เมื่อคนที่คุณเกลียดชัง ศัตรูของคุณ ได้รับแสงสว่างอันเจิดจ้าอย่างถึงที่สุด ได้รับผลสัมฤทธิ์ที่คุณไม่สามารถไล่ตามได้ทัน คุณควรทำอย่างไร?
ความเ็ปเช่นนี้ สันนิษฐานว่าเซี่ยเจื่ออวี้กำลังเข้าใจดีในตอนนี้
เธอหลอกตัวเองไม่ได้แล้ว ในโทรทัศน์ บนหนังสือพิมพ์ เผยแพร่ภาพของเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างชัดเจน เป็บัณฑิตเกาเข่าที่หน้าตาดีที่สุดในประวัติศาสตร์อวี้หนาน หนังสือพิมพ์ที่ลงภาพของเซี่ยเสี่ยวหลานจำหน่ายได้เกือบหมดเกลี้ยงเลยทีเดียว หนังสือพิมพ์ที่แสนเป็การเป็งาน แทบถูกภาพของเซี่ยเสี่ยวหลานเปลี่ยนให้กลายเป็หน้าข่าวบันเทิง คนที่ไม่รู้คงนึกว่ามีภาพยนตร์เื่ใหม่เสียแล้ว!
แต่นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์เื่ใหม่ เป็ภาพของจ้วงหยวนเกาเข่าต่างหากเล่า
ใช่ รูปร่างหน้าตาไม่ค่อยเหมือนบัณฑิตเกาเข่าที่ผ่านมา ทว่าหน้าตาสวยก็มิใช่ความผิดของบัณฑิตเกาเข่าเสียหน่อย!
เสียงตอบรับมีแต่ด้านบวก
ช่วยไม่ได้ รัศมีของ ‘บัณฑิตเกาเข่า’ นั้นเปล่งประกายยิ่งกว่าอะไรดี ด้วยสมองอันชาญฉลาด จะไม่มีใครคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็เ้าของความงามอย่างนางปีศาจจิ้งจอกอีกต่อไป เมื่อคนคนหนึ่งประสบความสำเร็จที่มิอาจมองข้าม เหล่าสิ่งที่ก่อนหน้านี้เคยถูกนำไปตำหนิติเตียนล้วนกลายเป็จุดเด่นได้ทั้งสิ้น จะอนุญาตเฉพาะนักวิทยาศาสตร์อย่างไอน์สไตน์ปล่อยหนวดเครารุงรังไม่สนใจเสื้อผ้าอาภรณ์แค่คนเดียว แต่ไม่อนุญาตให้จ้วงหยวนเกาเข่าหน้าตาสะสวยหรือ พอรูปลักษณ์ภายนอกอันเพริศพริ้งจับใจเกินควรถูกสาดส่องโดยรัศมีของ ‘บัณฑิตเกาเข่า’ ผู้บริหารจากสถานีมณฑลยังถึงกับออกปากชมว่าสาวสวยสดใส เริงร่าให้พลังบวก
นี่ก็คือประเด็นหลัก เซี่ยเสี่ยวหลานใช้ผลคะแนนพิสูจน์ตนแล้ว ต่อให้มีเื่เน่าเสียมากมายขนาดไหนก็จะกระสานซ่านเซ็นไปเอง
เซี่ยจื่ออวี้เคยใช้วิธีนี้เหมือนกัน
เนื่องจากอนาคตไกล เซี่ยจื่ออวี้จึงได้รับความโปรดปรานจากตระกูลเซี่ย สามารถควบคุมความคิดเห็นของมหาชนได้ ทั้งยังสามารถวุ่นวายกับชีวิตและโชคชะตาของเซี่ยเสี่ยวหลานได้ตามอำเภอใจ
เมื่อนักเรียนดีเด่นจอมปลอมเจอกับนักเรียนดีเด่นตัวจริง เล่ห์กลเ่าั้ของเซี่ยจื่ออวี้ก็หมดประโยชน์แล้ว!
