การโจมตีที่หนักหน่วงจาก แม่ทัพซุนเทา รุนแรงจนทำให้ เยี่ยจิงหลิน รู้สึกถึงความเ็ปที่แทรกซึมไปทั่วร่างกาย เสียงของกระดูกและเนื้อที่กระทบกันอย่างรุนแรงแทบทำให้อวัยวะภายในของนางสั่นคลอน พลังปรานที่แม่ทัพแสดงออกมานั้นมีความร้ายกาจและน่ากลัวมากจนทำให้บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัดไปชั่วขณะ ความรุนแรงของการโจมตีนี้ไม่เพียงแต่ทำร่างกายของนางเ็ป แต่ยังทำให้ใจของ เยี่ยจิงหลิน เองก็รู้สึกสะท้านไปด้วย นางไม่เคยรู้สึกถึงความอันตรายที่ขนาดนี้มาก่อน
แม้จะได้รับาเ็จากการโจมตีของแม่ทัพเยี่ยจิงหลินก็ยังคงพยายามตั้งสติ เธอหันไปมอง ฮูหยินใหญ่ ด้วยความเคียดแค้นและยังคงมีเป้าหมายเดียวคือจัดการกับนางให้สำเร็จ ท่านแม่ทัพที่เข้ามาขัดขวางแผนของนางทำให้เธอรู้ว่าไม่สามารถทำการต่อสู้กับฮูหยินใหญ่ได้ในตอนนี้ การที่ท่านแม่ทัพมาถึงอย่างรวดเร็วทำให้การจัดการเป้าหมายของนางไม่สำเร็จ “หากเ้ายังคงส่งมือสังหารมาทำร้ายข้าและแม่อีก ข้าสัญญาว่านั่นจะเป็วันสุดท้ายที่เ้ามีลมหายใจ” เยี่ยจิงหลินพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชังที่เจือปนอยู่ในนั้น คำพูดของนางสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมให้ใครมาขัดขวางความ้าของตน
พูดจบ เยี่ยจิงหลิน ก็พยายามใช้โอกาสนี้หลบหนีไปจากสถานที่แห่งนี้ด้วยความรวดเร็ว ร่างของนางเคลื่อนไหวดั่งสายลม ฝีเท้าที่เร็วและชำนาญทำให้ ท่านแม่ทัพซุนเทา ถึงกับตะลึงไปชั่วขณะ แม้แต่ตัวเขาเองที่มีความเร็วในการเคลื่อนไหวไม่ธรรมดาก็ยังตามนางไปได้ลำบาก ท่านแม่ทัพซุนเทาที่เคยชินกับการไล่ล่าคู่ต่อสู้ในสนามรบกลับพบว่าตัวเองต้องวิ่งตามหญิงสาวคนนี้จนกระทั่งไปถึงลานกว้างของจวน
ในที่สุดเมื่อท่านแม่ทัพซุนเทาเข้าไปถึง เขาก็หยุดและถามอย่างโกรธแค้น “เ้าเดรัจฉานตนนี้ เ้าคือใครกัน ถึงกล้ามาขโมยทรัพย์สมบัติของข้า แล้วยังกล้ามาทำร้ายสตรีคนรักของข้าอีก?” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความดุดันและความโกรธแค้นไม่อาจซ่อนเร้น ความรุนแรงในคำพูดสะท้อนถึงการต่อสู้ที่ยังค้างคาอยู่ภายในใจของเขา ท่านแม่ทัพยังคงตระหนักว่าไม่เพียงแต่เป็โจรที่แฝงตัวมา แต่ เยี่ยจิงหลิน เป็หญิงสาวที่ท้าทายและมีความสามารถสูง
ในตอนนั้นเมื่อท่านแม่ทัพพูดจบ เขาก็ไม่รอช้า จึงเริ่มโจมตีนางอย่างรวดเร็ว ท่านแม่ทัพซุนเทาใช้ทุกท่วงท่าที่เต็มไปด้วยพลังปรานสูงส่ง หวังจะจบเกมการต่อสู้ครั้งนี้ให้เร็วที่สุด แต่เยี่ยจิงหลินกลับหลบหลีกได้ทุกการโจมตีที่เขาส่งมา การเคลื่อนไหวของนางนั้นรวดเร็วและเต็มไปด้วยความชำนาญเกินคาด ท่านแม่ทัพซุนเทาไม่เคยรู้สึกถึงความยากลำบากในการต่อสู้เช่นนี้มาก่อน
