ในตะกร้าหวายขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆมีผักใส่อยู่เต็มสิบห้าตะกร้า หนึ่งตะกร้าหนักยี่สิบกว่าจิน ตลอด่เช้ารับซื้อผักตี้เอ่อได้สามร้อยกว่าจิน
ชั่งน้ำหนักผักตี้เอ่อหนึ่งจานก็ต้องใช้หนึ่งถึงสองจินแล้ว
เมื่อรับซื้อผักตี้เอ่อเสร็จเซี่ยยวี่หลัวและเซียวจื่อเซวียนไปรอรถม้าของเซียนจวีโหลวที่ปากทางเข้าหมู่บ้านด้วยกัน
เมื่อถึงหน้าหมู่บ้าน ก็เห็นรถม้าคันหนึ่งกำลังควบม้ามาเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าหมู่บ้าน รถม้าจึงหยุดจอด คนผู้หนึ่งที่เซี่ยยวี่หลัวเคยพบครั้งหนึ่งะโลงจากรถม้า
นั่นคือซ่งฝูที่เป็บ่าวรับใช้ติดตามอยู่ข้างกายซ่งฉางชิงมาตลอด
ซ่งฝูะโลงจากรถม้าประสานมือคำนับเซี่ยยวี่หลัว “ฮูหยิน...”
เซี่ยยวี่หลัวชี้ไปยังบ้านด้านหน้าพร้อมกล่าว“พวกเรารับซื้อผักตี้เอ่อไว้แล้ว ครั้งนี้สามารถนำไปได้ทั้งหมด”
รถม้านำอยู่ด้านหน้า ซ่งฝูไม่ได้ตามเซี่ยยวี่หลัวด้วยเกรงว่าตนเองจะสร้างความลำบากให้เซี่ยยวี่หลัวโดยใช่เหตุ
เมื่อถึงหน้าบ้านท่านปู่เซียวซ่งฝูะโลงจากรถม้า เมื่อเห็นตะกร้าที่มีผักใส่อยู่เต็มวางเรียงรายอย่างเป็ระเบียบภายในตะกร้าล้วนแต่เป็ผักตี้เอ่อที่ล้างจนสะอาดแล้ว ซ่งฝูรู้สึกตกตะลึงในประสิทธิภาพการทำงานของเซี่ยยวี่หลัวเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ คุณชายยังกังวลว่าในครั้งแรกเซี่ยยวี่หลัวจะรับซื้อได้แค่ประมาณหนึ่งร้อยจินแต่เมื่อลองนับดู เซี่ยยวี่หลัวรับซื้อได้สามร้อยกว่าจิน
หักลบน้ำหนักของตะกร้าสามร้อยสิบสองจิน เซี่ยยวี่หลัวหักเศษสิบสองจินออก คำนวณได้เงินจำนวนหนึ่งตำลึงครึ่ง
ซ่งฝูพึงพอใจกับปริมาณและคุณภาพของผักตี้เอ่อเป็อย่างมากจึงไม่ทันสังเกตว่าเซี่ยยวี่หลัวใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาก็คำนวณเงินสำหรับผักสามร้อยจินได้เขาหยิบเงินออกจากกระเป๋าเงินตามสัญชาตญาณ
เมื่อััได้ถึงน้ำหนักของเงินในมือเซี่ยยวี่หลัวจึงยิ้มด้วยความยินดีจนคิ้วงามโก่งโค้ง แววตาดุจมีดวงดารากำลังเปล่งประกายวิบวับ
นางดีใจมาก รับซื้อจินละสามอิแปะนางเสียเงินไปเก้าร้อยอิแปะ แต่ขายได้หนึ่งตำลึงครึ่ง ได้กำไรหกร้อยอิแปะถ้วน!
