เมื่อเห็นหนิงเทียนวิ่งเข้าไปในป่าทึบ เหล่าศิษย์โถงเพลิงทมิฬล้วนโกรธจนกัดฟันสาปแช่ง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าตามเข้าไป
“น่าเสียดายที่ไม่ได้สังหารเขาด้วยมือของข้าเอง!”
“ปล่อยให้ตายในป่าไปเถอะ เช่นนี้ดีต่อเขาแล้ว”
ศิษย์จากทุกสำนักต่างให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด และมีบางคนที่จดจำตัวตนของหนิงเทียนได้
“เด็กคนนั้นคือผู้ที่อยู่บนอนุสาวรีย์เสี่ยวอู่ไม่ใช่หรือ? เขาบุกเข้าไปในป่าทึบและกำลังมองหาความตาย”
“ความแข็งแกร่งทางกายภาพของชายผู้นี้คือหนึ่งแสนจิน ทรงพลังยิ่งกว่าหยวนซิว ต่อให้เขาไม่ตายที่นี่ แต่คนอื่นๆ ก็จะพยายามสังหารเขา”
ตอนนี้หนิงเทียนกลายเป็ที่รู้จัก ทั้งยังโด่งดังในฐานะศิษย์จื๋อซิวผู้มีพลังมากที่สุด ศิษย์หยวนซิวหลายคนจึงกำลังมองหาโอกาสกำจัดเขา
ทางด้านหนิงเทียน เขามองดูดวงตาในป่าทึบเ่าั้อย่างทรมานราวกับหัวจะะเิ ทั้งยังหนาวสั่นไปทั้งตัว
ดวงตาเ่าั้ปลดปล่อยความกดดันทางจิตใจ เพื่อสร้างความกลัวผวาขึ้นในใจคน นอกจากนี้ อากาศที่หนาวเย็นและมืดมนในป่ายังเปรียบเหมือนเสียงผีกระซิบ ก็ยิ่งทำให้ผู้คนมีจิตใจอ่อนไหวมากกว่าเดิม
หนิงเทียนพยายามสงบสติอารมณ์และปล่อยพลังอย่างเต็มที่เพื่อใช้จิตรกรรมิญญา เส้นลมปราณทั้งสองในร่างสั่นะเืและร้องคำราม จากนั้นแผนที่จิติญญาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างคาดเดาไม่ได้ มันพยายามต่อต้านการปราบปรามทางจิตที่ปล่อยออกมาจากดวงตาเ่าั้
กระบวนการนี้แสนยากเย็น หนิงเทียนเกือบจะล้มลงและถูกบังคับให้ล่าถอยสามครั้งติดต่อกัน
ป่าทึบแห่งนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด แม้ระดับการฝึกฝนของหนิงเทียนยังไม่เพียงพอที่จะจัดการกับมัน แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้
เขาพยายามอย่างหนักเพื่อกระตุ้นน้ำเต้าเจ็ดสีในเส้นลมปราณแรก พยายามใช้พลังของอาวุธิญญาเพื่อตอบโต้ แต่ผลที่ได้นั้นกลับไม่ดีมากนัก มันไม่ได้ก่อให้เกิดการยับยั้งที่มีประสิทธิภาพต่อดวงตาเ่าั้ หรือพัฒนาความต้านทานแก่เขาเลย
ใน่เวลาวิกฤต พลันเส้นผมบนศีรษะของหนิงเทียนก็สว่างขึ้น มันยาวประมาณสามชุ่น ทั้งยังสุกใสครู่หนึ่ง อีกครู่สูญสิ้นอย่างไม่แน่นอน ทำให้กระบี่ไร้จำนงในเส้นลมปราณที่สองเกิดปฏิกิริยาขึ้นมา
เส้นผมนี้หนิงเทียนได้มาจากแดนลับ มันอยู่ในหีบไม้ที่ต้นไม้ั์บนเกาะกลางทะเลสาบ
หนิงเทียนไม่เคยเข้าใจที่มาของมัน แต่ใครจะคาดคิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับกระบี่ไร้จำนงที่ไท่เสวียนทิ้งไว้
ยามนี้ ้าของแผนที่จิติญญาในเส้นลมปราณที่สอง กระบี่ไร้จำนงเคลื่อนไหวเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวที่ไร้เทียมทานออกมา จากนั้นการกดขี่ทางจิติญญาก็ถูกฉีกออกเป็ชิ้นๆ ทันที
เมื่อหนิงเทียนรู้สึกว่าความยับยั้งทางจิตที่หนักหน่วงราวกับภูผาหายไปในพริบตา เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ลมหนาวอันมืดมิดพัดผ่านเส้นผมของเขา หากมองให้ดีก็จะเห็นได้ว่ามีเส้นผมสีแดงอ่อนเส้นหนึ่งแทรกอยู่ในหมู่ผมดำ และมันกำลังจางหายไป
ในเวลาเดียวกัน กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตในร่างก็สั่นะเื พร้อมปล่อยกระแสข้อมูลที่ทำให้มีสองสิ่งปรากฏขึ้นในใจของเขา ซึ่งก็คือเปลือกไม้และไข่มุก
นี่ไม่ใช่ไข่มุกอสูรหยินและเปลือกไม้ที่แข็งและแห้งจากตำหนักใต้ดินในแดนลับหรือ?
