ตอนเช้าหร่านซวี่จือลุกขึ้นงัวเงียหลังจากถูกปลุก เมื่อลืมตาก็เห็นอาป้ากับอาม๋าอยู่ข้างเตียงพร้อมกับยิ้มแย้มให้เขา
“ปัดโธ่ พวกนายมาทำอะไรกันเนี่ย ฉันใหมด”
อาม๋าเอ่ย “คุณชาย พรุ่งนี้คุณชายเฉินก็จะกลับมาแล้ว คุณจะไปเลือกเสื้อผ้าข้างนอกสักหน่อยไหมคะ”
เสื้อผ้าของร่างเดิมนั้นยั่วยวนเกินไป มีแต่พวกเว้าหลังเปิดไหล่ กระทั่งเปิดหน้าท้องก็มี เมื่อดูแล้วทำเอาคนขนลุก
ข้างคฤหาสน์ตระกูลเฉินมีร้านเสื้อผ้าอยู่ หร่านซวี่จือเดินเข้าไปเลือกอยู่หลายตัว ในโลกก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นายแบบ ดังนั้นรสนิยมเลิศล้ำของหร่านซวี่จือจึงนับว่าเป็ความโดดเด่นเฉพาะตัวในวงการแฟชั่น
เนื่องจากว่าร่างเดิมหน้าตาคล้ายกับหร่านซวี่จืออย่างกับแกะ เพียงแต่รูปร่างเตี้ยกว่าเล็กน้อย เมื่อสวมเสื้อผ้าที่ตนเองเลือกจึงยังถือว่าดูดีอย่างมาก รูปร่างที่เอวบางและขาที่เรียวยาว เมื่อล้างเครื่องสำอางออกจากใบหน้าแล้ว พอมองไปก็เหมือนกับหนุ่มหล่อที่เปล่งประกายคนหนึ่ง
ขณะที่หร่านซวี่จือเดินเล่นอยู่ข้างนอกก็เห็นตรงหน้ามีรถขับมาตรงกลางถนน รถคันนั้นคือรถ Bentley สีดำล้วนที่สะท้อนประกายความหรูหราภายใต้แสงแดด
ที่นี่เศรษฐีเยอะจริงๆ แล้วถนนก็แคบแบบนี้ ไม่รู้จะมาอวดอะไรกันนักกันหนา?
หร่านซวี่จือคิดในใจ ขณะที่เดินอยู่ข้างถนนก็หลีกทางให้เขาเพื่อเลี่ยงไม่ให้โดนชน
ใครจะรู้ว่าทั้งที่หร่านซวี่จือเกือบจะแนบติดกับกำแพงแล้ว และขณะที่รถ Bentley ที่ขับผ่านตัวไปนั้น ก็ไม่รู้ว่าตรงส่วนไหนที่มีตะขอโผล่ออกมาและเกี่ยวกับเสื้อตัวใหม่ของหร่านซวี่จือ
เสียงดังแควก เสื้อนอกที่หร่านซวี่จือตั้งใจเลือกสรรมาอย่างดีกลายเป็สองส่วน
หร่านซวี่จือมองดูสภาพย่ำแย่ของตนเองแล้วเลิกมุมปากขึ้น
คุณภาพแค่นี้ยังจะบอกว่าเป็ของพรีเมี่ยม ผ้าขี้ริ้วทั่วไปยังคุณภาพดีกว่านี้เลย?
เพื่อให้เฉินหนานประทับใจในตนเอง หร่านซวี่จือจึงเลือกตัวที่แพงที่สุดในร้าน เสื้อหนึ่งตัวนี้แทบจะเทียบกับเงินเดือนสองปีของเขา ใครจะรู้ว่าเ้ารถบ้านั่นดันก่อเื่ให้เขา เ้าของเองก็ไม่ได้มีทีท่าจะลงจากรถมาขอโทษแล้วก็กำลังจะขับหนีไป?
หร่านซวี่จือโมโหในใจ เขากางแขนไปคว้าที่จับประตูไว้แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอดกลั้น “คุณครับ คุณเกี่ยวเสื้อของผมขาดแล้วจะจากไปแบบนี้น่ะหรือ? ”
แม่แกเถอะ จนจะไม่มีข้าวกินแล้ว ยังจะรักษาหน้าอยู่อีก?