ซ่งฝูมองนางอย่างตั้งอกตั้งใจแวบหนึ่งจากนั้นจึงเก็บคืนสายตา
ท่านปู่เซียวนั่งอยู่ตรงเก้าอี้โยกมองเซี่ยยวี่หลัวรับเงินด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เมื่อวานเซี่ยยวี่หลัวบอกเล่าเื่ทั้งหมดให้เขาฟังแล้วผักตี้เอ่อหนึ่งจินขายได้ห้าอิแปะ เซี่ยยวี่หลัวรับซื้อสามอิแปะ ท่านปู่เซียวยังรู้สึกว่านางให้มากไป
หากเป็คนทั่วไป ให้สักสองอิแปะก็ถือว่าเยอะมากแล้วถึงอย่างไร ผักตี้เอ่อหนึ่งจินที่เก็บมาจากท้องนา ขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ต้องเอาใจใส่ดูแลแม้แต่น้อยสามารถขายได้สองอิแปะก็ถือว่าเป็ราคาสูงแล้ว
ไข่ไก่เพิ่งฟองละหนึ่งอิแปะเท่านั้น
กลุ่มคนที่มาใน่เช้าบ้านใดบ้างที่ไม่ได้รับสามสิบถึงสี่สิบอิแปะ ถือว่าเป็เงินจำนวนมาก ครอบครัวใดสามารถหาเงินได้มากถึงเพียงนี้ในหนึ่งวันบ้าง
ไม่ใช่เพราะเซี่ยยวี่หลัวให้พวกเขาหรอกหรือ!
หากไม่ใช่เพราะเซี่ยยวี่หลัวคนในหมู่บ้านใดจะหาเงินได้เร็วขนาดนี้!
นางกำลังช่วยให้คนในหมู่บ้านได้รับผลประโยชน์อยู่!
ยิ่งท่านปู่เซียวมองภรรยาเซียวยวี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าภรรยาของเซียวยวี่ผู้นี้ไม่ธรรมดา
ออกเงินอย่างใจกว้าง ทั้งยังมีมันสมองไม่ธรรมดาเสียจริง
หลังจากซ่งฝูให้เงิน จึงบอกต่อสิ่งที่ซ่งฉางชิงฝากบอกมา
“ผักตี้เอ่อที่เมื่อวานฮูหยินส่งไปเถ้าแก่ร้านข้าลองให้ลูกค้าประจำชิมดูแล้ว ต่างก็บอกว่ารสชาติไม่เลว เห็นว่าวันนี้จะมากินอีก”
พอซ่งฝูคิดถึงเหตุวุ่นวายอลหม่านเล็กน้อยที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็รู้สึกตื่นเต้น
เซียนจวีโหลวไม่ได้ครึกครื้นเช่นนี้มานานมากแล้วลูกค้าเจาะจงจะกินผักตี้เอ่อ นี่ถือเป็สัญญาณที่ดี
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มอย่างได้ใจ“วันนี้ต้องครึกครื้นยิ่งกว่าแน่นอน”
ซ่งฝูยังต้องไปส่งผักในตัวเมืองจึงจากไปอย่างรวดเร็ว เซี่ยยวี่หลัวนับเงินหนึ่งร้อยอิแปะ มอบให้ท่านปู่เซียว
ท่านปู่เซียวหรี่ตา “เ้ากำลังทำอะไร? ”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวด้วยความจริงใจ“ท่านปู่เซียว พวกเราให้ท่านช่วยออกหน้า ก็ด้วยความจำเป็ วันนี้ท่านช่วยพวกเรามากขนาดนี้ทั้งยังให้เรายืมสถานที่ นี่เป็สิ่งที่ท่านสมควรได้เ้าค่ะ”
หากให้คนในหมู่บ้านรู้ว่าความจริงว่านางเป็คนรับซื้อผักตี้เอ่อวันแรกจะรับซื้อได้มากเพียงนี้อย่างไรกัน ยิ่งไปกว่านั้น สตรีคนหนึ่งออกหน้าทำการค้าเกรงว่าผู้คนในหมู่บ้านคงตำหนินางอย่างหนัก
เซี่ยยวี่หลัวไม่เกรงกลัวทว่ายังมีเซียวยวี่อยู่!
เซียวยวี่เป็คนเรียนหนังสือให้ความสำคัญกับจารีตประเพณีรู้ผิดชอบชั่วดีเป็ที่สุด หากให้เขารู้ว่านางกำลังทำการค้าเกรงว่าคงเอาเื่นางถึงที่สุด
ถึงแม้เซี่ยยวี่หลัวไม่มีความคิดว่าในอนาคตจะอยู่กับเซียวยวี่อย่างไรเสียในนิยายนางก็เป็เพียงตัวประกอบ ไม่มีบทอะไร
ทว่า ก่อนที่นางจะออกจากหมู่บ้านสกุลเซียวก็อย่าให้เซียวยวี่เกลียดชังนางจะดีกว่า!
