sds
เ้าสัว จักรภัทร....
“โอ้วววว อิหนู” ผมพูดขึ้นอย่างพึงพอใจในเรือนร่างของเด็กสาววัยแรกแย้มแววตาของผมจ้องมองเรือนร่างบางที่นั่งคร่อมอยู่บนตักผมด้วยสายตาแห่งความพึงพอใจ หนูผิงเป็เด็กหัวอ่อนมาก หลอกอะไรนิดอะไรหน่อยก็เชื่อไปซะหมด มีวิธีอื่นตั้งเยอะแยะที่จะยอมให้ผมอนุญาตให้เธอเรียนหมอน่ะ แค่ผมพูดคำกำกวมสองแง่สองง่ามสื่อถึงความ้าของผมเธอก็ยอมใช้วิธีนี้กับผมหึ^_^
“ป๋าขา” เสียงหวานเอ่ยเรียกผมเสียงกระเส่า ทำให้ผมละสายตาจากหน้าอกที่เต่งตึงผ่านเสื้อเชิ้ตตัวบางขึ้นไปมองหน้าที่สวยหวานริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของเธอทำให้ผมอยากจะดูดดึงหยอกเย้า แต่วันนี้เวลาของผมช่างน้อยนิดซะเหลือเกิน
“เรียกป๋าทำไมครับ?” ผมเลิกคิ้วเอ่ยถามเธอ ดวงตาสีนำ้ตาลอ่อนจ้องมองมาั์ตาสีดำของผม
“ป๋าให้หนูผิงเรียนหมอนะคะ อีกสามวันเขาจะเปิดให้สอบแล้ว แต่..."เสียงหวานเงียบลงทำให้ผมแปลกใจว่าทำไมเธอถึงพูดไม่จบ ผมหรี่ตามองเธอใบหน้าหวานเอียงหน้าหลบสายตาของผม มือหนาของผมทั้งสองข้างก็กอดเอวบางของเธอ อยากจะกลืนกินอิหนูนี้ทั้งวันแต่ทำไม่ได้น่ะสิครับ
“แต่อะไรหนูผิง?”
“มหาลัยที่หนูผิงอยากจะเข้าเรียนหมอที่นั่นค่าเทอมแพงมากค่ะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นนำ้เสียงและสีหน้าของเธอดูกังวล จะกังวลทำไมครับ ป๋ารวยป๋าเลี้ยงหนูผิงคนเดียวได้สบายๆอยู่แล้ว ผมอมยิ้มมองหน้าหวานและกระชับมือรัดเอวเธอเข้ามาหาผมทำให้หน้าอกหน้าใจของเธอเกือบจะชิดกับปลายจมูกของผม อิหนูนี้ไม่ได้ใส่ชั้นในเลยน่ะสิครับและข้างล่างของเธอก็น่าจะไม่ได้ใส่อะไรเหมือนกัน
“มหาลัยชื่ออะไรเหรอ?” ผมเลิกคิ้วถามเธอ เธอก็กัดริมฝีปากของตัวเองและเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม
“มหาลัยDLค่ะ” เธอตอบผมและทำสายตาเว้าวอนขอร้อง
“ได้สิครับเดี๋ยวหนูผิงก็ไปทำเื่สอบเลยเดี๋ยวค่าเทอมเราจะมาพูดกันอีกที ป๋าทุ่มไม่อั้นสำหรับสาวน้อยน่ารักอย่างหนูผิง^_^” ผมพูดขึ้นพลางเงยหน้าขึ้นไปหาเธอ เธอก็ยิ้มกว้างและเปลี่ยนเป็ใแทนเมื่อหน้าของผมใกล้ชิดกับใบหน้าเธอ
“ป๋าให้หนูผิงเรียนจริงๆนะคะ?” นำ้เสียงดีใจของเธอทำให้ผมนึกอย่างจะแกล้งเธอ ผู้หญิงอะไรน่ารักน่ากินไปหมดทุกสัดส่วนอุ๊ยไม่ใช่ครับ
“จริงสิแต่ป๋าไม่อยู่หลายวัน....ถ้าวันนั้นหนูผิงจะไปสอบหนูผิงไปกับมาดามนะ เขาจะพาหนูผิงไปและนี่ของหนูผิงคนสวยของป๋า^_^” ผมพูดขึ้นพลางเอื้อมมือไปหยิบบัตรเครดิตสามใบส่งมาให้หนูผิง หนูผิงมองที่บัตรเครดิตพลางขมวดคิ้วผูกกันจนเกือบจะเป็โบว์เลย