คนคนนั้นยังคิดจะขับต่อ หร่านซวี่จือเหมือนกับก้อนเค้กข้าวที่ถูกลากไปด้วย พร้อมกับก่นด่า “เ้าเศรษฐีขยะนี่ แค่เสื้อผ้ายังชดใช้คืนไม่ได้ ชนคนแล้วคิดจะหนี นี่ไม่มีศีลธรรมเลยหรือไง? ”
ในที่สุดรถ Bentley ก็หยุดลงเพราะรำคาญหร่านซวี่จือ
คนที่ลงมาไม่ใช่คนขับเพราะเขาลงมาจากประตูหลัง และหร่านซวี่จือที่คว้าที่จับประตูที่นั่งแถบหลังอยู่ เมื่อเห็นว่ามีคนจะลงมาจึงปล่อยมือ
คนที่เดินลงมาจากรถนั้นรูปร่างดูองอาจ เขาสวมชุดสูทสีดำพอดีตัว ใบหน้าเย็นะเื ศีรษะของเขามีแถบความคืบหน้าปรากฏขึ้น แสดงถึงสถานะของคนผู้ดี
หร่านซวี่จือตะลึงงัน
เพราะใบหน้าของเขาคล้ายกับปิงโหยวจี้
ทำไมกัน? ทำไมคนในสองโลกนี้ถึงเหมือนกัน หากอิงจากความใกล้เคียงของฐานข้อมูล คนในชีวิตจริงจะส่งผลต่อตัวละครในโลก ถ้าอย่างนั้นทำไมโลกแต่ละโลกก็คล้ายกันล่ะ?
หรือว่านี่ก็คือปิงโหยวจี้?
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม ทำไมปิงโหยวจี้ถึงมาอยู่ที่นี่? ”
ระบบ: “คุณรันอย่าเพิ่งตื่นเต้นครับ กระผมคิดว่า ที่ทั้งสองคล้ายกันเพราะเหตุบังเอิญ”
ไม่ใช่เื่บังเอิญ
เสียงในใจของหร่านซวี่จือดังขึ้นเช่นนี้ เนื่องจากอีกฝ่ายให้ความรู้สึกกับเขาเหมือนเป็คนที่คุ้นเคยกันมานาน
“คุณครับ” หร่านซวี่จือเอ่ยอย่างร้อนรน “คุณรู้จักทังเหวยไหมครับ? ”
เฉินหนานขมวดคิ้ว “คุณเป็ใคร? ”
พูดถึงเฉินหนานน่าจะยังไม่เคยเห็นหร่านซวี่จือตอนไม่ได้แต่งหน้า ครั้งแรกที่หร่านซวี่จือเจอเขาคือที่ร้านนั้น ขณะที่คนอื่นๆ กำลังเปิดรายชื่อ เขาก็เหลือบเห็นชื่อของหร่านซวี่จือ
ขณะนั้นหัวใจของเฉินหนานหวั่นไหวเล็กน้อย แต่พอเห็นคนที่เดินมาเท่านั้น ทำให้ได้เห็นใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางก็มีใบหน้ามืดมนจนอยากต่อยคน แต่ถือว่าชื่อคล้ายกัน เฉินหนานก็เลยซื้อตัวเขามา
เมื่อเห็นหร่านซวี่จือยืนอึ้งไม่พูดจา เฉินนานก็ล้วงกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วหยิบเช็คออกมาใบหนึ่ง จากนั้นก็หยิบปากกาจากเลขามาและเขียนตัวเลขลงบนนั้นแล้วยัดใส่มือของหร่านซวี่จือ
“นาย้าเงินไม่ใช่หรือ? เอาไปสิ”
ในมือของหร่านซวี่จือมีเช็คยัดอยู่ เขายังคงจ้องเฉินหนานและไม่พูดไม่จา
จริงตามคาด พอได้เงินก็หยุดโวยวาย
เฉินหนานหัวเราะเยาะในใจ
ขณะมองดูรถเคลื่อนจากไปตรงหน้า หร่านซวี่จือรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย นิสัยของเฉินหนานนั้นช่างแตกต่างเป็อย่างมากจากนิสัยของปิงโหยวจี้ แต่หร่านซวี่จือก็มีความรู้สึกบางอย่างว่าอีกฝ่ายคือปิงโหยวจี้ ไม่รู้ว่าเป็เพราะการผสานของโอเมก้ากับอัลฟ่าที่ทำให้สามารถข้ามมิติได้หรือเปล่า แต่ในใจของหร่านซวี่จือนั้นรับรู้ได้รางๆ
