หน้าที่หลักในทุกเช้าของหนิงอ้ายคือการรดน้ำ ดูเเลเเปลงสมุนไพรที่อยู่ติดกับเรือนพัก หลังจากที่ได้จัดการหน้าที่และธุระส่วนตัวทุกอย่างเสร็จสิ้นเเล้ว เด็กหนุ่มจึงเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารในเช้านี้ ตั้งใจว่าหากไม่มีเหตุจำเป็อื่นเขาจะไม่ลงไปรับอาหารที่โรงครัวของทางสำนักเเล้วด้วยเพราะไม่อยากตกเป็เป้าสายตาของผู้คนและหลีกหนีความวุ่นวายอื่นที่อาจจะตามมาภายหลัง
ไม่รู้ว่าลู่ซีและสหายคนอื่น ๆ จะเป็อย่างไรบ้าง พวกเขาที่อยู่คนละตำหนัก ่เเรกนี้จะเป็การปรับพื้นฐานก่อนที่จะเรียนรู้ศาสตร์ในขั้นอื่นต่อไป ตอนนี้กลุ่มสหายของหนิงอ้ายจึงเขียนจดหมายเวทย์เพื่อถามไถ่กันเพียงเท่านั้น มีนัดหมายพบเจอกันในอีกสองวันข้างหน้าเนื่องจากเป็วันที่ทุกตำหนักในสำนักศึกษานั้นกำหนดให้หยุดพักผ่อนนั่นเอง
กลิ่นหอมของข้าวผัดทรงเครื่องลอยฟุ้งไปทั่วทั้งเรือนพักหลังนี้ อีกทั้งหนิงอ้ายยังได้ทำซุปเยื่อไผ่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเมนูเพื่อที่ตนนั้นจะได้มีน้ำซุปร้อน ๆ ไว้ซดรับกับอากาศที่หนาวเย็นสบายของเช้าวันนี้ แม้ว่าอาหารจากโรงครัวจะมีรสชาติไม่ได้แย่ก็จริงเเต่อย่างไรก็ตามเขาก็ชินรสมือของตนเสียมากกว่า ดังนั้นหนิงอ้ายจึงตั้งใจว่าหลังจากนี้ตนจะทำอาหารให้ตนเองและท่านอาจารย์ในทุกเช้าซึ่งหากศิษย์พี่คนอื่น้าเขาก็ไม่ขัดข้องที่จะเเสดงฝีมือให้ทุกคนได้ลิ้มลองเช่นกัน
หนิงอ้ายทานอาหารมื้อเช้าที่ทำขึ้นด้วยเวลาเพียงไม่นานเท่าไหร่นัก หลังจากทำความสะอาดจานชามเเล้ว เด็กหนุ่มจึงกำชับเ้าต้าเฮยอีกครั้งว่าอย่าออกไปซุกซนที่ใด จากนั้นหนิงอ้ายจึงยกข้าวผัดทรงเครื่องพร้อมกับซุปเยื่อไผ่ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นนี้ไปทางฝั่งเรือนพักของเหวินหวู่ผู้เป็อาจารย์ของตน เมื่อไปถึงหนิงอ้ายก็พบว่าท่านอาจารย์ได้นั่งอยู่ตรงโตะหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างเรือนพัก หนิงอ้ายไม่รอช้าเข้าไปหาอีกฝ่ายในทันที
"อรุณสวัสดิ์ยามเช้าขอรับท่านอาจารย์ วันนี้ข้าทำอาหารมื้อเช้ามาให้ท่านด้วยขอรับ..."
