"พี่หญิงสาม ท่านต้องสอบดีๆ นะ ท่านทำได้แน่นอน" เฉียวเยว่ดึงชายเสื้อของหรงเยว่ พลางพูดอย่างจริงจังและระมัดระวังเป็ที่สุด "อย่ากินของที่เน่าเสียง่าย เกิดอยากเข้าสุขาขึ้นมาล่ะแย่เลย"
หลังจากนั้นก็นึกแล้วนึกอีก ว่าตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยอาจารย์กำชับสิ่งใดไว้บ้าง
"ท่านสวมอาภรณ์ชั้นในสีแดงหรือเปล่า? เช่นนี้จะเป็มงคลมากกว่า" เฉียวเยว่ทำสีหน้าจริงจัง
หรงเยว่ขำพรืดออกมา ก่อนพูดกับนาง "พอได้แล้วเ้าตัวเล็ก มาซี้ซั้วแนะนำอะไรเรื่อยเปื่อยที่นี่ รีบกลับไปเร็วๆ มิเช่นนั้นอาสะใภ้สามจะโกรธแล้วนะ"
เฉียวเยว่ส่ายหน้า "ท่านแม่ไม่โกรธข้าหรอก นางรู้ว่าข้ามาส่งท่านที่ประตู ตอนแรกนางจะมาด้วย แต่มีเื่มาขัดกะทันหัน สรุปแล้ว ท่านไปสอบดีๆ เล่า" หลังจากนั้นก็หันมามองบิดาตนเอง "ท่านพ่อ ตอนท่านไปส่งพี่หญิงสาม ต้องดูแลพวกนางให้ดีๆ ด้วยนะเ้าคะ"
วันนี้นอกจากหลานสาวสองคน ยังมีหลานชายอีกคน เฟิงอันบุตรอนุของเรือนสองก็เข้าสอบวันนี้เช่นกัน
ซูซานหลางไปส่งเด็กสามคนด้วยตนเอง แต่เขามิอาจจัดการกับเ้านกแก้วตัวน้อยที่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดอยู่หน้าประตูตัวนี้ได้ จึงเอ่ยว่า "เ้าหันหลังซิ"
เฉียวเยว่ "เอ๋? อื้อ!"
นางหมุนตัวกลับ "มีอันใดหรือเ้าคะ"
เสียงรถม้าเคลื่อนที่ออกเดินทาง พร้อมกับซูซานหลางที่กล่าวขึ้นในเวลาเดียวกัน "เดินตรงไป"
เฉียวเยว่รีบหันกลับมา แต่เห็นรถม้าออกไปแล้วก็กระทืบเท้า "ท่านพ่อแย่ที่สุด"
เฉียวเยว่ทำแก้มป่องคิดจะไปฟ้องที่เรือนหลัก แต่ยังไม่ทันเข้าไปก็เห็นคังหมัวมัวยืนอยู่หน้าประตู นางเห็นเฉียวเยว่มาถึงก็รีบเข้ามาขวาง "คุณหนูเจ็ดคนดี ตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่ามีธุระต้องจัดการ บ่าวให้คนส่งคุณหนูกลับเรือนดีหรือไม่เ้าคะ"
เฉียวเยว่เป็เด็กรู้ความย่อมพยักหน้าทันที
นางไม่้าให้ใครไปส่ง เดินกลับเรือนสามกับอวิ๋นเอ๋อร์เพียงสองคน ระหว่างทางก็พูดไม่หยุด "น่าจะเป็เื่ของป้าสะใภ้รอง"
เดิมทีอวิ๋นเอ๋อร์ไม่ใช่คนพูดมาก แต่ติดตามปรนนิบัติคุณหนูเจ็ดมานาน จนเคยชินทีละน้อย และพูดคุยมากขึ้น
"แปดส่วนน่าจะเป็เื่นี้ แต่พวกเราอย่าไปยุ่งเลยดีกว่า จะได้ไม่เดือดร้อนไปด้วย" นางกล่าว
เฉียวเยว่ทำปากยื่น "แต่ข้าอยากเห็นน้องหญิงเล็ก"
ทารกน้อยแรกเกิดตัวนุ่มนิ่มน่ารัก
