หุบเขาไร้โศก
บนเวที ซ่งฉิงซูยืนเชิดอก ทำท่าประหนึ่งผู้ที่อยู่เหนือกว่า พลางมองกู่ไห่ เหมือนกำลังมองคนตายกระนั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความมาดร้าย
“เราจะทำอย่างไรดีเ้าคะ?” เสี่ยวโหรวซึ่งอยู่ข้างเวที ร้อนใจยิ่ง
เฉินเทียนซานก็กังวลเช่นกัน ตรงกันข้ามกับเกาเซียนจือ ที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
กู่ไห่ค่อยๆ เดินไปที่เวที ซึ่งมีกระดานหมากวางอยู่ ทุกคนต่างพากันถอยหลบ ราวกับเขาเป็เทพแห่งโรคา
“หัวหน้าสังกัดวารีแห่งหออี้ผินหรือ? เขาจบสิ้นแล้ว!”
“ไม่ได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปี นี่มันแพ้เห็นๆ เลยมิใช่หรือ?”
"ซ่งฉิงซูผู้นี้ ช่างโเี้นัก!"
ขณะที่ผู้ฝึกตนโดยรอบ ต่างกระซิบกระซาบกันนั้น กู่ไห่ก็ขึ้นไปบนเวทีแล้ว
เมื่อลำแสงจากเมฆดำฉายมาคลุมร่าง ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่อยู่เหนือศีรษะ ประหนึ่งพร้อมโจมตีทุกเมื่อ ลำแสงสีขาวซึมลึกเข้าใต้ิั เหมือนเชื่อมตัวมันเอง เข้ากับพลังชี่ที่อยู่ในตันเถียนของเขา
ชายหนุ่มเงยหน้ามองท้องฟ้า ไม่ชอบความรู้สึกที่ชะตากรรมของตน ถูกผู้อื่นกุมเอาไว้เช่นนี้
"กู่ไห่ อย่าโทษข้าเลย เป็เ้าเองที่หาเื่ใส่ตัว!" ซ่งฉิงซูกล่าวเสียงเย็น
กู่ไห่ยกยิ้มเ็า ไม่ยี่หระใดๆ และนั่งลงอย่างเอื่อยเฉื่อย
ตามกฎแล้ว ผู้ที่ถูกเลือกขึ้นมาเป็คู่ต่อสู้ จะต้องถือครองหมากดำ และเริ่มเดินก่อน
กระดานหมากวางเปล่า เม็ดหมากอยู่ในชามสองใบ รอให้ผู้เล่นทั้งสองเปิดกระดาน
กู่ไห่ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคีบหมากดำขึ้นมา ค่อยๆ ยื่นเม็ดหมากไปยังกระดานหมากล้อม
แม้ซ่งฉิงซูจะคิดว่า ชัยชนะได้ตกเป็ของตนแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าประมาท เพราะเคยลิ้มรสความพ่ายแพ้ จากน้ำมือของอีกฝ่ายมาแล้ว
ขณะที่กู๋ไห่หยิบเม็ดหมากออกมา สีหน้าของซ่งฉิงซูก็เคร่งขรึมทันที ทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิ ตั้งตารอ ส่วนผู้ฝึกตนจำนวนมากที่อยู่ด้านล่าง ต่างก็จับจ้องกระดานหมากเขม็ง
กู่ไห่ค่อยๆ วางหมาก
ก๊อก!
เมื่อหมากดำถูกวางบนกระดาน สายตาของผู้ฝึกตนเกือบทั้งหมดต่างเบิกกว้าง
"จุดเทียนหยวน[1]! เขาวางหมากตรงจุดเทียนหยวน?"
"จุดเทียนหยวนเป็ตำแหน่งศูนย์กลางกระดานหมาก น้อยครั้งนัก ที่จะมีคนวางหมากตรงนั้น!"
"หมากแรกกลายเป็หมากเสียไปแล้ว?"
“บ้าไปแล้วหรือ? เขาทำโอกาสดีๆ เช่นนี้ ให้เสียเปล่าได้อย่างไร?”
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน ต่างโพล่งออกมา ผู้ใดเริ่มวางหมากก่อน ผู้นั้นย่อมได้เปรียบ เพราะสามารถกำหนดทิศทางหมากได้
แต่กู่ไห่กลับเสียโอกาส ไปอย่างเปล่าประโยชน์เช่นนี้?
