พรรคเทพหมาป่า์!
เฉินเทียนหยวนเพิ่งเสร็จจากธุระกลับมาเห็นศิษย์กลุ่มหนึ่งวิ่งปรี่เข้ามาหา
“ท่านประมุข ศิษย์พี่ใหญ่นำคนบุกขึ้นเขาหยั่งรู้กระบี่ ดูเหมือนว่าตำหนักหมาป่าประจิมสงสัยว่าหวังเค่ออาจเข้าสู่วิถีมารไปแล้ว!” ศิษย์คนหนึ่งกล่าวรายงาน
“ศิษย์พี่รองเองก็ขึ้นเขาไปหนุนหลังหวังเค่อ ทั้งสองฝ่ายกำลังจะฉะกันอยู่แล้ว!”
เฉินเทียนหยวนหน้าเปลี่ยนสีทันควัน
เฉินเทียนหยวนทราบถึงความบาดหมางระหว่างหวังเค่อและมู่หรงลวี่กวงเป็อย่างดี การยกพลบุกขึ้นเขาของมู่หรงลวี่กวงครั้งนี้จะต้องนำเื่ใหญ่ตามมาแน่! หวังเค่อกลายเป็มาร? ตนตรวจสอบดูแล้วว่าไม่ใช่ความจริง! ด้วยบุคลิกลักษณะไม่ยอมถูกใครมาเอารัดเอาเปรียบอย่างหวังเค่อน่ากลัวว่าเื่ราวจะไม่น่าดูแล้ว!
“ฮ่าห์!”
เฉินเทียนหยวนดีดตัวขึ้นเวหามุ่งตรงไปทางเขาหยั่งรู้กระบี่
“มู่หรงลวี่กวง? เถี่ยหลิวหยุน? หากพวกเ้านำศิษย์พรรคเทพหมาป่า์มาเข่นฆ่ากันเองจนกลายเป็เื่ชวนหัวขึ้นมาละก็ คอยดูเถอะว่าข้าจะจัดการกับพวกเ้ายังไง!” เฉินเทียนหยวนเผยสีหน้าร้อนใจ
ตนออกไปแค่แปปเดียวทำไมถึงเกิดเื่วุ่นวายขึ้นมาได้?
แต่เมื่อเฉินเทียนหยวนผู้แสนร้อนใจมาถึงเขาหยั่งรู้กระบี่ก็อดชะงักค้างไปไม่ได้
ความขัดแย้ง? เข่นฆ่า? เอาชีวิตกัน?
ไม่มีเลย!
ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์นับร้อยกำลังต่อยตีกันอยู่ที่ไหน? พวกมันแต่ละคนกำลังก้มหน้าก้มตาขีดเขียนอะไรกันอยู่บนโต๊ะน่ะ?
จัดงานประกวดการคัดลายมือหรือยังไง?
มู่หรงลวี่กวงหน้าดำมือหนึ่งกุมพู่กันอีกมือทาบกระดาษขีดเขียนตัวอักษรอย่างวิจิตรบรรจง
“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่ใหญ่ ช้าก่อน ท่านยังไม่ได้ลงชื่อไว้เลยนี่นา? ท่านต้องดูศิษย์พี่รองเป็แบบอย่างซี เขียนให้เหมือนกับแบบของเขา น่าน นั่นแหละ ตรงนี้เลย เขียนชื่อลงไปตรงนี้!”
“ทุกท่านไม่ต้องกังวล ทุกคนได้เขียนกันหมดแน่ ทุกคนจำต้องเขียน ต่อให้ลายมือขยึกขยือตะแคงไปตะแคงมาก็ไม่ใช่เื่ใหญ่ ท่านสามารถแก้ตัวเขียนใหม่ได้ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ!”
“ศิษย์พี่ท่านนี้ ไอ้หยาท่านเขียนผิดซะแล้ว ไม่เป็ไร ไม่เป็ไร! เรามีกระดาษแผ่นใหม่มาให้เปลี่ยน เชิญท่านเขียนใหม่ได้เลย!”
.........
......
...