แต่เพราะความไร้เหตุผลของไท่ไท่รอง เด็กจึงถูกฮูหยินผู้เฒ่าอุ้มมาเลี้ยงที่เรือนหลัก ตอนนี้มิได้อยู่เรือนสอง
"รอไว้ทางนั้นเสร็จธุระแล้ว คุณหนูเจ็ดค่อยไปดีหรือไม่? ไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วยามหรอกเ้าค่ะ กลับไปกินขนมอร่อยๆ ก่อนดีหรือไม่" อวิ๋นเอ๋อร์เอ่ยเสียงเบา
"ดี!" เฉียวเยว่ตอบทันควัน
เพียงแต่ทั้งสองยังเดินไปไม่ถึงเรือนสาม ก็เห็นหวังหรูเมิ่งท่าทางลุกลี้ลุกลน ใบหน้าเปื้อนหยาดน้ำตา เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยวิ่งออกมาจากลานสวน
เฉียวเยว่พลันตกตะลึง
หวังหรูเมิ่งเห็นพวกนางก็ไม่กล่าวอันใด หลังจากนั้นก็ปิดหน้าวิ่งไปทางสวนดอกไม้
ส่วนคนที่วิ่งตามหลังนางมาก็คือท่านลุงใหญ่ของนาง
เสื้อผ้าของซูต้าหลางก็ไม่เรียบร้อย สภาพแลดูยุ่งเหยิง
พอเห็นเฉียวเยว่กับอวิ๋นเอ๋อร์ สีหน้าเขาก็ผิดปรกติ ยังดุพวกนาง "วันนี้ลมแรง เหตุใดไม่ดูแลคุณหนูเจ็ดให้ดี มายืนบื้ออยู่ตรงนี้ทำไม?"
"บ่าวกำลังจะส่งคุณหนูเจ็ดกลับเรือนเ้าค่ะ" อวิ๋นเอ๋อร์รีบกล่าว
นางอุ้มเฉียวเยว่ขึ้นมา "นายท่านใหญ่ บ่าวขอตัวก่อน"
"คุณหนูรองสกุลหวังเล่า?" ซูต้าหลางถามออกมาโดยตรง
"วิ่งไปทางสวนดอกไม้เ้าค่ะ" อวิ๋นเอ๋อร์ตอบ
อวิ๋นเอ๋อร์ไม่กล้าพูดมาก นางอุ้มเฉียวเยว่ ยอบกายน้อยๆ แล้วรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เฉียวเยว่โบกมือ "ท่านลุงใหญ่ข้าไปก่อนนะเ้าคะ"
แม้อวิ๋นเอ๋อร์จะไม่นับว่าเดินเร็ว แต่จังหวะการก้าวเท้าของนางไม่มั่นคง เฉียวเยว่ตระหนักสถานการณ์เมื่อครู่นี้ได้ ขณะที่นางกำลังจะพูด ก็ได้ยินอวิ๋นเอ๋อร์กล่าวว่า "วันนี้คุณหนูไม่เห็นอะไรทั้งนั้น"
เฉียวเยว่ร้องหืม?
ก่อนลูบใบหน้าของอวิ๋นเอ๋อร์ "เ้ากำลังกลัวอยู่หรือ?"
อวิ๋นเอ๋อร์กระซิบ "ไม่มีอันใดเ้าค่ะ คุณหนูยังเล็ก..." แต่พอคิดอีกที แม้ตนเองจะดูแลคุณหนูเจ็ดมาเพียงครึ่งปี แต่ก็รู้ว่าคุณหนูเจ็ดเป็เด็กเฉลียวฉลาดมาก จึงตัดสินใจพูดไปว่า "บ่าวไม่ทราบว่าคุณหนูจะเข้าใจหรือไม่ แต่คุณหนูอย่าพูดส่งเดชออกไปเป็อันขาด จะได้ไม่นำความเดือดร้อนมาให้"
จะว่าไปตอนแรกเฉียวเยว่ก็ยังงุนงง แต่ชั่วขณะที่ท่านลุงใหญ่ปรากฏตัวขึ้นนางก็เข้าใจทั้งหมด
นางทำตาปริบๆ "อวิ๋นเอ๋อร์อย่ากลัว ข้าคิดถึงท่านย่า พวกเราอย่ากลับเรือนสามกันเลย ไปเรือนหลักดีหรือไม่?"
