หลังจากตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้วคุณหมอก็แจ้งกับูเี่อันว่า าแที่หน้าผากไม่ได้หนักหนาอะไรแค่ฟกช้ำเท่านั้นแต่อาการแพลงบริเวณข้อศอกขวาอาจจะต้องใช้เวลารักษาประมาณหนึ่งอาทิตย์
ูเี่อันส่องกระจกมองรอยฟกช้ำบนหน้าผากซึ่งน่าจะส่งผลต่อการที่เธอต้องร่วมงานเลี้ยงครบรอบของเครือลู่
“หมอหลี่คะมียาอะไรที่ช่วยทำให้รอยช้ำหายเร็วบ้างไหมคะ” เธอถาม“จะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยก็ไม่เป็ไรค่ะ ฉันอยากให้มันจางลงภายในสองวัน”
“มีครับ”หมอหลี่พยักหน้า “เดี๋ยวผมจะจ่ายยาให้ คุณนำใบนี้ไปให้ที่ห้องจ่ายยาบริเวณชั้นหนึ่งได้เลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
ูเี่อันรับใบสั่งยาจากหมอหลี่จากนั้นจึงเรียกลั่วเสี่ยวซีให้ลงไปข้างล่างพร้อมกันแต่เมื่อหันหลังเตรียมจะออกจากห้องก็เห็นลู่เป๋าเหยียนกำลังยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูเธอหันมามองหน้าลั่วเสี่ยวซีอย่างใ
ลั่วเสี่ยวซียักไหล่“ฉันไม่ได้โทรหาเขานะ แต่โทรหาพี่ชายเธอให้เขาไปจัดการยัยเฉินเสวียนเสวียนซะ”ลั่วเสี่ยวซีพูดพลางยิ้ม “งั้น...ในเมื่อบอสลู่มาแล้ว จะอยู่ต่อก็คงไม่มีประโยชน์ฉันกลับบริษัทก่อนนะ”
พูดจบลั่วเสี่ยวซีก็รีบหายตัวออกจากจุดนี้อย่างรวดเร็วลู่เป๋าเหยียนเดินเข้ามาพลางพูดสั่งเสียงเข้ม
“เอาใบสั่งยามาให้ฉัน”
ูเี่อันยื่นมันให้เขาอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินตามหลังเขาไปโดยทิ้งระยะห่างไว้สองสามก้าว
หลังเข้าไปในลิฟต์บรรยากาศอันน่าอึดอัดก็เข้าปกคลุมไปทั่ว ูเี่อันรู้สึกทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่ยืนหลบมุมอยู่อย่างนั้น
“ที่จริงนายไม่ต้องลำบากมาที่นี่ก็ได้เสี่ยวซีก็...”
“เธอไม่อยากให้ฉันลำบากแต่อยากให้คนอื่นลำบาก?”ลู่เป๋าเหยียนพูดขัดเสียงเย็น
“เพราะเธออยากให้ลั่วเสี่ยวซีได้เข้าวงการไวๆครูฝึกสอนจึงจัดตารางเอาไว้แน่น เธอเรียกเพื่อนของเธอออกมาตามใจแบบนี้ กระทบกับลั่วเสี่ยวซีหลายอย่างไม่เพียงแต่กำหนดการที่ถูกวางไว้เท่านั้น”
ูเี่อันนิ่งอึ้งเธอแค่ไม่อยากรบกวนเขาก็แค่นั้น ทำไมมันลามไปถึงเื่ลั่วเสี่ยวซีได้ล่ะเนี่ย?
“ฉันขอโทษ...”เธอก้มหน้างุดก่อนเอ่ย “ฉันไม่ได้...”
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วก่อนจะพูดเสียงเย็นกว่าเดิม
“พอได้แล้ว!”
ูเี่อันสูดหายใจลึกอย่างพยายามข่มความโกรธเอาไว้ครั้งที่สองแล้วนะ ถ้าลู่เป๋าเหยียนตะคอกเธออีก เธอจะไม่เกรงใจเขาแล้ว!