หวังเค่อนำลูกน้องประจำตัวมาช่วยชี้แนะแนวทางการขีดเขียนให้กลุ่มยอดฝีมือพรรคเทพหมาป่า์ได้ทำตาม
เฉินเทียนหยวนลอยตัวอยู่บนฟ้า นิ่งงันไปพักใหญ่
ศิษย์ข้าคนนี้ขยันให้คนรอบตัวทำแต่เื่แปลกๆ ทุกครั้งเลยให้ตายสิ!
ตอนอยู่ตรงประตูขึ้นเขาเมื่อครู่ข้าได้ยินว่าเ้ากำลังจะถูกคนรุมทึ้ง แล้วนี่มันอะไร?
ที่เห็นคือหลังจากที่ขีดเขียนกันเสร็จ แต่ละคนก็จะหันมองไปทางไป๋จินจากตำหนักหมาป่าประจำด้วยใบหน้าหม่นทะมึน
ส่วนไป๋จินผู้นั้นทำหน้ากระอักกระอ่วน ยกมือขอขมาลาโทษต่อมู่หรงลวี่กวงปลกๆ
ศิษย์พี่รองนำศิษย์มาด้วยกลุ่มหนึ่ง ทุกคนต่างขันอาสาช่วยหวังเค่อขีดเขียน แต่พวกมู่หรงลวี่กวงล้วนไม่ยินยอมพร้อมใจ พวกข้ามาที่นี่เพื่อหาเื่หวังเค่อ แล้วที่กำลังทำอยู่นี้คือเื่ผีสางอันใด? ขายขี้หน้าชะมัด!
“ท่านประมุข ท่านมาั้แ่เมื่อไหร่กันนี่?” จางเจิ้งเต้ากำลังพบปะทักทายผู้คนสังเกตเห็นเฉินเทียนหยวนบนอากาศ
เฉินเทียนหยวนลดตัวลงมาช้าๆ
“คารวะท่านประมุข!” สานุศิษย์ค้อมกายคารวะ
“บริษัทเสินหวังเชื่อถือได้? หวังเค่อ พวกเ้ากำลังอะไรอยู่?” เฉินเทียนหยวนนิ่วหน้ามองศิษย์ผ่าเหล่าผ่ากอของตนคนนี้
“ท่านอาจารย์ ท่านมาก็ดีแล้ว พวกศิษย์พี่ใหญ่พอได้ยินว่าข้ากำลังจะเปิดร้านก็แห่กันมาช่วยข้าลงอักษรกันอย่างกระเหี้ยนกระหือรือเชียวล่ะ! ท่านดูนี่ซะก่อน! กระดาษลงอักษรพวกนี้เขียนออกมาได้วิจิตรตระการตานัก!” หวังเค่อเชิญเฉินเทียนหยวนเข้าสู่แวดวง
มู่หรงลวี่กวง “…!”
ศิษย์พี่ศิษย์น้องที่ถูกสมอ้างว่ามาช่วยลงอักษร “…!”
“เปิดร้าน? ลงอักษร?” เฉินเทียนหยวนทำหน้าพิกล
“ใช่ขอรับ ศิษย์กำลังคิดว่าหากจะฝึกฝีมือต่อไปภายภาคหน้าจะต้องใช้ศิลาิญญาปริมาณมหาศาล ไหนจะต้องซื้อหยูกยา ไหนจะต้องซื้อของวิเศษ มีอย่างไหนบ้างที่ไม่ต้องใช้เงิน? อาศัยแค่เบี้ยหวัดกุศลปราบมารของพรรคเกรงว่าจะไม่พอ ข้ายังต้องหาเลี้ยงปากท้องให้คนของข้าอีกเป็กระบุง คิดไปคิดมาข้าก็เกิดความคิดทำการค้าเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ใครจะคาดคิด ร้านค้ายังไม่ทันเริ่มกิจการ ศิษย์พี่ทั้งหลายพอได้ยินว่าข้ากำลังจะมีการค้าเป็ของตัวเองก็ทยอยกันมาอุดหนุนให้กำลังใจ แถมยังช่วยลงอักษรให้ข้าอีกต่างหาก! ท่านดูซี ตัวอักษรของศิษย์พี่ใหญ่เปี่ยมล้นจิติญญาแค่ไหน!” หวังเค่ออธิบายอย่างออกรสออกชาติท่าทางสดใสกระชุ่มกระชวย
พวกเถี่ยหลิวหยุนย่อมผงกศีรษะพยักหน้าเป็ลูกคู่ แต่พวกมู่หรงลวี่กวงกลับหน้าดำมะเมี่ยมดุจก้นหม้อ ใครช่วยอุดหนุนเป็กำลังใจให้การค้าของเ้ากัน!?
