ติ๊ง! เสียงลิฟต์ดังขึ้นก่อนประตูจะค่อยๆ เลื่อนออกเป็คนตัวเล็กที่ก้าวขาเดินออกมาก่อนและแน่นอนว่าตามมาด้วยผู้ชายตัวสูงที่ยังไง๊ยังไงก็บอกว่าจะมาส่งให้ได้…เห็นฉันเป็เด็กหรือคนแก่ที่ขี้หลงขี้ลืมขนาดจะจำห้องตัวเองไม่ได้หรือยังไงนะ
“ถึงแล้วค่ะ พี่กลับห้องไปได้แล้ว” เมจิพูดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าห้องเธอ
“อืม…ครับ”
“…” ครับ…แต่ทำไมเขาถึงยังยืนอยู่ตรงนี้ล่ะ
“…”
“พี่ไปสิ มายืนจ้องหน้าเมทำไม”
“เราก็เปิดประตูเข้าห้องไปสิ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับพยักเพยิดหน้ามองไปที่ประตูห้อง
“อ๋อ โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
ร่างแบบบางที่พอจะเข้าใจก็หันกลับไปก่อนจะแตะคีการ์ดเปิดประตูเดินเข้าห้อง
หมับ! ปึง! กริ๊ก! ผลั่ก! แต่ในจังหวะที่เธอกำลังจะปิดประตูอยู่ดีๆ คนตัวสูงก็คว้าประตูไว้แล้วแทรกตัวเองเข้ามาก่อนจะจับตัวเธอดันชิดติดกับกำแพง
“…!!!” อะ อะไรเนี่ย…
“พะ พี่จะทำอะไร” เสียงหวานของเมจิที่ติดสั่นน้อยๆ พูดขึ้น
“…” ใบหน้าหล่อคมไม่ได้ตอบอะไรเขาเอาแต่จ้องมองท่าทางของคนที่อยู่ในวงแขน
หญิงสาวที่ตอนนี้กำลังพยายามดันร่างแกร่งออกแต่ไม่รู้ว่าแรงเธอน้อยหรือเขาแข็งแรงมากกันแน่มันถึงได้ไม่ขยับไปไหนเลย…
“หึ…ขอเช็กเบื้องต้นหน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนที่จะโน้มหน้าลงมาพร้อมกับใช้มือหนาเชยคางเธอแล้วกดริมฝีปากแนบสนิทกับริมฝีปากบาง
ปากหนาขยับงับริมฝีปากบนทีล่างทีของเมจิที่ตอนนี้เธอคงน่าจะกำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าเลยนิ่งค้างไปแต่ก็ไม่ได้ผลักไสเขา ชายหนุ่มค่อยๆ สอนคนที่กำลังเงอะงะไปอย่างช้าๆ จนคนตัวเล็กกว่าเริ่มดูดดึงริมฝีปากเขาตอบอย่างเป็จังหวะ ทำให้คนทั้งคู่บดขยี้ปากเข้าหากันจนลมหายใจเริ่มหอบกระชั้นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว…
“อื้ม…” เสียงทุ้มครางในลำคอก่อนที่มือหนาจะเลื่อนจากใบหน้าสวยลงมาที่เอวบางแล้วค่อยๆ สอดมือเข้าใต้เสื้อ
“…อ๊ะ” คนตัวเล็กสติกลับเข้าร่างทันทีหลังจากรับรู้ถึงััของมือหนาที่กำลังอยู่ในจุดที่ไม่ควรอยู่จึงไม่รอช้ารีบดันเขาออกสุดแรง ผลั่ก!