อวิ๋นเอ๋อร์ "แต่ว่า..."
เฉียวเยว่พูดอย่างเด็ดขาด "ข้าไม่สน ข้าจะไปเรือนหลัก" หลังจากนั้นก็พูดเสียงกระซิบ "พี่อวิ๋นเอ๋อร์ ท่านพ่อไม่อยู่ มีแต่ท่านแม่เป็สตรีเพียงคนเดียว หากท่านลุงใหญ่ไม่อยากให้เื่นี้แพร่งพรายออกไป เ้าคิดว่าเขาจะทำอย่างไร?"
คุณหนูเจ็ดเป็เ้านาย ย่อมไม่เป็อันใดอยู่แล้ว
แต่นางเป็บ่าว หากนายท่านไม่อยากให้เื่นี้กลายเป็เื่ขึ้นมา ก็ต้องปิดปากนาง
อวิ๋นเอ๋อร์เริ่มเข้าใจเหตุผล ตอนแรกนางไม่คิดถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้นางเข้าใจทั้งหมดแล้ว
อวิ๋นเอ๋อร์อุ้มเฉียวเยว่กลับมาที่เรือนหลัก คังหมัวมัวเห็นพวกนางย้อนกลับมาก็งุนงงเล็กน้อย แต่กลับหันไปดุอวิ๋นเอ๋อร์ "คุณหนูเจ็ดยังเล็ก แต่ไฉนเ้าถึงไม่รู้ความไปด้วย ทางนี้..."
"หมัวมัว ข้าอยากพบท่านย่า ท่านไปบอกท่านย่าเถิด" เฉียวเยว่โพล่งออกไปตรงๆ
นางจ้องคังหมัวมัว แม้น้ำเสียงจะแฝงแววออดอ้อนฉอเลาะ แต่แววตากลับบ่งบอกว่าห้ามสงสัย
คังหมัวมัวนึกดูแล้วก็กลับเข้าไปรายงานฮูหยินผู้เฒ่า หลังจากนั้นก็ออกมา "เชิญคุณหนูเจ็ดเข้ามาเ้าค่ะ"
เฉียวเยว่เข้ามาในห้อง เห็นท่านลุงรองก็อยู่ นางจับอาภรณ์น้อยของตนเองก่อนจะเรียกเสียงหวาน "ท่านย่า ท่านลุงรอง"
หลังจากนั้นก็วิ่งไปข้างกายฮูหยินผู้เฒ่าแล้วกระซิบ "ท่านย่า ข้ารู้ความลับใหญ่มาอย่างหนึ่ง"
ขณะกำลังจะเอ่ยปาก ก็มีคนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามารายงานว่าคุณหนูรองสกุลหวังของเรือนสองไม่ระวังพลัดตกน้ำ
พอเฉียวเยว่ได้ยินก็นิ่วหน้า ฮูหยินผู้เฒ่ารีบสั่งการทันควัน "รีบส่งคนไปดู อยู่ดีๆ พลัดตกน้ำได้อย่างไร"
พอหันมาเห็นเฉียวเยว่ขมวดคิ้ว ฮูหยินผู้เฒ่าก็เริ่มเข้าใจบางอย่าง "เ้ารอง เ้าไปดูด้วย อย่างไรเสียก็เป็น้องสาวภรรยาเ้า ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน อย่าให้นางต้องวิตกกังวล แล้วก็อย่าให้ใครแพร่งพรายเื่นี้ไปถึงหูนาง"
"ลูกจะไปดูขอรับ" ซูเอ้อหลางลุกขึ้นทันที
ฮูหยินผู้เฒ่าขยิบตา จ้าวหมัวมัวคนสนิทก็ตามไปทันที
หลังจากเขาออกจากประตูไปแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าก็เอ่ยถาม "เฉียวเยว่อยากบอกอะไรกับย่า?"