ไข่มุกอสูรหยินนั้นน่าอัศจรรย์ มันสามารถยับยั้งอาวุธิญญาจื๋อซิวและกลิ่นอายลึกลับบางอย่างได้ แต่จำเป็ต้องมีการััโดยตรง
ส่วนต้นกำเนิดของเปลือกไม้นั้นไม่ชัดเจนมากนัก และไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร แต่หนิงเทียนก็ยังคงนำออกมา
ในป่าอันมืดมิด ไข่มุกอสูรหยินสีเขียวอ่อนเผยให้เห็นภายในซึ่งมีิญญาร้ายอาศัยอยู่และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดวงตาสีแดงเข้มของมันราวกับสามารถกลืนกินจิติญญาของผู้คนได้
เหล่าดวงตาในป่าดูเหมือนจะััได้ถึงกลิ่นอายของไข่มุกอสูรหยิน พวกมันปลดปล่อยพลังผูกมัดทางจิติญญาที่ทรงพลัง และพยายามปราบปรามิญญาร้าย
เปลือกไม้แห้งเกิดรอยแตกแยก หนิงเทียนพยายามศึกษามันอย่างละเอียด แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร
ทว่าบัดนี้ เปลือกไม้กำลังค่อยๆ เรืองแสงส่องสว่างขึ้นภายในป่าทึบ ทั้งยังให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
รอยแตกสอดประสานกันในแนวตั้งและแนวนอน แล้วรวมตัวกันเป็คำว่า “คำสั่ง” จากนั้นก็ปล่อยรัศมีลึกลับออกมา ทำให้เกิดความปั่นป่วนในห้วงอากาศ สุดท้ายก็ะเิออกเป็ความกดดันทางจิต
เหล่าศิษย์สำนักต่างๆ นอกป่าทึบไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ทว่าหนิงเทียนซึ่งถือเปลือกไม้อยู่ กลับมองเห็นทิวทัศน์อันน่าเหลือเชื่อ
เมื่อเปลือกไม้ปล่อยแสงของที่สลักว่า “คำสั่ง” ออกมา ดวงตาทั้งหลายในป่าก็ปิดลงชั่วครู่ ในที่สุดหนิงเทียนก็มองเห็นเ้าของดวงตาเ่าั้ได้อย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้หลายคนคาดเดาว่าดวงตาเหล่านี้เป็ของอสูร ทว่าไม่มีผู้ใดสามารถบอกถึงความถูกต้องได้
อันที่จริง ภาพตรงหน้าหนิงเทียนนั้นน่าทึ่งมาก ดวงตาเหล่านี้ไม่ได้มาจากอสูร แต่ปรากฏบนลำต้นของต้นไม้!
ต้นไม้ใหญ่สามารถลืมตาได้ด้วยหรือ?
หากเป็อสูริญญาระดับสี่ที่เข้าสู่ระยะเปลี่ยนผ่านแล้ว ก็จะสามารถแปลงเป็มนุษย์ได้ การมีจมูกและตาจึงไม่ใช่เื่แปลกนัก แต่ิญญาพฤกษาและอสูรในป่าทึบล้วนเป็อสูรระดับสาม จึงไม่มีความสามารถในการแปลงร่าง เช่นนั้นพวกมันจะเผยดวงตามากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?
