ลู่เป๋าเหยียนถอนหายใจเบาก่อนจะกอดูเี่อันเอาไว้พลางแนบคางัักับไหล่บางของเธอ
ไหล่ผอมของเธอไม่ได้นุ่มสบายแต่ลู่เป๋าเหยียนกลับเผลอซบลงไปอย่างไม่รู้ตัว เขาทิ้งน้ำหนักไปให้เธอก่อนจะโอบกอดเอวเธอไว้แน่น ราวกับสลัดภาระบนบ่าที่กำลังแบกเอาไว้อยู่ออกไปจดหมด
มีหลายคราทีู่เี่อันเป็คนสนับสนุนเขาให้พละกำลังแก่เขา เวลานี้เขาแค่อยากกอดเธอเอาไว้ อยากััได้ว่าเธออยู่ตรงนี้
“ที่จริงฉันก็อารมณ์ไม่ดีนะ”ูเี่อันยกมือขึ้นมาจับไหล่ของลู่เป๋าเหยียน “ตอนนายพูดถึงพ่อนายฉันก็เผลอคิดถึงแม่ แม่จากไปอย่างกะทันหัน ทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็หลังมือพ่อกับพี่ชายฉันกลายเป็ศัตรูกันคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่คนในครอบครัวต้องมาเป็ศัตรูกันแบบนี้ คงไม่เข้าใจว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหน”
“ดีที่การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้ทำลายฉันฉันรู้ว่าคนที่อยู่บนฟ้าอย่างแม่คงเป็ห่วงว่าฉันจะใช้ชีวิตอย่างไรฉันเลยบอกกับแม่ทุกวันว่า ฉันมีชีวิตที่ดีเหมือนตอนแม่อยู่ข้างกายฉันไม่มีผิดมีคนรักและดูแลฉันอยู่ตลอด ขอให้แม่ไม่ต้องเป็ห่วง”
ลู่เป๋าเหยียนกระชับอ้อมกอดของตนให้แน่นขึ้น
“เจี่ยนอันไม่ว่าอนาคตจะเป็ยังไง ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ เธอจะไม่เจอเื่ราวเลวร้ายอะไรอีก”
ูเี่อันขมวดคิ้วยุ่ง“ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่นี่หมายความว่าไงนายต้องมีชีวิตอยู่จนแก่จนหน้าเหี่ยวสิ ฉันอยากเห็นนายแก่จนฟันหลุดหมดเลยมันคงจะ...อื้อ”
จู่ๆ ลู่เป๋าเหยียนก็จูบเธอตอนนี้คงไม่เรียกว่าเธอกอดเขา แต่ต้องเรียกว่าเขาขังเธอไว้ในอ้อมกอดมากกว่าความอ่อนหวานทว่ารุ่มร้อนของรสััที่เขามอบให้ทำเอาเธอลุ่มหลงไปกับมัน
ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขามีรสชาติของไวน์แดงติดอยู่ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ดื่มไปมากมายแต่ทำไมกลับรู้สึกเหมือนกำลังเมา ร่างกายของเธออ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมกอดของเขาและจูบตอบเขากลับไปอย่างลืมตัว
ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยจูบกันเสียที่ไหนแต่ครั้งนี้เป็ครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายยินยอมรับััอย่างเต็มใจมันเริ่มต้นอย่างเป็ธรรมชาติโดยที่ทั้งคู่พร้อมรับัันั้นพวกเขาโอบกอดราวกับจะจูบกันแบบนี้ไปตลอดชั่วฟ้าดินสลาย
แตู่เี่อันก็ยังไม่รู้จักจับจังหวะหายใจผ่านไปได้ไม่นานเธอก็เริ่มหอบ ลู่เป๋าเหยียนจูบเธอหนักๆ อีกหลายทีก่อนจะผละออกจากเธอ
นี่เป็ครั้งที่พวกเขาไม่รู้สึกอึดอัดหรือเขินอายหลังจากการจูบ
แสงไฟสีนวลที่ส่องผ่านชั้นวางขวดไวน์สะท้อนให้เห็นดวงตาหวานใสน่าหลงใหลของูเี่อันเธอแย้มยิ้มปากที่มุมปาก ก่อนจะเขย่าแก้วไวน์ในมือตรงหน้าลู่เป๋าเหยียน
“ดื่มสินายเคยบอกฉันเองว่าไม่ให้ไปดื่มเหล้าข้างนอก ฉันจำได้นะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านแถมยังมีนายดูแลอยู่แบบนี้ จะดื่มมากแค่ไหนก็คงไม่เป็ไรใช่ไหมล่ะ”
ดวงตาเรียวยาวของลู่เป๋าเหยียนหรี่ลงเล็กน้อย
“ถ้าดื่มเยอะเธอไม่กลัวฉันทำอะไรเธอหรือไง”
ูเี่อันยิ้ม“ถ้าทั้งสองฝ่ายเมามากแล้วล่ะก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละในละครน้ำเน่าพวกนั้นเป็เื่หลอกเด็กทั้งนั้นแหละ!”
