หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วก้านธูป หม่าิฮุ่ยก็ออกมา
ตามมาด้วยเวลาที่ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วอึดใจ เยี่ยหนานก็ออกมาด้วยเช่นกัน หญิงสาวทั้งสองดูเหมือนจะได้ของดีไม่น้อยออกมา เพราะดวงตาของพวกนางเต็มไปด้วยความยินดี
จนเวลาค่อยๆ ผ่านไปทีละเล็กละน้อย
เดิมทีเซียวหลิงอวิ๋น ฉินหรูเยียน และคนอื่นๆ ต่างก็มีความสุข เพราะจากการสังเกตพลังิญญาที่แผ่ออกมา คนที่ออกมาทีหลังมักจะได้ของดีกว่า
การที่จ้าวหนีอิ่งหายไปนานเช่นนี้ แสดงว่าของที่นางได้มาจะต้องดีมากแน่ๆ
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสามสิบสาม...สามสิบสี่...และสามสิบห้าชั่วยาม!
จ้าวหนีอิ่งก็ยังไม่ออกมา
จนเมื่อเวลาเข้าสู่ชั่วยามสุดท้าย เซียวหลิงอวิ๋นกับพรรคพวกก็เริ่มกระวนกระวาย
“อิ่งเอ๋อมัวทำอะไรอยู่ ทำไมถึงยังไม่ออกมาอีก?” ฉินหรูเยียนถึงกับลุกขึ้นยืนอย่างทนรอไม่ไหว
“ข้าจะลองดูว่ายังสามารถเข้าไปได้อีกรอบหรือไม่!” เซียวหลิงอวิ๋นกล่าว
ฟิ่ว! ฉินหรูเยียนเรียกกระสวยแสงสายัณออกมาส่องมา แล้วพาเซียวหลิงอวิ๋นทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า พุ่งตรงไปยังด้านหน้าประตูแสงห่างกันไม่กี่หมี่ แล้วเซียวหลิงอวิ๋นก็ะโเข้าไปในประตูแสงนั้น
แสงสว่างวาบปรากฏขึ้น
แล้วร่างของเซียวหลิงอวิ๋นก็กระเด็นออกมาทันที
โชคดีที่ฉินหรูเยียนคว้าเอาไว้ได้ทัน จึงคว้าเซียวหลิงอวิ๋นที่กระเด็นออกมาได้กลางอากาศ
“ไม่ได้ผล เข้าไปไม่ได้แล้ว!”
“ข้าลองเอง!” ฉินหรูเยียนพูดพลางออกแรงเหยียดกระสวยแสงสายัณ พุ่งตัวไปยังที่ประตูแสง
“เปรี้ยง!” ประตูแสงเกิดการสั่นะเื แล้วร่างของฉินหรูเยียนก็กระเด็นออกมาด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม
หลังจากที่กระเด็นกลับออกมาถึงสองครั้ง ประตูแสงที่แต่เดิมเหลือเวลาอยู่ประมาณอย่างน้อยครึ่งชั่วยามก็หดตัวเข้าด้านในอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เซียวหลิงอวิ๋นคว้าตัวฉินหรูเยียนที่กระเด็นออกมาเอาไว้ได้ ด้วยเวลาเพียงสองชั่วอึดใจใจ ประตูแสงก็หดตัวลงจนเหลือแค่จุดแสงเล็กๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือ!
ฉินหรูเยียนจ้องมองประตูแสงที่กำลังจะหายไปด้วยดวงตาสีดำที่เป็ประกาย ผ่านไปครู่ใหญ่ นางก็หันหน้ากลับมาจ้องมองดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม พร้อมกับความกระวนกระวายใจและความหวังที่ไม่อาจเก็บซ่อนเอาไว้ได้ “หลิงอวิ๋นน้อย เ้าสามารถเปิดประตูนี้ขึ้นมาอีกครั้งได้หรือไม่?”