หนิงเทียนถือคำสั่งเปลือกไม้ไว้ในมือซ้าย และถือไข่มุกอสูรหยินในมือขวา เขาไม่กลัวการข่มขู่ทางจิตที่ดวงตาเ่าั้ปล่อยออกมา และแทบมองไม่เห็นทิวทัศน์ทั่วไปในระยะสองสามจั้ง
บนต้นไม้มีดวงตาอย่างน้อยสามถึงห้าคู่ และบางต้นก็มีดวงตามากถึงสิบคู่ พวกมันเรียงรายกันหนาแน่นบนลำต้น โดยดวงตาแต่ละคู่มีลักษณะที่แตกต่างกัน
หนิงเทียนอาศัยความลึกลับของคำสั่งเปลือกไม้ ซึ่งช่วยให้เขามองเห็นต้นกำเนิดที่แท้จริงของดวงตาเ่าั้ได้ โดยเ้าของดวงตาเหล่านี้มีทั้งนก สัตว์ ปลา แมลง และมนุษย์
พวกมันเป็เหมือนิญญาที่ถูกขังอยู่ในต้นไม้ใหญ่ ดวงตาที่เปิดกว้างล้วนเต็มไปด้วยความแค้นเคือง และปลดปล่อยพลังผูกมัดทางจิตอันน่าสะพรึงกลัว
หนิงเทียนใมาก นั่นเพราะเขาเห็นศีรษะมนุษย์จำนวนมากฝังอยู่ในลำต้น อีกทั้งยังมีกะโหลกและซากของนก สัตว์ แมลง และปลาดิ้นรนเบียดเสียดกันอยู่ใต้เปลือกไม้
ทั้งหมดนี้เป็เื่จริงหรือ?
หนิงเทียนเกิดความหวาดกลัว เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้? แล้วศีรษะมนุษย์ นก สัตว์ร้าย แมลง และปลาเหล่านี้มาจากที่ใด?
เหตุใดพวกมันถึงฝังอยู่บนต้นไม้?
เหตุใดถึงไม่ยอมให้ใครเข้ามา?
มีอะไรซ่อนอยู่ใกล้หลุมลึกนี้กันแน่?
ไข่มุกอสูรหยินปล่อยคลื่นแสงจางๆ ก่อให้เกิดการปกป้องทางจิติญญาภายนอกแก่หนิงเทียน
คำสั่งเปลือกไม้ส่องแสงที่ไม่สามารถอธิบายได้ ซึ่งมีผลในการยับยั้งดวงตาเ่าั้ ทำให้หนิงเทียนสามารถเคลื่อนตัวผ่านป่าไปได้
ป่าทึบขนาดใหญ่นี้มีหลุมลึกตั้งอยู่บริเวณใจกลางป่า ตัวหลุมมีความกว้างยี่สิบถึงสามสิบจั้ง ภายในเต็มไปด้วยหมอกสีเทา
ก่อนหน้านี้มีคนจำนวนมากเสียชีวิตในป่าทึบ และสภาพซากศพก็เหมือนกันทุกประการ เืของพวกเขาแห้งเหือดเหมือนถูกบางอย่างดูดกลืนจนแห้งเหี่ยว
หนิงเทียนค่อยๆ รวบรวมแหวนมิติซึ่งมีมากกว่าร้อยวงขึ้นมา จากนั้นจึงเคลื่อนกายไปยังบริเวณปากหลุม
อากาศในที่แห่งนี้หนาวจัด ภายในหมอกสีเทามีกลิ่นหอมประหลาดเล็ดลอดออกมา ซึ่งมันเต็มไปด้วยพิษ
บ่อน้ำทิพย์ในร่างของหนิงเทียนสามารถต้านพิษได้ และการป้องกันของไข่มุกอสูรหยินก็ทำให้เขายืนอยู่บนขอบหลุมได้โดยไม่าเ็ จากนั้นก็จ้องมองไปด้านล่างของหลุมอย่างนิ่งเงียบ
หลุมนี้ลึกหลายร้อยจั้ง ทั้งยังมีหมอกบดบังทัศนวิสัย ทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ก้นหลุมได้ชัดเจน
หนิงเทียนตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตจะนำทางเขาให้ลงไป ซึ่งเป็สัญญาณว่ามีบางอย่างที่เขา้าอยู่ในนั้น
หนิงเทียนเดินวนขอบหลุม ดวงตาบนต้นไม้โดยรอบจับจ้องมายังเขาด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าอยากกลืนเขาทั้งเป็
หนิงเทียนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย สถานที่แห่งนี้ประหลาดยิ่งนัก ทันใดนั้นก็มีเสียงถอนหายใจแ่เบาดังมาจากก้นหลุม ซึ่งทำให้แผ่นหลังของเขาหลั่งเหงื่อเย็นออกมา
“สู้โว้ย!”