ลู่เป๋าเหยียนถอนหายใจพลางคิด
ช่างไร้เดียงสาจริงๆคนที่ดื่มเหล้าสามแก้วเมาแบบเธอ คิดว่าจะมอมเขาให้เมาได้อย่างนั้นเหรอ?
หญิงผู้ไม่รู้ประสีประสาตรงหน้ายกแก้วขึ้นมาชนกับแก้วของลู่เป๋าเหยียนก่อนจะดื่มรวดเดียวครึ่งแก้ว รสชาติของไวน์แดงที่ซึมผ่านเข้าไปติดอยู่บนริมฝีปากทำใหู้เี่อันเลียริมฝีปากอย่าเผลอไผล
ลิ้นสีแดงสดที่ชุ่มฉ่ำกอปรกับแสงไฟสีนวลที่ส่องสะท้อนลงมาภาพตรงหน้าทำเอาลู่เป๋าเหยียนต้องรีบเบือนสายตาหนีก่อนจะยกไวน์ขึ้นดื่มอึกใหญ่เพื่อระงับอารมณ์บางอย่างในร่างกาย
ูเี่อันดื่มไปสามแก้วก็เริ่มมึนหัวทว่าเธอกลับพยายามประคองสติพูดคุยกับลู่เป๋าเหยียน
“พ่อของนายคงอยากให้นายมีชีวิตที่ดีเขาคงไม่อยากให้นายเศร้า...”
ลู่เป๋าเหยียนลูบผมเธอเบาๆ
“เธอเมาแล้ว”
“อืม”ูเี่อันตอบรับก่อนจะสะบัดหัวหลายที ทำไมข้างหน้าเธอถึงมีลู่เป๋าเหยียนหลายคนจัง...
“ลู่เป๋าเหยียน...”เธอยื่นมือเหมือนจะจับตัวเขา “เอ๋ ทำไมมีนายหลายคนจัง เหมือนว่าฉัน...ฉันจะเมาแล้วจริงๆ...”
ลู่เป๋าเหยียนรั้งเธอให้เข้าสู่อ้อมกอด
“ฉันพาเธอกลับห้องดีกว่า”
ูเี่อันฉีกยิ้มก่อนจะซุกตัวในอ้อมกอดของเขาอย่างออดอ้อน
“ฉันอยากให้นายอุ้มฉันขึ้นไป”
เธอเมาแล้วจริงๆไม่อย่างงั้นคงไม่อ้อนเขาแบบนี้
ลู่เป๋าเหยียนจึงต้องอุ้มเธอขึ้นมาทว่าเธอกลับดิ้มไปดิ้นมาในอ้อมกอดเขาเหมือนแกล้งกันทำเอาใจของเขาเต้นไม่เป็จังหวะ กล้ามเนื้อทุกมัดในร่างกายเริ่มเกร็งตัวขึ้นมา
เธอยิ้มอย่างเ้าเล่ห์ก่อนจะใช้มือน้อยลูบไล้ไปมาตามแผงอกของเขาลู่เป๋าเหยียนมั่นใจแล้วว่าเธอตั้งใจแน่ๆ
“ลองทำแบบนั้นอีกทีสิ”ลู่เป๋าเหยียนเอ่ยคำเตือน “ฉันยังไม่เมา ถ้าฉันคิดจะทำอะไรเธอตอนนี้เธอคงหนีไม่รอดแน่”
ูเี่อันเบิกตากว้างก่อนจะนิ่งไปอย่างว่าง่ายและพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงราวกับเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
“ฉันผิดไปแล้วค่ะที่รัก...”
