชื้นแฉะที่เต็มไปด้วยซากกระดูก
ร่างของเสี่ยวเป้ยไม่ได้หยุดนิ่ง เมื่อมันร่วงลงบนพื้นมันก็พุ่งเข้าไปหาิญญานักรบอีกตัวที่อยู่ตรงหน้าดังฟุบก่อนจะใช้ “ลูกเตะแมวเหมียว” เตะิญญานักรบตัวนั้นกระเด็นออกไปไกล มันเคลื่อนที่รวดเร็วปานสายฟ้าไปตรงหน้าเป้าหมายก่อนจะใช้หมัดแมวเหมียวสังหาริญญานักรบในเสี้ยววินาทีอีกครั้ง ิญญานักรบที่ปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ห่างจากเย่เทียนเซี่ยไม่ถึงสิบเมตร แต่ใน่ระยะเวลาสั้นๆที่พวกมันเขามาใกล้เย่เทียนเซี่ยจากระยะมากกว่าสิบเมตริญญานักรบทั้งสิบเอ็ดตัวก็ถูกฆ่าไปแล้วสองตัว แล้วก็ถูกเตะกระเด็นออกไปอีกหนึ่งตัว ส่วนอีกแปดตัวที่เหลือก็เข้ามาใกล้เย่เทียนเซี่ยได้ในที่สุด
เหยาเหยาที่นอนอยู่บนหลังของม้าเหงื่อโลหิตนิ่งๆมองไปที่เสี่ยวเป้ยที่เสนอหน้าต่อหน้าเ้านายอย่างเงียบๆ จากนั้นมันก็ค่อยๆยืนขึ้นจากหลังม้าเมื่อโลหิต........... ตอนนี้ในฐานะที่มันเป็สัตว์เลี้ยงของเ้านาย ความ้าได้รับความรักจากเ้านายจึงกลายเป็สัญชาติญาณของพวกมัน ก่อนหน้านี้ในตอนที่เ้านายมีเพียงมันที่อยู่ข้างกายก็ไม่เป็ไร แต่ตอนนี้กลับมีเสี่ยวเป้ยเ้าแมวประหลาดที่มีคุณสมบัติน่าทึ่งและมีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งโผล่ขึ้นมาอีกหนึ่งตัว เหยาเหยาที่มีพันธะสัญญาเืแห่งิญญาที่โหดร้ายกับเย่เทียนเซี่ยจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงอันตรายที่เพิ่มขึ้นมานิดหน่อย ดังนั้น...........
มันจึงใช้สายตาที่แฝงแววดูิ่เล็กน้อยกวาดมองไปยังิญญานักรบรอบๆที่เข้ามาใกล้มากขึ้น เหยาเหยาไม่ได้ะโออกไปจากหลังของม้าเหงื่อโลหิต ไม่ได้ปลดปล่อยทักษะที่มีคุณสมบัติโจมตีเพียงหนึ่งเดียวของมันอย่างปราการแห่งการชำระแค้นออกไป แต่มันกลับปลดปล่อยทักษะ “เยียวยาิญญาทมิฬ” ออกไปอย่างสบายๆ
แสงสีขาวส่องสว่างขึ้นบนตัวของเย่เทียนเซี่ยและเสี่ยวเป้ย ขณะเดียวกันตัวเลขการฟื้นฟูสีเขียวก็ลอยขึ้นมาจากศีรษะของพวกเขา
+1020,+1020,
แต่ขณะที่เย่เทียนเซี่ยกำลังเตรียมตัวจะเรียกห้วงเวลาแห่งโชคชะตาออกมาเขาก็หยุดชะงักไปก่อนใบหน้าของเขาจะปรากฏสีหน้าตกตะลึงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
-1020,-1020,-1020,-1020,-1020,-1020…………
แสงสว่างสีขาวไม่เพียงปรากฏขึ้นบนตัวของเย่เทียนเซี่ยและเสี่ยวเป้ย แต่มันยังส่องสว่างขึ้นบนร่างของิญญานักรบที่เข้ามาใกล้เย่เทียนเซี่ยพร้อมๆกันด้วย ท่ามกลางแสงสว่างสีขาวที่ส่องสว่างขึ้นมาการกระทำของิญญานักรบที่กำลังพุ่งมาตรงหน้าทั้งหมดก็หยุดชะงักลง จากนั้นเกราะและอาวุธทั้งหมดก็แตกกระจายและร่วงลงไปรวมกับซากบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง........