"อาหารของเ้าช่างมีกลิ่นหอมหน้าตาสวยงามแปลกตายิ่งนัก เเล้วเ้าเล่ากินอะไรมาเเล้วหรือยัง?? หากไม่ก็มานั่งด้วยกันกับอาจารย์นี่มา..." เหวินหวู่เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกเอ็นดูเด็กหนุ่มเป็อย่างมาก ความรู้สึกที่ถูกเด็กหนุ่มเอาใจใสเช่นนี้ช่างเหมือนกับการมีลูกหลานที่คอยเป็ห่วงตนเสียจริง
"ข้าทานมาจากเรือนเเล้วเชิญท่านอาจารย์นั่งท่านได้เลยเดี๋ยวข้าขอตัวไปจัดการแปลงสมุนไพรให้ท่านอาจารย์เสียก่อน ทานให้อร่อยนะขอรับ..." หนิงอ้ายตอบกลับไปพร้อมกับเผยรอยยิ้มสดใสก่อนที่จะขอตัวเเยกไปจัดการรดน้ำดูเเลแปลงสมุนไพรให้กับอาจารย์ของตน
หนิงอ้ายและศิษย์พี่ทั้งหกรวมไปถึงทุกคนในตำหนักศาสตร์แห่งการรักษา ต่างรับทราบตรงกันว่าพื้นที่ในเรือนพักส่วนตัวของท่านอาจารย์เป็พื้นที่หวงห้ามที่ไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้ามาในบริเวณดังกล่าวนี้ ดังนั้นหน้าที่ในการดูเเลความสะอาดต่าง ๆ และการดูเเลสวนสมุนไพรของท่านอาจารย์นั้นต่างเป็ศิษย์พี่เเต่ละคนของเขาที่แวะเวียนเข้ามาดูเเลอยู่เสมอ
ถึงแม้จะใช้ยันต์ทำความสะอาดได้ก็จริงเเต่กับบางสิ่งก็ยังต้องใช้กำลังคนเท่านั้น ดังเช่นการรดน้ำสวนสมุนไพรที่หนิงอ้ายกำลังจะไปจัดการตอนนี้ ใช้เวลาเพียงไม่กี่เค่อเพียงเท่านั้นทุกอย่างก็เสร็จสิ้น
"กลับมาแล้วอย่างนั้นรึ สำหรับอาหารมื้อเช้านี้ขอบใจเ้ามากรสชาติอร่อยถูกปากอาจารย์ยิ่งนัก..." เหวินหวู่เอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มที่ตอนเเรกได้หายไปตรงหลังเรือนฝั่งสวนสมุนไพรของตนในตอนนี้ได้กลับมาเเล้ว
"หากท่านอาจารย์ชอบ หลังจากนี้ข้าจะทำให้ท่านทานทุกมื้อเลยนะขอรับ..." หนิงอ้ายตอบกลับไปด้วยความยินดีเมื่อได้ยินคำเอ่ยชมจากอาจารย์ของตน นี่เเหละความสุขของคนทำอาหารเพียงเเค่มีคนชอบก็นับว่าดียิ่งเเล้ว
หลังจากเหวินหวู่ได้เเยกตัวเข้าไปในเรือนพักเพื่อที่เตรียมการสอน ตัวของหนิงอ้ายเองได้ขอเเยกตัวนำจานชามเหล่านี้ไปทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนที่จะตามเข้ามาในภายหลัง เมื่อกลับเข้ามาก็พบว่าอาจารย์ได้นั่งรออยู่เเล้ว ตรงด้านหน้ามีเตาหลอมยาวางอยู่พร้อมกับสมุนไพรมากมายหลายชนิดที่วางอยู่ข้างกัน จากที่มองเพียงชั่วครู่หนิงอ้ายก็รับรู้ได้ว่าสมุนไพรเหล่านี้เกือบทั้งหมดเป็สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากเมื่อวานนี้ทั้งสิ้นและเป็ไปได้ว่าวันนี้เขาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการหลอมสร้างโอสถอย่างแน่นอน
"วันนี้อาจารย์จะสอนเ้าเกี่ยวกับการหลอมสร้างโอสถ สิ่งที่เ้าควรรู้คือโอสถระดับต่าง ๆ ที่ใช้ในตำหนักรวมไปถึงสำนักศึกษาเเห่งนี้เกือบทั้งหมดเป็ฝีมือของพวกเราตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาทั้งสิ้น เมื่อเ้าหลอมโอสถได้นั้นนอกจากที่จะสามารถเเลกเปลี่ยนเป็แต้มคะเเนนได้ที่อาคารส่วนกลางเเล้วเ้ายังสามารถนำโอสถที่เ้าหลอมสร้างได้ไปฝากขายได้เช่นกัน..."