หนิงเทียนกัดฟันใช้สัตตบุษย์งอกงามทุกย่างก้าว ดอกบัวปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าเพื่อพยุงร่างของเขา ขณะที่พุ่งลงไปในหลุมทีละก้าว
หนิงเทียนส่งเยาเยาลงไปสำรวจเส้นทาง และััได้ว่าหมอกสีเทามีพิษร้ายแรง ด้านล่างมีความผันผวนแปลกประหลาด มันเปล่งรัศมีที่ดุร้ายและน่ากลัวออกมา
หนิงเทียนมีสีหน้าจริงจัง เขาค่อยๆ ผ่านชั้นหมอกอย่างระมัดระวัง และในไม่ช้าก็เห็นทิวทัศน์เบื้องล่าง
หญ้าสีเขียวผืนหนึ่งปรากฏขึ้น มันมีรูปร่างเป็วงรีและล้อมรอบด้วยช่องเขาลึกสามจั้ง ทั้งยังมีหมอกดำปกคลุมไปทั่วบริเวณ
แผ่นหญ้านี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าสิบจั้ง ผืนหญ้าสีเขียวชอุ่มแลดูชุ่มชื้น ใบเรียวเล็กส่องแสงสีเขียวจางๆ
เมื่อหนิงเทียนเข้าใกล้ กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตก็ััได้ถึงอันตรายและเตือนไม่ให้เขาลงไป
บงกชสีมรกตหยั่งรากบนหน้าผา ช่วยสนับสนุนหนิงเทียนให้ตั้งหลักบนที่สูง พร้อมมองลงมายังทุ่งหญ้าเขียวขจีตรงหน้า
ตรงนั้นมีสิ่งใดกัน? เหตุใดจึงดึงดูดกล้วยไม้เซียนเก้าชีวิต แต่กลับไม่สามารถเข้าใกล้ได้?
หนิงเทียนขอให้ทหาริญญาเยาเยาเข้าไปสำรวจใกล้ๆ ทันใดนั้นหญ้าสีเขียวก็แกว่งไกวแล้วปล่อยปราณกระบี่ทำลายนภาออกมาจนเกือบสับเยาเยาเป็ชิ้น
หนิงเทียนใมาก ขณะที่หญ้าสีเขียวสั่นะเื ปราณกระบี่นับพันสายก็พุ่งออกมา ซึ่งปราณกระบี่แต่ละสายล้วนไม่สามารถหยุดยั้งได้ และพลังนั้นก็แข็งแกร่งเหนือจินตนาการ
กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตเอนเอียงไปมาเล็กน้อย กระแสพลังิญญาไหลเข้าสู่ดวงตาของหนิงเทียน ทำให้เขามองเห็นสถานการณ์ที่แท้จริงของหญ้าสีเขียว
ใต้ผืนหญ้ามีโลงศพทองแดงอนธการฝังอยู่ ซึ่งมันเต็มไปด้วยพลังมืดมิดที่ชั่วร้ายและน่าสะพรึงกลัว ตัวโลงพันด้วยโซ่ทองสัมฤทธิ์เส้นหนา และบนฝาโลงก็มีตราประทับสีทองซึ่งผนึกโลงศพไว้ ณ ที่แห่งนี้
โลงศพทองแดงอนธการสั่นะเืเป็ระยะๆ มวลอากาศสีดำรั่วไหลออกมาจากรอยแยกของโลงศพ แต่กลับถูกปราณกระบี่ที่มองไม่เห็นขัดขวางไว้
รัศมีกระบี่เ่าั้เปล่งออกมาจากหญ้าต้นน้อย หญ้าหนึ่งต้นมีเก้าใบ แม้แต่ละใบจะมีลักษณะคล้ายกัน ทว่ามีเนื้อััที่แตกต่าง
หญ้าเหล่านี้ล้วนมีสีเขียวขจีและได้รับการพัฒนาอย่างมาก จนรากหนาแน่นของพวกมันก่อตัวเป็ตาข่าย พร้อมครอบคลุมโลงศพทองแดงอนธการและเฝ้าระวังมัน
ใจของหนิงเทียนเกิดความหวาดกลัว เขาพยายามเบิกตาให้กว้าง แต่กลับมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ในโลง
พลังอนธการที่เอ่อล้นออกมาจากฝาโลงกลายเป็ใบหน้าดุร้ายทันที น่าเสียดายที่พวกมันถูกกำจัดออกไปด้วยปราณกระบี่ ก่อนจะก่อตัวเป็รูปเป็ร่าง
หนิงเทียนสงสัยว่าดวงตาในป่าทึบเ่าั้จะเกี่ยวข้องกับโลงศพทองแดงอนธการนี้หรือไม่?
