“อ๊า...”
เซียวจื่อเมิ่งใจนส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น พุ่งไปด้านหน้าพลางร้องะโเซี่ยยวี่หลัวหัวใจแทบสลายเมื่อได้เห็นท่าทางน่าสงสารนั้น
ในนามีส่วนที่เป็พื้นดินแห้งแข็ง และมีส่วนที่เป็ดินโคลนเซียวจื่อเมิ่งวิ่งไปไม่กี่ก้าวก็ย่ำลงดินโคลน จนหกล้มหัวคะมำบนกางเกงและเนื้อตัวเต็มไปด้วยดินโคลน ท่าทางตื่นตระหนกถึงขีดสุด
เซียวจื่อเมิ่งล้มจนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนทั้งยังใกลัวเพราะงู จึงส่งเสียง “โฮ” ร้องไห้ทันที
เซียวจื่อเซวียนเห็นน้องสาวหกล้ม โมโหจนกำหมัดแน่น คิดจะไปบัญชีกับตัวต้นเหตุ
คนที่ร้องะโเมื่อครู่คือเซียวต้าหมินบุตรชายของท่านป้าเถียนเอ๋อในหมู่บ้าน เมื่อเซียวต้าหมินเห็นเซียวจื่อเซวียนจะมาตีก็รีบร้องะโ “เซียวจื่อเซวียนข้าไม่ได้โกหก ข้าเห็นอย่างชัดเจนว่ามีงู ไม่เชื่อเ้าลองถามพวกเขาดู”
เด็กเ่าั้ล้วนแต่เป็คนที่ร่วมกันวางแผนกลั่นแกล้งเซียวจื่อเมิ่งเมื่อครู่ย่อมต้องบอกว่ามีงู
“พวกเราก็เห็น เมื่อครู่มันเลื้อยหนีไปแล้ว”
พูดจาโกหกสมจริงเสียยิ่งกว่าอะไร
เซียวจื่อเซวียนกำหมัดแน่นแค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกลับทำอะไรไม่ได้ เขายังต้องไปปลอบจื่อเมิ่งอีก
คางของเซียวจื่อเมิ่งกระแทกดินโคลน ตรงคางเต็มไปด้วยโคลนบนตัวก็สกปรกยิ่งนัก พวกเซียวต้าหมินชะเง้อคอรอดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
คราวนี้เซียวจื่อเมิ่งทำเสื้อผ้าเลอะเปรอะเปื้อนขนาดนี้ต้องโดนด่าแน่นอน
เซี่ยยวี่หลัววิ่งไปพยุงเซียวจื่อเมิ่งให้ลุกขึ้นด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนจากนั้นจึงย่อตัวลงข้างกายนาง ตรวจดูร่างกายนางด้วยความร้อนใจ “จื่อเมิ่ง เจ็บที่ใดบ้าง?”
เมื่อเซียวจื่อเมิ่งเห็นพี่สะใภ้ใหญ่วิ่งเข้ามาจึงไม่กล้าร้องไห้ เพราะกลัวว่าจะโดนด่าอีก จึงได้แต่เบะปาก พร้อมกลั้นน้ำตาหยาดน้ำตาคลอเต็มเบ้า ขอบตาเป็สีแดง ท่าทางเช่นนี้น่าสงสารเสียยิ่งกว่าอะไร
เมื่อเซี่ยยวี่หลัวเห็นนางไม่ได้าเ็ตรงไหนจึงวางใจ จึงรีบนำผ้าเช็ดหน้าออกมาชุบน้ำในคูนาเพื่อเช็ดหน้าให้เซียวจื่อเมิ่ง เซียวจื่อเมิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อนกัดริมฝีปากยืนนิ่งด้วยท่าทางว่าง่ายอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้เซี่ยยวี่หลัวเช็ดหน้านางจนสะอาด
“เอาล่ะ เช็ดหน้าสะอาดแล้ว เป็จื่อเมิ่งที่สะอาดแล้ว” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว ก่อนช่วยล้างมือเซียวจื่อเมิ่งจนสะอาด
ตอนที่เซียวจื่อเซวียนหันกลับมาก็เห็นเซี่ยยวี่หลัวกำลังเช็ดหน้าให้จื่อเมิ่งประกายห่วงใยจากเบื้องลึกแววตาและท่าทางระมัดระวังนั่นไม่เหมือนการเสแสร้ง
พวกเซียวต้าหมินต่างก็นิ่งอึ้ง เซียวจื่อเมิ่งหกล้มเซี่ยยวี่หลัวไม่ด่านาง ทั้งยังช่วยเช็ดให้นางจนสะอาด?