ในภายภาคหน้าเซียวยวี่จะมีอำนาจล้นฟ้าประหนึ่งสามารถปิดฟ้าด้วยมือเดียว ฐานะสูงส่งไม่มีผู้ใดทัดเทียม หากเขาเกลียดชังนางนางต้องไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขเป็แน่
เหมือนว่าเซี่ยยวี่หลัวจะนึกถึงจุดจบอันน่าอนาถของตนเองที่เขียนไว้ในหนังสืออีกครั้งลูบลำคอตัวเอง ลำคอระหงเย็นวาบเล็กน้อย รู้สึกหนาวขึ้นมา
ท่านปู่เซียวพาดกล้องยาสูบไว้ที่เอวส่งเสียงเย็นในลำคอทีหนึ่ง “เก็บไปซะ ข้าไม่้า! ”
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกวางตัวไม่ค่อยถูก“แต่ข้าต้องขอบคุณท่านเ้าค่ะ! ”
“ขอเพียงเ้าดีต่อเด็กสองคนอย่าทำเื่ที่ผิดต่ออายวี่ ก็ถือเป็การขอบคุณข้าได้ดีที่สุดแล้ว! ”
ท่านปู่เซียวรักใคร่เอ็นดูพวกเซียวยวี่สามคนจากใจจริง
เขาเข้าใจว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่อยากติดค้างหนี้บุญคุณเขา
ท่านปู่เซียวรู้สึกว่าวาจาของตนเองดูหักหาญน้ำใจเกินไปจึงรีบกล่าวเสริม “ขณะนี้เ้าดูแลเด็กสองคนได้ดีมาก พยายามต่อไป หากเ้าอยากขอบคุณข้าจริงอาหารในตอนเช้าของเ้าทำได้ไม่เลว พรุ่งนี้เช้าเ้าทำมาให้ข้าอีก”
ผักตี้เอ่อผัดไข่ชามนั้นท่านปู่เซียวยังรู้สึกว่ากินได้ไม่หนำใจเลย แม่หนูนี่ วันนี้ทำให้ท่านปู่เซียวรู้สึกว่าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ
เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “เ้าค่ะ”
นางรู้สึกเหมือนได้ยกูเาออกจากอกอคติที่ท่านปู่เซียวมีต่อนาง น่าจะหายไปจนสิ้นแล้ว
ซ่งฝูมุ่งตรงกลับไปยังเซียนจวีโหลว
เมื่อถึงสวนด้านหลัง ทางนี้เพิ่งรับผักทั้งหมดเสร็จสิ้น
ซ่งฉางชิงกำลังเก็บของซ่งฝูเรียกคนมายกของลง เพื่อชั่งน้ำหนักอีกครั้ง
“ไม่ต้องแล้ว” ซ่งฉางชิงโบกมือ“ให้คนยกของเข้าไปได้”
เขาเชื่อมั่นในความสามารถการทำงานของซ่งฝูมาก
งานที่เหลือย่อมมีเสี่ยวเอ้อและพ่อครัวในร้านเป็คนทำต่อซ่งฝูตามอยู่ด้านหลังซ่งฉางชิง เข้าไปในห้องพิเศษที่อยู่บนชั้นสองของภัตตาคาร
ที่นั่นมีห้องหนึ่งเป็สถานที่พักผ่อนและที่ทำงานของซ่งฉางชิงโดยเฉพาะถึงแม้ว่าเวลาส่วนใหญ่เขาจะยืนอยู่ข้างโต๊ะเก็บเงินเพื่อคิดบัญชีและเก็บเงินก็ตาม
แต่เวลานี้ไม่มีลูกค้าไม่จำเป็ต้องคิดบัญชีและเก็บเงิน ซ่งฉางชิงจึงเข้าไปในห้องพักของตนเอง
ซ่งฝูรายงานผลการทำงานวันนี้ให้ซ่งฉางชิงฟังอย่างละเอียด