ยามเช้าที่แสงอาทิตย์แรกเริ่มสาดส่องไปทั่วทั้งผืนฟ้า เยี่ยจิงหลิน หญิงสาวผู้มีใบหน้าอ่อนเยาว์ ก้มหน้าก้มตาดูแลพืชผลสมุนไพรในสวนของตนด้วยความใส่ใจ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอดูราวกับหยดน้ำที่สะท้อนแสงแดดอ่อนโยน สงบ และบริสุทธิ์
แต่ใต้ใบหน้าไร้เดียงสานั้น คือจิตใจที่แข็งกร้าวและเปี่ยมด้วยความร้ายกาจ เธอเป็มากกว่าหญิงสาวธรรมดาที่ผู้คนรอบข้างคิดว่าเธอเป็ อดีตนักฆ่าที่มากด้วยฝีมือและความเฉียบแหลมจากชาติที่แล้วของเธอ คือสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวของเยี่ยจิงหลิน
"ฮูหยินใหญ่อันเหยาเหวิน..." เธอเอ่ยชื่อออกมาเบาๆ ราวกับกำลังลิ้มรสคำพูดของตัวเอง "เ้ากล้ามายุ่งกับข้า เ้าคงอยากลองดีนัก คืนนี้ข้าจะให้เ้ารู้ว่าเ้าผิดมหันต์แค่ไหน"
เมื่อคืนที่ผ่านมา ชายชุดดำที่ถูกส่งมาลอบสังหารเธอนับสิบคน ล้วนจบชีวิตลงในสวนแห่งนี้ เยี่ยจิงหลินไม่ได้ปล่อยให้ใครรอดไป แม้แต่เสียงกรีดร้องของพวกมันก็ถูกปิดตาย ก่อนรุ่งสาง เธอจัดการกับศพเ่าั้อย่างไร้ซึ่งความลังเล ร่างที่ไร้ประโยชน์ของพวกมันถูกแปรเปลี่ยนเป็ปุ๋ย บำรุงดินในสวนสมุนไพร
แสงแดดที่สาดส่องลงมาทำให้หยดน้ำบนใบไม้ดูระยิบระยับ แต่มันก็ไม่อาจปกปิดความมืดมิดที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเยี่ยจิงหลินได้ เธอไม่ใช่หญิงสาวธรรมดาที่จะปล่อยให้ใครมารังแกหรือทำลายชีวิตของเธอ
ในค่ำคืนนี้ เธอได้วางแผนอย่างละเอียดเพื่อเอาคืนฮูหยินใหญ่อันเหยาเหวิน ผู้ที่ส่งคนมาทดสอบขอบเขตความอดทนของเธอ เยี่ยจิงหลินไม่ได้รีบร้อน แต่เธอค่อยๆ วางแผนอย่างพิถีพิถัน
ในขณะที่เยี่ยจิงหลินกำลังปล่อยใจไปกับความคิดอันลึกซึ้งและแผนการในค่ำคืนนี้ เสียงน้ำหยดกระทบใบไม้จากการรดน้ำสมุนไพรทำให้บรรยากาศยิ่งสงบและร่มเย็น แต่แล้ว น้ำเสียงที่อ่อนโยนและอบอุ่นก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
"พืชสมุนไพรของเ้า...งดงามไม่เลวทีเดียว"
เยี่ยจิงหลินชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองที่มาของเสียงนั้น ทันทีที่เห็นใบหน้าคุ้นเคยของชายวัยกลางคนในชุดเรียบง่าย เธอจำได้ในทันทีว่าเขาคือ หลิวฉางหยาง ผู้นำหมู่บ้าน และเพื่อนสนิทของแม่ั้แ่วัยเด็ก
หลิวฉางหยางเป็บุคคลที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและจริงใจ ั้แ่เธอและแม่ย้ายกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้ เขาคือคนแรกที่ให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่น ไม่เพียงแต่ช่วยจัดหาที่พักและช่วยเหลือในยามขาดเหลือ แต่ยังคอยดูแลและถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอยู่เสมอ