“ท่านประมุข เป็ข้าเข้าใจหวังเค่อผิดไป ก่อนนี้ไป๋จินจากตำหนักหมาป่าประจิมเชิญข้านำกระบี่ไอธรรมะมาพิสูจน์ดูว่าหวังเค่อแท้จริงเป็มารหรือเป็คนของฝ่ายธรรมะ ดังนั้น...!” มู่หรงลวี่กวงเอ่ยอย่างหดหู่ลดหน้าลงต่ำ
“แล้วผลลัพธ์?” เฉินเทียนหยวนเอ่ยเสียงเครียด
“ท่านประมุข ผลคือกระบี่ไอธรรมะพรั่งพรูด้วยไอธรรมะ ในสัจปราณของหวังเค่อไม่มีไอมารอยู่สักนิดเดียว ศิษย์น้องหวังเค่อเป็ผู้บริสุทธิ์ พวกศิษย์พี่ใหญ่เองก็หาได้ทำตัวเป็พวกขี้แพ้ชวนตี ทุกคนช่วยหวังเค่อลงอักษรโดยไม่บิดพลิ้ว!” เถี่ยหลิวหยุนอธิบายกลั้วรอยยิ้ม
เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้วมองมาทางไป๋จิน
“ท่านประมุขประทานอภัยด้วย ตำหนักหมาป่าประจิมรับหน้าที่สอดส่องดูแลมารร้ายตลอดนอกพรรคจวบจนถึงในพรรค ครั้งนี้ไต่สวนมารร้ายถงอันอัน มันให้การใส่ร้ายศิษย์น้องหวังเค่อหลายกระทง ตำหนักหมาป่าประจิมยังมีหน้าที่ให้ต้องค้ำจุน ดังนั้นจึงต้องทำการสืบสวนให้ถี่ถ้วน! และตอนนี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าศิษย์น้องหวังเค่อคือผู้บริสุทธิ์!” ไป๋จินประสานมือกล่าวรายงานอย่างนอบน้อม
แม้เื่ทั้งหมดจะถูกก่อกวนขึ้นมาโดยไป๋จิน แต่ทุกสิ่งที่มันทำล้วนอยู่ในขอบเขตการรับผิดชอบของมัน เฉินเทียนหยวนเองก็ไม่อาจเอาผิดอีกฝ่าย
เพียงแต่ตำหนักหมาป่าประจิมฉวยโอกาสตอนที่ตนไม่อยู่มาหาเื่หวังเค่อ แถมยังก่อกวนเื่ราวจนใหญ่โต ชัดเจนว่าไม่เห็นหัวตนเลยสักนิด พวกเ้าจะถามความเห็นข้าสักหน่อยไม่ได้เชียวรึ?
“เป็ความประสงค์ของเ้าตำหนักหมาป่าประจิมงั้นรึ?” เฉินเทียนหยวนถามอย่างเครียดขึง
“มิได้ขอรับ เ้าตำหนักไม่ได้อยู่ในสำนัก เป็ความริอ่านของพวกเราเอง! หากท่านประมุขรู้สึกว่าศิษย์ทำเื่ที่ไม่ถูกต้องลงไป เชิญท่านประมุขมอบบทลงโทษมาได้เลยขอรับ!” ไป๋จินเอ่ยอย่างสำรวม
“เ้าไม่ได้ทำอะไรผิด! ข้าไม่อาจเอาโทษเ้า เพียงแต่อย่าได้ยึดถือคำพูดของมารร้ายถงอันอันเป็จริงเป็จังเกินไปนัก!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยเตือนอย่างจริงจัง
“ทราบ!” ไป๋จินตอบรับอย่างเคารพ
เฉินเทียนหยวนหันมาทางมู่หรงลวี่กวง “มู่หรงลวี่กวง เหตุใดเ้าถึงเอากระบี่ไอธรรมะออกมาใช้โดยพลการ?”
