บทที่ 164 ลูกหลานของโยวกู่จือ
“แม่นางทั้งสอง! ไม่ต้องหรอก!”
ใบหน้าของฉู่อวิ๋นเปลี่ยนเป็สีแดงและก้าวถอยไป เขามาที่นี่เพื่อพูดคุยเื่สำคัญ ไม่คิดเลยว่าซิวหลัวหน้าผีนี้จะ “อัธยาศัยดี” ได้ขนาดนี้! ถึงกับจัดสาวใช้แสนสวยสองคนไว้คอยปรนนิบัติเขาเป็การส่วนตัว
แม้ว่าฉู่อวิ๋นจะไม่ใช่คนอวดดี แต่เขาอายุเพียงสิบหกปี แถมยังกังวลว่าจะช่วยเหลือพี่สาวออกจากเมืองได้อย่างไร จึงไม่มีอารมณ์จะมาสนใจเื่สายลมจันทรา[1]เช่นนี้จริงๆ
แต่เมื่อเห็นสาวใช้ทั้งสองหน้าแดงด้วยความอายและค่อยๆ ข้ามน้ำมาหาเขา เขาก็อดรู้สึกเขินไม่ได้และไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“คุณชาย ได้โปรด... ได้โปรดอย่ารังเกียจกันเลยเ้าค่ะ ท่านคือนายท่านคนแรกของเรา…”
ขณะที่ฉู่อวิ๋นตกตะลึง สาวใช้คนหนึ่งก็ค่อยๆ หยิบผ้าเช็ดตัวผืนสะอาดออกมาวางบนหลังของฉู่อวิ๋น แล้วเช็ดเบาๆ
สาวใช้แสนสวยอีกคนก้มหน้าลง ใช้มือหนึ่งวักน้ำในสระและเทมันลงบนตัวฉู่อวิ๋น
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉู่อวิ๋นก็รู้สึกขวยเขิน แต่สีหน้าก็ดูงุนงงเช่นกัน
สตรีสองนางนี้ ตอนเข้ามาก็ดูรื่นเริงดีนี่ แต่ตอนนี้มือหยกของพวกนางกลับสั่นเทา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขา
ดูคล้ายพวกนางจะกลัว
ดังนั้น ฉู่อวิ๋นจึงจำใจจับมืออันบอบบางของพวกนางเบาๆ จนทั้งคู่ร้องออกมาหนึ่งแอะ แต่ก็ไม่กล้าที่จะต่อต้าน ได้แต่ก้มหน้าลง
“คุณชาย เป็... เป็บ่าวปรนนิบัติท่านไม่ดีหรือเ้าคะ?”
“ข้ารู้ความผิดแล้วเ้าค่ะ ขออภัยด้วยเ้าค่ะ... ขออภัยด้วย...”
สาวใช้ทั้งสองตัวสั่นงันงก ฉู่อวิ๋นหรี่ตาลง จากนั้นก็ค่อยๆ วางมืออันบอบบางของพวกนางลงและถามว่า “แม่นางทั้งสองไม่ใช่สาวใช้ใช่หรือไม่?”
ฉู่อวิ๋นเติบโตมาในลานตะวันออกตระกูลฉู่ ไม่เคยเห็นสาวใช้มาก่อน โดยทั่วไปแล้ว สาวใช้ที่น่ารักบางคนจะปรนนิบัติเ้านายของตน การอาบน้ำให้จึงไม่ใช่เื่แปลกอะไร
แต่เมื่อสตรีทั้งสองนางออกจากสระไป ท่าทางและการเคลื่อนไหวแสนเหนียมอายของพวกนางก็เผยให้เห็นพิรุธในทันที
สาวใช้ตัวจริงคงไม่เป็เช่นนี้
“คุณชายเ้าคะ พวกเราทำหน้าที่ได้ไม่ดีหรือ?” สาวใช้นางหนึ่งรวบรวมความกล้าถามขึ้น สีหน้าของนางผ่อนคลายลงเล็กน้อย นางรู้สึกว่าฉู่อวิ๋นไม่ใช่คนลามกเช่นนั้น
“ไม่หรอก พวกเ้าสองคนทำได้ดีมาก...”
