“อย่าก่อเื่” เนี่ยเฉี่ยนถลึงตาใส่เขา “พวกเรายังมีธุระอื่น อย่าไปเสียเวลาอยู่กับพวกคนน่ารังเกียจเช่นนี้เลย ไปกันเถอะ”
ขณะที่พูดนางก็ดึงรั้งเนี่ยเทียนแรงๆ อีกครั้ง พยายามพาเนี่ยเทียนออกไปจากหน้าหอหลิงเป่าให้เร็วที่สุด
“อย่าเพิ่งรีบร้อน พวกเราไม่ได้เจอกันนาน พี่น้องพูดคุยเื่ในอดีตกัน จะต้องกลัวอะไรเล่า?” รอยยิ้มเล็กน้อย บนใบหน้าหยวนชิวอิ๋ง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีเจตนาดี “เด็กคนนี้ก็คือเนี่ยเทียนลูกไม่มีพ่อคนนั้นกระมัง? หึหึ ก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าเขาใกล้จะตายแล้วมิใช่หรือ? น่าสงสารจริง ไม่มีพ่อไม่มีแม่ มีชีวิตอยู่ต่อไปก็เป็ได้แค่ตัวตลกเท่านั้น”
“ยายแก่ เ้ามีพ่อมีแม่ แต่พ่อแม่เ้ากลับไม่สั่งสอน!” เนี่ยเทียนย่นจมูก แค่นเสียง “มีแต่พวกผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายเท่านั้นที่รู้ว่าชายที่มีภรรยาแล้ว แต่ยังเร่เอาตัวไปเสนอให้เขา!”
“เ้าเด็กสารเลว! ใครสอนให้เ้าพูดเช่นนี้? เ้าบังอาจด่าข้าเชียวรึ?” หยวนชิวอิ๋งเดือดดาลขึ้นมาทันทีทันใด
คำพูดของเนี่ยเทียนแทงเข้ากลางจุดเ็ปของนาง หลายปีมานี้ นางเกลียดเวลาที่คนอื่นพูดจาเช่นนี้กับนางมากที่สุด
ตัวนางเองก็รู้ดีว่าการที่นางแย่งอวิ๋นจื้อกั๋วมาจากเนี่ยเฉี่ยนไม่ใช่เื่น่าภาคภูมิใจอะไรนัก
เวลาที่คนมากมายในเมืองเฮยอวิ๋นพูดถึงเื่นี้ ต่างก็ประณามความผิดของนาง แน่นอนว่านางเองย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ
แต่เนื่องด้วยนางมาจากตระกูลหยวนที่แข็งแกร่ง ต่อหน้านาง จึงไม่มีผู้ใดกล้าเอาเื่นี้มาพูด
เดิมทีนางแค่คิดจะทำให้เนี่ยเฉี่ยนอับอายเท่านั้น ทว่าคำเสียดสีของเนี่ยเทียนกลับจุดไฟโทสะกลางใจของนางขึ้นมา ทำให้นางควบคุมตัวเองไม่ได้ทันที
“ข้าเพียงอธิบายเื่ราวไปตามความจริงเท่านั้น ใครก็รู้กันทั้งนั้นว่าเ้าทำอะไรเอาไว้ แล้วทำไมเล่า เ้ากล้าทำ แต่กลัวคนอื่นจะเอามาพูดอย่างนั้นหรือ?” เนี่ยเทียนแค่นเสียง “กลัวคนอื่นประณาม ยังหน้าด้านแย่งเอาผู้ชายของคนอื่นมาขนาดนั้น? เ้ารู้จักอับอายบ้างหรือไม่? มียางอายบ้างหรือไม่?”
“เสี่ยวเทียน!” เนี่ยเฉี่ยนพูดร้อนรน
คำพูดของเนี่ยเทียนนั้นก็เป็สิ่งที่นางอยากพูดมาโดยตลอด แม้ว่านางจะแอบสะใจอยู่กับตัวเอง ทว่านางรู้จักนิสัยของหยวนชิวอิ๋งดี กังวลว่าหยวนชิวอิ๋งจะสร้างเื่เดือดร้อนให้ตนและเนี่ยเทียนต่อหน้าผู้คน
“เ้าลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่! วันนี้ข้าจะสั่งสอนให้เ้ารู้ว่าการเป็คนควรทำเช่นไร!”
