ดวงดาวหลายพันล้านดวงก่อตัวกันเป็ทางช้างเผือกอันกว้างใหญ่ กระจายตัวอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ขีดเขียนความฝันและความลึกลับที่ไม่รู้จักจบสิ้น
บนูเาและแม่น้ำที่มีแสงจันทร์ ชายหนุ่มถือกระบี่และฝึกเพลงกระบี่อย่างช้าๆ แรงกำลังไม่มาก และไม่มีการถ่ายลมปราณเข้าไปในตัวกระบี่เลย เขาแค่ฝึกกระบี่ เป็การร่ายรำกระบี่ที่ธรรมดามาก
อย่างไรก็ตาม หากมองอย่างใกล้ชิดก็จะพบความแตกต่างในกระบวนท่าบางอย่างที่ดูเหมือนเชื่องช้า มันไม่เหมือนกระบวนท่าของกระบี่เลย แต่มันคือคนหนึ่งคนกับกระบี่หนึ่งเล่ม ที่แยกกันร่ายรำออกจากกัน มันเป็ความเงียบอย่างหนึ่ง
กระบวนท่ากระบี่เรียบง่าย เหมือนกับมีอารมณ์อะไรบางอย่าง เหมือนมันขาดความรู้สึกบางอย่างไป
ในกระบวนท่านั้นััไม่ถึงความรู้สึกตื่นเต้น มันเรียบง่าย เหมือนกับท่าทางการออกกระบี่ของิอวี่ อารมณ์ในการร่ายรำกระบี่เหมือนกันหมด เรียบง่าย ไม่มีอารมณ์ยินดีใดๆ เลย
ภายใต้แสงจันทร์ ชายหนุ่มค่อยๆ หลับตาลง สูดลมหายใจเอากลิ่นดินอ่อนๆ ที่มีพลังแห่งฟ้าดินเข้าไป เขาหลงใหลไปกับศาสตร์แห่งกระบี่แบบถอนตัวไม่ขึ้น
เขาเหมือนเริ่มที่จะเข้าใจถ่องแท้ขึ้น การร่ายรำกระบี่นั้นก็เลยเริ่มเร็วมากยิ่งขึ้น ...
... เร็วขึ้นเรื่อยๆ มีเสียงลมพัดผ่าน กระแสลมหมุนวน การเคลื่อนที่ของกระบี่นั้นรุนแรงมากขึ้น คมกระบี่หมุนอย่างรวดเร็ว พลังงานกระบี่ถูกดึงออกมา ดูน่าเกรงขาม!
จนกระทั่งการเคลื่อนไหวของกระบี่นั้นเปิดกว้าง มันขีดเขียนราวกับเป็พู่กัน ท้องฟ้าราวกับภาพวาด ที่กำลังถ่ายทอดความงดงามของูเาและแม่น้ำ!
ใบไม้รอบตัวปลิวว่อนหมุนวนรอบตัวของชายหนุ่ม ทันใดนั้นเองเขาก็ลืมตาขึ้นมา และวินาทีที่ลืมตานั้นเขาก็ฟันกระบี่ออกไป แสงดาบสีขาวที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน ก่อนจะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า!
“กระบี่เจ็ดมรณา การตัดอารมณ์อย่างแรกไร้ยินดี หมายความแบบนี้นี่เอง”
ชายหนุ่มคนนั้นก็คือิอวี่ สายตาของเขามีความตื่นเต้นที่รุนแรงมาก จาก่เที่ยงมาจนถึงกลางคืน ในที่สุดเขาก็เริ่มจับทางการตัดอารมณ์อย่างแรกของกระบี่เจ็ดมรณาได้แล้ว
ิอวี่รู้สึกดีใจมาก เดิมเขาคิดว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับกระบี่เจ็ดมรณานานกว่านี้ แต่หากนับจากความเร็วในเวลานี้ เวลาหนึ่งเดือนเขาน่าจะมีความก้าวหน้าไม่น้อย
แต่ว่า ิอวี่กลับไม่ได้ทะนงตัว เขายังคงฝึกต่อไปอีก
เขาพยายามนึกย้อนไปที่คำพูดของซ่งหยวนหยวนตลอดเวลา นางบอกว่าพร์ของเขาไม่ได้แข็งแกร่งมาก ในสำนักเทพอัคคีนั้นมีปีศาจอัจฉริยะมากมาย ส่วนเขาก็ถือได้ว่าเป็แค่คนตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น
ดังนั้น ิอวี่เลยไม่ได้มีความเกียจคร้านใดๆ
ชายหนุ่มเืร้อน ในกระดูกมันแฝงไปด้วยความไม่ย่อท้อ เขาแปรเปลี่ยนความยึดติดเ่าั้มาเป็แรงผลักดัน!
