เมื่อกลับมาถึงตำหนักอี้คุนกง ฮองเฮาตู้ก็เขียนจดหมายฉบับหนึ่งและส่งออกไปทันที
ผู้คนที่ไม่ได้ใช้งานก็ถูกไล่ออกไป เหลือเพียงแค่กูกูคนสนิทที่ดูแล
“ฉู่ชิงอีนั่นช่างโชคดีเสียจริง ขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก!” กูกูที่ดูแลพูดอย่างไม่พอใจ “คราวนี้นางกลับมากำจัดไทเฮา ก็ถือว่าเป็การแก้แค้นแทนท่าน ตอนนี้ไทเฮากับองค์หญิงใหญ่จุนหนิงก็เกลียดนางเป็อย่างมาก ต่อไปเราก็ไม่จำเป็ต้องยั่วยุนางด้วยตนเองอีกแล้วเพคะ”
“ไทเฮา แม่มดเฒ่านั่นไม่ได้เื่เอาซะเลย ตระกูลมารดาของนางก็ไม่เป็โล้เป็พาย เ้าคิดไหมว่าเหตุใดฮ่องเต้องค์ก่อนจึงเลือกให้นางเลี้ยงดูฝ่าา ไม่ใช่เพราะนางไม่มีศักยภาพหรอกหรือ ถึงแม้จะมีความทะเยอทะยานก็ตามเถอะ” ฮองเฮาตู้ส่งเสียงฮึออกมา “ช่างเป็ของเสียที่ไร้ประโยชน์เสียจริง โอกาสอยู่ตรงหน้านางขนาดนั้นแล้ว ก็ยังจัดการกับฉู่ชิงอีไม่ได้ คนที่เราส่งไปก็เช่นกัน เกิดอะไรขึ้นกับเหล่านักฆ่าที่เสียชีวิตกันแน่ ถึงได้เหลือรอดชีวิตไปเป็พยานปากในมือของอีกฝ่าย!”
“ท่านหญิงใจเย็นเอาไว้นะเพคะ แม้ว่าฉู่ชิงอีจะพูดเช่นนั้น ทว่าเราก็ยังไม่เห็นพยานปากที่รอดชีวิตเ่าั้เลยนะเพคะ บางทีนางอาจจะหลอกพวกเราก็ได้ เราเพิ่งอย่าเข้าไปยุ่งเลยเพคะ”
ฮองเฮาตู้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า พร้อมกับแววตาที่คาดเดาไม่ได้ “อย่างไรก็ตาม มันก็น่าแปลกใจจริงๆ ที่มีปีศาจในวัดตงหวา น้ำมันศพที่จุดในตะเกียงแห่งชีวิตนั่น เห็นได้ชัดว่า้าให้ฝ่าาต”
“ท่านคิดว่าเื่นี้จะเป็ไทเฮาไหมเพคะ...”
ฮองเฮาตู้ส่ายหน้าและพูดว่า “คนสุดท้ายในวังนี้ที่ไม่้าให้ฝ่าาตาย เกรงว่าจะเป็แม่มดเฒ่านั่น นางไม่ทำเช่นนั้นหรอก”
“ถ้าอย่างนั้น...” สีหน้ากูกูที่ดูแลเปลี่ยนไปเล็กน้อย “แย่แล้ว! จะมีใครสงสัยเราเกี่ยวกับเื่นี้ไหมเพคะ?”
ฮองเฮาตู้ถึงกับหายใจติดขัดไปชั่วครู่ ไม่มีใครรู้ว่าก่อนที่ฝ่าาจะทรงพระประชวรหนักเกือบจะแตกหักกันกับตระกูลตู้ ตอนนี้ท่านพี่ของนางกุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินและแก่งแย่งชิงดีกับฝ่ายของเซียวเจวี๋ย สำหรับการคิดร้ายต่อฝ่าา แน่นอนว่า ผู้ที่น่าสงสัยที่สุดสำหรับเื่นี้ก็คือตระกูลตู้ของพวกเขาไปโดยปริยาย!
