ข้างนอกยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่เหยียนชิงที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้า ไม่ได้วางแผนที่จะรอให้ฝนหยุด ใครเล่าจะรู้ว่าฝนจะหยุดลงเมื่อใด
เขาหันไปสั่งการ ให้คนไปเตรียมน้ำร้อนและเสื้อผ้าสะอาดที่เรือนหลังใหม่ จึงให้แม่สื่อนำทางพาคนถือร่มแดงออกไปรับเ้าสาว เมื่อทุกคนได้เห็นกับตาต่างก็รู้สึกชื่นชมอีกครั้ง
มองไปที่เด็กหนุ่มในชุดมงคลที่ไม่พอดีกับตัว เสื้อผ้าก็ยังต้องให้คนรับใช้คอยดูแล ทว่าแผ่นหลังอันบอบอบบางกลับมั่นคงเด็ดเดี่ยว ฮูหยินเหยียนรู้สึกสับสน นี่คือความรับผิดชอบและความกล้าหาญของบุรุษตระกูลเหยียนที่ควรจะมี จงรักภักดีและกตัญญู มีบุตรเช่นนี้อยู่ เหตุใดจึงต้องกังวลใจด้วยเล่า
เหยียนลั่วลูกอกตัญญู ไม่กลับมาก็ช่างมันเถอะ หากกลับมาจะหักแขนขาทั้งสองข้างให้หมด ให้คุกเข่าเจ็ดวันเจ็ดคืนหน้าสุสานบรรพบุรุษ
เหยียนชิงออกจากประตูบานใหญ่ พบว่าฝนตกอย่างหนักอยู่นอกประตู เกี้ยวสีแดงถูกทิ้งไว้ท่ามกลางสายฝน ทั้งผ้าสีแดงและดอกไม้สีแดงต่างเปียกโชกแนบไปกับเกี้ยว
คนแบกเกี้ยว สาวใช้ คนตีฆ้องและกลองหายไปนานแล้ว มันก็ใช่ เดิมทีคนเหล่านี้ล้วนใช้เงินจ้างมาทำการแสดงฉากนี้ นานขนาดนี้แถมฝนยังตกลงมาอีก ไม่ไปก็แปลกแล้ว
เหยียนชิงมองเกี้ยวเ้าสาวที่โดดเดี่ยว เมื่อคิดว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในคือแม่ทัพที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งแคว้นเทียนซูในอนาคต เขาตกอยู่ในภวังค์อย่างไม่อาจควบคุมได้
ชาติที่แล้วก็เวลานี้เช่นกัน เขาเป็ลมตื่นขึ้นมาก็ไม่ยอมออกมาจากเกี้ยว หลังจากฝนหยุดตก เหยียนิฮ่วนก็แต่งงานกับเว่ยซูหานแทนท่านพี่ไปแล้ว เดิมทีควรเป็สามีพี่ชาย แต่กลายเป็สามีของลูกพี่ลูกน้องแทน หลังจากนั้น เวลานรกของเว่ยซูหานก็เริ่มต้นขึ้น
เพราะพี่ใหญ่ไม่กลับมาอีกแล้ว เขาอุทิศตัวเองเพื่อทำตามคำขอสุดท้ายของท่านพ่อในการสอบเป็ขุนนาง หลังจากถูกท่านแม่เลี้ยงดู อธิปไตยของตระกูลเหยียนก็ค่อยๆ ตกไปอยู่ในน้ำมือของเหยียนิฮ่วน บวกกับการหมั้นหมายที่คอยผสมโรง ต่อมาเหยียนิฮ่วนจึงกลายเป็ผู้นำตระกูล และท้ายที่สุดตระกูลเหยียนก็ถูกทำลายด้วยนำมือของเขา น้องสาวคนเล็กเหยียนหานและท่านแม่ล้วนแล้วแต่ไม่ตายดี
วันนี้ เขาจะเปลี่ยนเคราะห์ร้ายที่ประสบเมื่อชาติที่แล้วใหม่ นับจากนี้เป็ต้นไป เว่ยซูหานจะเข้าสู่ตระกูลเหยียนในฐานะฮูหยินของเขา เขาหวังเป็อย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยให้ตระกูลหลีกเลี่ยงความโชคร้ายในอนาคตได้ หวังว่าผู้บริสุทธิ์จะไม่ประสบเคราะห์ร้ายอีก
ค่อยๆ เดินเข้าใกล้เกี้ยวเ้าสาวทีละก้าว ฝนตกใส่หัวและหน้าโครมๆ ร่มที่กางไว้กลับไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ร่างกายทุกคนเปียกโชกไปทั้งร่าง เครื่องสำอางบนใบหน้าแม่สื่อละลายหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาบ่นสักคำ
ไม่มีขบวนฆ้องและกลอง แม่สื่อะโคำยินดีท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก หลังจากนั้นเปิดม่านแดงของเกี้ยวและะโบอกคนด้านใน
“ฮูหยิน คุณชายรองมารับท่านแล้ว โปรดลงจากเกี้ยวเถิด”
หลังจากนั้นครู่เดียว คนในเกี้ยวก็ตอบรับกลับมาอย่างแ่เบา ฝนตกหนักจนได้ยินไม่ชัด แต่เหยียนชิงแน่ใจว่าเขารับคําแล้ว จึงก้าวไปข้างหน้าและยื่นมือออกไป เพราะยังไม่ได้ทําพิธีมงคล ฝ่ามือจึงเย็นเฉียบ
ผ่านไปอีกสักพัก มือที่เห็นข้อกระดูกชัดเจนยื่นมาบนฝ่ามือของเขา หากดูอย่างไม่ตั้งใจ ฝ่ามือสามารถคลุมมือเขาได้ทั้งหมด เหยียนชิงถือโอกาสนี้ไว้ คนที่สูงกว่าเขาคลุมผ้าเ้าสาวลงมาจากเกี้ยว ยืนตัวตรง เหยียนชิงที่ยืนอยู่สูงถึงแค่หน้าอกของเขา
ส่วนสูงที่ต่างกันทําให้เหยียนชิงเม้มปากโดยแรง โชคดีที่เป็คนที่รู้จักปฏิบัติตัวมาสองชาติแล้ว หากชาติที่แล้วให้เขาแต่งงานกับผู้ชายที่มีท่าทางเช่นนี้ เขาก็คงเป็เหมือนพี่ชาย
ร่มกันฝนที่ถืออยู่ไม่มีประโยชน์อะไร ทุกคนเดินไปที่ประตูเข้าไปที่ห้องโถง ตลอดทางมีเพียงแม่สื่อที่ะโคำยินดีอย่างขยันขันแข็ง ถ้าไม่มีเสียงฝน คงเป็ฉากที่จืดชืดมากทีเดียว เหยียนชิงคิด เดี๋ยวจะไม่ลืมกำชับให้ลุงฝูให้เงินรางวัลแก่แม่สื่อเยอะๆ