มู่หรงลวี่กวงหน้าแข็งทื่อ “ท่านประมุข ก่อนหน้านี้ข้า ข้าเองก็...!”
“เมื่อก่อนเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยคอยให้ท้ายเ้า แต่ตอนนี้เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยเกิดเื่ขึ้นแล้ว เ้าไม่รู้เลยรึ? ถึงขนาดรอให้ข้ากลับมาก่อนไม่ได้เชียว?” เฉินเทียนหยวนเอ่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“ข้า...!” มู่หรงลวี่กวงหน้าทื่อ
“ท่านประมุข เพราะเกิดเื่กับท่านเ้าตำหนักพวกเราก็เลยไม่อาจวางใจมาโดยตลอด ตำหนักหมาป่าบูรพาตอนนี้เป็เหมือนัไร้หัว พวกเราก็เลยเห็นตรงกันว่าศิษย์พี่ใหญ่ควรทำหน้าที่เป็เ้าตำหนักแทนขอรับ!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์คนหนึ่งโพล่งขึ้น
“หืม?” เฉินเทียนหยวนตาเย็นเยียบ
“ท่านประมุข เื่เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยไม่ทราบควรตัดสินพิจารณาเช่นไรดี?” เถี่ยหลิวหยุนเองก็กังวล
“ท่านประมุขโปรดระงับความวุ่นวายตำหนักหมาป่าประจิมด้วย!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ขอร้อง
มองดูศิษย์ที่เว้าวอนตน เฉินเทียนหยวนเป็ต้องถอนหายใจบาง
“เ้าตำหนักหมาป่าบูรพา เนี่ยเมี่ยเจวี๋ย! ผันตัวเป็มารไปแล้ว! แต่นางเพิ่งจะเป็มารได้ไม่นาน จิตใจยังอยู่ฝ่ายธรรมะ ดังนั้นครั้งสุดท้ายที่นางอยู่ที่พรรคจึงจัดแจงทุกอย่างไว้อย่างเหมาะสม กระทั่งของแทนตัวของตำหนักหมาป่าบูรพาอย่างกระบี่ไอธรรมะก็ยังเหลือทิ้งไว้! ที่พวกเ้าพูดมาก็ไม่ผิด ตำหนักหมาป่าบูรพาจะขาดเ้าตำหนักไปไม่ได้! จำต้องเลือกตั้งเ้าตำหนักคนใหม่ขึ้นมาแทน!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยอย่างจริงจัง
“ท่านอาจารย์ผันตัวเป็มารไปแล้วจริงๆ?” มู่หรงลวี่กวงสีหน้าอัปลักษณ์
“พวกเราต่างรู้ดีว่าจิตใจของผู้ที่กลายเป็มารจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเป็ไปไม่ได้ที่เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยจะกลับมา ตอนที่นางเพิ่งย่างเข้าวิถีมารจิตใจยังคงอยู่ฝ่ายธรรมะ แต่นานวันเข้านางก็จะถลำเข้าไปในวิถีมารมากขึ้นเรื่อยๆ! ดังนั้นหากพบเห็นเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยในภายหน้า ห้ามเห็นแก่ความหลังที่เคยมีร่วมกันเด็ดขาด!” เฉินเทียนหยวนกำชับเสียงเฉียบ
“ทราบ!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์เผยสีหน้าอัดอั้นตันใจ
“ตำหนักหมาป่าบูรพาภายในเน้นเฝ้าระวังภายนอกเน้นจู่โจม! ตำแหน่งเ้าตำหนักคือตำแหน่งอันสำคัญยิ่ง! กฎการสืบทอดตำแหน่งเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาพวกเ้าเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยเสียงขรึม
.........
.........
......
...
......
...
“ทราบ เ้าตำหนักหมาป่าบูรพามีเงื่อนไขสามประการ ประการแรกขอบเขตทารกแกนิญญา! ประการที่สองได้รับการยอมรับสนับสนุนจากศิษย์ในพรรค! ประการที่สามใช้วิชายุทธ์ของตำหนักหมาป่าบูรพาได้!” ศิษย์คนหนึ่งกล่าว
“เงื่อนไขแรก...!” เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย
ขอบเขตทารกแกนิญญา? จะให้ไปหาขอบเขตทารกแกนิญญามาจากไหน?