"การหลอมสร้างโอสถจะเป็การสร้างโอสถต่าง ๆ ขึ้นมาจากสมุนไพรที่ถูกหลอมรวมขึ้นมาในรูปเเบบของเม็ดโอสถที่เ้าคุ้นเคย บรรดาโอสถนั้นแม้จะมีหลากหลายสูตรหลากหลายสรรพคุณก็จริง เเต่ล้วนอยู่ในกฎเกณฑ์ลำดับขั้นตั้งเเต่ระดับหนึ่งถึงระดับสิบ ความบริสุทธิ์นั้นก็เเบ่งได้เป็ความบริสุทธิ์หนึ่งส่วนไปถึงความบริสุทธิ์สิบส่วนเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าโอสถที่ดีนั้นควรที่จะมีความบริสุทธิ์ตั้งเเต่ห้าส่วนขึ้นไปจึงจะเป็การดีที่สุด..."
"ผู้หลอมสร้างโอสถจะต้องมีิญญายุทธ์ปราณธาตุไฟเท่านั้นจึงจะผ่านเงื่อนไขเเรกในการเป็นักหลอมสร้างโอสถได้ ถึงจะกล่าวเช่นนั้นเเต่อย่างไรก็ตามก็ใช่ว่าเพียงเเค่มีิญญายุทธ์ปราณธาตุไฟก็สามารถเป็นักหลอมสร้างโอสถได้ หากคนผู้นั้นปราศจากญาณััที่ล้ำลึกและิญญายุทธ์ธาตุไฟที่กล้าแกร่งมากพอก็ไม่สามารถเป็นักหลอมสร้างโอสถได้เช่นกัน ในทุกปีสำหรับการประลองหลอมสร้างโอสถของทั้งหกสำนักในมหาทวีปบูรพาเเห่งนี้นั้นย่อมเป็สำนักศึกษาของเราที่เป็อันดับหนึ่งทั้งสิ้น เเต่ใช่ว่าจะสามารถชะล่าใจได้เพราะว่าการเเข่งขันนั้นนับได้ว่าทวีสูงขึ้นในทุกปีเช่นกัน..." เหวินหวู่อธิบายออกมาให้หนิงอ้ายได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
"ข้าเข้าใจแล้วขอรับท่านอาจารย์..." หนิงอ้ายพยักหน้าทำความเข้าใจกับข้อมูลที่ตนได้รับรู้นี้
เมื่ออธิบายเกี่ยวกับหลักการเบื้องต้นเเล้วเหวินหวู่จึงเริ่มสอนให้หนิงอ้ายได้หลอมสร้างโอสถเสียที โดยจะเริ่มจากโอสถระดับหนึ่ง ครั้งนี้จะเป็ตนที่ทำให้เด็กหนุ่มได้ดูก่อน สำหรับโอสถเเรกที่ตั้งใจสอนนั้นจะเป็โอสถรักษาระดับหนึ่งที่มีคุณสมบัติห้ามเืรักษาแผลเล็กน้อยได้ ถือว่าเป็โอสถพื้นฐานที่นักหลอมสร้างโอสถล้วนต้องเรียนรู้เริ่มต้นจากจุดเดียวกันทั้งสิ้น
เหวินหวู่เริ่มต้นจากการหยิบสมุนไพรจำนวนตามสูตรของโอสถลงไป พริบตานั้นด้านหลังของชายชราได้ปรากฎเป็เงาร่างสิงโตเพลิงครอบทับก่อนที่จะถูกถ่ายเทไปยังเตาหลอมสร้างที่อยู่ด้านหน้า สองมือนั้นค่อย ๆ ประคองเปลวเพลิงนี้ให้คงที่มากที่สุดในระดับที่พอดีไม่เบา ไม่หนักจนเกินไปเพื่อให้โอสถนั้นสมบูรณ์ จากนั้นสมุนไพรเหล่านี้ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็ของเหลวความบริสุทธิ์ หนิงอ้ายััได้ว่าิญญายุทธ์ของท่านอาจารย์ในยามที่หลอมสร้างโอสถนั้นมีความลึกล้ำพิศดารเป็อย่างมาก เปลวเพลิงสีแดงลุกท่วมไปทั่งทั้งเตาหลอมโอสถ