อาจเป็เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ทำให้เสียงของเธอละมุนกว่าทุกครั้งเวลาเธอเมาช่างน่ารักและน่าหลงใหลแววตาระยิบระยับเป็ประกายไร้เดียงสาราวลูกแมวน้อยการที่เธอเป็แบบนี้ยิ่งทำให้ลู่เป๋าเหยียนยากที่จะหักห้ามใจเขาจึงรีบก้าวเท้ายาวๆ อย่างรวดเร็วเพื่อพาเธอไปส่งให้ถึงห้อง
ทว่าพอวางเธอลงบนเตียงูเี่อันกลับร้องไห้โวยวาย พูดแต่ว่า ไม่อยาก ไม่อยาก
“จากนี้ไปต่อให้เป็ที่บ้านก็ห้ามดื่มเหล้า!”ลู่เป๋าเหยียนได้แต่คุกเข่าปลอบูเี่อันอยู่ข้างเตียง
“ไม่ร้องนะ นอนซะเด็กดีฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”
“ฉันไม่อยาก...ไม่อยาก...”แต่เหมือนคำพูดเ่าั้ไม่ได้เข้าหููเี่อันเลยสักนิด
ลู่เป๋าเหยียนนวดขมับอย่างปวดหัว
“เธอไม่อยากอะไร?”
จู่ๆ ูเี่อันก็เงียบไปก่อนจะมองเขายิ้มๆ
“ที่รักขาฉันไม่อยากนอนคนเดียวอ่ะ”
ตอนนี้เธอสวมชุดนอนผ้าฝ้ายสุดเรียบร้อยอยู่ก็จริงแต่วินาทีนี้ในสายตาของลู่เป๋าเหยียนูเี่อันนั้นเซ็กซี่เกินบรรยายราวกับนางแมวยั่วสวาทอารมณ์บางอย่างในร่างกายเขาค่อยๆ ครอบงำสติจนไม่อาจทานทนเขาอยากจะคนตรงหน้าที่ฝันหามานานเสียเดี๋ยวนี้
ทว่าท้ายที่สุดสติที่พอจะหลงเหลืออยู่บ้างก็ห้ามหัวใจเอาไว้ได้
“ฉันจะอยู่เป็เพื่อนเธอตรงนี้”เสียงของเขาเริ่มทุ้มต่ำกว่าเมื่อครู่มาก
“เธอไม่ได้นอนคนเดียวไม่ต้องกลัว หลับตาลงซะนะเด็กดี”
ูเี่อันเบะปากทำหน้างอน
“แล้วทำไมที่รักไม่ขึ้นมานอนเป็เพื่อนฉันล่ะคะ?”
ลู่เป๋าเหยียนลอบกลืนน้ำลาย
“เจี่ยนอัน...”เธอรู้ตัวบ้างไหมเนี่ยว่าเธอกำลังเชิญชวนเขา?
“นายไม่ชอบฉันใช่หรือเปล่า?”ูเี่อันไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าทำอะไรลงไป จู่ๆ เธอก็ทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจขอบตาของเธอเริ่มแดง
“ฉันว่าแล้วว่านายต้องชอบคนอื่น”
ลู่เป๋าเหยียนถอนหายใจก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบหน้าผากมนเธอไม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว แต่ยังคงใช้สายตาน่าสงสารจ้องมองเขา
เขาจึงต้องปีนขึ้นมาบนเตียงและกอดูเี่อันเอาไว้
“ฉันไม่ได้ชอบคนอื่นนอนเถอะนะ ดีไหม?”