แต่พวกเธอทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนกระทั่งรับยาเสร็จ เขาก็พาเธอออกจากโรงพยาบาลไป
ไม่รู้เป็เพราะลู่เป๋าเหยียนรีบร้อนมากหรืออย่างไรถึงได้จอดรถทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลทั้งๆ ที่เป็ที่ห้ามจอดเขาเปิดประตูฝั่งที่นั่งคนขับเธอ
“ขึ้นรถ”
“ฉันเรียกรถกลับเองก็ได้”ูเี่อันรู้ว่าเขางานยุ่ง จึงไม่อยากรบกวนเขา “นายกลับบริษัทเถอะ”
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตามอง“ขึ้นรถซะ อย่าให้ฉันพูดซ้ำอีกรอบ”
แววตาของเขาเย็นะเืจนูเี่อันเริ่มรู้สึกเสียวสันหลัง จึงทำได้แต่ขึ้นรถอย่างว่าง่าย
ลู่เป๋าเหยียนสตาร์ทรถสายตาเย็นของเขามองถนนด้านหน้า ก่อนจะพูดด้วยเสียงเข้ม
“เฉินเสวียนเสวียนชนเธอยังไง”
เอ๋? ทำไมเขาไม่ถามว่าเพราะอะไรเฉินเสวียนเสวียนถึงขับรถชนเธอเขามั่นใจได้อย่างไรว่าเื่นี้เธอไม่ใช่คนผิด?
แต่ไม่ถามก็ช่างูเี่อันเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เขาฟังก่อนจะมองซีกหน้าด้านข้างของเขาหลังพูดจบ
“เข้าใจแล้ว”
ปฏิกิริยาของเขาดูเ็าราวกับแค่ถามไปอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะเป็ห่วงเธอ
ูเี่อันเริ่มน้อยใจเธอหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง เธอน่าจะคิดได้นะว่าเฉินเสวียนเสวียนกับหานรั่วซีเป็เพื่อนซี้กันลู่เป๋าเหยียนจะจัดการเฉินเสวียนเสวียนเพื่อเธอได้อย่างไร
แต่ว่า...นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่จัดการเฉินเสวียนเสวียนด้วยตัวเองเมื่อกี้ถ้าไม่ใช่เพราะโชคช่วย เธออาจจะไม่ใช่แค่าเ็เล็กน้อย
คำพูดดูถูกเหยียดหยามทั้งหลายถ้าเธออารมณ์ดีก็อาจจะพอปล่อยผ่านไปได้ แต่การทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ เธอไม่ยอมแน่
เมื่อถึงบ้านไม่มีใครนึกเลยว่าถังอวี้หลันจะมาปรากฏตัวที่นี่
เมื่อวานลู่เป๋าเหยียนบอกว่าจะพาูเี่อันไปที่ Zijing Palace Garden อีกครั้งถังอวี้หลันกลัวว่าทั้งสองคนจะลำบากเทียวไปเทียวมาแถมเธอเองก็ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว จึงถือโอกาสนี้มาหาลูกๆ ด้วยตัวเองโดยนึกไม่ถึงว่าลู่เป๋าเหยียนจะกลับมาพร้อมกับูเี่อันที่ได้รับาเ็
“เจี่ยนอันหนูไปโดนอะไรมาเนี่ย” เธอรีบลุกเดินมาหา “เป๋าเหยียน นี่มันเื่อะไรกัน!?”
“แม่คะไม่เกี่ยวกับเขาหรอกค่ะ” ูเี่อันเห็นถังอวี้หลันกำลังจะโมโหจึงรีบเดินเข้ามาอธิบายว่า เป็เพราะเธอลืมรัดเข็มขัดตอนอยู่บนรถเลยกลายเป็แบบนี้โดยละเื่ของเฉินเสวียนเสวียนเอาไว้
แต่ถังอวี้หลันไม่ใช่คนเชื่อคนง่ายขนาดนั้นเธอรีบถามขึ้นทันที
“คนที่ขับรถชนหนูคือใคร?”
ขณะที่ซุเจี่ยนอันกำลังลังเลว่าจะบอกชื่อคนทำออกไปดีหรือไม่ลู่เป๋าเหยียนก็เดินเข้ามา
“ลูกสาวตระกูลเฉินครับผมจะจัดการเื่นี้เอง แม่อย่าได้ร้อนใจไปเลยครับ”
ูเี่อันดึงให้ถังอวี้หลันนั่งลงพลางยิ้ม
“แม่ไม่ต้องเป็ห่วงหนูนะคะแค่ข้อศอกพลิกนิดหน่อย กระดูกไม่ได้หักหรือร้าวอะไร”
“แม่ไม่ห่วงก็ได้แต่แม่สงสารหนูเหลือเกิน” ถังอวี้หลันแตะรอยช้ำบนหน้าผากูเี่อันอย่างเบามือก่อนจะเหลือบไปเห็นถุงยาที่ลู่เป๋าเหยียนถือเข้ามา
“เป๋าเหยียนทายาให้เจี่ยนอันก่อนเร็วเข้า”
“ครับ”ลู่เป๋าเหยียนตอบ “เจี่ยนอัน กลับห้อง”
แค่ทายาทำไมต้องกลับห้อง?