ิญญานักรบแปดตัวถูกฆ่าตายทั้งหมดภายในพริบตา........... และคนที่ฆ่าพวกมันภายในพริบตาก็คือเหยาเหยา
เย่เทียนเซี่ยในิ่งค้างอยู่เพียงแป๊บเดียวแล้วเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที ิญญานักรบเป็มอนสเตอร์ประเภทิญญาที่จะสิงสู่ร่างที่ตายไปแล้ว พวกมันจะหวาดกลัวแสงสว่างและทักษะสายรักษา ความหวาดกลัวของพวกมันไม่ได้มีเพียงแค่ทักษะโจมตีของทั้งสองสายนั้น แต่ยังรวมไปถึงทักษะช่วยเหลือพวกมันด้วย........... ทักษะเยียวยาิญญาทมิฬของเหยาเหยาสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตปกติได้มหาศาล แต่เมื่อมันอยู่บนร่างของมอนสเตอร์ิญญาผลของมันกลับเป็การกำจัดพลังชีวิตของพวกมันไปอย่างโหดร้าย
สำหรับมอนสเตอร์ิญญา ทักษะเยียวยาิญญาทมิฬของเหยาเหยาก็คือหายนะดีๆนี่เอง........... และมันยังน่ากลัวกว่าการโจมตีด้วยพลังโจมตีมหาศาลของเสี่ยวเป้ยตั้งไม่รู้กี่เท่า การกระทำของเหยาเหยาในครั้งนี้ถือเป็การแย่งซีนของเสี่ยวเป้ยมาทั้งหมด การโจมตีที่รวดเร็วปานสายลมสามวินาทีจัดการไปได้สามตัว......... แต่การโจมตีเพียงครั้งเดียวกลับจัดการไปจนเกลี้ยง
“เมี๊ยว?” เสี่ยวเป้ยที่ไม่มีเป้าหมายให้โจมตีหันกลับมาแล้วเอียงคอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงง เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่รู้ว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น
“อย่างนี้นี่เอง....... เหยาเหยาครั้งนี้คงต้องพึ่งเธอแล้วล่ะ”
เสียงของเย่เทียนเซี่ยเพิ่งจะจบลงพื้นที่ห่างออกไปก็เริ่มสั่นะเืขึ้นมาอย่างรุนแรงทันที ในสายตาของเย่เทียนเซี่ยบริเวณโดยรอบห่างจากตัวเขาประมาณ 10 เมตรถึง 30 เมตรกลับมีเกราะและอาวุธจำนวนนับไม่ถ้วนลอยขึ้นมาแล้วรวมตัวกันเป็ิญญานักรบไร้ร่าง........ นับด้วยสายตาดูแล้วมันน่าจะมีมากกว่า 30 ตัว!
แม้แต่บอสเลเวล 20 ที่รวมตัวกันตั้งหลายตัวในสุสานเทพ์เย่เทียนเซี่ยยังจัดการไปได้โดยง่าย แล้วเขาจะมากลัวมอนสเตอร์ธรรมดาๆเลเวล 20 พวกนี้ได้ยังไง ไม่ต้องรอให้พวกมันพุ่งเข้ามาเย่เทียนเซี่ยก็บังคับม้าพุ่งไปด้านหน้า แต่เขาเพิ่งจะเข้าใกล้พวกมันเหยาเหยาก็ปลดปล่อยทักษะ “เยียวยาิญญาทมิฬ” ที่เพิ่งจะหมดเวลาคูลดาวน์ออกไปทันที ทำให้ิญญานักรบหลายตัวที่อยู่รอบๆถูกฆ่าตายในชั่วพริบตา และทันใดนั้นเย่เทียนเซี่ยก็หมุนตัวแล้วโจมตีไปที่อีกด้าน เขาปลดปล่อยัสะบั้นออกไปอย่างต่อเนื่อง เขาโจมตีโดนทุกครั้งในแต่ละวินาที ส่วนเสี่ยวเป้ยที่อยู่ด้านหลังก็พุ่งออกไปด้วยเช่นกัน เสี่ยวเป้ยมีความเร็วในการเคลื่อนที่สูงถึง 150 หน่วย เมื่อรวบกับร่างกายที่เล็กกะทัดรัดของมัน มันจึงใช้ก้าวย่างแมวเหมียวที่เปลี่ยนผันตลอดเวลาโจมตีเข้าใส่นักรบิญญาซ้ายทีขวาทีควบคู่ไปกับหมัดแมวเหมียว การกระทำอันรวดเร็วของมันแม้แต่เย่เทียนเซี่ยเองก็ยังต้องเบิกตาโต ิญญานักรบในตอนนี้มีปฏิกิริยาที่เชื่อช้าภายใต้การควบคุมของจิตแห่งความตาย ดังนั้นเสี่ยวเป้ยจึงจัดการิญญานักรบห้าตัวได้ภายในเสี้ยววินาทีโดยที่ไม่มีตัวไหนััร่างของมันได้เลย
เมื่อเวลาคูลดาวน์ของทักษะเยียวยาิญญาทมิฬของเหยาเหยาหมดลงอีกครั้งิญญานักรบที่เหลือสิบกว่าตัวสุดท้ายก็ถูกทักษะเยียวยาิญญาทมิฬของเหยาเหยาจัดการทั้งหมดภายในเสี้ยววินาทีอีกครั้ง ขอบเขตการรักษาของทักษะเยียวยาิญญาทมิฬจะครอบคลุมรอบตัวของผู้ใช้เป็รัศมี 5 เมตร ดังนั้นิญญานับรบที่เข้าใกล้มันในรัศมี 5 เมตรถึงถูกมันกวาดพลังชีวิตไปจนเกลี้ยง ประสิทธิภาพของมันยังเหนือกว่าเย่เทียนเซี่ยและเสี่ยวเป้ยไม่รู้กี่เท่า
การไม่มีทักษะโจมตีแบบกลุ่มอันแข็งแกร่งคือสิ่งที่ทำให้หัวใจของเย่เทียนเซี่ยรู้สึกแจ็บปวดและไม่พอใจ
ครืนๆๆๆๆๆๆ.............