“หึ”
“แฮ่ก…” เมจิลอบหายใจเข้าไปเต็มปอดหลังจากที่ปากของเธอถูกปล่อยให้เป็อิสระ
ยังไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้นมีเพียงสองสายตาที่กำลังมองสอดประสานกันนิ่งอย่างรอดูทีท่า
“เอาอะไรมากร้านโลกจูบยังไม่เป็เลย…” เป็วินที่เอ่ยขึ้นมาก่อน
“แต่หัวไวดี จูบตอบพี่ซะด้วย…” ร่างสูงที่ยังคงพูดต่อ
“หื้ม? จูบตอบอะไรเมดันพี่ออกต่างหาก” เสียงหวานรีบตอบโต้กลับ
“อันนั้นไม่เรียกดันออก เรียกจูบตอบ”
“ไม่…เม”
“คาใจงั้นหรอ อีกรอบไหมล่ะ” เมจิมองใบหน้าคมคายที่ไม่ได้มีวี่แววพูดเล่นอยู่เลย
“ไม่! พี่ออกไปได้แล้ว” หญิงสาวไม่พูดเปล่าแต่เธอเปิดประตูห้องพร้อมกับดันคนตัวสูงออกไปด้วย
“นี่…โกรธพี่ไม่ได้นะถ้าพี่ผิดเราก็ผิดเพราะเราก็จูบพี่เหมือนกัน”
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าห้องพูดออกมาหน้าตาเฉยตรงข้ามกับสายตาที่ระยิบระยับนั่น…
ปึง! มือเล็กดันประตูปิดใส่หน้าเขาเสียงดังอย่างจงใจ
“ร้ายกาจชะมัด!” ปากบางบ่นพึมพำออกมาก่อนจะสาวเท้าเดินหายเข้าไปในห้องนอน
อีกด้านหนึ่ง…
ชายหนุ่มรูปร่างดีที่เพิ่งโดนเมจิปิดประตูใส่หน้าคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะยกนิ้วโป้งหนาขึ้นถูริมฝีปากของตัวเอง…
“โถ่ อย่างกับหมาเด็ก” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะก้าวขายาวเดินเข้าไปในลิฟต์แล้วกดไปยังชั้นห้องพักของตัวเอง
All-Day Community Mall
“ไปกัน เดี๋ยวพี่พาเมจิเดินดูรอบๆ คอมมูนิตี้ของเราแล้วเดี๋ยวแวะไปทำความรู้จักแผนกต่างๆ ด้วย”
เสียงของพี่ฝนที่เดินมารับพร้อมพูดบอกเธอที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องอบรมหลังจากที่คนตัวเล็กเข้าไปนั่งฟังรายละเอียดต่างๆ ที่สำคัญของบริษัทั้แ่่เช้าตอนนี้ในมือเลยมีเอกสารอยู่หนึ่งปึกที่ต้องเอากลับไปอ่านให้ขึ้นใจ
“น่าจะพอรู้แล้วเนาะ…ว่าตำแหน่งที่เมทำมีรายละเอียดงานยังไงบ้าง”
“ค่ะพี่ฝน”
ตำแหน่งที่เธอสมัครเข้ามาก็คือ All-Day Representative หน้าที่คือต้อนรับและคอยอำนวยความสะดวกแขกหรือก็คือนักลงทุนที่สนใจมาลงทุนกับทางคอมมูนิตี้มอลล์ เธอต้องทำหน้าที่ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจและเป็ตัวแทนผู้ลงทุนในการติดต่อประสานงานฝ่ายต่างๆ ภายในบริษัทซึ่งถ้าว่ากันตามตรงงานค่อนข้างจิปาถะและมีเวลาทำงานที่ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับภาระหน้าที่และนักลงทุนที่ต้องทำงานด้วย แต่ด้วยผลตอบแทนที่แตะหกหลักต่อเดือนก็ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากเลย…
“อย่างที่รู้อยู่แล้วว่าคอมมูนิตี้ของเราเปิด 24 ชั่วโมงแล้วก็ไม่มีวันหยุด…”
พี่ฝนที่คอยอธิบายและพาเมจิเดินดูโซนใหญ่ๆ ที่สำคัญบางโซนเนื่องจากพื้นที่ของคอมมูนิตี้ค่อนข้างใหญ่และมีหลายบริเวณหากจะพาเดินดูทั้งหมดคงไม่จบภายในวันเดียวแน่ๆ