ถึงจะข้องใจแตู่เี่อันก็เดินตามเข้าขึ้นชั้นบนไปอย่างว่าง่าย เธอกำลังจะผลักประตูเข้าห้องนอนตัวเองแต่กลับถูกลู่เป๋าเหยียนจับมือเอาไว้ และลากเข้าไปในห้องนอนของเขา
จริงสิถังอวี้หลันอยู่ข้างล่าง ถ้าเธอกลับห้องตัวเองมีหวังความแตกหมด
“โทษที”เธอก้มหน้าก่อนเอ่ย “ฉันลืมไป...”
“ไปเอาเสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัวเธอมา”ลู่เป๋าเหยียนกล่าว
ูเี่อันงง“ทำไมล่ะ”
“คืนนี้แม่น่าจะนอนค้างที่นี่”ลู่เป๋าเหยียนตอบคำถามด้วยคำถาม “ถ้าแม่เห็นว่าในห้องฉันไม่มีข้าวของของเธออยู่เลยเธอจะตอบแม่ยังไง”
“...”
งั้นก็หมายความว่า คืนนี้เธอต้องย้ายมานอนห้องเดียวกันกับเขาอีกน่ะสิ?
ภาพความใกล้ชิดของเหตุการณ์ที่ผ่านๆมาผุดเข้ามาในสมอง ูเี่อันเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง ความคิดเริ่มปั่นป่วน
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตาลงเล็กน้อย“ฉันบอกให้เธอไปเก็บของ คิดอะไรอยู่”
“เอ่อ...”ให้ตายูเี่อันก็ไม่มีทางบอกความจริงออกไป จึงหาข้ออ้างตอบเขา“มือฉันมันแบบว่า...”
ลู่เป๋าเหยียนมองแขนขวาที่กำลังบวมก่อนจะลากูเี่อันเข้าไปในห้องนอนของเธอ
“จะเอาอะไรบ้าง พูดมา!”
ูเี่อันตาเป็ประกายลู่เป๋าเหยียนจะช่วยเธออย่างนั้นเหรอ ตลอดเวลาที่ผ่านมามีแต่ลู่เป๋าเหยียนที่ออกคำสั่งกับเธอคราวนี้ถึงตาเธอสั่งเขาบ้างแล้วสินะ!
เยส!
ลู่เป๋าเหยียนกัดฟันพูด“ูเี่อัน เก็บอาการหน่อย”
เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ูเี่อันรีบปรับสีหน้าให้กลับเป็ปกติก่อนจะกระแอม
“งั้นเริ่มจากในห้องน้ำก่อนเลย”
ห้องน้ำเธอมีกลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆดูสว่างสดใสสะอาดตา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ลู่เป๋าเหยียนหายเซ็งเพราะูเี่อันดูจะได้ใจเกินไปแล้ว
“นายหยิบตะกร้าที่อยู่บนชั้นออกมาก่อนแล้วก็...แปรงสีฟันไฟฟ้า อ๋อ แล้วก็ผ้าเช็ดตัวที่อยู่บนราวตรงนั้นด้วยโฟมล้างหน้าข้างกระจก น้ำมันหอมระเหย...”
ลู่เป๋าเหยียนหยิบทุกอย่างตามทีู่เี่อันบอกไม่นานข้าวของขวดเล็กขวดน้อย ผ้าเช็ดตัว และของอื่นๆ อีกมากมายก็ถูกวางลงเต็มตะกร้าูเี่อันตรวจสอบของทั้งหมดราวกับหัวหน้า ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ
“โอเคไปหยิบเสื้อผ้าได้”
เธอเดินออกไปก่อนที่ลู่เป๋าเหยียนจะถือตะกร้าเดินตามออกมา
คราวนี้เธอไม่ได้ออกคำสั่งให้ลู่เป๋าเหยียนหยิบของทีละอย่างอีกแล้วแต่เธอกลับเอาเสื้อผ้าออกมาจากตู้และวางลงบนเตียง
“ช่วยพับให้หน่อยสิ”
เคยมีใครสั่งลู่เป๋าเหยียนแบบนี้ที่ไหนเขาหรี่ตามองเธอ แตู่เี่อันกลับยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
“คุณสามีขา ฉันเหลือมือแค่ข้างเดียวแล้วจะพับยังไงล่ะคะ”
ที่จริงเธอจงใจแกล้งเขาก็ใครใช้ให้เขามาตะคอกเธอกันล่ะ!
ลู่เป๋าเหยียนจ้องหน้าเธอก่อนจะก้มตัวลงไปช่วยเธอพับเสื้อผ้าทุกชุด และูเี่อันก็ต้องแปลกใจเพราะเขาไม่เพียงแต่พับเสื้อผ้าเป็ แต่ยังพับได้อย่างเป็ระเบียบเรียบร้อยอีกต่างหาก
ของใช้ทั่วไปกับเสื้อผ้าปกติก็เก็บหมดแล้วที่เหลือก็...เอ่อ...