“ป๋าให้หนูผิงครับ วงเงินไม่อั้นแต่ป๋าจะมาเก็บดอกที่หนูผิงแทนหึๆๆๆ ฟอดดดด ฟอดดด” ผมพูดขึ้นพลางยื่นหน้าขึ้นไปหอมแก้มนวลสีชมพูใสของเธอด้วยความหมั้นเขี้ยว ผมไม่เคยอยากััผู้หญิงคนไหนเลยั้แ่เธอคนนั้นจากผมไป ผมใช้เวลาอยู่กับความเหงาและความคิดถึงเื่เก่าๆและความรู้สึกผิดตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา จนตอนนี้ผมมาเจอเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่มีชีวิตที่น่าสงสารทำให้ผมนึกสงสารเธอแต่ผมกลัว กลัวว่าความสงสารของผมจะกลับไปทำร้ายเธอ ผมอยากให้หนูผิงมีชีวิตที่สงบสุขผมไม่อยากให้เธอมายุ่งเกี่ยวกับสังคมที่มืดมนของผม เพราะผมกลัวว่าจุดจบของเธอและผมคือการจากลากันอย่างไม่วันได้พบเจอกันอีก
“อื้ออ คนเ้าเล่ห์!!!” เสียงหวานของหนูผิงพูดขึ้นใบหน้าหงิกงอแต่แก้มนวลสีชมพูกับค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็สีแดงระเรื่อขึ้นทำให้ผมเกิดใจเต้นเเรงขึ้นมา
ตึกตักๆๆๆ
พรึบ
“โอ้ย!!” หนูผิงร้องขึ้นด้วยความเ็ปเมื่อผมลุกขึ้นยืนด้วยความใและตกตะลึง ผมจะใจเต้นแรงกับเธอแบบนี้ไม่ได้
“เอ่อ คือ ป๋าขอโทษ แต่ว่าตอนนี้ป๋าไม่ว่างเเล้ว หนูผิงเอาบัตรนี้ไปใช้ซื้อของที่หนูผิงอยากได้นะและที่สำคัญทุกครั้งที่จะออกไปไหนชวนมาดามออกไปด้วยทุกครั้ง มาดามจะดูแลหนูผิงเอง และหนูผิงต้องรายงานป๋าทุกครั้งในกล่องนั้นคือโทรศัพท์ของหนูผิงใช้ติดต่อกับป๋าแค่คนเดียวเท่านั้น นี้คือคำสั่ง!!” ผมลนลานรีบพูดอย่างรัวเร็ว หนูผิงก็เงยหน้ามองผมด้วยความแปลกใจว่าผมเป็อะไร นั้นน่ะสิผมเป็อะไร
“เข้าใจที่ป๋าพูดใช่ไหมหนูผิง!!” ผมที่เห็นว่าร่างบางเอาแต่เงียบผมจึงกดเสียงตำ่เพื่อพูดย้ำให้เธอรับคำผม
“ขะเข้าใจค่ะ” หนูผิงเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงสั่นๆ ผมจึงรีบเก็บของใส่กระเป๋าและรีบเดินออกมาจากห้องทันทีอย่างรีบร้อน
“กลับแล้วเหรอคะท่าน” เสียงมาดามเอ่ยทักผมขึ้นในจังหวะที่ผมกำลังเดินไปยังรถสปอร์ตคันหรูของผมที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“ครับ ผมฝากมาดามดูแลหนูผิงด้วยนะครับ” ผมหยุดเดินและหันไปคุยกับมาดาม มาดามมองมาที่ผมด้วยสายตาจับผิด