เพียงชั่วครู่กลิ่นหอมของสมุนไพรที่ถูกหลอมด้วยิญญายุทธ์ธาตุไฟอันเเข็งแกร่งได้ส่งกลิ่นหอมอบอวนตลบไปทั่วทั้งห้อง จากนั้นเหวินหวู่ได้ประสานมือขึ้นด้วยท่าทางเฉพาะของตนบังคับให้สมุนไพรที่ตอนนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของโอสถเหลวให้ถูกบีบอัดและผนึกขึ้นเป็ลักษณะกลม ที่คล้ายคลึงกับโอสถเม็ดที่พบเห็นได้ทั่วไปในที่สุด
หากพินิจดูจากกลิ่นอายที่เเผ่ออกมาจะเห็นได้ว่าโอสถที่พึ่งถูกหลอมสร้างเสร็จนั้นเป็โอสถระดับหนึ่งที่มีความบริสุทธิ์มากถึงสิบส่วนจำนวนทั้งสิ้นห้าเม็ดที่นอนก้นอยู่ในเตาหลอมสร้างนี้
แน่นอนว่าขั้นตอนต่าง ๆ ที่ได้เห็นตั้งเเต่เเรกเริ่มจนถึงขั้นสุดท้ายได้ถูกหนิงอ้ายบันทึกไว้และทำความเข้าใจเเล้ว เหลือเเต่เพียงการลงมือทำจริงด้วยตนเองเพียงเท่านั้น การหลอมสร้างโอสถของนักปรุงยาระดับสูงเเต่ละคนถือว่าเป็ความลับเฉพาะตัวก็คงไม่เกินจริงไปนัก โดยปกตินักหลอมสร้างโอสถเเต่ละคนต่างมีวิถีที่เป็เอกลักษณ์แตกต่างกันออกไปทั้งสิ้น ดังนั้นการที่หนิงอ้ายได้เห็นการหลอมสร้างโอสถจากนักหลอมสร้างโอสถระดับสูงเช่นนี้ย่อมเป็สิ่งที่หาได้ยากยิ่งนัก
เหวินหวู่เห็นว่าลูกศิษย์ของตนนั้นน่าจะจดจำขั้นตอนการหลอมสร้างโอสถได้บ้างเเล้ว ครานี้จึงเรียกให้เด็กหนุ่มได้ลองทำดูบ้างเพราะหากผิดพลาดอย่างไรตนจะได้ชี้แนะให้ถูกต้องตามที่ควรจะเป็ เมื่อได้ยินเช่นนั้นหนิงอ้ายจึงขยับตัวมายังเบื้องหน้าเตาหลอม ก่อนที่จะหยิบสมุนไพรขึ้นมาตามจำนวนและชนิดที่ท่านอาจารย์ของตนได้ทำให้เห็นในก่อนหน้า
จากนั้นจึงเรียกิญญายุทธ์ปราณธาตุไฟของตนออกมา พร้อมกับถ่ายเทไปยังเตาหลอมที่ตอนนี้มีสมุนไพรตามสูตรโอสถอย่างคล่องแคล่ว ขั้นตอนตั้งเเต่เเรกเริ่มจนมาถึงตอนนี้เหวินหวู่ผู้เป็อาจารย์สอนถือได้ว่าถูกต้องครบถ้วนตามกระบวนการที่ควรจะเป็ทั้งสิ้น
เปลวเพลิงร้อนแรงอันเกิดจากิญญายุทธ์ปราณธาตุไฟของเด็กหนุ่มนั้นแฝงไปด้วยกลิ่นอายของชีวิตที่เข้มข้น ความร้อนที่พุ่งปะทุก่อนที่จะถูกควบคุมด้วยญาณััอันลึกล้ำด้วยความรวดเร็ว จากนั้นไม่ถึงหนึ่งเค่อภายในเตาหลอมได้ปรากฎเป็โอสถขึ้นสามเม็ด ถือได้ว่าเป็การหลอมสร้างโอสถครั้งเเรกที่เกือบจะสมบูรณ์เเบบเลยทีเดียว
เข้าใจได้เพราะเด็กหนุ่มเองพึ่งเคยหลอมสร้างโอสถเป็ครั้งเเรกถึงแม้ว่าความบริสุทธิ์ของเม็ดโอสถจะอยู่ที่ขั้นแปดถือว่าเป็โอสอถที่มีคุณสูงก็จริงเเต่ปริมาณที่ได้กลับน้อยกว่าที่ควรจะเป็ เพียงเท่านี้ก็ถือว่าหนิงอ้ายเต็มเปี่ยมไปด้วยพร์มากกว่าคนทั่วไปหลายเท่าแล้วพึงทราบว่ามีไม่น้อยเช่นกันที่หลอมสร้างโอสถครั้งเเรกเเต่ตัวเม็ดยานั้นไม่ขึ้นรูปเสียด้วยซ้ำ