เมื่อมองไปที่ดวงตาสีดำที่เต็มไปด้วยความ้าและความหวังอย่างไร้ที่สิ้นสุดแล้ว เซียวหลิงอวิ๋นก็ได้แต่อ้าปากพะงาบ แต่ไม่สามารถบอกปฏิเสธออกไปได้ จึงได้แต่พยักหน้าอย่างหนักหน่วง
“เยี่ยม ข้ารู้ว่าไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถหลิงอวิ๋นน้อยของข้า!” ฉินหรูเยียนกางแขนโอบกอดเซียวหลิงอวิ๋น ดวงตาที่เป็ประกายทั้งสองข้างก็เต็มไปด้วยม่านของความหวัง
หัวของเซียวหลิงอวิ๋นซุกลงตรงหน้าอกอันอวบอิ่มของฉินหรูเยียน ััได้ถึงความยืดหยุ่นอันน่าทึ่งและกลิ่นหอมที่ชวนให้ลุ่มหลง แต่ที่แปลกคือในเวลานี้เซียวหลิงอวิ๋นกลับไม่มีความรู้สึกทางเพศใดๆ เลย มีเพียงความรู้สึกเ็ปเท่านั้น
...
กระสวยแสงสายัณร่อนลงมาจอดที่ริมทะเลสาบ
หม่าิฮุ่ยก็เดินไปข้างหน้า โอบกอดฉินหรูเยียนเอาไว้
ที่ริมทะเลสาบน้ำแข็ง หลงเฮ่อ เกาเสี่ยว และสืออวิ๋นเทียนต่างก็จ้องมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋น ฉินหรูเยียน และหม่าิฮุ่ยทั้งสามคน
ในเวลานี้ทั่วทั้งทะเลสาบน้ำแข็งต่างก็พากันเงียบกริบ และไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย
เยี่ยหนานมองไปที่วังน้ำแข็งในทะเลสาบด้วยสายตาเศร้าสร้อย ถอนหายใจออกมาเบาๆ นี่นางตายแล้วหรือ? อัจฉริยะที่เข้าถึงเจตจำนงดาบได้ั้แ่อายุสิบหก ยังไม่ทันได้เติบโตก็ตายไปเสียแล้ว
เดิมทีพี่สาวคนนี้ยังคิดอยู่เลยว่าสักวันหนึ่งจะได้ประลองกับเ้าอีกสักครั้ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความปรารถนานั้นคงจะไม่เป็จริงเสียแล้ว ไปดีเถิดนะน้องสาว!
หลังจากผ่านไปร้อยชั่วอึดใจ หลงเฮ่อก็เดินเข้ามาหาเซียวหลิงอวิ๋นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “หากมีอะไรที่พวกเราช่วยได้ ได้โปรดบอกมาเถอะ”
เกาเสี่ยวกับสืออวิ๋นเทียนเองก็รีบเดินเข้ามาหาเช่นกัน “หากท่าน้าให้พวกเราทำอะไร ได้โปรดบอกมาเถอะ!”
เซียวหลิงอวิ๋นมองไปที่ทั้งสามคน แล้วมองไปยังใบหน้าที่จริงใจของผู้คนรอบๆ หัวใจของเขาพลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา มุมปากกระตุกเล็กน้อยและพูดออกมาอย่างยากลำบาก “ขอบคุณ!”
แต่หลังจากพูดคำว่า “ขอบคุณ” ก็ไม่มีคำพูดใดๆ เล็ดลอดออกมาอีก
ความหมายนี้ของเซียวหลิงอวิ๋น หลงเฮ่อกับคนอื่นๆ ต่างก็เข้าใจ
หลงเฮ่อหันข้างมองไปที่วังน้ำแข็งกลางทะเลสาบอีกครั้ง จากนั้นก็หันหลังและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน ศิษย์ของสำนักแม่มดเพลิงร้อนและสำนักคุมสัตว์ิญญาก็พากันจากไป
ตามด้วยสืออวิ๋นเทียนที่พาเหล่าศิษย์สำนักิญญาเมฆาทั้งแปดคนอำลาจากไปเช่นกัน
เมื่อมองดูร่างของสืออวิ๋นเทียนและคนอื่นๆ ค่อยๆ หายไปในส่วนลึกของดินแดนลับธารน้ำแข็ง ถานหย่าก็เดินมาหาหม่าิฮุ่ยและถามเบาๆ “พี่ฮุ่ย ต่อไปพวกเราจะ...”