ฉู่อวิ๋นส่ายหัวแล้วคุลมผ้าเช็ดตัวสองผืนให้สตรีทั้งสองนางตามลำดับ พวกนางตกตะลึง จากนั้นก็แอบดีใจและประทับใจในตัวฉู่อวิ๋นมากขึ้น
“เ้าทั้งสองถูกจับตัวมาที่นี่ เพื่อให้มารับใช้ข้าแบบนี้เป็การส่วนตัวหรือ?” ฉู่อวิ๋นถาม
ในความเป็จริง เขารู้สึกแปลกั้แ่แรก แม้ว่าลานบ้านจะกินพื้นที่กว้างใหญ่ แต่นอกจากสาวใช้สองคนนี้แล้ว ตลอดทางก็ไม่เห็นมีใครคนอื่นอีก
หลังจากได้ยินคำถามของฉู่อวิ๋น สตรีทั้งสองนางก็มองหน้ากัน จากนั้นก็เล่าความจริงทั้งหมด
ปรากฏว่าสองคนนี้เป็คนธรรมดาที่หน้าตาพริ้มเพราชวนมอง วันนี้ พวกนางถูกซิวหลัวหน้าผีจับมาเพื่อให้คอยปรนนิบัติฉู่อวิ๋นให้ดี
เห็นได้ชัดว่าสถานที่ใหญ่กว้างเช่นนี้ กลับไม่มีคนใช้เลยแม้แต่คนเดียว
“เ้าหน้าผีคนนี้นิสัยเสียนัก!” ฉู่อวิ๋นแอบสบถเบาๆ และจ้องมองไปที่วงแหวนอวกาศทันที
“นี่ๆๆ! เ้ามองข้าทำไม? ข้าออกมาจากตระกูลั้แ่พันปีก่อนแล้ว ข้าไม่ได้เป็คนสอนนะ! อย่ามากล่าวหากันเชียว” โยวกู่จือโต้กลับทันที
หลังจากนั้น ฉู่อวิ๋นก็ไม่ได้ทำให้สาวใช้ทั้งสองลำบากใจ เขาแค่ขอให้พวกนางอาบน้ำและเช็ดหลังให้เขาโดยไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น
หลังจากอาบน้ำอยู่นาน สาวใช้ทั้งคู่ก็ช่วยเขาสวมเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม แต่ยังคงสวมหน้ากากคริสตัลสีดำ
“นี่สำหรับพวกเ้า น่าจะเพียงพอให้มีชีวิตอยู่ต่อได้”
ฉู่อวิ๋นมอบถุงหินิญญาน้ำหนักไม่น้อยให้นางทั้งสองคน คนละหนึ่งร้อยก้อน และพูดว่า “สำหรับอิสรภาพของพวกเ้า ข้าจะบอกชายหน้าผีให้เขาปล่อยเ้ากลับบ้านเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สตรีทั้งสองนางก็ดูประหลาดใจและใบหน้าของพวกนางก็แดงก่ำด้วยความเขินอาย ทั้งคู่ก้มหน้าลงเพื่อใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองหน้ากัน
ฉับพลัน พวกนางก็เดินมาประกบเขาซ้ายขวาแล้วยื่นหน้ามาจูบแก้มเขาคนละข้างดัง “จุ๊บ” อย่างเขินอายและยิ้มพร้อมกัน “คุณชาย ท่านเป็คนดียิ่ง...”
ฉู่อวิ๋นแตะแก้มของตัวเอง รู้สึกเขินมาก ก่อนจะหัวเราะออกมา “ทำความดีแล้วได้รางวัลเช่นนี้ด้วยหรือ?”
หลังจากนั้นไม่นาน สตรีทั้งสองนางก็นำทางฉู่อวิ๋นมาถึงห้องโถงใหญ่
“ว้าว! ห้องโถงจำเป็ต้องสวยงามขนาดนี้เลยหรือ? แม้แต่โต๊ะ เก้าอี้ ขื่อคานก็ยังวาววับ…”
เมื่อมองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ ฉู่อวิ๋นก็ประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าที่นี่ได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันและรักษาความสะอาดอย่างดี
“ผู้มีพระคุณ!!!”