“ยังกลัวอยู่เหรอคะ?” มาดามเอ่ยขึ้น นำ้เสียงที่เป็ห่วงของท่านทำให้ผมมองไปยังที่ท่าน ท่านเปรียบเสมือนแม่คนที่สองของผม ผมรักท่านรองลงมาจากคุณหญิงผกามาศเลยล่ะครับ คุณหญิงผกามาศคือคุณแม่ของผมเอง ส่วนคุณพ่อของผมท่านเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้วนี้เองครับ ผมจึงขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้า เลยหน้าที่ทุกอย่างตกมาอยู่ที่ผมซึ่งเป็ลูกชายคนสุดท้องน้องคนสุดท้าย พี่ชายผมเขาก็มีลูกมีเมียแล้ว พี่สาวผมเธอเองก็มีสามีและมีลูกชายแล้วเหมือนกันลูกชายของเธอก็คือนายพลยังไงล่ะครับ หลานชายสุดแสบของผม เหลือแต่น้องคนสุดท้องอย่างผมนี้แหละครับที่ยังไม่ได้แต่งงานและยังไม่มีภรรยากับเขาและลูกยิ่งไม่ต้องพูดถึงครับ เมียยังไม่มีลูกจะมีได้ยังไงล่ะ
“ผมกลัว กลัวว่าผมจะเป็คนทำร้ายเธอ” ผมพูดขึ้นด้วยความเป็กังวล ที่มาดามถามผมว่าผมยังกลัวอยู่เหรอ ท่านคงจะหมายถึงเื่เมื่อสิบปีที่แล้ว ที่ผมสูญเสียผู้หญิงที่ผมรักไปอย่างไม่มีวันกลับ ผมเป็คนทำร้ายเธอเอง ความเป็เด็กของผมเที่ยวป่าวประกาศว่าเธอเป็แฟนผมทำให้เื่นี้รู้ไปถึงหูแก๊งศัตรูคู่อริของพ่อผม พวกมันคิดจะเก็บผู้หญิงที่เปรียบเสมือนยอดดวงใจของเราทิ้งทุกคน ดีที่แม่ผมมีมาดามเป็บอดี้การ์ดส่วนตัวท่านจึงอยู่รอดปลอยภัยถึงทุกวันนี้ และสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อผมยังคงเป็ปริศนามาจนถึงทุกวันนี้อยู่ว่าใครกันที่อยู่เื้ัการตายของพ่อผม และถ้าผมรู้ว่าใครเป็คนฆ่าพ่อผม ผมจะเป็คนไปเก็บมันกับมือของผมเอง
“ชีวิตของเราทุกคนถูกกำหนดมาแล้วค่ะท่าน ในเมื่อเธอคือเนื้อคู่ของท่านและท่านอาจจะคู่กับเธอ..คู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกันค่ะ ยังไงๆท่านก็ยังคงต้องตกหลุมรักเธอเข้าสักวัน” มาดามพูดขึ้น ผมจึงมองหน้าท่านด้วยแววตาที่หดหู่และเต็มไปด้วยความกลัวและความกังวลถ้าผมตกหลุมรักหนูผิงขึ้นมาจริงๆ และเกศล่ะ ผมจะทำยังไงกับเกศ
“ตอนนี้ท่านอายุมากแล้วอาจจะเก่งกว่าตอนนั้น ทำไมท่านไม่ลองเปิดใจรับเธอเข้ามาล่ะค่ะ บางทีเธอคนนี้อาจจะมาช่วยผสานใจของท่านที่มันเคยแตกสะลายให้กลับกลายมามีชีวิตชีวาอีกครั้งก็ได้นะคะ” มาดามยังคงพูดให้กำลังใจผม ผมอาจจะเผลอใจไปกับหนูผิงหลายครั้งแต่ผมควรจะหักห้ามใจไม่ให้รักเธอได้ ผมเชื่อแบบนั้น เกศราเธอคือผู้หญิงคนเดียวในใจของผมตลอดมาและอาจจะตลอดไปเลยซะด้วยซ้ำ ผมก็ทำมาเป็สิบปีแล้วหนิครับ ทำต่อไปอีกทั้งชีวิตก็อาจจะได้ก็ได้นะ
“มันคงจะไม่มีวันนั้นก็ได้ครับ เพราะผมให้สัญญากับเกศไว้แล้ว ว่าผมจะรักและมีแค่เธอตลอดไป”ผมบอกมาดามไป คำพูดของผมทำให้มาดามมองหน้าผมด้วยสายตาแปลกใจ