เื่ที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าคือ เมื่อเห็นเซี่ยยวี่หลัวหยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดผืนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อก็เปิดผ้าออก ภายในมีขนมหอมหวานสองชิ้น ราวกับเล่นกลก็มิปาน
เมื่อเซียวต้าหมินเห็นขนม ก็จ้องตาไม่กะพริบ
เซี่ยยวี่หลัวถือขนมไว้ มอบให้เซียวจื่อเมิ่งเหมือนมอบสมบัติล้ำค่าให้ “มา กินขนมก่อน!”
เซียวจื่อเมิ่งมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทางขลาดกลัวแววตาเต็มไปด้วยความปรารถนาและหวาดกลัว นางอยากกิน แต่ไม่กล้ากิน
ทว่า ขนมในมือนางช่างหอมนัก
ถึงอย่างไรเซียวจื่อเมิ่งก็ยังเป็เด็กไม่อาจต้านทานของอร่อยได้แม้แต่น้อย รับขนมมาด้วยท่าทางหวั่นๆ ก่อนเริ่มกินนางกินไปพลางมองเซี่ยยวี่หลัวไปพลาง เซี่ยยวี่หลัวยิ้มตลอดเวลาเมื่อเห็นว่านางไม่ร้องไห้แล้ว จึงใช้ผ้าเช็ดหน้าช่วยเช็ดคราบดินโคลนบนกายออก
เซียวจื่อเซวียนยืนเฝ้ามองด้วยอาการเหม่อลอยอยู่ข้างๆ
คนที่อึ้งยิ่งกว่าคือเด็กเ่าั้ เซียวจื่อเมิ่งหกล้มเซี่ยยวี่หลัวไม่เพียงไม่ด่านาง ทั้งยังให้นางกินขนมอีก จะเป็ไปได้อย่างไร?
หลังจากเซี่ยยวี่หลัวเช็ดคราบสกปรกบนตัวเซียวจื่อเมิ่งแล้วจึงล้างผ้าเช็ดหน้าให้สะอาด ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ล้างผักอยู่ตรงคูน้ำอย่างสบายอารมณ์เมื่อเด็กเ่าั้เห็นว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ด่าคน ก็ไม่มีอะไรให้ดูแล้วต่างก็แยกย้ายกันไปเก็บผักป่าต่อ
เมื่อครู่มัวคิดแต่จะดูเื่สนุกเพิ่งเก็บผักป่าได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
เซียวต้าหมินกำลังเก็บผักอย่างตั้งอกตั้งใจ จู่ๆ ก็มีคนส่งเสียงกรีดร้องดังลั่นอยู่ข้างๆว่า “มีงู” น้ำเสียงกรีดร้องแหลมจนแทบทะลุแก้วหูเซียวต้าหมินก็เป็คนกลัวงู เมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นข้างกายตัวเอง ก็ใจนะโโหยงเหยียบตะกร้าที่ตนเองนำมาด้วยจนแบน เกิดเสียงดัง “แกรบ” ผักป่าที่เก็บมาถูกเขาเหยียบจนเสียหาย
เซียวต้าหมินไม่มีแก่ใจจะสนใจสิ่งเ่าั้ใจนรีบวิ่งไปด้านหน้า เมื่อถึงสถานที่ปลอดภัยแล้วจึงหยุดลง หายใจหอบพลางถาม “งู งู งูเลื้อยไปหรือยัง?”
เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่ที่เซียวต้าหมินย่อตัวเมื่อครู่ใช้มือปิดปากกล่าวด้วยท่าทางเก้อเขิน “ขอโทษที งูไปไหนแล้วล่ะ...”
เซี่ยยวี่หลัวก้มตัว เซียวต้าหมินมองตามท่าทางของนาง จึงเห็นเซี่ยยวี่หลัวก้มตัวเอื้อมมือเรียวงามเก็บผ้าเช็ดหน้าสีขาวดุจหิมะขึ้นมาผ้าเช็ดหน้ากับงู...
มันจะเหมือนกันได้อย่างไร!
เซียวต้าหมินโมโหจนะโด่าเสียงดัง “เ้าหลอกข้า!”
“อัยยะ ใครหลอกเ้ากัน เมื่อครู่ข้าเห็นงูจริงๆ แต่มันอาจใเ้าจนเลื้อยหนีไปแล้วก็เป็ได้เ้าจะมาโทษข้าไม่ได้ เมื่อครู่เ้าเองก็เห็นงูเหมือนกันไม่ใช่หรือ ฉะนั้นในนาแห่งนี้มีงูจริงๆ! เ้ามองเห็น ข้าก็มองเห็นเหมือนกัน”
เซียวต้าหมินโมโหเกรี้ยวกราด “เ้า...”