โลงศพทองแดงอนธการอยู่ภายในยอดเขาหมื่นอสูรมานานแล้ว หรือมันตกลงมาจากฟากฟ้าและก่อเป็หลุมลึกนี้ จนทำให้เกิดเื่ทั้งหมดกันแน่?
ขณะที่หนิงเทียนกำลังครุ่นคิด เขาก็ให้ความสนใจกับสถานการณ์ของโลงศพทองแดงอนธการ ก่อนจะค่อยๆ ถูกดึงดูดด้วยปราณกระบี่
ปราณกระบี่ที่ปล่อยออกมาจากใบหญ้าเปลี่ยนแปลงไปหลายด้าน ซึ่งทำให้แผนที่จิติญญาทั้งสองของหนิงเทียนเกิดการเปลี่ยนแปลง พวกมันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลอกเลียนแบบและปรับปรุง ทั้งยังพยายามจับวิถีของปราณกระบี่และถอดรหัสความลึกลับ
นี่เป็กระบวนการที่ซับซ้อนและน่าเบื่ออย่างยิ่ง ซึ่งต้องใช้สมาธิและการทำความเข้าใจอย่างมาก
ด้วยการนำทางอย่างเงียบๆ ของกล้วยไม้เซียนเก้าชีวิต ยุทธศาสตร์ครอง์จึงดำเนินการเร็วขึ้นเรื่อยๆ จิตใจของหนิงเทียนเต็มไปด้วยปาฎิหาริย์มากมาย และไม่รู้ว่าค้นพบความลับของวิถีกระบี่ั้แ่เมื่อใด
ท้องฟ้าด้านนอกหลุมมืดลงแล้ว แต่หนิงเทียนกลับไม่สามารถััถึงการเปลี่ยนแปลงบนท้องฟ้าจากภายในหลุม
ร่องรอยของปราณกระบี่ปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทันใดนั้นเสียงฟ้าคำรามก็ดังขึ้นในใจของหนิงเทียน รอยกระบี่นับไม่ถ้วนเกี่ยวพันกันราวรังไหม และสร้างโครงข่ายกระบี่ที่ซับซ้อน
เส้นลมปราณในร่างหนิงเทียนสั่นะเืราวัทั้งเก้าคำราม แผนที่จิติญญาทั้งสองเปล่งประกายด้วยกลิ่นอายลึกลับ พวกมันลอกรังไหมออกและช่วยกันหวีผ่านตาข่ายกระบี่
ปราณกระบี่ซ้อนทับกันครั้งละสองสาย จากซับซ้อนไปสู่เรียบง่าย สุดท้ายก็กลายเป็กระบี่เล่มหนึ่ง
ยามนั้นมีนิมิตปรากฏขึ้นในใจของหนิงเทียน กระบี่ตัดผ่านโลกา ทันใดนั้นเขาก็เกิดการรู้แจ้ง
กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตสั่นไหว พร้อมฝังปราณกระบี่ลึกลับเข้าไปในเส้นลมปราณที่สามของหนิงเทียน แล้วพัฒนาเป็แผนภาพกระบี่ซึ่งปลดปล่อยความลึกลับอันสูงสุด
แผนภาพกระบี่สั่นะเื แผนที่จิติญญาส่องแสงสว่าง
ยามนี้หนิงเทียนเข้าสู่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นสามแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขาตื่นเต้นเป็อย่างมาก!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้