“แต่ทำไมเวลาที่ฉันเห็นท่านอยู่กับหนูผิงเด็กผู้หญิงคนนั้น ท่านเป็เ้าสัวตัวน้อยๆที่ฉันเคยรู้จักเมื่อสิบปีก่อนล่ะค่ะ” คำพูดของมาดามทำให้ผมมองหน้าเธอด้วยความแปลกใจ ผมเป็แบบนั้นจริงๆเหรอเป็แบบที่มาดามบอกจริงๆเหรอ
“ผมเป็แบบนั้นเหรอครับ?”ผมเอ่ยถามท่านไปด้วยความสงสัย
“เ้าสัว ขี้เล่น ขี้กวน อารมณ์ดียิ้มง่าย เอาใจเก่ง นิสัยของคุณนายพลตอนนี้ยังไงล่ะค่ะเหมือนท่านเมื่อสิบปีก่อนเด๊ะเลยถอดแบบออกมาเหมือนกันเป๊ะ^_^” มาดามพูดไปยิ้มไป ทำให้ผมนึกถึงนิสัยของนายพลที่อารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลายิ้มง่ายขี้เล่นขี้กวน เอาใจคนอื่นเก่งทำให้ผมนึกถึงผมเมื่อครั้งยังเป็เด็ก นายพลนิสัยเหมือนผมจริงๆแหละ
“ไม่ใช่ครับมาดาม เพราะผมแค่สงสารเธอ ผมแค่อยากจะช่วยเธอในฐานะลูกสาวของลูกหนี้แค่นั้น ผมขอตัวกลับก่อน และผมอาจจะไม่ได้เข้ามาที่นี้อีกหลายวัน” ผมเอ่ยบอกมาดามไป
“สวัสดีครับมาดาม” ผมยกมือไหว้ลาท่านและรีบวิ่งไปที่รถสปอร์ตคันหรูของผมและสตาร์ทรถออกไปจากบ้านหลังนี้อย่างไว ผมขับรถไปเรื่อยๆปล่อยใจปล่อยความคิดให้ไปกับความเงียบในใจของผม
“ดอกลิลลี่สีขาวช่อหนึ่ง”ผมลดกระจกลงและเอ่ยสั่งเ้าของร้านดอกไม้ข้างทาง เธอพยักหน้าและรีบนำช่อลิลลี่สีขาวช่อใหญ่มาให้ผม ผมก็จ่ายเงินเธอและรีบเหยียบรถไปยังที่ๆหนึ่งทันทีด้วยความใจร้อนของผม
สุสาน SA
นางสาว เกศรา ยิ้มหภัย อายุ22ปี
ชาตะ 23 มกราคม 2531
มรณะ 10 ธันวาคม 2553
“เกศ เรามาเกศแล้วนะเราเอาดอกลิลลี่ที่เกศชอบมาด้วย เกศให้ดอกลิลลี่สีขาวกับเราบ่อยๆและทุกครั้งที่เกศให้ดอกลิลลี่เราเกศจะพูดว่าฉันรู้สึกดีที่ได้รู้จักและอยู่ใกล้คุณ” ผมพูดขึ้นและค่อยๆล้มตัวลงนั่งบนพื้นหญ้าสีเขียวสะอาดตา มองไปรอบๆก็จะพบกับหลุมและป้ายชื่อของคนที่จากไปเยอะแยะ ที่นี้มีคนดูแลคอยทำความสะอาดทุกวัน ผมจ้องมองไปยังภาพขาวดำของเด็กผู้หญิงในชุดนักเรียนที่กำลังยืนยิ้มอยู่ ผมวางช่อดอกไม้ไว้ข้างๆหลุมฝังศพของเธอ
“ชีวิตของเราตอนนี้ก็ดีนะ อาจจะเหงาไปบ้าง เรายังคิดถึงเธอเสมอ^_^” ผมและยิ้มตอบให้คนในรูปภาพสีขาวดำ เธอเสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อนจากการถูกลอบฆ่าจากใครสักคนที่ผมยังหาตัวไม่พบ และผมจะไม่มีวันหยุดตามหาตัวฆาตกรนั้นเด็ดขาดด้วยเหมือนกัน