ราวกับเด็กน้อยที่ได้ลูกกวาดสมใจูเี่อันกอดลู่เป๋าเหยียนเอาไว้ก่อนจะซุกตัวในอ้อมกอดของเขาอย่างดีใจจากนั้นจึงเงยหน้าจุ๊บเขาหนึ่งที พร้อมเอ่ยคำพูดเสียงหวาน
“ที่รัก...”
ลู่เป๋าเหยียนยกมือลูบผมเธอเบาๆอย่างพึงพอใจในคำเรียกที่เธอเอ่ย จะว่าไปนานๆ ทีใหู้เี่อันดื่มสักอึกก็ดีเหมือนกัน...
ทว่าูเี่อันที่ดื่มเหล้าจนเมามายกลับไม่ได้หยุดแต่เพียงเท่านี้
จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะจ้องหน้าเขาั์ตาดำขลับราวกับลูกกวางของเธอทอประกายสุกใส
“ที่รักคะฉันมีของจะให้ล่ะ!”
ลู่เป๋าเหยียนถามอย่างสนใจ“ไหนเอาออกมาให้ดูสิ”
ูเี่อันเปิดลิ้นชักหัวเตียงและหยิบกล่องที่ถูกวางไว้ในนั้นยื่นให้ลู่เป๋าเหยียน
“ลองเปิดดูสิฉันจ่ายเงินไปเกือบเท่าเงินเดือนของฉันเพื่อซื้อมันมาเลยนะ”
ลู่เป๋าเหยียนเปิดกล่องออกมาเขานึกไม่ถึงว่าจะเป็เนกไทเส้นนั้น มิน่าล่ะตอนที่เขาถามเธอว่าจะเอาไหมเธอเลยตอบมาว่ามันไม่เหมาะกับซูอี้เฉิง
ที่แท้นั่นเป็เพราะว่าเธอ้าให้มันกับเขาสินะ
ูเี่อันยิ้มร่า“หลังซื้อชานมเสร็จฉันก็แอบไปซื้อมันมาล่ะ เป็ไง ชอบหรือเปล่า?”
“ชอบ”ลู่เป๋าเหยียนตอบก่อนจะดึงเธอเข้ามากอด และจูบหน้าผากเธอเบาๆ
“นี่ก็ดึกแล้วรีบนอนเถอะ”
ูเี่อันยังไม่ยอมอยู่นิ่ง“งั้นพรุ่งนี้นายใส่ให้ฉันดูหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ”วินาทีนี้ลู่เป๋าเหยียนคงได้แต่ตอบรับ “พรุ่งนี้ฉันจะผูกเนกไทเส้นนี้แน่นอน”
ูเี่อันยิ้มอย่างพอใจก่อนจะขยับตัวให้อยู่ในท่าที่สบายที่สุดและหลับไปอย่างเป็สุข
เมื่อลู่เป๋าเหยียนแน่ใจแล้วว่าเธอจะไม่ลุกขึ้นมาแบบเมื่อกี้อีกเขาจึงปล่อยมือจากเธอและวางกล่องเนกไทเอาไว้ทว่าการกระทำของเขาทำใหู้เี่อันกอดเขาแน่นขึ้น ก่อนจะพึมพำ”
นายอย่าไปไหน อย่า...”
