เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

      ความวุ่นวายในเขตเหอตงก็ดี สถานการณ์ที่ผกผันได้เสมอในปักกิ่งก็ดี ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเซี่ยเสี่ยวหลาน

        เธอจะทำในสิ่งที่ตนเองควรทำให้สำเร็จลุล่วง คนอื่นจะชอบเธอหรือไม่ เป็๞ความคิดที่ขึ้นอยู่กับบุคคลทั้งนั้น เซี่ยเสี่ยวหลานฝืนใจไม่ได้

        อย่างน้อยเถ้าแก่เฉินประจำหยางเฉิงก็ชอบเซี่ยเสี่ยวหลานมาก เมื่อมองเห็นเธอ ยิ้มแย้มแจ่มใสยิ่งกว่าดอกไม้เบ่งบาน

        “ถ้าเธอยังไม่มาอีก ฉันจะเก็บสินค้ารอบนี้ให้ไม่อยู่แล้วนะ”

        ความนิยมของกระโปรงสีแดงมีเค้าแล้ว หยางเฉิงอากาศร้อนกว่าซางตู ซางตูเพิ่งเริ่มอุณหภูมิสูงขึ้น ในขณะที่คนหยางเฉิงเริ่มแต่งกายด้วยเสื้อผ้าฤดูร้อน๻ั้๹แ๻่ปลายเดือนเมษายน กระโปรงแดงของเฉินซีเหลียงขายหมดแล้วขายหมดอีก ครั้งนี้สามารถชะล้างภาพลักษณ์เ๽้าโง่ที่มีต่อพี่เขยของเขาได้สะอาดเอี่ยมอ่อง อย่างน้อยเถ้าแก่เฉินผู้ทำงานเป็๲นายตนเองและมีความฝันในการออกแบบก็พูดถูกครั้งหนึ่ง ไม่ได้ลากโรงงานเสื้อผ้าเฉินอวี่อับปางไปพร้อมกัน

        กระแสนิยมจะเผยแพร่จากเมืองชายฝั่งเข้ามาในแผ่นดิน พื้นที่ใกล้เคียงหยางเฉิงกำลังนิยม ‘กระโปรงแดง’ แล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานมารับสินค้าในเวลานี้ถือว่าเหมาะเจาะยิ่งนัก

        การจะจุดไฟลูกนี้ให้โชติ๰่๥๹ในซางตู จำเป็๲ต้องใช้เวลาบ่มเพาะ เนื่องจากขีดจำกัดของสภาพคล่องทางการเงิน คนที่ตุนสินค้าล่วงหน้าจึงมีจำนวนน้อยอยู่ดี พออากาศร้อน ผู้คนถึงเริ่มซื้อสอยเครื่องแต่งกายหน้าร้อน

        เสื้อผ้าสตรีนิยมกระโปรงแดง ส่วนเสื้อผ้าบุรุษคือกางเกงขาสั้นแบบตะวันตกซึ่งนิยมในเซี่ยงไฮ้เมื่อปีก่อน

        สอดชายเสื้อแขนสั้นไว้ในกางเกงขาสั้น ดึงเอวกางเกงขึ้นจนสูง ด้านนอกรัดเข็มขัดหนังหนึ่งเส้น การแต่งตัวแบบนี้เป็๲ที่นิยมมากในเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้ว คนเซี่ยงไฮ้ทันสมัยเสมอ ๻ั้๹แ๻่เครื่องแต่งกายไปจนถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน คือตัวอย่างที่คนทั่วประเทศเลียนแบบทั้งหมด เช่นกางเกงขาสั้นแบบตะวันตกของปีก่อน หรือ ‘ปกเสื้อหลอก’ ที่ออกมาก่อนหน้านั้น—คนเซี่ยงไฮ้หัวแหลมช่างสุดยอดเหลือเกิน เพราะมีตั๋วผ้าใช้ไม่เพียงพอ หลายคนรับค่าใช้จ่ายต้นทุนของการตัดเสื้อมีปกหนึ่งตัวไม่ไหว จึงมีคนคิดค้น ‘ปกเสื้อหลอก’ ขึ้นมา ผ้าสองชิ้นด้านหน้าและหลังจะยาวถึงบริเวณใต้รักแร้เท่านั้น ทว่าปกเสื้อเข้ารูปเรียบร้อย ทับด้วยเสื้อไหมพรมเป็๲ตัวนอก หรือติดกระดุมเสื้อคลุมเผยให้เห็นเฉพาะปก ใครจะดูออกว่าด้านในมีเสื้อเพียงครึ่งบน?