“ที่สำคัญก็มีประมาณเท่านี้แหละ…อ้อจริงสิชั้นนี้ถ้าเดินไปตามทางเชื่อมอีกฝั่งนึงจะเป็ตึกของเดย์ไลต์หรือบริษัทผลิตชิ้นส่วนทางอุตสาหกรรมที่เรารู้จักกันดี”
บริษัทที่พี่วินทำงานสินะ…อยู่ติดกันงี้เลยหรอเนี่ย
“งั้นเดี๋ยวพี่พาเมจิไปแนะนำกับแผนกต่างๆ ที่เราต้องทำงานด้วยต่อเลยแล้วกัน” พี่ฝนพูดขึ้นอีกครั้ง
“ได้ค่ะ” เมจิยิ้มพร้อมกับพยักหน้าแล้วเดินตามหญิงวัยกลางคนไป
สามสิบนาทีผ่านไป…ตอนนี้ร่างแบบบางของเมจิก็มายืนอยู่หน้าแผนกของเพื่อนร่วมงานที่ทำตำแหน่งเดียวกันหรือก็คือทีมเดียวกับเธอนั่นเอง
“พาย ภูมิ ตะวัน ปังปิ้ง นี่เมจิเพื่อนร่วมทีมเราอีกคนฝากน้องด้วยนะ” พี่ฝนพูดแนะนำก่อนที่เมจิจะยกมือขึ้นสวัสดีทุกคนตรงหน้า
“สวัสดีจ้ะ นั่นโต๊ะเราตรงนั้นพี่ให้ปังปิ้งกับตะวันจัดการไว้ให้แล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” คนตัวเล็กเดินเอาของของตัวเองไปวางตามที่พี่คนชื่อพายบอก
“ชื่อเมจิใช่ไหม นี่เราอายุเท่าไหร่นะ” เสียงพี่พายถามขึ้นอีกครั้ง
“25 ค่ะ”
“โอ๊ะ อายุเท่ากันเลย!” เสียงหวานใสจากผู้หญิงหน้าตาน่ารักใส่แว่นกรอบหนาพูดขึ้น…นั่นปังปิ้งใช่ไหมนะ
“เราปังปิ้งนะ ส่วนนั่นตะวันอายุ 26 พี่ภูมิ 32 แล้วก็พี่พะ…” ปังปิ้งที่หันไปแนะนำทุกคนแต่ไม่ทันจะพูดจบพี่พายก็ขัดขึ้นก่อน
“อะแฮ่ม หยุดเลยปังปิ้งเอาเป็ว่าเรียกแค่พี่พายพออายุไม่ต้องรู้หรอกจ้ะ”
“อ๋อ โอเคค่ะ 555” เมจิยิ้มออกมาให้กับเพื่อนร่วมงานของเธอ
“พอก่อนๆ ค่อยมาคุยกันต่อเดี๋ยวพี่พาเมไปแนะนำกับคุณเวย์ก่อนเห็นว่าวันนี้เข้าบริษัทนะ” พี่ฝนพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะกวักมือเรียกให้เมจิเดินตามไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ฝนนะคะพอดีพาน้องในทีมคนใหม่มาแนะนำค่ะ…
“เชิญครับ” เสียงเข้มดุดันตอบกลับมาก่อนที่พี่ฝนจะเปิดประตูเดินนำเธอเข้าไป
“ขอโทษที่รบกวนเวลานะคะ นี่น้องเมจิหนึ่งในทีม All-Day Representative คนใหม่ของเราค่ะ ส่วนนี่คุณเวย์ผู้บริหาร All-Day Community Mall”
พี่ฝนแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกันเบื้องต้นทำให้ตาเรียวสวยมองไปยังชายหนุ่มใบหน้าหล่อคมคายที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานกลางห้อง…เขาดูเนี๊ยบแล้วก็สุขุมมากๆ
“สวัสดีค่ะ” เมจิยกมือขึ้นไหว้คนตรงหน้า
“ครับ สวัสดีครับ” เสียงเข้มเอ่ยตอบก่อนจะมองหญิงสาวตรงหน้าั้แ่หัวจรดปลายเท้าด้วยสายตาปกติ
“จริงๆ ที่นี่มีผู้บริหารอีกคนน้องชายผมเองแต่ไม่ค่อยโผล่หัวมาเท่าไหร่” เสียงเข้มดุดันพูดขึ้นอีกครั้ง
“อ้อใช่จ้ะ พี่ก็ลืมบอกเราเลย” ตามด้วยเสียงของพี่ฝนที่หันมาบอกกับเธอ
“อ๋อค่ะ”
ร่างบางผงกหัวน้อยๆ อย่างคนทำตัวไม่ถูกตอนนี้เธอค่อนข้างรู้สึกประหม่าเพราะชายหนุ่มตรงหน้าที่ดูแล้วอายุก็ไม่น่าจะห่างกับพี่วินมากแต่ด้วยความที่เขาค่อนข้างนิ่งและดูดุเลยทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่…