“ท่านประมุข ศิษย์พี่ใหญ่ตอนนี้คือดวงธาตุทองคำขั้นสูงสุด สามารถทะลวงสู่ขอบเขตทารกแกนิญญาได้ทุกเมื่อ ศิษย์รู้สึกว่าไม่อาจปล่อยให้ตำหนักหมาป่าบูรพาขาดเ้าตำหนักนั่งแท่นบัญชาการไปแม้แต่วันเดียว ศิษย์ขอเสนอชื่อศิษย์พี่ใหญ่รับสืบทอดตำแหน่งเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาขอรับ!” มีศิษย์ะโขึ้นมา
“ศิษย์พี่ใหญ่เป็ศิษย์ของเนี่ยเมี่ยเจวี๋ย เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยกลับกลายเป็มาร จะให้ศิษย์พี่ใหญ่ดำรงตำแหน่งเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาต่อได้อย่างไร? ศิษย์ว่าควรให้ศิษย์พี่รองรับตำแหน่งนี้แทนจึงจะประเสริฐสุด ศิษย์พี่รองเองก็เป็ดวงธาตุทองคำขั้นสูงสุดเช่นเดียวกัน!” ศิษย์อีกคนแย้งขึ้น
“ศิษย์ขอสนับสนุนศิษย์พี่ใหญ่!”
“ศิษย์ขอสนับสนุนศิษย์พี่รอง!”
.........
......
...
รอบด้านมีแต่เสียงเอะอะมะเทิ่งของเหล่าสานุศิษย์ เถี่ยหลิวหยุนแม้ว่าจะเป็คนของตำหนักหมาป่าทักษิณแต่ก็สามารถรับตำแหน่งเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาได้ด้วยเช่นกัน
ทุกคนไม่มีใครเป็ทารกแกนิญญา เงื่อนไขแรกของเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาจึงพักไว้ก่อน ต่างคนต่างเลือกคนที่ตัวเอง้า
เฉินเทียนหยวนนิ่วหน้ามองการถกเถียงของสองฝ่าย
แต่แล้วเถี่ยหลิวหยุนก็สะอึกกายออกมา “ท่านประมุข เมื่ออยู่ใน่เวลาพิเศษก็ย่อมได้รับการปฏิบัติแบบพิเศษตามไปด้วย สถานการณ์ตอนนี้คือไม่มีใครบรรลุเป็ทารกแกนิญญาแม้แต่คนเดียว ดังนั้นเงื่อนไขข้อแรกจึงต้องพักเอาไว้ก่อน เ้าตำหนักหมาป่าบูรพาไม่อาจวัดประเมินได้ด้วยกำลัง ศิษย์ว่าควรให้ความสำคัญกับบุคลิกลักษณะมากกว่า!”
“บุคลิกลักษณะ?” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์มองมายังเถี่ยหลิวหยุนเป็ตาเดียว
“มิผิด เื่เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยยังไม่มอบบทเรียนแก่พวกเรามากพออีกหรือ? ในแง่พลังฝีมือเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาเราไม่อาจเลือกเฟ้นทารกแกนิญญาออกมาได้ แต่เรายังสามารถเลือกเฟ้นผู้ที่มีบุคลิกลักษณะเป็เลิศออกมาได้นี่นา ศิษย์ขอแนะนำ หวังเค่อ ศิษย์น้องหวัง!” เถี่ยหลิวหยุนประกาศ
“อะไรนะ?” เฉินเทียนหยวนผงะไป
หวังเค่อ จางเจิ้งเต้าและมู่หรงลวี่กวงมองเถี่ยหลิวหยุนพร้อมกัน
“ศิษย์พอใจกับหน้าที่การงานของตำหนักหมาป่าทักษิณก็เลยไม่อาจเข้าร่วมชิงตำแหน่งเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาด้วยได้ ดังนั้นจึงใคร่ขอแนะนำศิษย์น้องหวังแทน บางทีอาจมีศิษย์น้องบางคนที่ไม่เข้าใจ แต่ข้าเถี่ยหลิวหยุนขอเอาชีวิตเป็ประกัน บุคลิกลักษณะของหวังเค่อตรงตามเกณฑ์แน่นอน! ในพรรคเทพหมาป่า์แห่งนี้ ข้าเถี่ยหลิวหยุนเลื่อมใสเพียงศิษย์น้องหวัง! หากวันใดพรรคเทพหมาป่า์เกิดคราเคราะห์ขึ้นมา ข้ารับรองว่าหากทุกคนโชคร้ายต้องกลายเป็มาร มีแต่ศิษย์น้องหวังที่จะไม่เป็ ดังนั้นศิษย์น้องที่เมื่อครู่สนับสนุนข้า ข้าขอให้พวกเ้าเปลี่ยนมาสนับสนุนหวังเค่อไปพร้อมกับข้าแทน รบกวนด้วย!” เถี่ยหลิวหยุนประคองฝ่ามือคารวะไปรอบด้าน
เฉินเทียนหยวน “…!”
