เล่มที่ 8 บทที่ 238 บทจิงหยวน
“หืม?” หลินเฟยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสนใจขึ้น จึงเอ่ยถามต่อ
“อยู่ที่ไหนงั้นหรือ?”
“ห่างจากที่นี่ไปทางเหนือประมาณสิบกว่าลี้ ที่นั่นก็เต็มไปด้วยซากปรักหักพังเช่นเดียวกับที่นี่ และดูเหมือนข้างใต้จะมีจุดชีพจรเปลวไฟใต้พิภพพาดผ่านอีกด้วย จึงมีอุณหภูมิสูงเป็พิเศษ เรียกได้ว่าเป็จุดที่มีไอหยินเบาบางเพียงไม่กี่แห่งท่ามกลางซากปรักหักพังมากมายเช่นนี้...”
“ได้ ลองไปดูหน่อยก็แล้วกัน”
“ช้าก่อนศิษย์พี่หลิน” ขณะที่หลินเฟยกำลังจะลุกขึ้น ก็ถูกเวินโหวรั้งเอาไว้เสียก่อน
“ข้าขอไปตามศิษย์น้องก่อน ไปกันทั้งหมดดีกว่า ยิ่งมีคนเยอะเท่าไรก็ยิ่งดี เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง อีกอย่างศิษย์พี่ก็คงรู้จักสัตว์อสูรของข้า แม้มันจะถูกไอหยินที่นี่กดข่ม ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายนับพันลี้ได้ในพริบตา แต่หากตกอยู่ในยามคับขัน ก็ยังพอที่จะเคลื่อนย้ายทุกคนได้สักประมาณสิบจ้างร้อยจ้างได้...”
“แล้ว...” หลินเฟยได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกลังเลขึ้นมา ‘แม้ปลาั์ของเวินโหวจะมีประโยชน์ในยามคับขัน ทว่าบัดนี้อาจารย์อาหยางของพวกเขากำลังถูกมารปีศาจกักขังไว้อยู่ หากตนเองไปถ่วงเวลาเหล่าศิษย์ของหุบเขาหมื่นอสูรให้เดินทางไปกับตนเองละก็ คงจะไม่เหมาะเท่าไรนัก...’
“ศิษย์พี่หลินวางใจได้เลย เมื่อครู่อาจารย์อาได้ส่งสาส์นมาแล้ว บอกว่าแม้จะถูกมารปีศาจกักขังเอาไว้ แต่ก็ยังถือว่าปลอดภัยดี...” เวินโหวครุ่นคิดชั่วครู่ จึงรู้ว่าหลินเฟยเป็กังวลเื่อะไร จึงรีบเอ่ยสมทบออกมา
“ถ้าเช่นนั้นก็ย่อมได้ รอข้าได้สิ่งนั้นมาแล้ว เดี๋ยวจะไปช่วยอาจารย์อาของพวกเ้าด้วย”
หลังจากพักผ่อนอีกพักหนึ่ง คนทั้งหมดก็เริ่มออกเดินทาง เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ทุกคนก็เดินทางมาถึงลานที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง...
“อุณหภูมิสูงทีเดียว...” ตอนที่เห็นครั้งแรกหลินเฟยก็อดที่จะใไม่ได้ เพราะละแวกนี้เต็มไปด้วยไอหยินเข้มข้น จึงไม่อยากจะเชื่อตาตัวเองว่าจะมีสถานที่เช่นนี้อยู่...
ก่อนหน้านี้ ขณะที่เดินเข้ามาก็รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่ปะทะเข้า เมื่อกวาดตามองไปก็เห็นรอยแตกบนพื้นจำนวนมาก แถมยังมีเปลวไฟบางเบาพวยพุ่งออกมาเล็กน้อย ดูท่าข้างใต้จะต้องเป็จุดชีพจรเปลวไฟใต้พิภพอันร้อนแรงแน่ๆ จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้...
‘ใช่แล้ว เพราะเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่มีพลังชีวิตที่เข้มข้น จึงไม่ค่อยถูกชะตากับสิ่งที่มีไออสูรหรือไอปีศาจเข้มข้น เช่นนั้นท่ามกลางซากปรักหักพังเหล่านี้ จึงมีเพียงที่แห่งนี้เท่านั้นที่สามารถดึงดูดเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่ได้’
เมื่อคิดถึงตรงนี้หลินเฟยก็ไม่คิดก้าวเข้าไปทันที เพียงแต่หยุดยืนอยู่ด้านนอกชั่วครู่...
เหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่มีความว่องไวเป็พิเศษ ต่อให้เป็ปีศาจกระบี่ที่ถูกหลอมด้วยเคล็ดหลอมห้าธาตุอู่ตุ้นก็ไม่อาจเทียบเทียมได้ หากบุกเข้าไปตรงๆ เกรงว่าจะใจนหนีไปเหมือนครั้งก่อนก็เป็ได้...
“ศิษย์พี่หลิน สิ่งนั้นอยู่ข้างในไม่ใช่หรือ ทำไมถึงไม่เข้าไปเล่า?” เวินโหวเห็นหลินเฟยหยุดนิ่งลงไป ก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้
“ไม่รีบๆ ข้าต้องเตรียมตัวเสียก่อน” ระหว่างที่พูดหลินเฟยก็หยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเฉียนคุน ของทั้งหมดที่เอาออกมาล้วนได้มาจากการประมูลที่หอว่านเย่ว ของส่วนมากได้ถูกเซ่นให้กับค่ายกลคุ้มกันเมืองไปหมดแล้ว บัดนี้จึงเหลืออยู่ไม่มากนัก หลังจากพิจารณาคร่าวๆ ก็คิดว่าน่าจะเพียงพออยู่...
หนึ่งชั่วยามผ่านไป ในที่สุดหลินเฟยก็ฝังหินิญญาก้อนสุดท้ายลงดิน จากนั้นก็ปัดฝุ่นในมือออก ก่อนจะลุกขึ้นยืน ในขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยกล่องกระบี่เจิงหนิงและกระบี่ดาวอัปมงคลทั้งสี่ออกมา ทันใดนั้นก็มีกลิ่นอายโเี้แพร่กระจายออกมา หลินเฟยจึงเดินเข้าไปยังบริเวณใจกลางของลาน...
และก็เป็อย่างที่คิดไว้ ทั้งที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาไม่นาน ก็มีสายฟ้ารูปร่างคล้ายอสรพิษปรากฏขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด…
“คิดจะหนีหรือ?”
หลินเฟยเห็นดังนั้นก็แค่นหัวเราะเ็าออกมา จากนั้นก็โคจรพลังปราณ กระทั่งหินิญญานับร้อยที่อยู่นอกลานพลันส่องสว่างขึ้น…
ทันใดนั้นก็เกิดเป็อักขระสีทองมากมายปกคลุมไปทั่วรัศมีร้อยจ้าง หลังจากที่สายฟ้าเข้าสู่ม่านหมอก แสงทองก็พลันเคลื่อนที่ช้าลง ยิ่งเดินหน้าต่อเท่าไรก็ยิ่งช้าลงเรื่อยๆ อีกทั้งแสงสว่างของสายฟ้าก็ดันแปรปรวนขึ้นมาคล้ายกับกำลังจะแตกสลาย…
เหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่เองก็ถือว่ามีสติปัญญา เมื่อรู้ตัวว่าดันทุรังต่อไปไม่ไหว มันก็หันหัวไปทางอื่นทันที…
แต่น่าเสียดายที่แสงสีทองอีกฝั่งก็เรืองแสงขึ้นตามทันที เพียงครู่เดียวก็ปกคลุมไปทั่วร้อยจ้างเช่นกัน ไม่นานก็มีแสงทองปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณราวกับกรงกักขัง
“ช่างเป็ค่ายกลที่ร้ายกาจมาก!”เวินโหวที่อยู่ไม่ไกลอุทานขึ้นมาทันที
“หึหึ...” หลินเฟยได้ยินดังนั้น ก็ทำเพียงยิ้มน้อยๆออกมา โดยไม่ได้อธิบายให้เวินโหวฟังว่านี่ไม่ใช่ค่ายกล หากแต่เป็บทจิงหยวนในเคล็ดวิชาจูเทียนฝูถูต่างหาก และตนเองก็แค่สลักอักขระลงในหินิญญาเท่านั้น...
บทจิงหยวนมีทั้งหมดสามร้อยหกสิบห้าอักขระ หลินเฟยจึงสลักลงบนหินิญญาสามร้อยหกสิบห้าก้อน สำหรับเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่ที่อยู่ในขั้นโฮ่วเทียนแล้ว หินิญญาเหล่านี้จึงไม่ต่างอะไรกับกรงขัง แล้วจะหนีรอดได้อย่างไร?
เหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่เอาแต่พุ่งชนไปมา แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจหนีรอดออกไปได้ หลินเฟยเห็นดังนั้นก็แค่นหัวเราะน้อยๆ จากนั้นก็ปลดปล่อยเทียนกุ่ยซึ่งพันอยู่รอบแขน และปีศาจกระบี่ที่อยู่ในจุดตันเถียนออกมา หลังจากที่ปรากฏตัว เทียนกุ่ยก็กลายร่างเป็ลำแสงสีดำไล่ตามเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่ไปทันที...
เทียนกุ่ยเองก็เกิดจากอักขระกระบี่หยินหลี เดิมทีก็สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างไร้ร่องรอยอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเข้ามาในลาน มันก็ราวกับปลาได้น้ำ โฉบเฉี่ยวหายตัวไปมาทั่วลานได้อย่างคล่องแคล่ว แม้จะไม่ได้เร็วมาก แต่ก็สามารถไล่ตามเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่ได้ทันทุกครั้งไป หากเป็ยามปกติเหล็กเซียนคงสามารถสลัดเทียนกุ่ยได้อย่างง่ายดาย...
ทว่าตอนนี้...
ยังมีปีศาจกระบี่ไล่ตามมาติดๆอยู่ด้านหลัง
ปีศาจกระบี่เองก็เกิดจากเคล็ดหลอมห้าธาตุอู่ตุ้น จึงสามารถหายตัวไปไหนมาไหนได้ตามที่้าเช่นกัน ต่อให้ความเร็วไม่สู้เหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่ แต่มันก็พอมีเทียนกุ่ยช่วยสกัดเอาไว้ จึงทำให้สามารถรับมือเหล็กเซียนได้อย่างสูสี...
นอกจากนี้...
ทั้งเทียนกุ่ยและปีศาจกระบี่ต่างก็เป็เพียงแผนรองของหลินเฟยเท่านั้น...
เพราะแผนที่แท้จริงของหลินเฟยก็คือกล่องกระบี่เจิงหนิงและกระบี่ดาวอัปมงคลทั้งสี่ที่ลอยอยู่เหนือหัวต่างหาก...
กระทั่งหนึ่งก้านธูปผ่านไป เทียนกุ่ยกับปีศาจกระบี่ก็ร่วมมือกัน และในที่สุดก็สามารถบีบจนเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่จนมุมได้ จากนั้นหลินเฟยก็ชี้นิ้วออกไป ทันใดนั้นกล่องกระบี่เจิงหนิงและกระบี่อัปมงคลทั้งสี่ก็พุ่งทะยานนพร้อมกับไอโเี้ที่พวยพุ่ง เพียงบินวนเท่านั้น ก็สามารถบีบคั้นจนเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่ที่คิดจะพุ่งหนี ถอยห่างออกไป ขณะเดียวกันกล่องกระบี่เจิงหนิงก็เปล่งแสงเจิดจ้า และกระบี่ทั้งสี่ก็หวีดร้องขานรับโดนพลัน ทำการตอกตรึงเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่เอาไว้อย่างแ่า…
ไม่นานก็มีกระแสโเี้สาดเทลงมา ทำให้สายฟ้าที่รายล้อมเหล็กเซียน ถูกชำระล้างออกไปบางส่วน…
ต่อให้เหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่จะเป็แร่ขั้นโฮ่วเทียน ก็ไม่อาจต้านทานได้ เพียงครู่เดียวสายฟ้าที่สถิตอยู่ที่ผิวนอกก็ถูกชำระล้างออกไป หากปล่อยไว้นานกว่านี้ละก็ เกรงว่าแร่ขั้นโฮ่วเทียนก็อาจจะกลายเป็เพียงเหล็กธรรมดาได้เลยทีเดียว เมื่อเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่เห็นดังนั้น จึงไม่สนอีกต่อไปว่าจะถูกปีศาจกระบี่กับเทียนกุ่ยว่าขัดขวางหรือไม่ ทันใดนั้นมันก็ะเิตัวเองให้กลายเป็ัสายฟ้าและพุ่งเข้าจู่โจมทันที…
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------