เฉียวเยว่กัดริมฝีปาก ไม่พูด
ฮูหยินผู้เฒ่าอุ้มนางขึ้นมาบนตัก "เด็กดี เ้าจะบอกเื่ของท่านน้าสกุลหวังของเ้าใช่หรือไม่?"
"เ้าค่ะ เมื่อครู่..." เฉียวเยว่เกาศีรษะ รู้สึกว่าหากนางพูดเองจะดูไม่ค่อยดีนัก นางหันไปมองอวิ๋นเอ๋อร์ขอความช่วยเหลือ อวิ๋นเอ๋อร์จึงเล่าเื่เมื่อครู่ออกมาอย่างละเอียด โดยไม่เติมน้ำมันใส่น้ำส้มแม้แต่น้อย
เฉียวเยว่ยกขาน้อยๆ ขึ้นมานั่งขัดสมาธิ "ท่านลุงใหญ่ต้องดุท่านน้าแน่เลย มิเช่นนั้นท่านน้าคงไม่โกรธจัด วิ่งหนีไปเยี่ยงนั้น"
เฉียวเยว่เอานิ้วชนกัน
สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าค่อนข้างย่ำแย่ แต่ยังคงตีมือน้อยๆ ของเฉียวเยว่ แล้วเอ่ยอย่างจริงจัง "เื่นี้เ้าอย่าไปพูดส่งเดชข้างนอก เข้าใจหรือไม่?"
เฉียวเยว่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง "ข้าบอกแค่ท่านย่าคนเดียว"
นางยิ้มตาหยี "แม้แต่มารดาข้าก็จะไม่บอก" หลังจากนั้นก็ทำสีหน้าวอนขอคำชม
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มออก แต่ก็เพียงผิวเผิน เป็รอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา
เฉียวเยว่เห็นฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็เข้ามาสะกิด เป็ฝ่ายเริ่มขอรางวัลด้วยตนเอง "ให้ขนมหนึ่งชิ้นเป็รางวัลได้หรือไม่เ้าคะ"
ฮูหยินหัวเราะพลางพยักหน้า "ได้ ได้ ได้ ให้รางวัลเ้า ย่ามีธุระยุ่งอยู่ ให้อวิ๋นเอ๋อร์อุ้มเ้ากลับไป คังหมัวมัว เ้าไปส่งพวกนางกลับด้วยตนเอง สั่งโรงครัวให้เตรียมขนมหนึ่งตะกร้าส่งไปให้เฉียวเยว่ ต้องเอาที่ออกจากเตาใหม่ๆ เลยนะ"
"เ้าค่ะ" คังหมัวมัวตอบรับด้วยรอยยิ้ม
ฮูหยินผู้เฒ่ามองอวิ๋นเอ๋อร์ "เื่วันนี้อย่าแพร่งพรายออกไป เด็กเล็ก..." หลังจากนั้นก็ไม่กล่าวอะไรอีก
"บ่าวทราบเ้าค่ะ" อวิ๋นเอ๋อร์ตอบเสียงเบา
ฮูหยินผู้เฒ่าผงกศีรษะ "ไม่ต้องกังวล กลับไปเถอะ"
เมื่อกลับไปถึงเรือนสาม เห็นไท่ไท่สามกำลังจะออกมา เฉียวเยว่ยกมือขึ้นโบก "ท่านแม่ ท่านจะไปไหน"
"แม่จะไปดูท่านน้าสกุลหวังของเ้า อยู่ดีๆ ไม่รู้ว่าเหตุใด..."