มันยังไม่จบ เสียงความเคลื่อนไหวดังขึ้นมาอีกครั้ง มันคือิญญานักรบกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มที่ก่อตัวขึ้นรอบๆตัวเขาในระยะที่ไกลกว่าเดิม สายตาของเย่เทียนเซี่ยกวาดมองมันวูบหนึ่ง.......... จำนวนของมันเพิ่มขึ้นจากเมื่อกี้เกือบสองเท่า
ครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับิญญานักรบ มีเพียงตัวเดียว ครั้งที่สองมีสิบกว่าตัว ครั้งที่สามมีสามสิบกว่าตัว......... และครั้งนี้มีราวๆ 50-60 ตัว!
ระดับความยากของภารกิจระบบนั้นไม่เคยมีใครคลางแคลงใจเลย เมื่อทีมที่มีคนได้มากสุด 12 คนต้องเผชิญหน้ากับการล้อมกรอบของมอนสเตอร์มากมายขนาดนี้สักครั้งพวกเขาคงต้องรู้สึกปวดหัวขึ้นมาสักหมื่นส่วนแน่ๆ.......... แต่จำนวนเท่านี้จะเป็จำนวนสุดท้ายจริงๆเหรอ?
ิญญาของที่นี่มีเพียงแค่อาชีพนักรบ........พวกมันล้วนเป็พวกโจมตีระยะประชิด ถ้ามีการผสมผสานกันหลากหลายอาชีพคงจะต่อสู้ได้ยุ่งยากมากกว่านี้อย่างไม่ต้องสงสัย การเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีจำนวนมากมายขนาดนี้ในหนึ่งครั้ง ถ้ามีพลังไม่เพียงพอการรับมือที่เหมาะสมที่สุดก็คือสู้ไปด้วยถอยไปด้วย ทุกครั้งที่ดึงดูดพวกมันเข้ามาก็ต้องกำจัดพวกมันไปด้วย แต่วิธีที่รวดเร็วที่สุดก็คือ..........
ิญญานักรบดูเหมือนจะก่อตัวขึ้นมาพร้อมๆกัน และโดยพื้นฐานแล้วพวกมันก็จะโจมตีออกมาพร้อมๆกัน เมื่อมองิญญานักรบรอบๆที่เหมือนจะล้อมกรอบโจมตีเข้ามาเป็วงกลมเย่เทียนเซี่ยก็ไม่ได้ขยับไปไหน ทว่าเขากลับรอคอยอยู่กับที่อย่างเงียบๆรอให้พวกมันเข้ามาใกล้ๆ............
20 เมตร..........
10 เมตร..........
5 เมตร...........
1 เมตร............
เยียวยาิญญาทมิฬ!!
ิญญานักรบที่เข้ามาใกล้บีบตัวเข้ามาเป็วงกลมสีดำๆก่อนจะพุ่งเข้ามาตรงหน้าของเย่เทียนเซี่ยอย่างติดๆขัดๆ และสิ่งที่ทักทายพวกมันออกไปก็คือแสงสว่างสีขาวที่สว่างวาบขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ตัวเลขความเสียหายมหาศาลลอยขึ้นมารอบกายเย่เทียนเซี่ย ความรุนแรงของมันทำให้เขาต้องเบิกตากว้างด้วยความสับสนอย่างไม่สามารถอธิบายได้ และต่อมามันก็สังหาริญญานักรบสามสิบกว่าตัวไปได้ในทันที
“ติ๊ง! ‘จิ้งจอกหิมะทมิฬ’ สัตว์เลี้ยงของท่านเลื่อนระดับเป็เลเวล 13...................”
“ติ๊ง! ‘เสี่ยวเป้ย’ สัตว์เลี้ยงของท่านเลื่อนระดับเป็เลเวล 6 .....................”
เหยาเหยาแสดงพลังได้อย่างสมบูรณ์แบบ แล้วในที่สุดเสี่ยวเป้ยก็พุ่งตัวออกไปปลดปล่อยหมัดแมวเหมียวอันทรงพลังของมัน หนึ่งหมัดต่อหนึ่งวินาที ห้าวินาทีหลังจากนั้นเวลาคูลดาวน์ของทักษะเยียวยาิญญาทมิฬของเหยาเหยาก็สิ้นสุดลง แสงสว่างสีขาวสาดส่องขึ้นมาแล้วิญญานักรบที่เหลือก็กลับไปรวมกันในซากหมื่นกระดูกอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาข้างหูของเย่เทียนเซี่ย
“ติ๊ง! ท่านสังหาร ‘ิญญานักรบ’ 100 ตัวสำเร็จแล้ว.....”