เสียงอ่อนไหวราวสายน้ำของเธอเข้าจู่โจมหัวใจของลู่เป๋าเหยียนในพริบตานี่เป็ครั้งแรกที่เขาคงต้องยอมรับว่าเขาสามารถทานทนกับทุกสิ่งได้เว้นแต่คนในอ้อมกอดนี่แหละที่เขาแพ้ทาง
ค่ำคืนนี้ทั้งสองจึงหลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอย่างมีความสุข
ูเี่อันมักจะนอนตื่นเช้าอยู่แล้วในวันที่ต้องไปทำงานฉะนั้นวันนี้หกโมงกว่าเธอจึงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พร้อมกับอาหารหนักหัวมึนงง
ทว่าร่างกายกลับรู้สึกเหมือนกำลังเอนพิงอะไรอยู่สักอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกสบายตัวลมหายใจอุ่นของใครบางคนทำให้เธอรู้สึกสงบ จนเธออยากจะหลับต่อไปเรื่อยๆ...
แต่คิดๆ ดูแล้วเหมือนจะมีอะไรแปลกๆ
เธอหลับตาลองนึกย้อนไปถึงเื่เมื่อคืนเธอเผลอกินเหล้าจนเมา บอกให้ลู่เป๋าเหยียนอุ้มเธอกลับห้อง จากนั้นก็...แล้วก็...
ูเี่อันลืมตาโพลงอย่างใก่อนจะตื่นเต็มตา
ลู่เป๋าเหยียนกำลังกอดเธอไว้อย่างที่คาดส่วนมือของเธอนั้น...กำลังกอดเอวของเขาไว้แน่น
เสียใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วเธอค่อยๆ ชักมือออกมาอย่างช้าๆ ระวังไม่ให้ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกตัว
แต่ลู่เป๋าเหยียนกลับลืมตาขึ้นมาทันทีที่เธอเก็บมือตัวเองออกมาได้เขายิ้มบางก่อนจะประทับรอยจูบบนหน้าผากของเธออย่างอารมณ์ดี
“อรุณสวัสดิ์”
ูเี่อันตัวแข็งทื่อก่อนจะยิ้มแห้ง
“อะ...อรุณสวัสดิ์เมื่อคืนฉัน...ฉัน...ที่จริงเวลาฉันอยู่กับคนอื่นตอนเมาไม่เป็แบบนั้นนะ!ฉันก็แค่หลับไป!”
“เธอ้าจะบอกว่าเวลาเธอเมาแล้วอยู่กับฉัน เธอถึงกลายเป็คนขี้อ้อนแบบนั้นน่ะเหรอ?” ลู่เป๋าเหยียนยิ้มพลางลูบผมเธอ
“ไม่เลว”
“...”ูเี่อันทำหน้าเซ็ง ลู่เป๋าเหยียนมีปัญหาเื่การตีความหรือเปล่าเนี่ย!ทำไมจู่ๆ เธอรู้สึกว่าตัวเองดูแย่จัง?
เธออยากจะอธิบายต่อแต่ดูจากรอยยิ้มของลู่เป๋าเหยียนแล้ว เธอจึงยอมแพ้อย่าอ่อนใจคนปกติคงตามความคิดเขาไม่ทัน ดีไม่ดีถ้าเธออธิบายมากกว่านี้เขาก็ยิ่งคิดลึกเข้าไปใหญ่
“ฉัน...ฉันไปแปรงฟันก่อนนะ”
เธอลุกออกจากเตียงและตรงเข้าไปในห้องน้ำทันทีหลังพูดจบ
ลู่เป๋าเหยียนมองตามแผ่นหลังของเธอพลางยิ้มมุมปากก่อนจะเดินกลับห้องของตัวเองไปล้างหน้าแปรงฟัน
ในห้องน้ำ
ูเี่อันมองตัวเองในกระจกพลางคิดไปถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเธอทึ้งผมตัวเองอย่างกลุ้มใจ
นี่เธอเป็บ้าไปแล้วเหรอเรียกเขาว่าที่รักคะ ที่รักขา ไหนจะบอกให้เขากอดเธอ นอนเป็เพื่อนเธออีกแล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะคราวนี้!
ต่อจากนี้ไปเธอจะไม่ดื่มเหล้ากับลู่เป๋าเหยียนอีกแล้ว!