“ท่านพี่คงไม่สับสนขนาดนั้นหรอก!” ฮองเฮาตู้ส่ายศีรษะ “ไม่ได้การแล้ว เ้ารีบไปที่จวนตู้โดยเร็วที่สุดแล้วถามเกี่ยวกับเื่นี้ให้ชัดเจนด้วยตนเอง”
“เพคะ”
...
หลังจากกลับมาที่วังเพื่อจัดการคนเลว พญามัจจุราชก็รู้สึกไม่มีความสุขเอาเสียเลย
ก็แค่ขยะ ทรมานพวกเขาแค่นั้นจะไปรู้สึกสนุกได้อย่างไรกัน?
ชิงอีเอียงศีรษะไปทางด้านข้างของตนเองและเลิกคิ้วขึ้น “เ้าไม่มีอะไรทำหรือไร?”
เซียวเจวี๋ยก็ไปแล้ว เหตุใดชายหนุ่มผู้นี้ยังไม่ไปอีก
ฉู่จื่ออวี้ส่งเสียงฮึออกมาและพูดว่า “เื่ของข้าน่า ข้าอยากไปเดี๋ยวข้าก็ไปเอง”
ชิงอีที่ี้เีเกินกว่าจะไปสนใจเด็กน้อยคนนี้ นางแค่้ากลับไปที่ตำหนักเพื่อพักผ่อน
เมื่อมาถึงประตูตำหนักเชียนชิว ก็เห็นเหล่าข้าหลวงคุกเข่าอยู่ในตำหนักจากระยะไกล ทั้งยังเรียงแถวเป็ระเบียบเรียบร้อย
“ยินดีต้อนรับองค์หญิงเสด็จกลับสู่วังเพคะ!”
ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา ตอนนี้ใบหน้าเ่าั้กลับเต็มไปด้วยน้ำตา และมองมาที่นางราวกับว่าพวกเขาได้เห็นสมาชิกในครอบครัวที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากที่แยกจากกันไปนาน
วันที่ไม่มีชิงอีอยู่ ชีวิตของเหล่าข้าหลวงในตำหนักเชียนชิวไม่ต่างอะไรไปจากหมูหมา! สถานะในวังหลวงแปรเปลี่ยนจากฟ้าสู่ดินในชั่วพริบตา ไม่ว่าจะไปที่ใดก็โดนคนมองกลอกตาใส่และถูกคนรังเกียจไปเสียทุกที่
ในที่สุดที่พึ่งพิงก็กลับมาแล้ว และมันถึงเวลาที่พวกเขาจะกลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง
ชิงอีมองไปยังเหล่านางกำนัลที่คุกเข่าด้วยรอยยิ้มและพูดเบาๆ ว่า “ดูเหมือนว่าข้ากลับมาแล้วพวกเ้าคงมีความสุขมากๆ เลยสินะ!”
“องค์หญิงเพคะ ในระหว่างที่ท่านไม่อยู่ เหล่านางกำนัลและข้าหลวงกินไม่ได้นอนไม่หลับกันเลยเพคะ!”
“พวกข้าต่างรอคอยให้องค์หญิงเสด็จกลับมา ดีจริงๆ ที่ฟ้ามีตา ในที่สุดท่านก็กลับวัง!”
ช่างเป็ความจงรักภักดีที่หัวใจััได้จริงๆ
สีหน้าของชิงอียังคงยิ้มเช่นเดิม นางถอนหายใจและเช็ดมุมตาของตนเองราวกับว่านางซาบซึ้งจริงๆ
“โอ๊ะ ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเ้าจะจงรักภักดีต่อข้าเช่นนี้ ข้าอยู่ข้างนอกได้รับความทุกข์ยากลำบาก พวกเ้าที่อยู่ในวังได้รับความลำบากก็ยังไม่ลืมเ้านายของตัวเอง กลับมาครั้งนี้ข้าจะให้รางวัลพวกเ้าอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เหล่าข้าหลวงในวังก็ต่างเผยให้เห็นถึงสีหน้าของความคาดหวัง
ฉู่จื่ออวี้ที่อยู่ด้านข้างถึงกับขมวดคิ้วแน่น กลุ่มคนที่ทรยศเหล่านี้ท่านยังจะให้รางวัลแก่พวกเขาอีกหรือ?