เธอได้ส่งเศษกระดาษใบหนึ่งให้ผู้สื่อข่าว โดยนึกว่านักข่าวจะขุดคุ้ยว่าอดีตของ ‘บัณฑิตเกาเข่า’ น่าสนใจเพียงใดเสียอีก นึกไม่ถึงว่าข่าวจากสถานีโทรทัศน์หรือข่าวจากหนังสือพิมพ์ไม่แม้แต่จะกล่าวถึงสักประโยคเดียวด้วยซ้ำ ไม่มีใครว่าร้ายเกี่ยวกับเซี่ยเสี่ยวหลาน กลับเป็การยกย่องสรรเสริญทั้งหมด
616 คะแนน คะแนนที่ทิ้งห่างจากอันดับสองถึง 45 คะแนน
มหาวิทยาลัยทั่วประเทศต่างกำลังรอคอยเซี่ยเสี่ยวหลานเลือกอยู่ เธอสามารถไปศึกษาในสถาบันที่ดีที่สุดได้!
ตอนนั้นเซี่ยจื่ออวี้เืลมพุ่งพล่าน แทบกระอักเืออกมา
หลังกลับมาถึงซางตู เธอยิ่งเ็ปราวกับถูกร้อยกรงเล็บข่วนหัวใจ!
เธอเองก็ทุ่มเทหยาดเหงื่อตลอดสี่ปี ไม่เคยหย่อนยานแม้สักนิด แต่กลับสอบติดเพียงวิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่ง
ปีก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานเพิ่งเข้าเรียนมัธยมปลายปีสามกลางคัน มีเวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้น ไม่ทันไรก็สอบได้อันดับหนึ่งประจำมณฑลอย่างง่ายดาย? เซี่ยจื่ออวี้คิดว่า์ลำเอียงเกินไปแล้ว พอมองสีหน้าตื่นกลัวของบิดามารดา เซี่ยจื่ออวี้ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่าน
“จื่ออวี้ ตอนนี้จะเอาอย่างไรดีล่ะ...”
ความหวาดกลัวของจางชุ่ยแตะถึงจุดวิกฤตแล้ว เซี่ยฉางเจิงสูญเสียมือหนึ่งข้าง ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกลายเป็อันดับหนึ่งประจำมณฑล นักเรียนที่ดีจะได้รับสิทธิพิเศษอะไรบ้าง จางชุ่ยรู้ดีกว่าคนทั่วไป เมื่อก่อนเซี่ยจื่ออวี้ก็เคยมีความสุขกับสิทธิพิเศษเช่นนี้ ทั้งตอนเรียนมัธยมปลาย และหลังสอบเกาเข่า
คำพูดของนักเรียนดีเด่น จะไม่มีคนสงสัย
สิ่งที่นักเรียนดีเด่นทำ ต่อให้เป็เื่ผิด ก็สามารถกลายเป็ถูกได้เช่นกัน
เมื่อก่อนพวกเขาทั้งครอบครัวจัดการเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างไร สถานการณ์ในตอนนี้กำลังจะพลิกกลับแล้ว จางชุ่ยใกลัวจนแทบสิ้นใจ!
เซี่ยจื่ออวี้รำคาญมาก ถามเธออยู่ได้ว่าจะทำอย่างไร เธอจะรู้ได้อย่างไรกัน?
เป็เพราะพ่อแม่ของเธอไร้ความสามารถทั้งนั้น ถ้าบีบเซี่ยเสี่ยวหลาน บดบี้เซี่ยเสี่ยวหลานให้มั่นั้แ่ก่อนหน้านี้ หากทำให้อีกฝ่ายไม่มีโอกาสออกจากตระกูลเซี่ย เซี่ยเสี่ยวหลานจะมีวันนี้ได้อย่างไร!