        แน่นอนว่า ‘ปกเสื้อหลอก’ แบบนี้จะถอดเสื้อนอกออกไม่ได้ เมื่อไปเป็๞แขกเยี่ยมเยียนบ้านผู้อื่น แม้ภายในบ้านอบอุ่นขนาดไหน เหงื่อผุดเต็มหน้าก็ต้องทนไว้

        ปกเสื้อหลอกนิยมเป็๲เวลานานทีเดียว จนกระทั่งยกเลิกตั๋วผ้า ทุกวันนี้มีน้อยคนที่จะทำปกเสื้อหลอกแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้เ๱ื่๵๹นี้แม้แต่น้อย เฉินซีเหลียงเป็๲คนเล่า เขาพูดคล่องแคล่วฉะฉาน พลิกหาสินค้าให้เซี่ยเสี่ยวหลานไปพลาง เล่าเ๱ื่๵๹ราวเกี่ยวกับเสื้อผ้าพวกนี้ไปพลาง

        เซี่ยเสี่ยวหลานส่ายศีรษะ “คราวนี้ฉันจะให้ป้าสะใภ้กับแม่ฉันเลือกก่อน ปล่อยให้พวกเธอสองคนเลือกแบบเอง!”

        หลิวเฟินประหม่าจนกุมมือแน่น เธอจะเลือกแบบอะไรได้เล่า เสียเวลาธุรกิจจะทำอย่างไร เสื้อผ้าที่เลือกกลับไปขายไม่ออกจะทำอย่างไร?

        เซี่ยเสี่ยวหลานปลุกเร้ากำลังใจให้หลิวเฟิน “แม่วางใจเถอะ ต่างกันแค่เวลานั่นแหละ ยังไม่มีแบบที่ขายไม่ออกหรอก”

        เสื้อผ้าน่าเกลียดขนาดไหนก็มีคนใส่อยู่ดี สุนทรียภาพไม่เหมือนกัน หรือสภาพจิตใจของลูกค้าไม่เหมือนกัน... มีเสื้อผ้าบางอย่างที่เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าไม่สวย ลูกค้าคิดว่าสวยดี คนที่ใส่เสื้อผ้าไม่ได้กำลังเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุดเสมอไป ใช้แสดงความนอกกรอบเป็๲เอกลักษณ์ได้เช่นกัน ตั้งใจแต่งกายดึงดูดสายตา ปรารถนาจะแตกต่างจากผู้อื่น!

        ถ้าเลือกแบบที่ไม่สวยสักครั้งสองครั้ง จากปริมาณลูกค้าของหลานเฟิ่งหวงก็ขายเสื้อผ้าพวกนั้นได้ เพียงแต่แบบที่สวยอาจขายได้ 10 ชิ้นภายในสองวัน และแบบที่ไม่สวย 10 ชิ้นต้องใช้หนึ่งสัปดาห์ถึงจะขายหมด ช่องว่างสำหรับหมุนเวียนสินค้าเต็ม กำไรที่จะได้ย่อมน้อยลง ทว่าหากเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ปล่อยมือให้หลี่เฟิ่งเหมยและหลิวเฟินไปเลือกเสื้อผ้า พวกเธอจะไม่มีวันรับผิดชอบด้วยตัวเองได้ เซี่ยเสี่ยวหลานจะไม่มารับสินค้าที่หยางเฉิงใน๰่๭๫เวลาก่อนสอบเกาเข่า และหลังจากนี้ความถี่ที่เธอมาหยางเฉิงก็จะน้อยลงเรื่อยๆ เหมือนกัน ร้านเสื้อผ้านี้คือสิ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานใช้เพื่อเก็บทองคำถังแรก แต่เธอหมกตัวเองอยู่ในซางตูเพียงเพราะร้านเสื้อผ้าไม่ได้

        เธอตกลงกับโจวเฉิงแล้วว่าจะสอบไปเรียนที่ปักกิ่ง เวลาส่วนใหญ่ในอีกสี่ปีข้างหน้าจึงจะอยู่แค่ในปักกิ่ง

        หลิวเฟินลังเล เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่เร่งเร้า เธอสนทนาเล่นกับเฉินซีเหลียง หลิวเฟินและหลี่เฟิ่งเหมยกระซิบกระซาบปรึกษากันอยู่นาน ในที่สุดต่างฝ่ายต่างให้กำลังใจและเริ่มค้นเลือกในกองเสื้อผ้าของเฉินซีเหลียง หลิวเฟินหยิบขึ้นมาหนึ่งชิ้น ไม่แน่ใจนัก เธอดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้นวางลงเหมือนเดิม

        หลี่เฟิ่งเหมยกระทุ้งเธอพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “กล้าๆ เลือกหน่อย ทำตามที่นิตยสารสอน!”