"ทำได้ไม่เลว หลอมสร้างโอสถระดับหนึ่งครั้งเเรกก็มีความบริสุทธิ์มากถึงแปดส่วนเเล้ว แม้จะได้เพียงเเค่สามเม็ดผิดไปจากสูตรโอสถที่ควรจะเป็ก็จริง เเต่เพียงเท่านี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมเหนือว่าครั้งเเรกของศิษย์พี่ของเ้าทุกคนเเล้ว..." เหวินหวู่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงชื่นชมให้กำลังใจหนิงอ้าย ศิษย์ของเขาคนนี้ถึงกับทำได้ดีเช่นนี้ตั้งเเต่ครั้งเเรก นับว่ามากไปด้วยพร์กว่าเขาไปมากนักเมื่อเทียบกับ่อายุเดียวกันเเล้ว
"ทั้งหมดล้วนเป็ท่านอาจารย์ที่เมตตาสั่งสอนศิษย์ขอรับ..." หนิงอ้ายตอบกลับไป
แม้จะรู้ว่าเพียงเท่านี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จกับการหลอมสร้างโอสถในครั้งเเรกก็จริง เเต่เมื่อครู่นั้นเขาคิดว่ายังไม่แม่นยำเื่เวลามากเพียงพอ ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงเอ่ยกับอาจารย์ของตนว่าขอทำการหลอมสร้างโอสภใหม่อีกครั้ง เมื่อได้รับการพยักหน้ายินยอมละรอยยิ้มเอ็นดูจากชายชราเเล้วหนิงอ้ายจึงไม่รอช้าที่จะทำการหลอมสร้างโอสถขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้หนิงอ้ายจดจ่อและตั้งใจเป็อย่างมาก ญาณััในตัวต่างถูกเรียกใช้ออกมาทั้งสิ้น เปลวเพลิงสีแดงร้อนแรงที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของชีวิตนั้นได้ปรากฎโฉมขึ้นมาอีกครั้ง เเต่ทว่าในครั้งนี้ได้ผลึกขึ้นเป็บัวอัคคีขนาดใหญ่หนึ่งดอก จากนั้นหนิงอ้ายทำการโยนสมุนไพรตามสูตรโอสถไปยังใจกลางของบุปผาเพลิงนั่น
เพียงไม่ถึงเค่อสมุนไพรเหล่านี้ต่างแปรเปลี่ยนเป็ของเหลวบริสุทธิ์ทั้งสิ้น พร้อมกับยกมือประสานขึ้นมาด้วยท่าทางที่คล้ายคลึงกับอาจารย์ของตนไปหลายส่วน ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเร่งพลังลมปราณของตนพร้อมกับบีบอัดของเหลวนั้นให้ขึ้นรูปเป็โอสถเม็ด
จากกลิ่นอายของโอสถที่แผ่ออกมาทำให้รับรู้ได้ว่าถึงกับเป็โอสถระดับหนึ่งจำนวนห้าเม็ดครบถ้วนที่มีความบริสุทธิ์ถึงสิบส่วน ความก้าวหน้าเช่นนี้ที่หนิงอ้ายสามารถหลอมสร้างโอสถที่มีความบริสุทธิ์ถึงสิบส่วนได้ตั้งเเต่ครั้งที่สองนี้ นับว่าเด็กหนุ่มนั้นประสบความสำเร็จเป็อย่างมากเลยทีเดียว
หลังจากที่การหลอมสร้างโอสถในครั้งที่สองนี้ได้จบลงท่ามกลางความยินดีของเด็กหนุ่มและเสียงชื่นชมจากชายชราผู้เป็อาจารย์ เหวินหวู่ยังได้ให้คำแนะนำกับเด็กหนุ่มไปอีกเล็กน้อยในจุดที่อีกฝ่ายยังคงติดขัด