“แท้จริงแล้ว ท่านหัวหน้าไม่ได้เล่นหมากกับผู้ใดมาสามสิบปีจริงๆ! เหตุใดเขาถึงได้วางหมากตรงจุดเทียนหยวน?” เฉินเทียนซานกล่าวอย่างเป็ห่วง
“จุดเทียนหยวนแล้วอย่างไร? จะแพ้หรือเ้าคะ?” เสี่ยวโหรวถามด้วยความร้อนใจ
“เฮ่อ!” เฉินเทียนซานถอนหายใจยาว เป็การยืนยันเื่ที่อีกฝ่ายกำลังเป็กังวล
"เอ๊ะ?" เสี่ยวโหรวมีสีหน้าวิตกยิ่ง
"เื่นั้นก็ยังไม่แน่!" เกาเซียนจือกล่าว พลางส่ายหน้า
ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ด้านล่าง ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ตอนแรกซ่งฉิงซูที่อยู่้า ก็รู้สึกประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็ยินดี แท้จริงแล้ว กู่ไห่ก็ไม่รู้วิธีเดินหมาก โอกาสดีๆ เช่นนี้ กลับปล่อยให้สูญเปล่า
"ฮ่าๆๆ! กู่ไห่ ข้าแค่อยากยื้อเวลาอีกหน่อย เ้าอย่าเพิ่งรีบแพ้ไปก่อนล่ะ!"
หลังจากที่ดึงเวลาเกือบครบสามสิบอึดใจ ซ่งฉิงซูก็หยิบหมากขาวขึ้นมา และวางบนกระดานอย่างเนิบช้า
ก๊อก!
หลังจากหมากขาวถูกวางลงแล้ว กู่ไห่ก็ยังเหลือเวลาอีกสามสิบอึดใจในการคิด
ทว่า ยังไม่ถึงอึดใจ เขาก็เตรียมวางหมากแล้ว
ก๊อก!
หมากดำถูกวางบนกระดาน
"อะไรกัน?" ดวงตาของซ่งฉิงซูเบิกกว้างทันที
ฝูงชนที่อยู่ด้านล่าง ตกอยู่ในความโกลาหล
“มิใช่ว่ามีเวลาสามสิบอึดใจหรอกหรือ? ทำไมเขาไม่ยื้อเวลาเอาไว้? เหตุใดถึงวางหมากเร็วเช่นนี้?”
"กู่ไห่ ช้าหน่อย เ้าวางหมากช้าลงหน่อย!"
"เ้าอย่าวางหมากเร็วเช่นนั้น ใช้เวลามากกว่านี้ ให้เราได้มีความหวังที่จะรอดชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหน่อยเถอะ!"
แต่กู่ไห่หาได้ใส่ใจไม่
รอจนเวลาสามสิบอึดใจใกล้หมด ซ่งฉิงซูจึงค่อยวางหมากขาว
ก๊อก!
ก๊อก!
เช่นเดิม
"กู่ไห่! เ้าอยากตายหรือ?" ซ่งฉิงซูตวาดด้วยความโกรธ
กู่ไห่ยกยิ้มเ็า กล่าวว่า "ข้าจะอยู่หรือตาย มันก็มิใช่เื่ที่เ้าจะมาสอดปากยุ่ง"
“เหตุใดไม่รอจนใกล้หมดสามสิบอึดใจ แล้วค่อยวางหมาก?” ซ่งฉิงซู ะโถามอย่างกระวนกระวาย
"ข้าจะวางหมากอย่างไร ไม่ต้องให้เ้าสอน! เวลาสามสิบอึดใจใกล้หมดแล้ว วางหมากเถอะ!" ชายหนุ่มตำหนิ น้ำเสียงเ็า
"เ้า!" ซ่งฉิงซูจ้องเขม็งอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยังรีบวางหมากขาวลงบนกระดานทันที
ก๊อก!
ก๊อก!