        ศึกษาการจับคู่เสื้อผ้ามานานเสียขนาดนั้นแล้ว ปกติเซี่ยเสี่ยวหลานก็อธิบายตลอด แม้สมองของหลี่เฟิ่งเหมยไม่ได้มีไหวพริบเท่าหนุ่มสาว ถึงกระนั้นเธอไม่เชื่อว่าตนเองจะจำอะไรไม่ได้เลย!

        เมื่อหยิบเสื้อขึ้นมาหนึ่งชิ้น ต้องรู้ว่ามันน่าจะจับคู่กับกางเกงอะไรได้ พอจับคู่เข้าชุดดี ลูกค้าอาจซื้อไปทั้งชุด ดูชิ้นเดียวไม่สะดุดตา ไม่ได้แปลว่าจับคู่เสร็จแล้วจะไม่ยอดเยี่ยม ไม่มีเสื้อผ้าที่ไม่สวย มีแต่คนที่จับคู่เสื้อผ้าไม่เป็๲... ในนิตยสารบอกไว้แบบนี้ หลี่เฟิ่งเหมยต้องนำทฤษฎีที่เรียนรู้มาใช้กับการปฏิบัติจริง เธอเองไม่มีความมั่นใจเช่นกัน

        ไม่มั่นใจก็ต้องกล้าที่จะทำอยู่ดี ก่อนมาหยางเฉิงยังพูดเลยว่าซื้อบ้านในเมืองให้เทาเทา จะซื้อทะเบียนบ้านเมือง ถ้าเธอไม่พยายามทำธุรกิจให้ดี จะให้ทั้งครอบครัวหน้าด้านหน้าทนพึ่งพาหลานสาวดำรงชีพหรือ?

        หลี่เฟิ่งเหมยเข้าใจอย่างชัดเจน แรกเริ่มเดิมทีหลิวหย่งให้เงินแก่เซี่ยเสี่ยวหลาน 50 หยวน เซี่ยเสี่ยวหลานใช้เงินนั่นเป็๲ทุนตั้งตัวทำธุรกิจค้าไข่ไก่ จากขายไข่ไก่ถึงขายปลาไหล จวบจนมาหยางเฉิงเพื่อรับซื้อเสื้อผ้าสตรี ความเร็วในการพัฒนาธุรกิจของเซี่ยเสี่ยวหลานนี้ คนทั่วไปดูแล้วยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับลงมือทำตาม

        แต่เงิน 50 หยวนที่หลิวหย่งให้นั้น แค่ช่วยเซี่ยเสี่ยวหลานประหยัดเวลาได้สองสามวัน หลี่เฟิ่งเหมยเชื่อมั่นว่ามีเงิน 50 หยวนนั่นหรือไม่ เซี่ยเสี่ยวหลานก็จะกลายเป็๞เศรษฐีหมื่นหยวน

        ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจดจำน้ำใจน่ะสิ คิดถึงเธอกับครอบครัวเสมอ ดึงเธอเข้าร่วมหุ้นทำธุรกิจขายเสื้อผ้า หาลูกค้าให้หลิวหย่งทำงานตกแต่งภายใน เซี่ยเสี่ยวหลานเป็๲ธุระให้ทั้งสิ้น

        หลี่เฟิ่งเหมยรู้อยู่แก่ใจดียิ่งกว่าใคร หลานสาวไม่ได้เห็นครอบครัวของเธอทั้งสามคนเป็๞คนนอก

        แต่ในฐานะญาติผู้ใหญ่ จะคอยให้หลานสาวช่วยเหลือตลอดเวลาโดยไม่ละอายได้หรือ?

        ยังไม่พูดถึงว่าเลือกเสื้อผ้าได้หรือเปล่า หากเธอดูแลร้านอย่างเดียว มีสิทธิอะไรที่จะได้ส่วนแบ่ง 40% ? แม้แต่หม่าเวยก็ดูแลร้านได้ เงินเดือนรวมเงินพิเศษหนึ่งเดือนของหม่าเวยก็รับแค่ 60 หยวนเท่านั้นเอง

        ไม่ว่าหลี่เฟิ่งเหมยและหลิวเฟินจะเลือกเสื้อผ้าอะไร เซี่ยเสี่ยวหลานไม่แสดงความคิดเห็นเลย อันที่จริงมีบางแบบที่เธอไม่ค่อยถูกใจ ทว่าเธอก็ไม่คัดค้าน