อีกทั้งยังบอกกับเด็กหนุ่มว่าอย่ากดดันตนเองมากจนเกินไปเพราะความกดดันนั้นสามารถทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้ แน่นอนว่าหนิงอ้ายก็รู้ตัวถึงจุดบกพร่องของตนเช่นกันจึงพยักหน้ารับคำสั่งสอนของอาจารย์ตนก่อนที่จะทำการหลอมสร้างโอสถใหม่อีกครั้ง ด้วยเพราะสมุนไพรที่ถูกจัดเตรียมในการสอนครั้งนี้มีมากมายไม่ต้องกลัวหมด โอสถที่เด็กหนุ่มได้หลอมสร้างขึ้นก็สามารถนำไปเเลกเป็แต้มคะเเนนที่อาคารส่วนกลางของตำหนักได้เช่นกัน
ตลอดระยะเวลาสามถึงเกือบสี่ชั่วยามของวันนี้หนิงอ้ายได้ใช้ไปกับการหลอมสร้างโอสถทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็โอสถห้ามเื โอสถรักษา โอสถเพิ่มลมปราณรวมไปถึงโอสถระดับหนึ่งอีกหลายชนิด เมื่อได้ทำการหลอมสร้างโอสถซ้ำ ๆ ไปนั้น ก็ทำให้เกิดความแม่นยำและห้วงการรับรู้การหลอมสร้างที่มากขึ้น
มากไปกว่านั้นหนิงอ้ายยังััได้ว่าญาณััที่ถูกเขาใช้อย่างบ้าคลั่งในวันนี้ได้ค่อย ๆ ฟื้นฟูคล้ายกับจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ สำหรับพลังลมปราณจำนวนมากที่สูญเสียไปในการหลอมสร้างโอสถในวันนี้ แน่นอนว่าโอสถเพิ่มพลังลมปราณที่เขาได้ปรุงขึ้นมานั้นก็ได้ถูกทดลองใช้กับตนเองทั้งสิ้น ถือว่าเป็การทดสอบประสิทธิภาพของโอสถที่ได้หลอมสร้างขึ้นได้เช่นกัน
"เ้าไปพักผ่อนเสียเถอะเพียงเเค่นี้ก็ถือได้ว่าเ้าทำได้ดียิ่ง อย่างไรวันพรุ่งนี้ค่อยมาทบทวนกันอีกครั้งเเล้วกัน..." เหวินหวู่เอ่ยขึ้นชมพร้อมกับลูบหัวของเด็กหนุ่มอย่างแ่เบาด้วยความเอ็นดู
ศิษย์ตัวน้อยของเขาคนนี้นับว่ามากไปด้วยพร์และมีความอดทนเป็อย่างยิ่ง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเหนื่อยล้ามากเพียงใดเเต่ยังคงตั้งใจหลอมสร้างโอสถไปเรื่อย ๆ อย่างเต็มที่อีกทั้งยังพัฒนาฝีมือของตนให้แม่นยำขึ้นในทุกครั้งซึ่งก่อนที่เด็กหนุ่มจะแยกตัวกลับเรือนพัก
เหวินหวู่ก็ได้มอบโอสถฟื้นฟูลมปราณระดับเจ็ดที่มีความบริสุทธิ์สิบส่วนให้กับเด็กหนุ่มอีกครั้งเพื่อให้เด็กหนุ่มได้ดูดซับไปพร้อมกับการเดินพลังลมปราณในคืนนี้
หนิงอ้ายเมื่อเห็นโอสถระดับสูงเช่นนี้ก็รู้สึกตื้นตันในความเมตตาของอีกฝ่ายที่มีกับตนไม่น้อย โอสถระดับเจ็ดแม้มีความบริสุทธิ์เพียงครึ่งหากมองไปทั่งทั้งยุทธภพนั้นก็ใช้ว่าจะหาได้โดยง่าย เเล้วนี่เป็ถึงโอสถระดับเจ็ดที่มีความบริสุทธิ์ถึงสิบส่วนเช่นนี้ ย่อมเป็อาจารย์ของเขาที่เป็ปรมจารย์โอสถเท่านั้นที่จะโอสถระดับสูงเช่นนี้ได้ ดังนั้นหนิงอ้ายจึงตั้งใจว่าตนในฐานะศิษย์ของอีกฝ่ายนั้นจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายขายหน้าที่รับตนเป็ศิษย์ผู้สืบทอดอย่างแน่นอน..
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้