สายตาของท่านแม่ทัพจ้องไปที่นางด้วยความตื่นตะลึง เขามองไปที่ เยี่ยจิงหลิน ด้วยความประหลาดใจ ในที่สุดเขาก็เริ่มตระหนักได้ว่า การโจมตีที่เขาส่งไปไม่สามารถทำลายจอมโจรสาวคนนี้ได้ง่ายๆ เพราะพลังปรานของเขาเริ่มอ่อนแรงลงจากความเครียดที่สะสมในใจของเขาเอง ความดุดันที่เคยมีในการโจมตีครั้งแรกเริ่มหดหายไป แต่สิ่งที่เขากังวลยิ่งกว่าคือการสบตาของเขากับนาง
การสบตาของเยี่ยจิงหลินเต็มไปด้วยความรังเกียจ แต่ในนั้นกลับมีบางสิ่งที่ท่านแม่ทัพซุนเทารู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนี้ แต่ท่านแม่ทัพไม่สามารถโจมตีนางได้อีกต่อไป จิตใจของเขาเริ่มอ่อนแรงลง และเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมการโจมตีของเขาถึงไม่สามารถทำลายเยี่ยจิงหลินได้
ในตอนนั้นการโจมตีของเขาค่อยๆ อ่อนลงจากความรุนแรงที่เคยมี ท่านแม่ทัพซุนเทาเองก็ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถจัดการกับจอมโจรสาวผู้นี้ได้ แม้เขาจะพยายามมองเข้าไปในดวงตาของนางผ่านหน้ากาก ความสงสัยและความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยนี้ทำให้การโจมตีของเขายิ่งอ่อนแอลงไปทุกที
เยี่ยจิงหลินเคลื่อนไหวเร็วราวกับเงา ลัดเลาะหลบผ่านช่องว่างของท่านแม่ทัพซุนเทาไปอย่างเงียบเชียบ ท่านแม่ทัพเพียงแค่จ้องมองแผ่นหลังของนางที่หายไปในความมืด โดยไม่ทันได้ไล่ตาม หรือกระทำการใดๆ ตามแรงกระตุ้น เขาคิดเพียงแต่ความสงสัยที่เต็มไปในใจว่าใครกันที่กล้ามาท้าทายเขาในคืนนี้ และเหตุใดเขาจึงจัดการนางไม่ลง
ท่านแม่ทัพซุนเทายังคงยืนนิ่งอยู่ในที่เดิม ร่างสูงของเขายังคงตั้งตรง ฝ่ามือที่เคยซัดร่างของเยี่ยจิงหลินด้วยพลังมหาศาล กลับรู้สึกถึงความสั่นสะท้านที่แปลกประหลาด รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็ปกติ ขณะที่เขาจ้องมองฝ่ามือของตัวเองที่เต็มไปด้วยความสั่นและความผิดปกติ ราวกับว่ามันมีบางอย่างที่ทำให้เขาสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น
พลังปรานที่ออกจากฝ่ามือนั้นย่อมต้องทำให้จอมโจรสาวคนนั้นได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกถึงความสั่นไหวในมือของตัวเองได้? ท่านแม่ทัพยังคงทบทวนเหตุการณ์ในหัวอย่างไม่รู้จบ ใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจ เหมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกผิดเข้าครอบงำจนเขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในภาวะสับสน
ความสั่นสะท้านในมือของเขาไม่ใช่เพียงแค่ความเหนื่อยล้าจากการใช้พลัง แต่เป็เหมือนสิ่งที่มาจากภายในร่างกายของเขาเอง ท่านแม่ทัพกำมือแน่น รู้สึกถึงความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถอธิบายได้