ไฟโทสะในดวงตาหยวนชิวอิ๋งลุกโชน ยกมือซ้ายขึ้นกะทันหัน คลื่นพลังิญญาสีม่วงอ่อนเป็กลุ่มๆ พลันกระเพื่อมขึ้นมากลางฝ่ามือของนาง
“ชิวอิ๋ง! นี่มันหน้าประตูหอหลิงเป่า อย่าไปถือสาเด็กน้อยคนหนึ่งเลย คนอื่นเขาจะหัวเราะเยาะเอาได้!” อวิ๋นจื้อกั๋วรีบห้ามปราม
เวลานี้ ผู้คนมากมายที่เข้าออกหอหลิงเป่าซึ่งััได้ถึงสถานการณ์ตึงเครียดตรงจุดนี้ต่างก็ชะลอฝีเท้าลง มองไปทางการปะทะดุเดือดที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยความสนใจ
“หึ คนของตระกูลเนี่ยและตระกูลอวิ๋น”
“มีเื่สนุกให้ดูแล้ว!”
“ภรรยาของอวิ๋นจื้อกั๋วนั่นยังคงอวดดีอยู่เหมือนเดิม!”
“พ่อของนางเป็ถึงประมุขตระกูลหยวนแห่งเมืองหานสือเชียวนะ ในเมืองเฮยอวิ๋นของพวกเรา นางก็มีเงินมากพอที่จะให้อวดดีจริงๆ”
“เฮ้อ คนตระกูลเนี่ยก็โชคไม่ดีจริงๆ ดันมามีเื่มีราวกับหญิงร้ายกาจตระกูลหยวนผู้นี้เสียได้ เพราะนาง เนี่ยตงไห่ไม่เพียงแต่าเ็หนัก ่ก่อนหน้านี้ยังสูญเสียตำแหน่งประมุขตระกูลไปด้วย ช่างน่าอนาถยิ่งนัก”
“...”
ชาวบ้านเมืองเฮยอวิ๋นที่หยุดสังเกตการณ์เ่าั้ พออยู่ห่างหยวนชิวอิ๋งและเนี่ยเฉี่ยนได้ระยะหนึ่งก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมาเสียงเบาๆ
ในกลุ่มคนเ่าั้ เด็กหญิงผิวขาวราวกับหยกผู้หนึ่งถูกชายร่างใหญ่วัยกลางคนใบหน้าเหลี่ยมจูงมือเอาไว้ นางเองก็หันมามองด้วยความสนใจอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน
เด็กหญิงอายุคราวเดียวกันกับเนี่ยเทียน สวมชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อน บนข้อมือสวมกำไลเปล่งประกายวาววับมากมาย ดวงตากลมโตเมื่อกะพริบลงยามใดก็ฉายแววเ้าเล่ห์เฉลียวฉลาดออกมาอย่างเด่นชัด
“ท่านอาหลัน ตรงนั้นมีเื่อะไรกันหรือ?” เด็กหญิงแทะเม็ดแตงโม ถามด้วยความสนใจ
ชายวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมมองไปเห็นหยวนชิวอิ๋งที่กำลังแยกเขี้ยวยิงฟันอยู่นั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คล้ายรู้รายละเอียดของเื่ราว จึงอธิบายเสียงเบาๆ ให้ฟังหนึ่งรอบ
“หญิงสาวแซ่หยวนผู้นั้นแย่งผู้ชายของผู้อื่นมา เหตุใดถึงยังกล้าจองหองถึงเพียงนั้น” เด็กหญิงกล่าวอย่างใ
“ก็เพราะว่านางแซ่หยวน เป็ลูกสาวของหยวนเฝิงชุนแห่งเมืองหานสืออย่างไรเล่า” ชายร่างใหญ่ถอนหายใจหนึ่งครั้ง “ตามหลักแล้ว ตระกูลเนี่ยพึ่งพาพวกเรา หลายปีมานี้เนี่ยตงไห่เองก็ถือว่าทุ่มเทอย่างสุดความสามารถแล้ว อีกทั้งเื่นี้ตระกูลเนี่ยก็ไม่ได้เป็คนผิด เดิมทีพวกเราควรออกหน้าทวงความยุติธรรมให้กับพวกเขา แต่ว่า...” ชายร่างใหญ่ส่ายหัว ดวงตาเผยความละอายใจ
“พวกเราไม่ควรปกป้องคนที่พึ่งพาอาศัยกันหรอกหรือ?” เด็กหญิงถามอย่างแค้นเคือง
“ลูกสาวคนที่สองของเนี่ยตงไห่ชื่อเนี่ยจิ่น หากนางยังมีชีวิตอยู่ นับกันตามศักดิ์แล้วนางก็คือศิษย์พี่หญิงของเ้า นางก็เหมือนกับเ้าที่มีพร์ในการฝึกบำเพ็ญตบะโดดเด่น ถูกสำนักมองเป็ “เมล็ดพันธ์” จึงทุ่มเททรัพยากรในการบำเพ็ญตบะมากมายลงไปกับตัวนาง ทั้งยังฝากความหวังมากมายไว้ที่นาง”