“มันพูดว่าจะสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในปักกิ่ง ดูท่าตั้งใจสู้กับฉันจนเฮือกสุดท้าย! ตอนแรกฉันคิดไว้ว่ากลับมาคราวนี้จะพาแม่กับพ่อไปปักกิ่ง แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ ไปหรือไม่ไปก็ให้แม่กับพ่อเลือกเองแล้วกัน”
ธุรกิจอาหารว่างลำบากมากจริงๆ สองคนช่วยกันประคับประคองยังพอไหว แต่ตอนนี้เซี่ยฉางเจิงเสียมือไปข้างหนึ่งแล้ว เซี่ยจื่ออวี้จำต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของบิดามารดา เมื่อนึกถึงธุรกิจกวดวิชาที่ตนเองเริ่มสร้างแล้ว เธอคิดว่าไม่เป็ปัญหาที่จะเลี้ยงดูคนอีกสองคน แม้จะโทษพวกเขาว่าไร้ความสามารถ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็คือพ่อแม่ของเธออยู่ดี เซี่ยจื่ออวี้ยังคงอยากดูแลมากกว่า
บุตรสาวจะรับบิดามารดาเข้าปักกิ่งไปใช้ชีวิต เซี่ยฉางเจิงเกือบตอบตกลงทันที แต่จางชุ่ยกลับกลัวเซี่ยเสี่ยวหลาน
หากเซี่ยเสี่ยวหลานไปปักกิ่งก็ดีที่สุดเลย เธอไม่้าอยู่ในสถานที่เดียวกับตัวนำเคราะห์ร้ายคนนี้แม้แต่น้อยจริงๆ
“ถ้าไป จะทำอย่างไรกับน้องชายลูกเล่า?”
ประโยคนี้ของจางชุ่ยทำเอาเซี่ยจื่ออวี้โกรธเกรี้ยว จะทำอย่างไรได้ แน่นอนว่าต้องปล่อยไว้ให้บ้านยายดูแล ต่อให้เธอเก่งกล้าสามารถขนาดไหน เมื่ออยู่ในปักกิ่งเธอก็เป็เพียงนักศึกษาคนหนึ่ง จะหาโรงเรียนดีๆ ให้เซี่ยจวิ้นเป่าได้เชียวหรือ!
เซี่ยจื่ออวี้ท้อแท้เหลือเกิน
นี่ก็คือความแตกต่างระหว่างชะตากรรมของเธอกับเซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยเสี่ยวหลานใจเด็ดพอ พอบอกว่าไม่้าบิดาบังเกิดเกล้าก็ไม่เอาจริงๆ ส่วนเธอกลับต้องมีทั้งครอบครัวเป็ภาระ! เป็เพราะห่วงเซี่ยจวิ้นเป่า และเพราะไม่อยากเคียงข้างเธอยามที่ต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นของเซี่ยเสี่ยวหลานสินะ? เซี่ยจื่ออวี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“พรุ่งนี้ฉันจะกลับปักกิ่ง ถ้าพ่อแม่ยินดีที่จะไปด้วยก็เก็บข้าวของเสีย ถ้าไม่อยากไปก็อยู่ต่อ!”
จางชุ่ยมองออกว่าลูกสาวโกรธ เธอรีบแก้ตัว “จะไปปักกิ่งทั้งที่ไม่ขอจดหมายแนะนำรึ? ถ้าจะของจดหมายแนะนำแม่กับพ่อลูกก็ต้องกลับหมู่บ้านต้าเหอนะ”
จางชุ่ยไม่อยากกลับไปเลย มือของเซี่ยฉางเจิงกลายเป็แบบนี้แล้ว อีกทั้งไม่ได้กำไรก้อนใหญ่จากการทำธุรกิจ จะกลับไปเพื่ออะไร เพื่อโดนแม่สามีมหาภัยหัวเราะเยาะอย่างนั้นหรือ?
----------------------------------------
เซี่ยจื่ออวี้และครอบครัวมีสภาพราวกับลูกกวางน้อยที่ขวัญหนีดีฝ่อ ทั้งครอบครัวจะเดินทางหนีไปเพื่อหลบลี้ให้พ้นจากรัศมีของเซี่ยเสี่ยวหลาน
ทว่าหลิวฟางกับเหลียงฮวนจะหนีอย่างไร?
เซี่ยจื่ออวี้เรียนมหาวิทยาลัยในปักกิ่ง ส่วนหลิวฟางเป็พนักงานขายในห้างสรรพสินค้า เหลียงฮวนยังเรียนหนังสืออยู่ พวกเธอทำได้แค่อยู่ในเขตเหอตงอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว
เื่ที่เซี่ยเสี่ยวหลานสอบได้เป็อันดับหนึ่งของมณฑลไม่ต่างจากเข็มนับพันนับหมื่นเล่มทิ่มแทงใจของหลิวฟางพร้อมกันเลยทีเดียว แม้เธอจะมั่นใจในตัวเหลียงฮวนขนาดไหน อย่างมากที่สุดก็แค่มีความหวังว่าในอนาคตเหลียงฮวนจะสอบติดมหาวิทยาลัย เธอไม่กล้าจะฝันว่าเหลียงฮวนสามารถคว้าอันดับหนึ่งประจำมณฑลได้ด้วยซ้ำ... ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานทำสำเร็จน่ะสิ! หลิวฟางเป็พวกกระหายชัยชนะ เธอดูแคลนครอบครัวมารดาตัวเอง ดูแคลนคนที่ด้อยกว่าเธอ นำจุดแข็งของตัวเองไปเทียบกับจุดอ่อนของผู้อื่น จึงได้ปฏิบัติต่อเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างขอไปที อีกทั้งตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความมั่นใจว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเลือกเกิดได้ไม่ดี ไม่ได้เกิดมาโชคดีเหมือนเหลียงฮวน!