มู่หรงลวี่กวง “…!”
จางเจิ้งเต้า “…!”
“พวกเราเองก็ด้วย ขอให้ทุกคนเชื่อตามที่ศิษย์พี่รองว่ามา พวกเรารับประกันศิษย์น้องหวังด้วยชีวิต!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ที่หนีรอดกลับมาจากเกาะเทพัก่อนหน้านี้พากันคารวะเป็ลูกคลื่น
นี่จะต่างอะไรกับการหาเสียง ในเสี้ยวพริบตา หวังเค่อก็ถูกเสนอชื่อให้เป็ผู้เข้าสมัครรับตำแหน่งเ้าตำหนักหมาป่า์ไปแบบงงๆ ไม่เพียงเท่านั้น แต่ผู้สนับสนุนยังเป็ศิษย์จำนวนครึ่งหนึ่งอีกต่างหาก
เฉินเทียนหยวนที่กำลังมองดูฉากนี้อยู่ไม่อาจทำความเข้าใจได้โดยสิ้นเชิง จางเจิ้งเต้าที่มองดูอยู่เองก็กำลังสบถอยู่ในใจว่า ‘นี่มันเกิดห่าเหวอะไรขึ้นกันแน่’ แม้แต่มู่หรงลวี่กวงก็ทำท่าพะอืดพะอมเหมือนเพิ่งกลืนหนูตายลงท้องอย่างไรอย่างนั้น
แม่งเอ๊ย จะแปลกเกินไปแล้ว!
“หวังเค่อมันเป็แค่เซียนเทียน มันมีคุณสมบัติอะไร?” มีคนโต้ขึ้นมาทันที
“หวังเค่อคุณธรรมน้ำใจเลิศล้ำ เป็แบบอย่างของฝ่ายธรรมะ!” มีคนส่งลูกโต้กลับไป
“หวังเค่อเนี่ยนะ?” เฉินเทียนหยวนทวนคำก่อนมองดูศิษย์ของตนด้วยสายตาพิลึก
ศิษย์ของตนผู้นี้ดูเหมือนจะเพิ่งเข้าพรรคมาได้ไม่นานเองนี่! ทำไมถึงได้มีคนสนับสนุนมันเป็เ้าตำหนักหมาป่าบูรพาเยอะนักเล่า?
หวังเค่อมองฝูงชนที่กำลังตื่นเต้นครื้นเครงด้วยความรู้สึกพิกลในใจ ศิษย์พี่รองผู้นี้จะพยายามเกินไปหน่อยหรือไม่? ข้ายังไม่ทันจะตั้งตัว เ้าก็ผลักข้าขึ้นบัลลังก์ั์ใหญ่แล้ว?
“ท่านอาจารย์ น้ำใจพวกศิษย์พี่ยากหักใจ หากไม่เหนือบ่ากว่าแรง ข้าจะลองดูแล้วกัน!” หวังเค่อพยักหน้า
จางเจิ้งเต้าทางด้านข้างเผยสีหน้าพิลึกพิลั่น หวังเค่อผู้นี้หน้าเหม็นไร้ยางอายโดยแท้ นี่มันใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนผู้อื่นไม่ใช่รึ? แต่กลับมองว่าทุกคนให้การสนับสนุนเ้าจริงๆ เซียนเทียนอย่างเ้าเป็เ้าตำหนักหมาป่าบูรพา ใครมันจะคล้อยตาม!
เ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่รู้หรือไม่!?