ชายร่างใหญ่สีหน้ามืดคล้ำ “ทว่านาง... กลับทำความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ใน่เวลาที่ชีวิตรุ่งโรจน์ที่สุด นางมีลูกกับชายคนหนึ่ง ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็ใคร อีกทั้งนางก็เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน ของวิเศษมากมายที่ทางสำนักทุ่มเทให้กับนางจึงกลายเป็การเสียเปล่า หลายคนที่อยู่ในสำนักต่างมองว่าเป็เพราะเนี่ยตงไห่เลี้ยงลูกไม่ดีจึงไม่พอใจ”
“เื่นี้ เ้าพวกคนตระกูลอวิ๋นและตระกูลหยวนเองต่างก็รู้ดี รู้ว่าพวกเราเริ่มมีอคติกับเนี่ยตงไห่”
“และก็ด้วยเหตุนี้ หยวนเฝิงชุนและอวิ๋นเิถึงได้กล้าทำตัวห่างเหินเช่นนี้”
“และก็เพราะอย่างนี้ หลังจากเกิดเื่นั้นขึ้น พวกคนฝ่ายในที่เคยให้การสนับสนุนเนี่ยจิ่นถึงได้เอาแต่ดูดาย” ชายร่างใหญ่อธิบายเสียงเบา เล่าสาเหตุทั้งหมดออกมา
หลังจากเด็กหญิงฟังจบก็ทอดสายตามองไกลไปยังเนี่ยเฉี่ยนและเนี่ยเทียน พึมพำเสียงเบาว่า “คนตระกูลนี้ช่างโชคร้ายจริงๆ”
และในยามนี้เอง
หยวนชิวอิ๋งที่ถูกอวิ๋นจื้อกั๋วห้ามเอาไว้ก็สังเกตเห็นผู้คนมากมายซึ่งมามุงดูอยู่รอบด้านเช่นกัน นางข่มกลั้นความเกรี้ยวโกรธ จ้องเนี่ยเทียนด้วยดวงตาเ็า อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า “ได้! ข้าเป็ผู้ใหญ่กว่าจะไม่รังแกเด็กก็ได้!”
“อวิ๋นซง!” นางตวาดเบาๆ หนึ่งครั้ง ก้มหน้าลงมองลูกชายของตัวเอง แล้วเอ่ยปากสั่งความว่า “ไป! ช่วยแม่สั่งสอนเ้าเด็กสารเลวคนนั้น!”
อวิ๋นซงที่ขัดตาเนี่ยเทียนอยู่นานแล้ว พอได้ยินก็ไม่ถามมากความ พุ่งถลาเข้าใส่ด้วยท่าทางดุดันทันที
“ลูกชายของอวิ๋นจื้อกั๋ว ได้ยินว่าเมื่อสามเดือนก่อนก็ฝ่าทะลุหลอมลมปราณขั้นเจ็ดแล้ว ส่วนเนี่ยเทียนนั้น... ดูเหมือนว่าหลังจากที่หายไข้ก็เลื่อนไปถึงขอบเขตหลอมลมปราณขั้นสี่ได้แล้ว แต่ถึงจะเป็เช่นนั้น ขั้นเจ็ดกับขั้นสี่ ศักยภาพก็ต่างกันไกลราวฟ้ากับเหว นี่มันรังแกกันชัดๆ!”
“นางผู้หญิงคนนั้นก็รังแกคนอื่นมาตลอดไม่ใช่หรือ มีอะไรให้ต้องแปลกใจกัน?”
“ก็ถูก”
ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันก็จริง แต่เนื่องจากเกรงกลัวอำนาจของตระกูลหยวน รวมไปถึงความดุร้ายของหยวนชิวอิ๋ง จึงไม่มีผู้ใดกล้าออกมาช่วยพูดให้ความยุติธรรม
“เนี่ยเทียน! อย่าไปสู้กับเขา พวกเรากลับเถอะ!” เนี่ยเฉี่ยนร้อนใจราวไฟลน
ก่อนหน้านี้ไม่นาน การต่อสู้ครั้งนั้นของเนี่ยเทียนและเนี่ยหง ทำให้นางยังคงหวาดผวามาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น แม้ว่าเนี่ยเทียนจะชนะ ทว่าคืนนั้นเขาก็เกิดเป็ไข้ตัวร้อนสูง หากหัวมู่ไม่ได้เดินทางผ่านเมืองเฮยอวิ๋นพอดี เกรงว่าย่อมต้องเกิดเื่กับเนี่ยเทียนแน่นอน
ตอนนี้หัวมู่จากเมืองเฮยอวิ๋นไปนานแล้ว ยากจะตามหาร่องรอยได้ หากเนี่ยเทียนเป็ไข้ขึ้นสูงอีกครั้ง ใครเล่าจะช่วยเขาได้?