คนที่มีพร์บางคนนั้นแข็งแกร่งจริง ถ้าเช่นนั้นเขาก็จะต้องพยายามมากกว่าคนเ่าั้ ต้องขยันกว่าพวกเขาเพื่อลดระยะความห่างลง!
ิอวี่คิดแบบนี้ในใจ เขาฝึกฝนมันอย่างต่อเนื่องแต่กลับไม่รู้เลยว่า “เคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูง” เคล็ดวิชาบทที่หนึ่งในคัมภีร์ไท่กู่หยินหยาง ในสายเลี่ยนเหยียนนั้นมันไม่ถือว่าแข็งแกร่งเลย แต่หากพูดถึงแค่เื่พร์ในการทำความเข้าใจและเข้าถึงของเขาแล้วนั้น ที่จริงก็เรียกได้ว่าวิปริตมากแล้ว
และในตอนนี้คนวิปริตคนนี้ก็ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั้นกำลังใช้วิธีที่โง่เขลาอย่างมากในการฝึก และมันก็ทำให้เขาเหนือกว่าอัจฉริยะคนอื่นนับไม่ถ้วน!
วันแรก ิอวี่ก็ทำความเข้าใจและเข้าถึงการตัดอารมณ์อย่างแรกของกระบี่เจ็ดมรณาไปแล้วเกินกว่าครึ่ง
ใน่กลางวัน ิอวี่ก็จะเก็บตัวและทำการปลุกเฮยจีขึ้นมาเพื่อขอความรู้ในการฝึก จากนั้นก็กินยาจูหยวนตันและดูดซับพลังงานฟ้าดินเพื่อทำการฝึกฝน
เมื่อถึงตอนบ่าย ิอวี่ก็จะเริ่มทำการฝึกกระบี่เจ็ดมรณา จนผ่านไปสามวัน เขาก็ฝึกการตัดอารมณ์อย่างแรกของกระบี่เจ็ดมรณา “ไร้ยินดี” จนสำเร็จ
และิอวี่ก็ไม่ได้หยุดพัก เขาเริ่มทำการฝึกการตัดอารมณ์อย่างที่สองของกระบี่เจ็ดมรณา “ไร้ความโศก”
ไร้ความโศกกับไร้ความยินดีนั้นที่จริงมันคือสองสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน ิอวี่แค่ต้องทำสิ่งที่กลับกันก็จะสามารถฝึกมันจนสำเร็จได้ง่าย
ส่วนการตัดอารมณ์อย่างที่สามและสี่นั้นก็จะเริ่มไม่ง่ายแล้ว
เพราะกระบี่เจ็ดมรณาไม่ใช่แค่เพลงกระบี่ที่ตัดขาดจากอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มันต้องตัดอารมณ์ออกไปทั้งเจ็ดอย่าง
หลังจากที่ิอวี่ฝึกไร้ความยินดีและไร้ความโศกไปแล้ว เขาจำเป็ต้องรวบรวมอารมณ์ทั้งสองอย่างนั้นไปที่กระบี่ ถึงจะสามารถฟันกระบี่ที่ไร้อารมณ์สองอย่างนี้ออกมาได้
ดังนั้น เขาจึงเริ่มควบคุมมันไม่ได้แล้ว
แต่ไม่นานนักิอวี่ก็เริ่มจับทางได้ เขาเปิดสถานะหยินสูงสุดขึ้นมาแล้วใช้สภาพจิตใจที่นิ่งและเ็าเพื่อให้พลังความคิดอยู่ในจุดที่ว่องไวและเฉียบแหลมที่สุด และลองทำความเข้าใจเพื่อเข้าถึงกระบี่เจ็ดมรณาใหม่อีกครั้ง
ถึงแม้สถานะหยินสูงสุดนั้นจะใช้ได้ไม่นานและไม่สามารถใช้งานถี่ได้ แต่ภายใต้สถานะหยินสูงสุดนี้มันกลับทำให้ิอวี่ทำความเข้าใจเคล็ดลับของเพลงกระบี่ไปได้มากกว่าครึ่ง มันช่วยให้เขาเข้าถึงกระบี่เจ็ดมรณาได้มากเลยทีเดียว
เป็อยู่อย่างนี้เรื่อยๆ และก็ผ่านไปวันแล้ววันเล่า
ิอวี่อยู่ใกล้กับหอจิ้งโม่ ไม่ได้ไปไหนไกลเลย
เขารู้ดีว่าตอนนี้รอบๆ ตัวจะต้องมีสายตาหลายคู่กำลังจับจ้องเขาอยู่ ขอแค่เขาออกจากที่นี่ไปแม้แต่ก้าวเดียวก็อาจจะต้องเผชิญกับอันตรายที่ทำให้เขาไม่สามารถกลับคืนมาได้อีก
การถูกคนจับตามองแบบนี้เหมือนเป็แรงกดดัน มันทำให้ิอวี่รู้สึกไม่สบายตัวเลย
เขารู้ดีว่าพวกซุนอี้ไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ หากจับตัวเขาได้เมื่อไหร่จะต้องเล่นงานเขาอย่างหนัก ที่สำคัญที่สุดก็คือ เขายังไม่สามารถรับมือได้!