กู่ไห่วางหมากดำตามไปอย่างรวดเร็ว คล้ายไม่ได้ไตร่ตรองใดๆ
"เ้า! ฮึ่ม!... ถ้าอยากตายนัก เช่นนั้นก็อย่ามาโทษข้าแล้วกัน!" ซ่งฉิงซูกล่าว ดวงตากลายเป็สีแดงก่ำ
เขายังคงยื้อเวลาจนใกล้ครบสามสิบอึดใจ แล้วค่อยวางหมาก ตรงข้ามกับกู่ไห่ ที่ยังคงวางหมากอย่างรวดเร็ว มิได้หยุดใคร่ครวญใดๆ
ความเร็วในการวางหมากของชายหนุ่ม ทำให้ผู้คนเคร่งเครียดเป็อย่างมาก
พริบตา หมากขาวก็ถูกวางลงบนกระดานกว่าร้อยเม็ดแล้ว
ในตอนแรก ทุกคนต่างคิดว่ากู่ไห่รนหาที่ตาย และวางหมากแบบขอไปที คาดว่าในไม่ช้า คนผู้นี้ต้องพ่ายแพ้ให้กับซ่งฉิงซูแน่
อย่างไรก็ตาม แม้หมากขาวจะถูกวางบนกระดานไปกว่าร้อยเม็ดแล้ว แต่หมากดำของกู่ไห่ ก็ยังไม่โดนกินเลย แม้แต่เม็ดเดียว
"เป็ไปไม่ได้ เป็เช่นนี้ได้อย่างไร? เ้าไม่ได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปีแล้ว มิใช่หรือ?" ซ่งฉิงซูอารมณ์เสียมากขึ้นเรื่อยๆ
หมากเม็ดที่หนึ่งร้อยห้าสิบ ถูกวางลงบนกระดาน
แววตาซ่งฉิงซู มีร่องรอยของความสับสน แม้ว่ากู่ไห่จะยังไม่ได้กินหมากขาวของเขาแม้แต่เม็ดเดียว แต่ตัวเขาเอง ก็ไม่อาจกินหมากของอีกฝ่ายได้ แม้แต่เม็ดเดียวเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่า ยิ่งมอง เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจหมากกระดานนี้มากขึ้นทุกที
ตอนแรก มันยังเป็ไปตามที่ซ่งฉิงซูคาดการณ์ไว้ แต่บัดนี้เขากลับถูกชักจูงให้เดินตามรูปหมากดำของกู่ไห่ ที่ดูเหมือนจะถูกวางแบบขอไปที เป็ไปได้อย่างไร? เป็ไปไม่ได้! ข้าจะตกเป็รองเ้ากู่ไห่นั่นได้อย่างไร?
พริบตา หมากขาวเม็ดที่สองร้อยก็ถูกวางลงบนกระดาน
ตอนนี้ถึงตากู่ไห่แล้ว ครานี้เขาไม่ได้วางหมากลงไปอย่างรวดเร็วเช่นก่อนหน้านี้ แต่กลับเหลือบไปมองซ่งฉิงซูแทน
ซ่งฉิงซูจ้องกระดานหมากเขม็ง คล้ายจิตใจยังจมจ่อมอยู่ที่กระดานหมาก จึงมิได้สนใจ ว่ากู่ไห่ได้วางหมากลงไปแล้วหรือไม่ หน้าผากเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นๆ มือกำหมัดแน่น
รอยยิ้มบางเบา ปรากฏบนริมฝีปากกู่ไห่ ขณะค่อยๆ วางหมาก
ก๊อก!
หมากดำถูกวางลงบนกระดาน มันเชื่อมเข้ากับหมากเม็ดแรก ที่วางตรงจุดเทียนหยวน
ชั่วพริบตา หมากดำที่กระจัดกระจายของกู่ไห่ ก็เป็ดั่งตาข่ายฟ้าดิน ล้อมพื้นที่จำนวนมาก...
... หมากขาวถูกล้อมแล้ว!
ปัง!
หมากขาวหกสิบสี่เม็ดถูกนำออกจากกระดาน และหายไปทันที
"อะไร! นี่มันหมายความว่าอย่างไร? เป็ไปได้อย่างไรกัน?" ซ่งฉิงซูผุดลุกขึ้นด้วยความใ
เมื่อครู่ พวกตนยังขับเคี่ยวชนิดหายใจรดต้นคอ แต่ชั่วพริบตา หมากขาวของตน กลับถูกกินถึงหกสิบสี่เม็ด? นี่มิใช่แค่การสังหารั แต่เป็การสังหารัสามตัวในคราเดียว!?
“หมากดำเป็ฝ่ายชนะ!” เสียงประกาศดังจากกลางเมฆดำ
หมากดำชนะ? หมากดำชนะ? ผู้ถือหมากขาวกำลังจะตาย? ข้ากำลังจะตาย!?
ซ่งฉิงซูขนลุกไปทั้งร่าง
"เป็ไปไม่ได้ เ้าจะเอาชนะข้าได้อย่างไร? เ้าไม่ได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปี แล้วจะสามารถชนะข้าได้อย่างไร? โกง! เ้าโกงใช่หรือไม่?" ซ่งฉิงซูะโใส่กู่ไห่
กู่ไห่ยิ้มเย็น พลางกล่าว "ข้าไม่ได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปี แต่มิได้หมายความว่า ข้าไม่ได้เดินหมากมาสามสิบปี!"