ทว่าขณะที่นางร้องเรียกให้เขาหยุดชะงักนั้นเอง เนี่ยเทียนกลับออกแรงสะบัดนางจนหลุด พุ่งเข้าใส่อวิ๋นซงอย่างไม่กลัวตาย
“ความกล้าหาญนี้ช่างน่าชื่นชมนัก” ชายร่างใหญ่หน้าเหลี่ยมที่อยู่ในกลุ่มคน ดวงตาฉายแววประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด พูดกับตัวเองเสียงเบาว่า “น่าเสียดาย ขอบเขตของทั้งสองฝ่ายห่างกันเยอะเกินไป มีแค่ความกล้านั้นคงยังไม่พอ”
เด็กหญิงที่อยู่ข้างกายเขาคล้ายชื่นชอบดูการต่อสู้ พอเห็นเนี่ยเทียนและอวิ๋นซงลงมือต่อสู้กันจึงรู้สึกฮึกเหิม ร้องให้กำลังใจทันที
“สู้! สู้!”
เปลวไฟหลายก้อนคำรามมาจากในหมัดของอวิ๋นซงราวกับก้อนหินที่มีเพลิงลุกไหม้ เหวี่ยงกระแทกเข้าใส่หน้าเนี่ยเทียนที่พุ่งเข้ามา
หมัดของอวิ๋นซงยังมาไม่ถึง แต่เปลวไฟเ่าั้กลับบินเข้ามาหาเนี่ยเทียนก่อนแล้ว!
หลอมลมปราณขั้นเจ็ด พลังิญญาหลุดลอยออกจากร่าง!
เมื่อเทียบกับพลังิญญาที่ล้นออกมาด้านนอกของหลอมลมปราณขั้นหกแล้ว นี่ถือเป็วิธีการใช้พลังิญญาที่สูงกว่าอีกขั้น
หลอมลมปราณขั้นหก พลังิญญาล้นออกมาด้านนอก พลังิญญาจากมหาสมุทริญญาตันเถียนในร่างจะแผ่ออกมาด้านนอกเท่านั้น ไม่สามารถหลุดออกจากร่างกายได้อย่างเต็มที่ ทำได้เพียงแผ่ล้อมอยู่รอบแขนหรือหมัดเท่านั้น
พลังิญญาแยกออกจากกาย บินทะยานออกจากหมัดพุ่งเข้าโจมตีศัตรูโดยตรง นั่นคือพลังิญญาหลุดลอยออกจากร่างของหลอมลมปราณขั้นเจ็ด!
อานุภาพของขอบเขตชั้นนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าสายฟ้าซึ่งแทรกซึมอยู่บนหมัดที่เนี่ยหงเอาออกมาใช้มากนัก!
“ตู้มๆๆ!”
เปลวไฟสีแดงร้อนแรงหลายกลุ่มที่พุ่งเข้าหา ส่วนใหญ่แล้วล้วนกระแทกลงบนศีรษะและแผ่นหลังของเนี่ยเทียน
อาภรณ์และเส้นผมของเนี่ยเทียนลุกไหม้ขึ้นทันตา เปลวเพลิงแต่ละเส้นที่มีพลังแผดเผาร้อนแรงต่างมุดเข้าไปในเืเนื้อของเขา ทำให้เขาเ็ปจนต้องร้องออกมา
และก่อนที่หมัดของอวิ๋นซงจะพุ่งเข้ามาโดนตัวเขาอย่างแรงนั้น เขาก็รีบกระโจนร่างคว่ำลงไปกับพื้น กลิ้งตัวพลิกไปมาด้วยสภาพจนตรอก พยายามดับไฟบนร่างและผมของเขาเสียก่อน
รอจนเขาลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง อาภรณ์ด้านหลังของเขาก็เกิดรูโหว่สีดำมากมาย เส้นผมยังมีควันลอยกรุ่น สภาพกระเซอะกระเซิงดูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“ฮ่าๆๆ!”
เห็นสภาพสะบักสะบอมของเขา อวิ๋นซงกลับไม่ได้รีบลงมือต่อ แต่หัวเราะสะใจขึ้นมาเสียงดัง
เขามั่นใจว่าจะต้องสร้างความอัปยศครั้งใหญ่ให้แก่เนี่ยเทียนให้จงได้
------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้