แต่แล้วเสียงของฉินหรูเยียนก็ดังขึ้น “พวกเ้าไปกันก่อนเถอะ ข้าจะอยู่ที่นี่ รออิ่งเอ๋อ!”
“หรูเยียน” หม่าิฮุ่ยหันไปมองฉินหรูเยียนที่ยังคงนั่งอยู่กับพื้น ด้วยหัวใจที่รู้สึกสงสาร
“หากเ้าอยู่ที่นี่ ข้าก็จะขออยู่ที่นี่ด้วย!” เฉียนหม่านควงกับถังเซียวพูดออกมาพร้อมกัน ตลอดทางชายหนุ่มทั้งสองคนที่นิสัยต่างกันสุดขั้วนี้ ไม่เพียงแต่จะกลายเป็เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น แต่ยังถือว่าฉินหรูเยียนกับเซียวหลิงอวิ๋นเป็เป้าหมายและแบบอย่างที่ตัวเองต้องไล่ตามด้วย
ทั้งสองคนนี้ได้กลายเป็ส่วนหนึ่งของคณะใหม่นี้โดยสมบูรณ์แล้ว
“ข้าเองก็คิดว่าจะพักผ่อนที่นี่ให้เต็มที่เหมือนกัน” เซียวหลิงอวิ๋นพูดพลางนั่งลงกับพื้น
หยวนอิ่งไม่พูดอะไร เดินตรงไปหาเซียวหลิงอวิ๋นแล้วนั่งลง เฉียนหม่านควงและถังเซียวสบตากัน จากนั้นก็เดินไปนั่งข้างๆ เซียวหลิงอวิ๋น
“ข้าก็ขออยู่ด้วย!” อูเสี่ยวหมินพูดพลางนั่งลงข้างเซียวหลิงอวิ๋น
หลินอิ๋งและเจียงอิ่งสบตากัน จากนั้นก็เดินไปหาฉินหรูเยียนและนั่งลงขัดสมาธิ
ภายในชั่วพริบตา คนที่ยืนอยู่ก็เหลือแค่เพียงหม่าิฮุ่ย ถันหย่า และโจวจวิน!
“เสี่ยวหยา เช่นนั้นพวกเราก็อยู่ด้วยกันเถอะ!” หม่าิฮุ่ยพูดพลางดึงมือของถานหย่าให้นั่งลง
ในที่สุดถานหย่ากับโจวจวินก็ต้องนั่งลง แต่สีหน้าของทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและไม่พอใจ
...
“แกร๊ง!” แสงดาบพุ่งออกไป ทิ้งรอยดาบที่สี่เอาไว้บนผนังหินสีเขียวนั้น
เจตจำนงดาบเก้าส่วน
ไม่มีใครคาดคิดว่าจ้าวหนีอิ่งจะสามารถยกระดับเจตจำนงดาบสายลมจากห้าส่วนให้กลายเป็เก้าส่วนได้ภายในเวลาเพียงแค่หนึ่งร้อยยี่สิบหกชั่วยาม
และกระบวนการนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไป!
จิตสำนึกของจ้าวหนีอิ่งยังคงอยู่ในสนามรบสีเืนั้น ยังคงซึมซับเจตจำนงดาบอย่างเต็มที่ต่อไป
...