ูเี่อันยืนหน้าแดงอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าก่อนจะพูดอึกอัก
“พอแล้วล่ะ นะ...นายเอาของพวกนี้กลับไปก่อนเถอะ”
ใบหน้าของเธอแสดงสาเหตุของการหน้าแดงในครั้งนี้ไว้จนหมดลู่เป๋าเหยียนยกมุมปากยิ้ม
“มั่นใจว่าเก็บหมดแล้ว? ทำไมฉันรู้สึกว่ายังขาดอะไรอีกอย่าง”
ถ้าเขาพูดตรงกว่านี้หน้าของเธอคงแดงก่ำจนแทบะเิแน่ๆเธอทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกก่อนจะหันหน้าเข้าหาตู้เสื้อผ้า
“ขาดอีกอย่างจริงๆ นั่นแหละ”
เขาจงใจแกล้งเธอใช่ไหมได้ หยิบก็หยิบสิ เอาออกมาให้รู้แล้วรู้รอด เธอกลัวที่ไหนล่ะ!
เธอเปิดลิ้นชักออกมาอย่างกล้าหาญก่อนจะหยิบบางอย่างยัดเข้าไปในตะกร้า
“ครบแล้ว!”
ลู่เป๋าเหยียนมองของที่เธอยัดเข้ามาแล้วเงยหน้ามองูเี่อัน ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปบริเวณหน้าอกของเธอเขาแย้มยิ้มอย่างยากที่จะคาดเดาความหมาย จากนั้นจึงเดินออกจากห้องไป
ูเี่อันถึงกับเซ็งรอยยิ้มของเขาเมื่อกี้...มันหมายความว่ายังไง?
นี่เขาหาว่า...ของเธอเล็กไปอย่างนั้นเหรอ?
โรคจิตที่สุด!
เธอรีบวิ่งกลับห้องนอนของเขาทันทีก่อนจะนำเสื้อผ้าทุกชิ้นไปวางไว้ในห้องแต่งตัว
ห้องแต่งตัวของเขาขนาดกว้างพอๆกับห้องนอนหลักในบ้านคนทั่วไป มันถูกออกแบบมาสำหรับคนสองคนเสื้อผ้าของลู่เป๋าเหยียนถูกเก็บไว้หนึ่งฝั่งซึ่งจัดเรียงตามสีและประเภทเอาไว้อย่างเป็ระเบียบ
ส่วนอีกฝั่งนั้นว่างเปล่าูเี่อันมองความว่างเปล่านั้นอย่างเหม่อลอย
เธอไม่รู้หรอกว่าอนาคตที่ว่างฝั่งนี้จะเป็ที่เก็บเสื้อผ้าของผู้หญิงคนไหนแต่ตอนนี้ ขอเธอใช้ก่อนละกัน
ูเี่อันเก็บเสื้อผ้าของตัวเองเข้าไปในตู้ก่อนจะเดินออกจากห้องแต่งตัว
“มานี่”ลู่เป๋าเหยียนออกคำสั่ง ข้างมือเขามียาที่ถูกแกะออกมาแล้วเรียบร้อย
ูเี่อันเดินเข้าไปหาก่อนจะยื่นแขนออกไป ลู่เป๋าเหยียนเขย่าขวดเล็กน้อยก่อนจะพ่นยาลงไปตรงบริเวณที่เธอได้รับาเ็
ยาพ่นลดการอักเสบประเภทนี้มีสีวินาทีต่อมาบริเวณข้อศอกของเธอก็กลายเป็สีเหลืองอมน้ำตาลตัดกับสีผิว่แขนของเธออย่างเห็นได้ชัด
เธออยากจะร้องไห้
“น่าเกลียดจัง”
ลู่เป๋าเหยียนวางยาพ่นลงก่อนจะหยิบยาอีกอย่าง
“เงยหน้าสิ”
ยาแก้รอยฟกช้ำอย่างเร่งด่วนเป็แบบแผ่นแปะซึ่งมีขนาดใหญ่มากจนแทบจะปิดครึ่งหนึ่งของหน้าผากูเี่อันไว้จนมิดมันออกฤทธิ์เย็นเล็กน้อย ช่วยระงับความเ็ปได้อย่างดี
“เสร็จแล้ว”ลู่เป๋าเหยียนเก็บยาทั้งหมด “ลงไปข้างล่างกันเถอะ พวกเราขึ้นมานานเกินไปแล้ว”
ถ้ายังไม่ลงไปถังอวี้หลันคงได้เข้าใจผิดแน่ ูเี่อันตอบรับก่อนจะเดินตามเขาลงไป