แต่หวังเค่อไม่ใส่ใจ ข้าไม่อยากเป็เ้าตำหนักจริงๆ เพียงแต่ในเมื่อมีขนมตกลงมาจากฟ้าก็ไม่มีเหตุให้ข้าต้องทิ้งมันไป มีชื่อเสียงนั้นเป็เื่ดี บริษัทเสินหวังข้าจะได้ทำเงินได้มากขึ้น
“หวังเค่อ อย่าก่อกวนเื่ราว! เ้าพลังฝีมือขั้นไหนกัน?” เฉินเทียนหยวนนิ่วหน้า
“ท่านประมุข วาจาของท่านนี้พวกเราคงต้องขอค้าน ท่านทราบถึงกฎการดำรงตำแหน่งเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาดีกว่าใคร เงื่อนไขแรกคือขอบเขตทารกแกนิญญา ในเมื่อทุกคนล้วนไม่ใช่ทารกแกนิญญา เช่นนั้นทำไมต้องแบ่งแยกพลังฝีมืออันใดอีก? ศิษย์น้องหวังมีคุณธรรมน้ำใจโดดเด่น ศิษย์ไม่ได้หลับหูหลับตาพูด! ท่านจะเลือกที่รักมักที่ชังเล่นใต้โต๊ะเพราะเป็ท่านอาจารย์มันไม่ได้! ศิษย์น้องหวังเค่อ พวกเราสนับสนุนเ้าสุดกำลัง!” เถี่ยหลิวหยุนโน้มน้าวเฉินเทียนหยวน
เฉินเทียนหยวน “…!”
ช่างเป็ฉากที่วิปริตนัก ศิษย์คนนี้ของข้า้าจะเป็ปีศาจหรือยังไง?
“ไม่น่า ต่อให้เงื่อนไขแรกของการเป็เ้าตำหนักหมาป่าบูรพาพักไว้ก่อน แต่เงื่อนไขที่สองกับเงื่อนไขที่สามเล่า? เงื่อนไขที่สองยังพอทำเนาเพราะหวังเค่อได้รับการสนับสนุนจากศิษย์ครึ่งหนึ่ง แต่เงื่อนไขที่สามล่ะ? เงื่อนไขที่สามคือต้องใช้วิชายุทธ์ของตำหนักหมาป่าบูรพาออกมาได้ นี่คือเงื่อนไขที่ไม่ง่ายเลย!” ศิษย์คนหนึ่งะโขึ้นมา
“วิชายุทธ์ตำหนักหมาป่าบูรพาอันใด?” หวังเค่อถามอย่างใคร่รู้
“ตัวอย่างเช่นเพลงกระบี่ปราบมารของศิษย์พี่ใหญ่ หวังเค่อ เ้าใช้เป็หรือเปล่าล่ะ? มีแต่การใช้วิชายุทธ์ประจำตำหนักเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาเท่านั้นถึงจะสามารถดึงพลังของกระบี่ไอธรรมะออกมาได้ หากไม่มีวิชายุทธ์ตำหนักหมาป่าบูรพาก็ไม่สามารถใช้กระบี่ไอธรรมะได้ แล้วยังต้องพูดถึงการได้เป็เ้าตำหนักหมาป่าบูรพาไปอีกทำไม?” ศิษย์คนนั้นยิ้มเย็น
“กระบี่ไอธรรมะ? ไม่ใช่ว่านั่นคือของวิเศษที่ใช้ทดสอบไอมารหรอกหรือ? สามารถนำมาใช้ในการต่อสู้ก็ได้ด้วย? เกิดระหว่างทำการต่อสู้แล้วแตกหักชำรุดขึ้นมาเล่าจะทำยังไง?” หวังเค่ออุทาน
มู่หรงลวี่กวงยิ้มเย็น ชัดเจนว่าไม่เห็นหวังเค่ออยู่ในสายตา คนขยับเท้ามาก้าวหนึ่งก่อนชูกระบี่ไอธรรมะให้ดู
“ดูให้ดี ศิษย์น้องหวังเค่อ ขอเพียงกระบี่ไอธรรมะใช้ออกด้วยเคล็ดประจำตำหนักหมาป่าบูรพามันก็จะไม่แตกหัก! มีแต่วิชายุทธ์ตำหนักหมาป่าบูรพาที่จะดึงพลังของมันออกมาได้ ดูให้ดีล่ะ!” มู่หรงลวี่กวงว่า
ขณะที่พูดมันก็ชักกระบี่สาธิตให้ดู
“ฮ่าห์!”