นอกจากใบหน้าที่สะสวยแล้ว ไม่มีการศึกษา ไม่มีทะเบียนบ้านเมือง ไม่มีการงาน!
ทว่าในตอนนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานกลายเป็บัณฑิตเกาเข่า และมีทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว
บัณฑิตเกาเข่าสามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดได้ นี่คือประวัติการศึกษา
หลังจากบัณฑิตเกาเข่าจบการศึกษามหาวิทยาลัย ก็จะมีองค์กรดีๆ พากันแย่งตัวเธอ นี่คือหน้าที่การงานอันทรงเกียรติ!
ส่วนสิ่งที่จัดการพร้อมอาชีพได้ก็คือทะเบียนบ้าน
สอบเกาเข่าเพียงหนึ่งหน เซี่ยเสี่ยวหลานก้าวข้ามสถานะคนชนบท และทุบความภาคภูมิใจสุดท้ายของหลิวฟางเสียย่อยยับ
ก่อนหน้านี้เหลียงฮวนยังเฝ้าคะนึงถึงโจวเฉิง แอบวางแผนแทงข้างหลังเซี่ยเสี่ยวหลาน คิดหาโอกาสขุดตีนกำแพง ตอนนี้ก็ต้องหยุดแล้ว เหลียงฮวนหาเหตุผลที่โจวเฉิงจะทิ้งเซี่ยเสี่ยวหลานมาเลือกเธอไม่เจออีกต่อไป และชาติตระกูลซึ่งเป็สิ่งเดียวที่เหนือกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานได้หายไปพร้อมกับการออกจากงานของบิดาเธอ
ระหว่างทางกลับจากเขตอันชิ่ง สองแม่ลูกไม่พูดไม่จากันสักคำ
ตะวันเจิดจ้าสาดแสงกระทบทุกสิ่ง ทว่าแสงตะวันอันแรงกล้ากลับมิอาจปัดเป่าหมอกสลัวภายในใจของสองแม่ลูกได้
สิ่งที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ ข่าวของเซี่ยเสี่ยวหลานกระจายไปทุกหนแห่ง ตกเย็นทั้งครอบครัวรับประทานอาหารร่วมกัน หลังจบรายงานข่าว สถานีมณฑลเริ่มออกอากาศบทสัมภาษณ์ของบัณฑิตเกาเข่า
เหลียงปิ่งอันตกตะลึง ทว่านางเหลียงไม่ได้สังเกต จึงพูดเพียงอันดับหนึ่งของมณฑลในปีนี้เป็คนอันชิ่ง ละม้ายคล้ายหลิวฟางหลายส่วนอีกด้วย
“.. หลานสาวเธอคนนั้นแซ่เซี่ยเหมือนกันใช่หรือไม่ ?”
เหลียงฮวนลุกขึ้นพรวดพราด พลิกโต๊ะอาหารคว่ำ “ก็แค่สอบหนึ่งครั้ง มีอะไรให้ชื่นชมนัก เก่งเสียขนาดไหนกันเชียว? ก็แค่อันดับหนึ่งของมณฑลไม่ใช่หรือ... ฮึก ฮือๆ แค่อันดับหนึ่งของมณฑล...”
เธอคว่ำโต๊ะอาหาร ทว่ายังไม่ทันถูกตำหนิ ตัวเธอเองกลับร้องห่มร้องไห้โฮออกมาเสียแล้ว
เพราะเหลียงฮวนรู้อยู่แก่ใจดี อันดับหนึ่งประจำมณฑลมันสุดยอดมากจริงๆ น่ะสิ!