ยามนี้ เสียงที่ตื่นเต้นและสั่นเทาดังขึ้น ดังมากจนฉู่อวิ๋นสะดุ้ง เขาหันมองไปยังที่มาของเสียงทันที
มองเห็นชายชราผมขาวที่มีรอยย่นบนใบหน้า รีบเร่งเดินมาด้วยสีหน้าจริงจัง ร้องไห้อย่างขมขื่น น้ำมูกน้ำตาไหลอาบหน้า
ข้างหลังเขามีชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาเดินตามมาอย่างใกล้ชิด
ชายคนนั้นมีอายุราวสิบแปดปีพอๆ กับฉู่อวิ๋น เขาเดินมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ หน้าตาสมส่วนและดวงตาที่เฉียบคม เรียกได้ว่าหล่อเหลาเอาการ
เขาพิจมองฉู่อวิ๋นไม่หยุดอยู่ครู่หนึ่ง
ทั้งยังจ้องมองที่จุดตันเถียนของฉู่อวิ๋นด้วย
“ผู้มีพระคุณ!!!” ชายชรารีบวิ่งเข้าไปก่อน ยกแขนขึ้นราวกับ้ากอดฉู่อวิ๋นแน่น
เมื่อเขาเห็นปากและจมูกของชายชราที่พุ่งเข้ามาหา ฉู่อวิ่นก็เหงื่อตก เขาใมากจนล่าถอยไปสองสามก้าวแล้วรีบพูดว่า “เดี๋ยวก่อน! ท่านผู้เฒ่าท่านนี้ ไม่ต้องมากพิธี ไม่ต้องมากพิธี!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็ตระหนักได้ว่าควรรักษามารยาท จึงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากแขนเสื้อแล้วเช็ดน้ำตา
“ผู้าุโ นี่คงจะเป็ลูกหลานของท่านด้วยกระมัง?…” ฉู่อวิ๋นเลิกคิ้วและส่งสารข้อความ
“ใช่...” โยวกู่จือตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“ทำไมลูกหลานของท่านแต่ละคนถึงได้มีท่าทางแปลกประหลาดนัก?” ฉู่อวิ๋นถาม อันที่จริง เขารู้สึกว่าตัวตนของโยวกู่จือก็แปลกประหลาดเช่นกัน พนันได้เลยว่าสิ่งนี้สืบทอดมาทางสายเืแน่นอน...
“บ๊ะ! ตอนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ยังไม่รู้ว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหนเลย แน่นอนว่าพวกเขาไม่เคยเห็นความฉลาด ทรงพลัง และองอาจของข้า!” โยวกู่จือพูดอย่างเ็า อวดโอ้สุดๆ
ในเวลานี้ ชายชราถามขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “ต้องขอโทษด้วย เมื่อครู่นี้ข้าตื่นเต้นไปหน่อย ขอถาม... ขอถามผู้มีพระคุณท่านนี้ ท่าน... ท่านช่วยเราตามหาบรรพบุรุษของเราหรือ?”
ขณะที่พูด ดวงตาของชายชราจับจ้องไปที่วงแหวนของฉู่อวิ๋น เขาเกือบจะคุกเข่าลงบนพื้นอยู่รอมร่อ
“ใช่แล้ว” ฉู่อวิ๋นพยักหน้าแล้วถาม “ผู้าุโ ลูกหลานท่านต่างก็อยู่ที่นี่แล้ว ไม่ออกมาดูสักหน่อยเล่า?”
“เ้าเฒ่าน้อยนี่ น้ำมูกน้ำลายเปรอะหน้าเช่นนี้ ทำข้าเสียหน้านัก! เฮ้อ!”
ด้วยเสียงหวือ วงแหวนอวกาศก็ลอยไปกระแทกใส่หัวของชายชราจนเขาล้มลงกับพื้น แต่เขาไม่ขัดขืน ซ้ำสีหน้าก็ตื่นเต้นมากขึ้น
“เครื่องหมายิญญานี้... บรรพบุรุษ! ท่านคือบรรพบุรุษจริงๆ!” ชายชราะโ จดจำตัวตนของอีกฝ่ายจากการโจมตีของโยวกู่จือได้
ทันใดนั้น ชายชราก็คว้าวงแหวนอวกาศไว้ในมือข้างหนึ่ง และกำลังจะจูบมัน...
“เวรเอ๊ย! อย่าเข้ามานะ!” โยวกู่จือควบคุมวงแหวนอวกาศ ลอยขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง และด่าทอด้วยความโกรธ “เ้าเฒ่า! ถ้าเ้ายังไม่ใจเย็นลงอีก ข้าจะใช้วิชาจำกัดิญญาปิดปากเ้าเสีย!”
ได้ยินเช่นนี้ ชายชรายังคงตื่นเต้นมาก เขาเช็ดน้ำตาอีกครั้ง และพูดพลางสะอื้น “บรรพบุรุษ! ท่านปู่ข้าพูดอยู่เสมอว่าให้ตามท่านกลับมา ไม่คิดเลยว่าวันนี้ข้าจะทำตามความปรารถนาของตระกูลเราได้แล้ว ช่างน่ายินดียิ่งนัก!”
“บรรพบุรุษ ข้าได้ยินเื่ของท่านมาั้แ่เด็กจนโต ชื่นชมในตัวท่านราวกับแม่น้ำที่ไหลไม่รู้จบ ราวกับแม่น้ำเหลือง[2]ที่ล้นเอ่อจนไม่อาจควบคุมได้!”