ใบไม้บนพื้นรอบตัวมู่หรงลวี่กวงหมุนคว้างขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน ดูไปร้ายกาจยิ่ง ศิษย์ที่รับชมอยู่รอบๆ พากันกลั้นหายใจหลบฉากออกไปทันที
มู่หรงลวี่กวงกำลังบ่มเพาะพลัง ทุกคนััถึงรัศมีพลังบนตัวมันที่ยิ่งมายิ่งทรงพลัง ยิ่งมายิ่งเข้มข้น ยิ่งมายิ่งร้ายกาจ สุดท้ายเมื่อบรรลุถึงขีดสุดมู่หรงลวี่กวงเงยหน้าขวับ สองตาสาดประกายจ้า
“ชิ้ง!”
กระบี่ไอธรรมะถูกชักออกจากฝัก พริบตานั้นฟ้าดินคล้ายถูกแสงสีขาวแทงจนทะลุทะลวง แสงกระบี่ขนาดใหญ่ลำหนึ่งผ่าเนินเขาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลจนขาด
“ตูม!”
เกิดเสียงกึกก้องคราหนึ่ง แสงสีขาวจางหาย กระบี่ไอธรรมะคืนสู่ฝัก ทว่า เนินเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเหลือเพียงครึ่งลูก รอยแยกยาวเหยียดมองไม่เห็นก้นลุกลามจากปลายเท้าของมู่หรงลวี่กวงไกลออกไปร้อยจั้ง อีกทั้งตรงริมเหวยังเกิดการเสียดสีจนติดไฟลุกโชติ่ชัชวาล
“ศิษย์พี่ใหญ่ร้ายกาจนัก!” ศิษย์จำนวนมากปรบมือโห่ร้อง
“กระบี่นี้มีพลังระดับขอบเขตทารกแกนิญญา!” เฉินเทียนหยวนชม
“ล้วนต้องขอบคุณกระบี่ไอธรรมะ!” มู่หรงลวี่กวงยิ้มถ่อมตน
พูดจบมันก็หันมามองหวังเค่อ “เห็นรึยัง? กระบี่ไอธรรมะไม่เพียงแต่เป็ของวิเศษที่สามารถตรวจจับไอมารได้ แต่ยังสามารถใช้ในการสู้รบโดยไม่แตกหักได้ด้วย! เมื่อกี้คือเพลงกระบี่ปราบมารที่ใช้ผ่านกระบี่ไอธรรมะ นี่ก็คือวิชายุทธ์ของตำหนักหมาป่าบูรพา!”
พวกศิษย์พี่รองสีหน้าไม่น่าดู วิชายุทธ์ตำหนักหมาป่าบูรพาใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้ออกได้ หากหวังเค่อ้าศึกษา น่ากลัวว่าคงไม่อาจสำเร็จได้ในเวลาปีสองปี
“ก็แค่ทักษะการชักกระบี่ไม่ใช่รึ? ข้าเองก็ทำได้!” หวังเค่อเอ่ยอย่างฉงน
“หะ?” ทุกคนมองหวังเค่อด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ
เ้าคุยโวโอ้อวดอันใด เ้าเข้าร่วมพรรคเทพหมาป่า์มานานแค่ไหนกันเชียว? เ้าจะใช้เพลงกระบี่ปราบมารได้ยังไงกัน?
“ก็แค่ชักกระบี่ไอธรรมะออกมาก่อนเสียบกลับเข้าไปเองนี่? ข้าดูรอบเดียวก็ทำได้แล้ว มีตรงไหนยาก?” หวังเค่อเผยสีหน้าพิกล
จางเจิ้งเต้าทางด้านข้างหน้ากระตุก ชักออกมาก่อนเสียบกลับเข้าไปก็ใช้ได้แล้ว? ดูรอบเดียวก็ทำได้แล้ว? เ้ายังมีหน้าพ่นวาจาพรรค์นี้ออกมาอีกรึ!?