เมื่อเขากำลังจะหยุดนาง ทว่า ก็ได้ยินชิงอีพูดออกมาว่า “มานี่สิ พาพวกเขาไปทั้งหมดไปที่ซินเจ่อคู่[1]”
อุ๊บ...
เถาเซียงและต้านเสวี่ยหัวเราะออกมา และไม่แสดงอาการแปลกใจแม้แต่น้อย
องค์หญิงทรงมีนิสัยอาฆาตพยาบาทเช่นนี้ ไว้ชีวิตพวกคนชั่วเหล่านี้ด้วยอย่างนั้นหรือ?
เหล่าข้าหลวงในวังถึงกับตะลึงงันไปชั่วครู่ ส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวในทันที และเฝ้าอ้อนวอนขอความเมตตา
ชิงอีส่งเสียงฮึออกมาและไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเื่นี้ คนทรยศที่หักหลังข้า แล้วยังจะมาหวังให้ข้ากลับมาให้รางวัลแก่พวกเ้า ในสมองคงมีแต่ขี้เลื่อยสินะ?
เหล่าข้าหลวงถูกลากออกไปทันที และตำหนักเชียวชิวก็ว่างเปล่าในทันใด
ฉู่จื่ออวี้ยกยิ้มมุมปาก และโล่งใจเป็อย่างมาก ที่เขาเข้ามาเพราะกังวลว่าชิงอีจะลังเลที่จะจัดการกับพวกทาสที่ดื้อรั้นเหล่านี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากเกินไป
ถึงจะไม่มีเขา ทว่า ด้วยนิสัยของพี่หญิงในยามนี้แล้ว ยังสามารถอยู่ในวังได้อย่างรอดปลอดภัย!
“เื่ทางทหารยังไม่เรียบร้อย เช่นนั้นข้าขอตัวกลับไปที่วังฝั่งตะวันออกก่อน” ฉู่จื่ออวี้พูดขึ้นมา โดยไม่ได้ตามนางเข้าไป
ชิงอีพยักหน้าและมองเขาด้วยสายตาที่มีเลศนัย เด็กน้อยคนนี้ช่างกลุ้มใจในเื่ที่ไม่เป็เื่เสียจริง
“ชิวอวี่” ฉู่จื่ออวี้หันไปเรียกชิวอวี่และคนอื่นๆ
“พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท”
“ในภาคภาคหน้า พวกเ้าต้องติดตามอยู่ข้างกายองค์หญิง จำไว้ว่านางเป็เ้านาย และต้องปกป้องนางให้ดีที่สุด” ฉู่จื่ออวี้พูดขึ้น จากการเดินทางครั้งนี้ เขาสังเกตเห็นว่าชิวอวี่และคนอื่นๆ เข้ากันได้ดีกับชิงอี อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็องครักษ์ของตนเอง เขาสามารถไว้วางใจในเื่วรยุทธ์ของพวกเขาได้
“กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ” ชิวอวี่พูดอย่างเคร่งขรึม ทว่า ก็รู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ปรากฏว่า...หนีไม่พ้นจริงๆ สินะ
“พูดจบแล้ว ก็ไปได้แล้ว” ชิงอีหาวออกมาพร้อมกับเริ่มพูดบ่น
ฉู่จื่ออวี้ส่งเสียงฮึออกมา แล้วกลับไปแสดงท่าทางเย่อหยิ่งและเดินออกไป ทว่า เดินไปไม่กี่ก้าว เขาหันกลับมาถามนางว่า “ท่านกับเซ่อเจิ้งอ๋องก็ถือว่าต่างทุกข์ยากลำบากมาด้วยกัน เื่การอภิเษกมันก็ควรที่จะถึงเวลาแล้วหรือไม่?”