"ขอบคุณค่ะ ท่านลุงหลิว" เยี่ยจิงหลินกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน พร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่ประดับบนใบหน้า
หลิวฉางหยางเดินเข้ามาใกล้ มองสวนสมุนไพรด้วยแววตาชื่นชม "แม่ของเ้าต้องภูมิใจในตัวเ้าแน่ๆ เ้าดูแลสมุนไพรเหล่านี้ได้ดีมากมันค่อนข้างที่จะงดงามทีเดียว”
เยี่ยจิงหลินยิ้มรับ แม้จะดูเหมือนสงบเรียบร้อย แต่ในใจของเธอแอบระมัดระวังตัวอยู่เสมอ เธอรู้ดีว่าการแสดงออกอย่างอ่อนโยนและนอบน้อมในที่นี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเองในสายตาของคนในหมู่บ้าน และโดยเฉพาะหลิวฉาง
หยาง ซึ่งมีอิทธิพลต่อชาวบ้านไม่น้อย
"ขอบคุณค่ะ ท่านลุงที่เอ็นดู ถ้าไม่มีคำแนะนำและความช่วยเหลือของท่าน ข้าคงทำได้ไม่ดีเท่านี้"
หลิวฉางหยางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ "เ้ากับแม่เป็คนดี ชาวบ้านที่นี่ทุกคนยินดีต้อนรับ ถ้ามีอะไรขาดเหลือหรือไม่สะดวกก็บอกข้าได้เสมอ"
เยี่ยจิงหลินพยักหน้า "ข้าจะไม่เกรงใจค่ะ ท่านลุงหลิว"
หลิวฉางหยางมองดูเด็กสาวที่เขาเห็นเติบโตขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะกล่าวลาแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มอบอุ่นและความเงียบสงบที่กลับคืนมาในสวน
เยี่ยจิงหลินมองตามแผ่นหลังของเขาด้วยแววตาครุ่นคิด ในใจเธอรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งกับการต้อนรับและความเอื้อเฟื้อของหลิวฉางหยางและชาวบ้านที่นี่ ชีวิตที่นี่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสถานที่ที่เธอจากมา ความสงบสุขและความเมตตาที่เธอได้รับทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย
แต่ทว่า ความสงบสุขนี้ไม่ได้หมายความว่าเธอจะลดการป้องกันตัวลง ชีวิตในอดีตสอนให้เธอรู้ว่าความไว้ใจเกินไปอาจนำมาซึ่งความเ็ปและการทรยศ
"ที่นี่อบอุ่นกว่าที่ข้าเคยพบมา แต่ข้าจะไม่ประมาท" เยี่ยจิงหลินพึมพำเบาๆ ก่อนจะยิ้มอีกครั้ง
เธอหันกลับมาสนใจพืชสมุนไพรตรงหน้า รดน้ำและจัดเรียงอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกัน ในใจของเธอก็เตรียมการสำหรับค่ำคืนนี้ต่อไป เธอจะไม่ยอมให้ใครมาข่มเหงหรือคุกคามอีกต่อไป ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็ใคร
ความมืดมิดมาเยือน ความเงียบงันในค่ำคืนนี้ราวกับเป็สัญญาณให้แผนการของเยี่ยจิงหลินเริ่มต้นขึ้น เธอยืนมองแสงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า พลางกระชับถุงดอกไม้หอมในมือแน่น ใบหน้าของเธอนิ่งเฉย แต่ในดวงตากลับลุกโชนไปด้วยความมุ่งมั่น
"ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาเหยียบย่ำข้าและแม่อีกต่อไป..." เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ
เยี่ยจิงหลินไม่ใช่คนที่ยอมอดทนกับการถูกกลั่นแกล้งหรือกดขี่โดยปราศจากการตอบโต้ เธอเรียนรู้ว่าหากไม่ลงมือเสียเอง ชีวิตของเธอและแม่คงไม่มีวันปลอดภัย
ภายใต้แสงจันทร์ที่ลอยเด่น เยี่ยจิงหลินเคลื่อนไหวอย่างเงียบกริบ วิชาตัวเบาที่เธอฝึกฝนมาจากชีวิตในอดีตทำให้การเคลื่อนที่ของเธอรวดเร็วและไร้เสียง ทุกสิ่งรอบกายกลายเป็เพียงเงาจางๆ ที่ผ่านไปในพริบตา ในที่สุดเธอก็มาหยุดอยู่หน้าประตูใหญ่ของ จวนแม่ทัพซุนเทา
จวนใหญ่แห่งนี้ยังคงปกคลุมไปด้วยบรรยากาศเ็าเหมือนเช่นเคย ความทรงจำในวัยเด็กผุดขึ้นในใจของเธออย่างเลี่ยงไม่ได้ ั้แ่เธอจำความได้ คนที่เรียกว่าพ่อไม่เคยมองเธอด้วยความรักเลยสักครั้ง แม่ทัพซุนเทามองเธอเหมือนไม่ใช่ลูก แต่เป็เพียงเงาที่ไม่มีความสำคัญใดๆ เพราะแม่ของเธอเป็เพียงสาวอุ่นเตียงยามค่ำคืน ความต้อยต่ำของแม่ถูกส่งต่อมายังตัวเธอโดยไม่ได้รับโอกาสให้พิสูจน์ตัวเอง
“ความเ็าและความเหยียดหยามที่เ้าให้มา ข้าจะตอบแทนให้สาสม” เยี่ยจิงหลินคิดในใจ
ไม่รอช้า เธอเปิดถุงดอกไม้หอมแล้วโปรยกลีบดอกไม้ลงไปในสายลม กลิ่นหอมรัญจวนซึ่งถูกผสมด้วยสมุนไพรพิเศษทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นตกอยู่ในภวังค์แห่งการหลับใหล กลิ่นนั้นลอยไปทั่วทั้งจวน ทหารยามที่แข็งแกร่งร่างใหญ่เริ่มเซไปมาราวกับลมพัดแรง ก่อนจะล้มลงนอนหลับสนิทโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
จากนั้นผู้คนที่อยู่ภายในจวน ั้แ่สาวใช้ คนรับใช้ ไปจนถึงทหารเวรยาม ต่างก็ค่อยๆ ทยอยกันล้มตัวลงหลับใหลโดยไม่มีใครรู้ตัว เสียงหายใจสม่ำเสมอของพวกเขากลายเป็เสียงเดียวที่ดังสะท้อนในค่ำคืนอันเงียบงัน
เยี่ยจิงหลินก้าวเท้าเข้าไปในจวนแม่ทัพอย่างเปิดเผย แววตามั่นคงและเยือกเย็น เธอรู้ว่าคืนนี้เป็โอกาสที่เธอรอคอยมาแสนนาน จุดหมายปลายทางของเธอชัดเจน... เรือนของฮูหยินใหญ่อันเหยาเหวิน
ในความมืด เยี่ยจิงหลินเคลื่อนตัวผ่านทางเดินอันเงียบสงัดของจวน เธอไม่ต้องกังวลเื่การถูกจับได้ เพราะทุกคนที่นี่ล้วนแล้วแต่หลับสนิท เธอก้าวผ่านบันไดไม้ที่ส่งเสียงเอี๊ยดเล็กน้อยเมื่อเธอเหยียบ แต่ไม่มีใครได้ยิน เงาของเธอหายไปในม่านหมอกที่บางเบา สู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยความแค้นที่กำลังจะได้รับการชำระ
ค่ำคืนนี้คือคืนแห่งการชำระความแค้น และคืนที่เธอจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับตัวเธอเองและแม่...ในแบบของเธอ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้