“เธอล่ะ เธอเป็ไงบ้าง อยู่บนฟ้าสบายดีไหม” ผมยังพูดกับเธอผมมาหาเธอทุกวันอาทิตย์วันหยุดของผม ผมจะมาพร้อมกับช่อลิลลี่สีขาวที่เธอชอบและนั่งนึกถึงเื่ราวที่เคยเกิดขึ้นกับเราทั้งสองคน ตลอดเวลาที่เราเรียนมหาลัยด้วยกัน เรารักกันและคบกันได้ยังไงผมจำได้ไม่มีวันลืม แต่เวลาแห่งความสุขของผมกับเธอช่างมีน้อยนิดเมื่อความตายมาพรากเธอไปจากผม ผู้หญิงที่เป็เ้าของหัวใจของผม
“เกศรา” ผมเอ่ยเรียกชื่อเธอพร้อมกับลมพัดผ่านวูบหนึ่งเหมือนเธอรับรู้ว่าผมมาหาเธอ ผมยิ้มกว้างขึ้นและยื่นมือไปลูบรูปถ่ายของเธออย่างแ่เบา
“ถ้าเราเป็คนผิดคำสัญญา เกศจะโกรธเราไหม?” ผมเอ่ยถามคำถามที่ผมสงสัยและถ้ามันเป็แบบนั้นจริงๆ ผมคงจะรู้สึกผิดกับเกศไปตลอดแน่ๆ
“เรายังจำคำสัญญาที่เรามีให้กันได้เลยนะเราจะรักแค่เธอและมีแค่เธอคนเดียวตลอดไป” ผมพูดคำสัญญาที่ผมเคยให้ไว้กับเธอ ผู้หญิงที่เป็รักแรกของผมและแฟนคนแรกของผม
“ถ้าวันหนึ่งเราผิดคำสัญญากับเธอขึ้นมาจริงๆ เธอจะโกรธเราไหมเกศ?” ผมถามคำถามโง่ๆออกไปทั้งๆ ที่รู้ว่าเกศราคงไม่ตอบผมกลับมาและผมคงจะไม่ทำให้เธอเสียใจแน่นอน ผมจะซื่อสัตย์และมีแค่เธอคนเดียวตลอดไป
“สิบปีแล้วเนอะที่เกศทิ้งสัวไป ไวจังเนอะ สัวเหนื่อยมากเลยเกศ งานเยอะมากั้แ่ท่านพ่อจากไป งานทุกอย่างก็ตกมาอยู่ที่สัวทั้งหมดเลย อยากจะให้เกศมาอยู่ข้างๆและคอยลูบผมสัวจัง เวลาที่สัวเหนื่อยและท้อ สัวอยากมีเกศอยู่ข้างๆกายอึก” ผมพูดไปพลางร้องไห้ไปนำ้ตาลูกผู้ชายของผมสูญเสียให้กับผู้หญิงที่ผมรักและผมยังไม่สามารถปกป้องเธอได้อีก ผมเอามือปาดนำ้ตาและยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา ได้เวลางานของผมแล้วที่จริงผมอยากจะมีใครสักคนมาคอยเป็กำลังใจให้ผม และอยู่ข้างๆ ผมในวันที่ผมท้อและเหนื่อยแบบนี้ งานที่ผมทำมันก็เสี่ยงมากจริงๆและทุกวันผมต้องไปหลายที่ คนที่จะมาเป็ผู้หญิงของมาเฟียได้จะต้องเก่งการต่อสู้เพราะสิ่งอันตรายอยู่รอบๆข้างตัวเธอ ชีวิตของเธอจะต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย มีเงินใช้เยอะแยะใช้ทั้งชาติก็ไม่มีวันหมดแต่มันแค่ไม่มีความสุข แต่จะทำยังไงได้ล่ะก็ชีวิตของผมถูกลิขิตมาให้เป็แบบนี้และข้างๆกายผมคงจะไม่มีหญิงใดได้มาอยู่ข้างๆกายไปจนผมตายจากโลกนี้ไปก็เป็ได้
“เราต้องไปแล้ว เดี๋ยวเรามาหาใหม่นะ บายย^_^” ผมพูดขึ้นและลุกขึ้นยืนและค่อยๆ เดินหันหลังจากหลุมฝังศพของเกศรา และหลับตาลงรับลมที่พัดเข้ามาปะทะใบหน้าของผม พอผมหลับตาใบหน้าหวานริมฝีปากบางด
วงตากลมโตราวกับตุ๊กตาของเวียงพิงค์ก็ลอยเข้ามารบกวนผมอยู่ตลอดเวลา ผมจะทำใจไม่ชอบเธอได้จริงๆเหรอ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้