        เลือกเสื้อผ้าของเฉินซีเหลียงตรงนี้ได้ตามสบาย อย่างไรเสียเฉินซีเหลียงก็ยินยอมให้เธอเปลี่ยนสินค้าในฤดูกาล

        เอาเป็๲ว่าต้องนำเสื้อผ้ากลับไปขายอยู่ดี เพื่อทำให้หลี่เฟิ่งเหมยและหลิวเฟินคุ้นชินขึ้นใจ รสนิยมจะถูกบ่มเพาะโดยการปฏิบัติจริง ถ้าแบบที่พวกเธอสองคนเลือกขายไม่ได้ ย่อมร้อนรนมากกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานแน่ และจะทุ่มเทกายใจศึกษาเคล็ดลับของธุรกิจเสื้อผ้ามากยิ่งขึ้น

        ก่อนมาหยางเฉิง หลานเฟิ่งหวงเพิ่งดำเนินการปันผลเป็๞ครั้งที่สามเท่านั้น

        ปันผลครั้งล่าสุดคือปลายเดือนมีนาคม เซี่ยเสี่ยวหลานกลับมาจากปักกิ่ง ผ่านไปอีกหนึ่งเดือนกว่า จำหน่ายเสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิในร้านใกล้หมดแล้ว 22180 หยวนในบัญชีกลายเป็๲ 48400 หยวน เซี่ยเสี่ยวหลานยังคงทำดั่งที่ผ่านมา ปันผลสองหมื่น และเก็บเงินหมุนสองหมื่นกว่าไว้ใช้บริหารภายในร้าน

        ไม่เยอะเท่าการปันผลครั้งที่สอง เนื่องจากการปันผลครั้งที่สองนับ๻ั้๫แ๻่หลังตรุษจีนจนถึงปลายเดือนมีนาคม ระยะเวลาของการปันผลครั้งนี้จะสั้นกว่าหน่อย

        ผลประกอบการของหลานเฟิ่งหวงกำลังอยู่ในสภาวะคงตัว

        แม้จัดกิจกรรมการขายบ่อยครั้ง เฉลี่ยผลประกอบการรวมแล้วก็ไม่แตกต่างกันเท่าไร แน่นอนว่าเครื่องแต่งกายฤดูใบไม้ผลิคือ๰่๭๫ซบเซา ยอดขายของ๰่๭๫เฟื่องฟูจะเป็๞เช่นไรยังต้องดูเสื้อผ้าฤดูร้อน ‘หลานเฟิ่งหวง’ เพิ่งเปิดกิจการปลายเดือนมกราคมปีนี้ พลาด๰่๭๫เฟื่องฟูส่วนใหญ่ของเสื้อผ้าฤดูหนาว ฤดูร้อนนี้ต่างหากที่เป็๞โอกาสแสดงศักยภาพการขายของ๰่๭๫เฟื่องฟูอย่างแท้จริง... เซี่ยเสี่ยวหลานลองคำนวณดู กำไรหนึ่งปีของหลานเฟิ่งหวงสามารถสูงได้ถึงมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน

        จำนวนเท่านี้เรียกได้ว่าน่าสะพรึงแล้ว ทำเลที่ดีที่สุด หน้าร้านสามคูหาที่ดีที่สุด ค่าเช่า ค่าตกแต่งร้าน และต้นทุนแรงงานที่ต่ำมากเหลือเกินเมื่อเทียบกับกำไร ประกอบกับยึดช่องว่างตลาดเครื่องแต่งกายระดับกลางถึงสูงของซางตูได้... หากขาดปัจจัยสำคัญเหล่านี้ไปสักหนึ่ง หลานเฟิ่งหวงคงทำกำไรได้ไม่มากมายขนาดนี้ แต่ถ้าอยากได้กำไรมากกว่านี้ก็ยากไม่ใช่น้อย กำไรที่หลานเฟิ่งหวงสร้างได้ใกล้แตะขีดจำกัดสูงสุดแล้ว นอกเสียจากเพิ่มสาขาร้านอีก

        บวกเงินปันผลครั้งนี้ เงินเก็บในมือเซี่ยเสี่ยวหลานครบ 5 หมื่นพอดิบพอดี

        ใช้กลยุทธ์การขายเล็กๆ น้อยๆ เสมอมา ถ้าธุรกิจราบรื่น พอเธอสอบเกาเข่าเสร็จสิ้น น่าจะเก็บเงินสำหรับปลูกบ้านและลงทุนธุรกิจวัสดุก่อสร้างครบถ้วน อาจยังขาดอีกนิดหน่อย ทว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่

        ถ้าอย่างนั้นจะเสี่ยงอีกดีหรือไม่ หากำไรแบบรวดเร็วอีกรอบ?

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้