“ยังมีท่านผู้มีพระคุณ! ครั้นได้ยินว่าท่านได้พบกับบรรพบุรุษของตระกูลเรา ข้าก็รีบเร่งเดินทางไม่คิดรับน้ำรับอาหาร อัจฉริยะแห่ง์เช่นท่านมาที่นี่ได้ ช่างเป็พรยิ่งนัก!”
หนึ่งเค่อต่อมา
“อ๊ะ! ย้อนกลับไปในตอนนั้น บรรพบุรุษของข้า ภูผาชลธารหลายร้อยลี้ก็ถูกทำลาย ดวงดาวหลายพันดวงร่วงหล่นเพียงนึกคิด สามารถปราบปรามพวกมากอำนาจนับแสนคนในขั้นเทียมฟ้าได้ด้วยนิ้วเดียว ช่างเป็มหากาพย์แห่งยุค และจะถูกจดจำไปสู่รุ่นต่อรุ่น!”
ชายชราคนนั้นยังคงพูดอยู่ ปล่อยให้ฉู่อวิ๋นและโยวกู่จืองงจนพูดไม่ออก
“ผู้าุโ มาถึงตอนนี้ข้าก็เชื่อเต็มร้อยแล้วว่านี่คือลูกหลานของท่าน ไม่มีใครสามารถคุยโวได้เช่นนี้อีกแล้ว ไม่มีสิ่งใดสู้ได้จริงๆ” ฉู่อวิ๋นยืนมองอย่างว่างเปล่า เหงื่อไคลหยดย้อยไม่หยุด
“ชะ! คุยโวอะไรกัน? ความสามารถแสนเก่งกาจของข้าไม่เพียงแค่คุยโวหรอกนะ!” โยวกู่จือโต้กลับ
“ใช่แล้ว เื่ที่ผู้เฒ่าคนนี้พูดเกี่ยวกับท่านเป็เื่ความจริงหรือ? หรือว่าเหตุการณ์พวกนั้นถูกบันทึกไว้ในหนังสือยอดตำนาน?” ฉู่อวิ๋นถามอีกครั้งอย่างไม่ค่อยเชื่อ
“อะแฮ่ม…” เมื่อได้ยินเช่นนี้ โยวกู่จือก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ รู้สึกละอายใจเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจัง “ย่อมไม่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือยอดตำนาน แต่จะบันทึกไว้ในพงศาวดารของตระกูลเท่านั้น แต่... เื่พวกนั้นข้าเป็คนเขียนขึ้นมาเอง"
“งั้นก็แปลว่าปลอมน่ะสิ?”
“ปลอมกับผีเ้าสิ! ก็แค่...ขัดเกลานิดหน่อย”
“อ้อ” ฉู่อวิ๋นพยักหน้าและเลิกถาม เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า “ขัดเกลา” ที่โยวกู่จือพูดนั้นหมายถึงอะไร
ในที่สุด หลังจากสนทนากันสักพัก ฉู่อวิ๋นก็ได้รู้ว่าชายชราคนนี้ชื่อหลิงจื้อ และเขาก็เป็ทายาทของโยวกู่จือตามคาด
ส่วนสาวใช้เ่าั้ก็ถูกหลิงจื้อจัดเตรียมไว้ให้อย่างเร่งด่วน เพื่อต้อนรับขับสู้ฉู่อวิ๋นให้ดี และขอบคุณเขาที่พาโยวกู่จือกลับมา
ที่แท้ใน่พันปีนี้ ตระกูลของโยวกู่จือต่างตามหาเขามาหลายชั่วอายุคน เพราะว่ากันว่าในตอนนั้นเขามากด้วยพลังอำนาจ และบรรดาลูกหลานต่างก็ไม่เชื่อว่าเขาจะตายไปเสียง่ายๆ
ยามนี้ มองเห็นใบหน้าของหลิงจื้อเต็มไปด้วยความเคารพ คุกเข่าลงกราบไหว้บูชาวงแหวนอวกาศ ดูแล้วน่าขันอยู่ไม่น้อย
“นี่! เ้าหนู จำได้หรือไม่ว่าข้าเป็ใคร?”
ทันใดนั้น ชายหนุ่มในห้องโถงก็ก้าวไปข้างหน้า ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างอวดโอ้ และถามไปที่ฉู่อวิ๋น
----------
[1] เื่โรแมนติก
[2] เป็แม่น้ำที่ยาวเป็อันดับสองของประเทศจีน รองลงมาจากแม่น้ำแยงซี และถือเป็แม่น้ำที่มีความยาวเป็อันดับ 6 ของโลก