“น่าแปลกจริงๆ นี่ก็ผ่านมาเก้าวันแล้ว นอกจากจะได้แค่สมุนไพริญญาระดับสองกับระดับสามแล้วก็ไม่พบสมุนไพริญญาระดับสูงอื่นๆ เลย สิ่งที่น่าแปลกที่สุดคือสัตว์อสูรที่พวกเราได้พบในสองวันแรกกลับไม่ปรากฏตัวออกมาอีก” หลิ่วเฉิงิ่รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
“จริงด้วยหัวหน้า เื่นี้มันดูทะแม่งๆ นะ!” เลี่ยวเคอพูดตาม หลังจากที่ออกมาจากริมทะเลสาบน้ำแข็งมาได้เก้าวัน ในเวลานี้มันเหมือนกับตอนที่พวกเขายังไม่ได้เข้าไปในดินแดนลับธารน้ำแข็งเลย
ห่างจากพวกของหลงเฮ่อไปสองร้อยลี้ สถานการณ์ของทั้งแปดคนจากสำนักคุมสัตว์ิญญาก็เป็เช่นเดียวกัน
ห่างออกไปสามร้อยลี้ สถานการณ์ของพวกสืออวิ๋นเทียนก็เป็เช่นเดียวกัน
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ สัตว์อสูรทั้งหมดเหมือนกับรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อันน่ากลัวที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงรีบวิ่งไปที่หุบเขาลึกเตี้ยแห่งหนึ่ง ในหุบเขานี้มีความยาวแค่เพียงห้าพันหมี่ มีความกว้างประมาณหนึ่งร้อยจั้ง แต่กลับมีสัตว์อสูรเกือบพันตัวมารวมตัวกันอยู่ที่นี่
มีั้แ่หมาป่าหิมะ ลิงหิมะ สุนัขจิ้งจอกหิมะ กิ้งก่าเกล็ดน้ำแข็ง จนไปถึงสัตว์อสูรระดับสองอย่างหมีั์น้ำแข็งลี้ลับ งูเหลือมเยือกแข็ง และแรดเขาเดียว แม้แต่แมงมุมเงาดูดิญญาที่ฉินหรูเยียนปล่อยตัวมาก็อยู่ที่นี่ด้วย
ก่อนหน้านี้หลังจากที่ได้ไข่แมงมุมเงาดูดิญญามาสี่ฟอง ฉินหรูเยียนก็ทำตามคำแนะนำของเซียวหลิงอวิ๋น และปล่อยแมงมุมตัวเต็มวัยและหมาป่าหิมะทั้งหกตัวไป
เนื่องจากหากมีแม่แมงมุมอยู่ด้วย ลูกแมงมุมเมื่อเกิดมาจะััและติดต่อกับแม่แมงมุมทันที ไม่เหมาะแก่การนำมาฝึก ยิ่งไปกว่านั้นแมงมุมเงาดูดิญญาตัวนั้นก็เป็หนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดที่คิดทำร้ายเหล่าศิษย์ของสำนักรวมสมบัติิญญา แม้ว่าหลินอิ๋งกับเจียงอิ่งจะไม่พูดอะไร แต่ในใจของพวกนางก็ต้องรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้างแน่
ด้วยเหตุผลทั้งสองประการนี้ บวกกับความจริงที่ว่าแมงมุมเงาดูดิญญานั้นเชื่อฟังและทำดีมาตลอด ฉินหรูเยียนจึงเลือกที่จะปล่อยมันไปแทนที่จะฆ่ามันทิ้งเสีย
...
“ตูม!” ดาบน้ำแข็งขนาดั์ฟาดฟันลงบนแขนั์ จนทำให้เกิดหิมะและน้ำแข็งกระจัดกระจายไปทั่ว “ฉัวะ” ชั่วขณะต่อมา เืสีเขียวก็พุ่งออกมาราวกับน้ำพุ ที่คอของั์มีรอยแยกขนาดใหญ่ั้แ่เมื่อไรก็ไม่ทราบ
เจตจำนงดาบลมหิมะ
เจตจำนงดาบลมหิมะช่างน่าทึ่งนัก
เจตจำนงดาบสองประสาน หิมะและสายลม...
หิมะอาศัยแรงลม มีลมซ่อนอยู่ในหิมะ เมื่อลมกับหิมะประสานกันก็จะกลายเป็ลมหิมะ...เจตจำนงดาบหิมะเยือกแข็ง กับเจตจำนงดาบสายลมสังหาร
ดวงตาของจ้าวหนีอิ่งสว่างวาบขึ้นทันใด
