จุนฟานพาจุนเช่อที่ทำการพรางตัวเรียบร้อยแล้วมาถึงเมืองอวี้หวาในที่สุด แต่ตอนที่พวกเขายังไม่ทันได้เข้าเมืองดี ก็พลันได้ยินข่าวว่า พวกเขาถูกถอดชื่อออกจากตระกูลจุนแล้ว อีกทั้งยามนี้คนทั้งเมืองอวี้หวาต่าง้าตัวพวกเขา เนื่องจากประกาศที่ว่า “สองพี่น้อง จุนเช่อและจุนฟานขโมยของหลานชายเ้าเมืองเซ่าแห่งเมืองซวงหวา เสนอรางวัลนำจับจำนวน 100,000 ตำลึงเงิน” ซึ่งเงินจำนวนนี้ ถือว่าไม่ใช่น้อย ๆ ทุกคนในเมืองจึงต่างตามหาสองพี่น้องกันให้ควั่ก เพราะหวังเงินรางวัล เมื่อรู้มูลค่าของเงินรางวัลในการจับกุมนี้ จุนฟานก็คิดอย่างย่ามใจว่า เขานี่ ช่างมีมูลค่าซะเหลือเกิน
ในเมื่อเข้าไปในเมืองอวี้หวาไม่ได้แล้ว จุนฟานจึงนึกถึงครั้นที่จุนห่าวบอกที่อยู่ให้แก่พวกเขา เขาจึงพาจุนเช่อทีได้รับาเ็มายังหมู่บ้านเหมยหลินแทน พวกเขาถึงหมู่บ้าน่เย็นพอดี คนในหมู่บ้านต่างกลับเข้าบ้าน พักผ่อนกันไปหมดแล้ว จึงไม่ได้พบเจอใคร ได้พบแต่เพียงจุนตงและจุนหนาน พอพวกเขาบอกว่า พวกเขามาหาจุนห่าว จุนหนานก็อาสาพาพวกเขาไป
"เื่เป็เช่นนี้เอง" จุนเช่อเล่าเื่ที่ผ่านมาทั้งหมด พร้อมพักหายใจเล็กน้อย เขาเล่าเื่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างไม่ตกหล่น
พอจุนห่าวได้ฟังเื่ราวทั้งหมด จึงรู้สึกว่า นี่เป็เื่ราวของคนพาลที่มา่ชิงคนรักของคนอื่น และเป็ดแมนดารินคู่หนึ่งที่ถูกจับแยกจากกันอย่างขมขื่น หากเื่นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจุนฟาน เขาก็คงจะพูดว่า ‘คนพาลนี่ช่างโอหังนัก’ และ ‘เป็ดแมนดารินคู่นี้ ช่างน่าสงสารเสียจริง’ แต่เพราะนี่เป็เื่ของคนใกล้ชิด เขาจึงคิดหาทางช่วยจุนฟาน อันที่จริงในหมู่คนเป็หมื่นเป็พัน การพบรักแท้ ไม่ใช่เื่ง่าย เขาจึงหวังว่าคนรักกัน ก็ควรจะได้อยู่ครองคู่กัน
จุนห่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่า เื่นี้จะว่าแก้ไขง่ายก็ง่าย แต่จะว่ายากก็ยาก เื่นี้ขึ้นอยู่กับความคิดของเซ่าเจี้ยนหลิ่นล้วน ๆ สุดท้ายแล้วความแข็งแกร่งของเซ่าเจี้ยนหลิ่น คือ สิ่งสำคัญ จุนห่าวคิดว่า หากตนต้องต่อสู้กับเซ่าเจี้ยนหลิ่น ก็คงไม่มีวันชนะ ไม่ใช่ว่าเขาไร้น้ำยา แต่เป็เพราะพลังปราณของเซ่าเจี้ยนหลิ่นที่ถูกฝึกฝนมาอย่างหนักหน่วง ในเมื่อไม่อาจใช้ความแข็งแกร่งเข้าสู้ได้ ก็คงทำได้เพียงแค่ใช้ไหวพริบเข้าสู้เท่านั้น จุนห่าวขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาในใจ แต่นี่ไม่ใช่เื่ที่จะสามารถทำได้เพียงคนเดียว อีกทั้งหากประมาท ย่อมนำความหายนะมาสู่ตระกูลของเขาเป็แน่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงหันขวับ แล้วมองไปที่หานรุ่ยครู่หนึ่งด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยคำถาม
หานรุ่ยมองสายตาที่แฝงไปด้วยคำถามของจุนห่าว แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ว่าเ้าคิดจะทำอะไร ข้าก็จะคอยสนันสนุนเ้านะ” หานรุ่ยหวังว่าในท้ายที่สุด คนที่รักจะกลายเป็ครอบครัว หากพวกเขาพอช่วยอะไรได้ ก็ควรที่จะช่วยเหลือกัน ยิ่งไปกว่านั้นนี่ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็พี่สามของจุนห่าว