หร่านซวี่จือนั่งย่อลงพร้อมกับลูบผมของตนเอง ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกคัดจมูก
ทั้งที่เขา้าจะลืม กระนั้นคนที่จำไม่ได้กลับกลายเป็ปิงโหยวจี้แทน
“คุณชายเฉิน ทำไมวันนี้คุณกลับมาเร็วกว่ากำหนดล่ะครับ? ”
ชวนอวิ๋นนั่งดูโทรทัศน์อยู่ตรงโซฟา เมื่อเห็นเฉินหนานกลับมาก็รีบวิ่งไปด้วยความดีใจแล้วโอบแขนของเขาไว้พร้อมกับเอ่ยถาม
เฉินหนานดึงเน็กไทตนเองลงมาแล้วตอบว่า “จัดการธุระเรียบร้อยแล้วเลยกลับมาก่อน”
เขาขมวดคิ้วมองชวนอวิ๋น “อย่ากอดฉัน มันร้อน”
ชวนอวิ๋นวางมือลงพร้อมกับทำท่าทางอ้อยอิ่ง
เฉินหนานหันศีรษะไปถามพ่อบ้านว่า “ฟู่หลิงล่ะ? ”
พ่อบ้านตอบกลับเขาด้วยความเคารพ “คุณชายฟู่หลิงวาดภาพอยู่ชั้นบนครับ หากคุณชายเฉิน้าพบเขา ผมจะไปแจ้งให้ครับ”
เฉินหนานโบกมือ
อาป้ากับอาม๋ายืนอยู่ข้างๆ นานแล้ว ทั้งสองจึงรวบรวมความกล้าเดินไป อาม๋าเอ่ยกับเฉินหนาน “คุณชายเฉิน คุณ้าพบคุณชายหร่านซวี่จือไหมคะ? วันนี้เพื่อที่จะพบคุณ เขาเตรียมตัวอยู่นานเลยค่ะ”
เฉินหนานขมวดคิ้ว “ไม่ต้อง ฉันไม่อยากเห็นเขา”
อันที่จริงหร่านซวี่จือยังไม่ได้กลับมาและเขาก็ยังเดินเล่นสบายใจเฉิบอยู่ด้านนอก ขณะที่กลับมาก็เห็นห้องรับแขกเปิดไฟสว่างแล้วจึงเกิดความกลัวในใจ โชคดีที่ห้องของตนเองอยู่ชั้นล่าง เขาก็เลยสามารถแอบเข้าไปทางหน้าต่าง
หร่านซวี่จือหาหน้าต่างห้องของตนเองเจอ ขณะที่กำลังจะะโเข้าไป ทันใดนั้นก็มีอะไรบางอย่างมากัดกางเกงเขา
เมื่อก้มศีรษะดูก็เห็นเป็เ้าขนทองตัวเมื่อวานนั่นเอง
แต่ทำไมเ้าขนทองถึงถูกปล่อยออกมา? หรือว่าเป็ฝีมือของอิงซาง?
ขณะที่หร่านซวี่จือกำลังคิดในใจ เขาก็นั่งย่อลงลูบศีรษะของเ้าขนทอง
ไม่ใช่สิ ถ้าเกิดเ้าขนทองถูกปล่อยออกมา ก็แสดงว่าเ้าหิมะก็น่าจะอยู่ละแวกนี้ด้วย
ขณะที่หร่านซวี่จือนึกเื่นี้ได้ เ้าเยอรมันเชพเพิร์ดตัวนั้นก็แหวกออกมาจากพงหญ้าตรงหน้าทำให้เขาใและสะดุ้งจนก้นล้มจ้ำเบ้ากับพื้น
ท่ามกลางความตื่นใ หร่านซวี่จือรีบควานหากิ่งไม้รอบๆ นั้นแล้วทำท่าแยกเขี้ยวใส่
“ไปให้ไกลเลยนะ อยู่ห่างฉันไว้ ฉันจะไม่ยอมเล่นๆ กับแกอีกแล้ว! ”
ใครจะรู้ว่าเ้าหิมะไม่ได้ะโตะครุบตัวหร่านซวี่จือ แต่กลับนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมกับส่ายหาง มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาจากด้านหลังแล้วลูบศีรษะของเ้าหิมะ