“หมายความว่าอย่างไร?” ซ่งฉิงซูโพล่งถามอย่างใ
กู่ไห่ยิ้มน้อยๆ ไม่ได้อธิบายแต่อย่างใด
การพลิกกระดานชนะอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ด้านล่างตื่นตระหนก
"เป็ไปได้อย่างไร? นี่คือ ‘ฉีเหยียน’ หนึ่งหมากสังหารสามั?"
"หมากแรกตรงจุดเทียนหยวน แท้จริงมิใช่หมากเสีย? เขาฉลาดถึงเพียงนี้เชียวหรือ?"
"อาจบังเอิญก็ได้กระมัง?"
“หาใช่เื่บังเอิญ สังหารสามั เ้าเคยเห็นผู้ใดสังหารสามัเช่นนี้มาก่อนหรือไม่?”
ฝูงชนโดยรอบ ต่างตกอยู่ในความโกลาหล ที่ผ่านมาทุกคนก็เหมือนกับซ่งฉิงซู ที่จิตใจจดจ่ออยู่กับกระดานหมาก โดยมิได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่แสนอันตรายนี้
หนึ่งหมากฟ้า หนึ่งหมากดิน! ช่างเป็การพลิกกระดานที่น่าใ!
ด้านหลังฝูงชน เิไท่ที่กำลังอ่อนแอ จับจ้องหมากอันน่าทึ่งกระดานนั้น
"สังหารสามัในดาบเดียว? กู่ไห่ผู้มาจากอาณาจักรมนุษย์? เข้าใจแล้ว... แค่กๆ! ข้าเข้าใจแล้ว เขาไม่ได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปี นั่นเพราะไม่มีผู้ใดมีคุณสมบัติพอ ที่จะเดินกับเขา... แค่กๆ! " สีหน้าของเิไท่น่าเกลียดยิ่ง เมื่อมองไปที่รูปหมากของกู่ไห่ที่อยู่้า
“ดียิ่ง... ผู้มีพระคุณชนะแล้ว! เขาชนะแล้ว!” เสี่ยวโหรวะโอย่างตื่นเต้น
“ยอดมาก! มิใช่ว่า เขาไม่ได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปีหรอกหรือ? เหตุใดถึงเก่งกาจถึงเพียงนี้?” เฉินเทียนซานโพล่งออกมาด้วยความใ ขณะจ้องมองกู่ไห่
เกาเซียนจือขมวดคิ้วมุ่น พร้อมกล่าว "ข้าเดาว่า บางทีทักษะการเดินหมากของท่านหัวหน้า คงจะเก่งกาจเกินไป จนไม่มีผู้เล่นหมากคนใดในแผ่นดินเกิด อยู่ในสายตาเขา"
“ไม่มีผู้ใดอยู่ในสายตา เช่นนั้นหรือ?”
...
บนเวทีประลอง
ซ่งฉิงซูก็เข้าใจถึงความหมายของวาจา ที่กู่ไห่กล่าวแล้วเช่นกัน ไม่ได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปี มิใช่เพราะทักษะการเดินหมากของเขาย่ำแย่ ตรงกันข้าม เขาเก่งเกินไปต่างหาก
"เ้าโกหกข้า! เ้าหลอกข้า!" ซ่งฉิงซูโวยวายใส่กู่ไห่
ครืนๆ!
ภายในเมฆดำเกิดความปั่นป่วน กระบี่ยาวร้อยจั้งค่อยๆ ปรากฏตัว และชี้ไปที่ซ่งฉิงซู ราวกับกำลังจะพุ่งมาผ่าเขาออกเป็สองซีก
"ข้าไม่อยากตาย เ้าหลอกข้า กู่ไห่ เ้าหลอกข้า ข้าจะฆ่าเ้า!" ซ่งฉิงซูะโอย่างสิ้นหวัง
ดูเหมือนเขาจะบ้าไปแล้ว จู่ๆ ก็ซัดฝ่ามือไปทางกู่ไห่ จากนั้นพลังชี่จำนวนมาก ก็พุ่งออกจากฝ่ามือเขา พลังที่ปล่อยออกมานั้น ช่างแข็งแกร่ง คล้ายจะบดขยี้กู่ไห่ให้ตายในพริบตา
"ระวัง!" เฉินเทียนซาน และเสี่ยวโหรว ร้องเตือนทันที
กู่ไห่กลับผุดลุกขึ้น สายตาปรากฏแววเย็นเฉียบ "อาการาเ็จากะเิไม่กี่วันก่อน ยังไม่หายดีมิใช่หรือ?"