มันเป็แรงกดดันต่อการมีลมหายใจอยู่ของเขา ทำให้ิอวี่ยิ่งต้องสู้มากขึ้นกว่าเดิม
เิหยูเยียนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามยังมีออกไปด้านนอกบ้าง แต่ทุกครั้งนางก็จะเห็นิอวี่ฝึกกระบี่อยู่ที่ลานด้านหน้าของหอจิ้งโม่อย่างไม่หลับไม่นอน ตั้งใจอย่างมาก จนนางถึงกับต้องส่ายหน้า
บางครั้ง ทำอะไรเร็วเกินไปมันก็ไม่ใช่เื่ดี ตอนที่ิอวี่กำลังฝึกอย่างเอาเป็เอาตาย เิหยูเยียนนั้นกลับค่อยๆ ไต่ระดับไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งสูงสุดได้อย่างสบายๆ !
นี่แหละคือความแตกต่าง!
ิอวี่ไม่สนใจอะไรโลกภายนอกเลย เขาตั้งใจเดินไปบนเส้นทางยุทธ์ของตนเอง พร้อมกับรู้สึกว่าขอแค่เขาพยายามอย่างตั้งใจ เขาก็จะแข็งแกร่งไปได้มากกว่านี้อีก
เขาเป็อยู่เช่นนี้ จนเวลาล่วงเลยไปยี่สิบวัน
ในวันนี้ ูเาที่อยู่ด้านหลังหอจิ้งโม่
เกิดเสียงะเิดังสนั่นขึ้นมา อสูรนกต่างๆ โบยบินหนี ต้นไม้ใบหญ้าสั่นไหว อากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงของพลังกระบี่ ความกลัวของเหล่าสัตว์และอสูรกระจายไปทั่วและหายตัวไปจากบริเวณนั้น
มีผู้ดูแลใจนต้องรีบมาดู เขาพบว่าในป่าแห่งนี้มีต้นไม้จำนวนมากถูกฟันจนขาดระเนระนาด กิ่งไม้ใบหญ้ากระจายอยู่เต็มพื้น แต่พวกสัตว์และอสูรไม่ได้รับาเ็เลย พวกเขาถึงกับมองบน ใแทบตาย!
“ใครกัน?”
ผู้ดูแลหลายคนต่างมองหน้ากันแล้วกวาดสายตาไปเรื่อยๆ แต่กลับไม่พบใครที่น่าสงสัยเลย หนึ่งในผู้ดูแลที่มาคือหยางเยวี่ย คนแรกที่เขานึกถึงคือเิหยูเยียน แต่ว่านางไม่น่าจะมีทักษะการต่อสู้แบบนี้
แล้วจะเป็ใครได้นะ?
ผู้ดูแลเหล่านี้พูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ตัดสินใจแยกย้าย
เพราะในสำนักเทพอัคคีมีเสือัซ่อนเล็บมากมาย ซึ่งอาจจะเป็ยอดฝีมือคนไหนก็เป็ไปได้ทั้งนั้น ในเมื่อตรวจสอบแล้วไม่เจอะไรก็ไม่จำเป็ต้องตรวจสอบต่อไป
ผู้ดูแลจึงแยกย้ายกันไปพร้อมกับความสงสัย
ที่ด้านหลังเขาที่พวกเขาอยู่นั้น ิอวี่ก็กลับเข้ามาฟื้นตัวที่ห้องฝึกชั้นสอง และเตรียมตัวที่จะเข้าร่วมการท้าประลองแล้ว
เมื่อยี่สิบวันก่อน ิอวี่ได้รับคำเตือนมาจากซ่งหยวนหยวน
ระหว่างการต่อสู้ของเขานั้นมันมีจุดบอดจุดใหญ่ มีกำลังมากแต่มันไม่กระชับรัดกุม หากเอาแต่ไล่ล่าจิตสำนึกในทักษะการต่อสู้แล้วละเลยคุณภาพของกระบวนท่าสังหาร เขาไม่มีทางปล่อยทักษะการต่อสู้ที่มีอานุภาพรุนแรงอย่างแท้จริงออกมาได้
ดังนั้น สิ่งที่ิอวี่จะทำหลังจากนี้ก็คือ ฝึกคำว่า “กระชับรัดกุม” !