ดวงตาที่สวยงามของชิงอีกะพริบ และเดินเข้าไปในตำหนักด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย จากนั้นก็มีเสียงที่พูดด้วยความเหลืออดดังขึ้นมา “เื่ของผู้ใหญ่ ไอ้หนูอย่างเ้าไม่ต้องมายุ่ง!”
ไอ้หนู?! เขาเป็ไอ้หนูที่ไหนกัน! ฉู่จื่ออวี้รู้สึกหงุดหงิดเป็อย่างมาก ปีนี้เขาอายุสิบหกแล้วนะ! โตพอที่จะมีสนมได้แล้วด้วย!
หญิงสาวผู้นี้ มันน่าให้นางอยู่ในวัดของภิกษุนั่นแล้วท่องคัมภีร์เสียจริง!
เท้าของชิงอีที่กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องนอน จู่ๆ ก็หยุดอีกครั้งและหันกลับมามองย้อนกลับไปข้างหลัง
“ฉู่จื่ออวี้ก็ไปแล้ว เ้าจะอยู่ที่นี่อีกทำไมกัน?”
ชิวอวี่กับคนอื่นๆ ที่เดินตามก็หันมองไปรอบๆ
หลิงเฟิงกะพริบตาและมองไปรอบๆ ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะแน่ใจว่าองค์หญิงกำลังพูดเื่นี้กับตัวเอง
“องค์หญิง...” เขาขมวดคิ้วและแสร้งทำเป็สงสาร
“กลับไปที่จวนอ๋องของเ้าได้แล้ว!”
“อ๊า! องค์หญิงไม่้ากระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ?” หลิงเฟิงที่ถูกทอดทิ้งะโออกมา
“ข้างกายของข้าต้องไม่มีผู้ชายสองใจอยู่รอบๆ” ชิงอีส่งเสียงฮึออกมา ทว่า นางก็ไม่ลืมที่ผู้ชายคนนี้เห็นเซียวเจวี๋ยแล้วรีบวิ่งไปในทันที เดิมทีก็มีความคิดที่จะปล่อยเขาไปั้แ่แรกอยู่แล้ว อีกอย่างตอนนี้ชิวอวี่เองก็มีความสามารถมากขึ้น แล้วจะให้หนุ่มน้อยผู้นี้อยู่ไปทำไมล่ะ?
ไสหัวออกไป ออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้!
หลิงเฟิงที่เดินร้องไห้ฟูมฟายออกมา
ชิวอวี่มองหลิงเฟิงที่ที่เดินออกไปด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา พี่ชาย ยินดีด้วยที่ออกมาจากทะเลแห่งความทุกข์ได้!
“ชิวอวี่” เสียงของพญามัจจุราชที่ดังตามหลังขึ้นมา ชิวอวี่ที่ใรีบนำผู้คนเข้ามาในตำหนักทันที
“องค์หญิง”
ชิงอีรับชาที่ต้านเสวี่ยมอบให้ จากนั้นก็จิบชาช้าๆ แล้วมองมาที่นางอย่างอารมณ์ดี “หากข้าชอบพอแล้ว ต่อให้กลายเป็ผีก็หนีข้าไม่พ้น ได้ยินเช่นนี้แล้วรู้สึกอย่างไร?”
คนอื่นๆ ฟังแล้วอาจจะรู้สึกสับสน ทว่า หัวหน้าองครักษ์ชิวอวี่กลับเข้าใจได้อย่างชัดเจน
เขาตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่น “กระหม่อมปลาบปลื้มเป็อย่างมากพ่ะย่ะค่ะ!”
องค์หญิงส่งเสียงฮึๆ ออกมาสองครั้งอย่างพึงพอใจ “อยู่กับข้าก็จะมีเนื้อให้กิน ชีวิตของพวกเ้าก็ยืนยาว!”
**********************
[1] ซินเจ่อคู่ (辛者库) คือ แผนกที่ต่ำต้อยที่สุดในวัง ส่วนใหญ่ทำงานสกปรกและเหน็ดเหนื่อย เช่น ซักเสื้อผ้า เทเครื่องหอมกลางคืน ฯลฯ