“อย่างไรก็ตาม ข้ามีคำถามที่อยากจะถามพี่สามอยู่ 1 คำถาม” หานรุ่ยกล่าวกับจุนฟาน เขาไม่ได้หวังจะใช้ความตั้งใจอันดี ในการทำเื่ที่ไม่ดี และไม่อยากให้เหตุผลบางอย่าง ต้องมาทำให้คนรักกัน กลายเป็เกลียดชังกัน
“เสี่ยวรุ่ย เ้าถามมาเถอะ! ข้าจะตอบเ้าอย่างตรงไปตรงมาเลย” เมื่อจุนฟานได้ยินที่หานรุ่ยกล่าว เขาก็พูดพร้อมเงยหน้าขึ้นมา จากที่ก้มหน้าก้มตามาตลอด
เมื่อได้ยินจุนฟานเรียกหานรุ่ยว่า ‘เสี่ยวรุ่ย’ อย่างคุ้นเคย จุนห่าวก็ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์นัก ‘เสี่ยวรุ่ย’ เป็ชื่อที่เขาใช้เรียกได้เพียงคนเดียวเท่านั้น พี่สามนี่ ช่างไม่รู้อะไรเลย ทำไมถึงเรียกภรรยาของคนอื่นอย่างสนิทสนมเช่นนี้? ดูเหมือนว่า จะต้องรีบช่วยชิงตัวคนรักของเขากลับมาให้ได้โดยเร็วเสียแล้ว
พอเห็นจุนห่าวที่หน้านิ่วคิ้วขมวด หานรุ่ยก็รู้สึกจนใจ พลางคิดในใจว่า ‘จุนห่าวนี่ ไม่ว่าเวลาใดก็หึง’ เขาสบตาจุนห่าวครู่หนึ่ง แล้วกล่าวกับจุนฟานว่า “หากพวกเราช่วยจางหนิงออกมาได้ แต่จางหนิงไม่ได้บริสุทธิ์แล้ว ท่านจะทำอย่างไรหรือ?” เพราะเวลาก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว ไม่ว่าอะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ แถมเซ่าหานอี้ก็ไม่ได้เป็สุภาพบุรุษเสียด้วย
“หากเป็เช่นนั้น ข้าก็จะยิ่งไม่ทอดทิ้งจางหนิง เป็เพราะข้าเองที่ไร้ความสามารถ จึงไม่อาจปกป้องเขาได้ เขาเสียสละเพื่อช่วยข้า คนที่ควรจะเป็ฝ่ายทอดทิ้ง ควรเป็จางหนิงมากกว่า ข้ามันเป็เพียงแค่สวะ แม้แต่คนรักของตัวเองก็ช่วยเอาไว้ไม่ได้” จุนฟานกล่าวพร้อมน้ำตาที่ไหลริน เขาว่ากันว่า เกิดเป็ชาย หากหลั่งน้ำตาต้องสะบัดทิ้ง ถ้ายังไม่เจ็บถึงขั้นสุด
หลังจากได้ฟังที่จุนฟานกล่าว หานรุ่ยก็รู้สึกวางใจ แต่เขาเริ่มกังวลว่า หากจางหนิงกลับมา จางหนิงจะยังยอมเริ่มต้นใหม่กับจุนฟานอีกหรือไม่ เพราะเท่าที่ฟังมา ดูเหมือนจางหนิงจะเป็คนที่ทะนงตนอยู่พอสมควร คนทะนงตนเช่นนี้ หากไม่บริสุทธิ์แล้ว จะต้องคิดมากเป็แน่ แต่อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เื่จำเป็ที่จะต้องคิดในตอนนี้
หานรุ่ยพูดพร้อมมองจุนฟานว่า “พอได้ฟังท่านกล่าวเช่นนี้แล้ว ข้าก็วางใจ ตอนนี้อาจจะยังไม่เกิดเื่ที่เลวร้ายที่สุดก็ได้” หานรุ่ยกล่าวพร้อมพูดปลอบใจจุนฟาน พวกเขาต่างรู้ดีว่าความเป็ไปได้นี้ ช่างมีโอกาสเพียงน้อยนิดนัก
“ขอเพียงแค่ได้อยู่กับจางหนิง ข้าก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว” จุนฟานกล่าวอย่างหนักแน่น จุนฟานเข้าใจดีว่า ไม่ได้มีเพียงแค่การจากตาย แต่มีการจากเป็ด้วย แต่การจากเป็นั้น เ็ปยิ่งกว่าการจากตายเสียอีก สำหรับเขาแล้ว เขาไม่จำเป็ที่จะต้องขุดหลุม เพื่อกลบความเ็ปนั้นหรอก
จุนห่าวมองดูจุนฟานที่กำลังอาลัยอาวรณ์ พลางถอนหายใจและคิดในใจว่า ‘นี่ก็อีกคน ช่างเป็คนที่ลุ่มหลงในความรักเสียจริง’ แต่ทว่าตัวเขาเองก็ไม่ต่างกัน