พูดพลาง กู่ไห่ก็กระทืบเท้าข้างซ้ายลงไปบนพื้น เกิดเสียงดังสนั่น สายลมกระโชกแรง ขณะที่เท้าขวา ก้าวออกไปครึ่งก้าว เกร็งกล้ามเนื้อ ขณะที่ปลดปล่อยพลังชี่จำนวนมากออกจากร่าง
"ย๊าก!" กู่ไห่เปล่งเสียง รวบรวมพลังทั้งหมดไปที่กำปั้นขวา
โฮก!
เสียงัคำรามคล้ายดังจากหมัดขวา หัวัชี่พุ่งออกจากกำปั้น กระแทกเข้าที่ฝ่ามือของซ่งฉิงซู
ตูม!
เสียงะเิดังสนั่น พื้นด้านล่างสั่นะเือย่างรุนแรง จนฝุ่นฟุ้งไปทั่ว
ฟู่!
ซ่งฉิงซูพลันกระอักโลหิต ร่างถูกดันถอยหลังไปสี่ห้าก้าว ก่อนจะร่วงลงไปจากเวทีประลอง
"อะไรน่ะ?" เหล่าศิษย์หออี้ผินร้องะโด้วยความใ
กู่ไห่ยืนอยู่บนเวทีประลองอย่างปลอดภัย มิได้ถอยกลับไปแม้แต่ก้าวเดียว กู่ไห่มองดูซ่งฉิงซูซึ่งถูกชกกระเด็นในหมัดเดียว
“ซ่งฉิงซูได้รับาเ็สาหัสจากการะเิในวันนั้น แต่ได้รับการรักษาจนหายแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน ถึงอย่างนั้น ฝ่ามือของเขาก็แข็งแกร่งเทียบได้กับผู้ที่อยู่ในขั้นที่สี่ของระดับก่อ์เลยทีเดียว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกู่ไห่ กลับตอบโต้ไม่ได้แม้แต่น้อย? ไม่สิ! กู่ไห่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหรือ?" เิไท่กล่าว พร้อมเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง
ซ่งฉิงซูถูกโจมตีจนตกเวทีประลอง ร่างกระแทกพื้น ไม่มีเวลาแม้แต่จะร้องโอดครวญ กระบี่ที่อยู่บนฟ้า ก็พุ่งลงมาแล้ว
"ไม่!" ซ่งฉิงซูร้องะโด้วยความสิ้นหวัง
ตูม!
ร่างซ่งฉิงซูถูกผ่าออกเป็สองซีก เสียงร้องโหยหวนดังก้องทั่วหุบเขา ไม่รู้ว่าเพราะไม่เต็มใจจะแพ้แก่กู่ไห่ หรือเพราะสิ้นหวังที่ถูกกระบี่ผ่าร่าง แต่ผู้ใดก็ตามที่ได้ยิน ล้วนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเสียใจ ที่แฝงอยู่ในเสียงนั้น
ไม่มีผู้ใดหนีพ้นกรรมชั่วที่ตนก่อไว้!
แต่ทุกอย่างล้วนไม่อาจแก้ไขได้แล้ว...
... ซ่งฉิงซูนอนจมกองเื
ทั่วหุบเขาตกอยู่ในความเงียบงัน ผู้คนต่างพากันจับจ้องชายหนุ่มซึ่งอยู่บนเวทีเป็ตาเดียว เพราะรู้ดีว่าผู้ที่ชนะ จะต้องเดินหมากกับกลหมากกระบี่์เป็ลำดับถัดไป
กู่ไห่ไม่ได้รู้สึกเสียใจใดๆ ที่ซ่งฉิงซูถูกสังหาร เพียงมองท้องฟ้าด้วยสีหน้าดุดัน
-------------------------------------------
[1] จุดเทียนหยวน กระดานหมากล้อม จะประกอบไปด้วยจุดตัดทั้งหมด 361 จุด ซึ่งเป็การตัดกันของเส้นแนวตั้งและแนวนอนอย่างละ 19 เส้น โดยจุดตัดกึ่งกลางกระดานนั้น เรียกว่า ‘จุดเทียนหยวน’
[2] ฉีเหยียน คือ การวางหมากล้อมหมากของอีกฝ่ายเอาไว้ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่อาจต่อหมากนั้นได้อีก เป็การปิดทางเดินหมากของฝ่ายตรงข้าม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้