ท่านแม่ทัพยืนนิ่งอยู่ในที่เดิม ร่างสูงของเขาขยับเล็กน้อยในขณะที่คำพูดของเยี่ยจิงหลินยังคงดังก้องอยู่ในหู "ถ้ายังส่งคนมารังแกข้าและแม่อีก..." คำพูดนี้ทำให้ท่านแม่ทัพเริ่มคาดเดาได้อย่างชัดเจนว่าจอมโจรสาวคนนี้มีความเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างกับเขา
ท่านแม่ทัพมองฮูหยินใหญ่ อันเหยาเหวินด้วยความอ่อนโยนและกังวลใจ น้ำเสียงของนางที่สั่นเครือบ่งบอกถึงความกลัวที่ลึกซึ้งในใจของนาง แม่ทัพก้มลงโอบกอดนางอย่างแแ่ พยายามปลอบใจนางให้สงบลง แต่คำถามที่ติดค้างในใจของเขาไม่ได้ถูกคลี่คลายไปจากท่าทีของฮูหยินใหญ่
"อันเหยาเหวิน เ้าเป็อย่างไรบ้าง?" เสียงของท่านแม่ทัพเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แม้ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความเครียดเช่นนี้ เขาก็ยังไม่ลืมที่จะปฏิบัติต่อนางด้วยความรักและห่วงใย
ฮูหยินใหญ่ยังคงใและสั่นเทา เมื่อได้ยินคำถามของท่านแม่ทัพ นางไม่สามารถหักห้ามความกลัวในใจได้ น้ำเสียงของนางตอบกลับมาเหมือนเสียงสะอื้นจากความกลัวที่สะสมอยู่ลึกในใจของนาง
"ท่านพี่...น้องกลัวเหลือเกิน...น้องกลัวว่ามันจะกลับมาทำร้ายน้องอีก..." นางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความหวาดกลัวสุดขีด ใบหน้าของนางซีดเซียวและสายตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ท่าทีที่สูงส่งของนางในตอนนี้หายไปหมดสิ้น เหลือเพียงแค่ความหวาดกลัวที่ทำให้นางดูเหมือนคนเสียสติไป
ท่านแม่ทัพก้มลงใกล้ๆ นางและค่อยๆ ปลอบโยนนางด้วยเสียงที่อ่อนโยน
"เ้าจะปลอดภัย...อย่าเพิ่งคิดมากไป" แต่แม้จะพูดเช่นนั้น ท่านแม่ทัพยังคงรู้สึกถึงความไม่สงบในใจตัวเอง เพราะสิ่งที่เขากำลังได้ยินและได้เห็นทำให้เกิดคำถามในใจของเขา
"แท้จริงแล้ว...เ้าใช้คนของข้าไปจัดการใครกันแน่?" น้ำเสียงของท่านแม่ทัพแข็งขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ท่านพยายามหาคำตอบจากนาง นี่เป็คำถามที่เขา้าคำตอบอย่างชัดเจน เขาไม่้าคำโกหก
ฮูหยินใหญ่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมาเสียงสั่นคลอน
"ข้าแค่...สั่งให้ทหารชั้นเลวไปจัดการซูหลินแล้วก็ลูกของมันเอง..." เสียงของนางยังคงสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว แต่ในนั้นยังมีความโกรธแค้นแฝงอยู่ด้วย ซูหลินคือสาวอุ่นเตียงของท่านแม่ทัพซุนเทา และเยี่ยจิงหลินคือผลผลิตของความสัมพันธ์นั้น สตรีที่นางมองเป็ศัตรูในหัวใจและ้าจัดการให้หมดสิ้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้