ช่างเป็สตรีจิตใจชั่วร้ายดุจอสรพิษจริงๆ
ตะกร้าโดนเหยียบจนพัง ผักป่าก็โดนเหยียบจนเสียหายกลับไปต้องถูกท่านแม่ด่าแน่นอน
ลมหนาวพัดผ่าน แผ่นหลังเซียวต้าหมินแฉะชื้นไปด้วยเหงื่อรู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาอย่างอดมิได้
แต่เซี่ยยวี่หลัวกลับหัวเราะร่า หิ้วตะกร้าขึ้นจูงเซียวจื่อเมิ่งเดินจากไป
เซียวจื่อเซวียนเม้มริมฝีปากแน่น ตอนที่มองไปทางเซียวต้าหมิน สายตานั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
เมื่อครู่ถือว่าเซี่ยยวี่หลัวแก้แค้นแทนน้องสาวนี่เรียกว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง
เซียวจื่อเซวียนยกยิ้มมุมปาก จู่ๆ ก็ตระหนักถึงอะไรบางอย่างรอยยิ้มบนใบหน้าพลันแข็งทื่อทันที
เซี่ยยวี่หลัวน่ะหรือจะช่วยน้องสาวสั่งสอนเซียวต้าหมิน?
ปกติหากน้องสาวทำเสื้อผ้าเลอะนอกจากนางจะด่าแล้วยังรังเกียจด้วย นางไม่สนใจเื่ในเรือนสักนิดขอเพียงเสื้อผ้าที่นางสวมใส่งดงามก็พอ วันนี้เซี่ยยวี่หลัวช่วยน้องสาวทำให้เซียวจื่อเซวียนรู้สึกผิดคาดนัก
เซี่ยยวี่หลัวใน่สองวันนี้ ต่างจากที่ผ่านมาจริงๆ!
เซี่ยยวี่หลัวจูงมือเซียวจื่อเมิ่งกลับบ้าน
เสื้อผ้าบนตัวเซียวจื่อเมิ่งสกปรก ใส่ต่อไม่ได้แล้วเซี่ยยวี่หลัวไปต้มน้ำที่ห้องครัว รอจนน้ำเดือดจึงยกน้ำร้อนถังใหญ่ไปที่ห้องตัวเองในห้องของนางมีอ่างอาบน้ำ เมื่อเตรียมน้ำเสร็จแล้วเซี่ยยวี่หลัวจึงไปหาเซียวจื่อเมิ่ง
เพราะความอ่อนโยนของเซี่ยยวี่หลัวเมื่อครู่นี้จึงทำให้เซียวจื่อเมิ่งไม่ได้กลัวเหมือนเดิมแล้ว เมื่อเห็นเซี่ยยวี่หลัวเข้ามา จึงรีบลุกขึ้นแม้จะยังกลัวอยู่ แต่ก็ยังเรียกพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยท่าทางหวั่นเกรง
ถึงน้ำเสียงจะเบาบางมาก แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าก่อนหน้านี้
นี่คือความเปลี่ยนแปลง
เซี่ยยวี่หลัวยกยิ้ม “ไปห้องข้าเถอะ ข้าเตรียมน้ำอาบไว้แล้ว จะช่วยอาบน้ำให้ดูเ้าสิเลอะไปทั้งตัว เหมือนลูกแมวตัวเปื้อนก็มิปาน!”
เมื่อเซียวจื่อเมิ่งได้ยินว่าเซี่ยยวี่หลัวจะอาบน้ำให้ตัวเองก็จ้องมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทางใกลัว
อย่าว่าแต่อาบน้ำเลย แค่เื่ช่วยเช็ดหน้าให้ใน่บ่ายก็ยังถือเป็ครั้งแรก!
เซียวจื่อเซวียนไม่เชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวจะหวังดีขนาดนั้นขวางอยู่ตรงหน้าเซียวจื่อเมิ่ง กล่าวด้วยถ้อยคำเด็ดขาด “ข้า… ข้าจะอาบให้น้องสาวเอง!”
เขาจ้องมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยแววตาหวาดกลัวร่างกายซูบผอมขวางอยู่หน้าเซียวจื่อเมิ่ง เพราะกลัวว่าเซี่ยยวี่หลัวจะทำร้ายน้องรักของตน