คิดอยากจะทำให้กระบวนท่าสังหารกระชับรัดกุมนั้นดูเหมือนง่าย แต่พอลงมือทำจริงๆ แล้วมันยากมาก
เพราะคิดอยากจะทำให้กระบวนท่านั้นกระชับรัดกุม ซ่งหยวนหยวนบอกแค่ว่า “กระชับรัดกุม” แต่จะไปทำให้มันกระชับรัดกุมอย่างไร ปล่อยมันให้กระชับรัดกุมอย่างไร ซ่งหยวนหยวนไม่ได้บอกอะไรเขามาเลย
“คิดว่าอาจารย์น่าจะรู้สึกว่าปรัชญาคำว่า ‘กระชับรัดกุม’ มันกว้างมาก บอกข้าครั้งเดียวคงไม่มีทางเข้าใจได้ ดังนั้นก็เลยเตือนข้าก่อน หวังว่าหลังจากที่ข้าคิดทบทวนได้แล้วค่อยสอนอีกที”
ิอวี่เอามือลูบคางและลองคาดเดาความคิดของซ่งหยวนหยวน
แต่ว่าิอวี่กลับไม่ได้คิดจะหยุดแค่นี้ ทำอะไรเื่หนึ่งไปอย่างช้าๆ มันไม่ใช่วิธีการของเขา สิ่งที่เขาจะทำในตอนนี้ไม่ใช่แค่ทำความเข้าใจ แต่เขาต้องทำมันให้เป็รูปธรรม!
ิอวี่ถือกระบี่หวงฉวนในมือ แล้วปล่อยลมปราณออกมาหนึ่งส่วนสามให้มันวนรอบตัวกระบี่ จากนั้นก็สงบใจ เก็บซ่อนลมปราณเอาไว้ภายในให้ได้มากที่สุด
ทันใดนั้นเอง ตัวกระบี่ก็เริ่มสั่น พลังงานลมปราณที่น่ากลัวบนกระบี่เริ่มปั่นป่วน มีเพียงพลังงานส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังควบแน่นอยู่ในกระบี่จนสั่นไปถึงด้ามจับ ิอวี่รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนถือกระบี่อยู่เลย แต่รู้สึกเหมือนกำลังจับอสูรร้ายประเภทปลาอยู่ในมือ มันดุร้ายและดิ้นอย่างรุนแรง คิดอยากจะหลุดออกจากมือของเขาตลอดเวลา!
ิอวี่พยายามใช้แรงในการจับกระบี่เอาไว้ แต่มันก็ไม่เชื่อฟังคำสั่งเลย
เขาถึงกับถอนหายใจแล้วดึงลมปราณกลับ กระบี่หวงฉวนถึงได้สงบลง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ิอวี่พบว่าการกระชับลมปราณนั้นมันเป็เื่ที่ยากมาก
ก่อนหน้านี้ิอวี่เคยลองกระชับลมปราณให้รัดกุมแล้ว แต่เขาก็ต้องหยุดลงเพราะกระชับได้แค่้าผิวของกระบี่เท่านั้น แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือการกระชับลมปราณให้ไปอยู่ในตัวกระบี่ มันเหมือนการทะลวงเข้าไปอยู่ในตัวกระบี่!
ดังนั้น การกระชับมันเป็อะไรที่ยากมาก แต่ว่ามันจะทำให้มีพลังสังหารที่รุนแรงมาก
ซ่งหยวนหยวนใช้ลมปราณในระดับเดียวกันกระชับพลังไปไว้ที่นิ้วสองนิ้ว ไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้อะไรก็ทำลายกระบี่ยมโลกสังหารของิอวี่ไปได้แล้ว อานุภาพมันรุนแรงมาก
ิอวี่รู้สึกว่า วิธีการแบบนั้นมันคือการควบแน่นลมปราณให้กระสับกระส่ายถึงขีดสุด ควบแน่นจิตสังหารให้ได้ถึงขีดสุด และปลดปล่อยพลังงานการโจมตีมหาศาลออกมา!
ิอวี่เป็ผู้กล้าในการใช้กระบี่ การทำความเข้าใจเข้าถึงเื่ของกระบี่ของเขามันไม่ธรรมดา หากเขาสามารถกระชับลมปราณให้รัดกุมกว่านี้ในศาสตร์ของกระบี่ ิอวี่แทบไม่กล้าคิดเลยว่าเพลงกระบี่ที่เขาใช้นั้นมันจะน่ากลัวแค่ไหน!