ยังไม่ทันพูดจบ ก็ได้ยินเฉียวเยว่บ่นออกมาเป็ชุด "เกี่ยวข้องอันใดกับพวกเรา เมื่อวานป้าสะใภ้รองยังด่าท่านอยู่เลย บอกว่าท่านไปสับเปลี่ยนบุตรของนาง ไยท่านต้องไปสนใจเื่ในบ้านของพวกเขาอีกเล่า เดี๋ยวถูกผู้อื่นพาลหาเื่สาดน้ำครำใส่จะโชคร้ายเสียเปล่าๆ"
ไท่ไท่สามหัวเราะดึงเปียน้อยๆ ของนาง "เ้าเด็กพูดมาก เ้าอยู่เฉยๆ เถอะ ยามนี้ป้าสะใภ้รองของเ้าจะโมโหเพราะเื่เหล่านี้ได้ที่ไหน แม่แค่จะไปดูว่าพอจะช่วยเหลืออันใดได้บ้าง จะปล่อยให้เลยตามเลยไม่มีใครสนใจได้อย่างไร"
ไท่ไท่สามอุ้มบุตรสาวขึ้นมา "เราจะกลัวปัญหาจนละเลยไม่แยแสมิได้ หากทุกคนต่างคิดว่าเื่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง เช่นนั้นจะทำอย่างไร?"
"แต่ก็ควรแยกแยะว่าเป็ผู้ใดนี่เ้าคะ" เฉียวเยว่เอานิ้วชนกัน
ไท่ไท่สามรู้สึกได้ว่าวันนี้บุตรสาวดูผิดปรกติ จึงหันไปมองคังหมัวมัวที่ตามมาส่ง ลังเลอยู่ชั่วขณะจึงเอ่ยถาม "นางไปก่อเื่มาอีกแล้วหรือ?"
เฉียวเยว่รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก นางยู่ปากทำแก้มป่อง "ข้าเป็เด็กเช่นนั้นเสียที่ไหน ข้า..."
ไท่ไท่สามรีบตัดบท ไม่เปิดโอกาสให้นางคุยโม้โอ้อวดตนเอง "บิดาเ้าต้องสอบเคอจวี่ พวกเราจึงคิดกันว่าจะส่งเ้าไปอยู่ที่จวนของท่านตาสัก่หนึ่ง เ้าว่าดีหรือไม่?"
อะไรนะ?
"เ้ากับน้องชายไปด้วยกันทั้งคู่ จะได้ช่วยดูแลซึ่งกันและกัน" ไท่ไท่สามเอ่ยเสียงเบา
เฉียวเยว่เกาศีรษะ "พวกท่าน... รำคาญที่ข้าวุ่นวายหรือ?"
เฉียวเยว่เข้าใจจุดนี้ แต่ก็รู้สึกว่าตนเองน่าสงสารมาก
"ท่านกวาดไล่ข้าออกจากบ้านได้อย่างไร" นางเอ่ยอย่างคับข้องหมองใจ
แม้แต่คังหมัวมัวก็อดไม่ไหวหัวเราะออกมา
"กวาดไล่ออกจากบ้านอันใดกัน? เ้าไปเรียนรู้ถ้อยคำเหล่านี้มาจากไหน ย่อมไม่ใช่อยู่แล้ว"
"ไปบ้านท่านตาย่อมดีมาก แต่คำอธิบายของท่านแม่ทำให้ข้าข้องใจ เหมือนว่าพวกเราไปรบกวนท่านพ่อมากมายอย่างนั้นแหละ นี่จะเป็ไปได้อย่างไร"
นางไม่ใช่เด็กซุกซนเยี่ยงนั้นเสียหน่อย
"ท่านตาคิดถึง อยากให้เ้าไปอยู่ด้วย ไม่ดีหรือ? อากาศเริ่มอบอุ่นแล้ว แม่รู้ว่าเ้าอยากออกไปย่ำขจี ท่านตาพาเ้าไปได้ ผ่านไปสักพักอาจจะพาไปตกปลาอีกด้วย" ไท่ไท่สามกล่าวด้วยรอยยิ้ม
บุตรสาวรู้ความเกินไป เพียงนิดเดียวก็ไปกระทบจิตใจของนางแล้ว
"ประเสริฐ! เช่นนั้นข้าไป" เฉียวเยว่ตอบพลางะโโลดเต้น
"ข้าจะไป ข้าจะไป"
"เอาล่ะ ตอนนี้เ้ากลับไปเสียโดยดี คิดดูว่าจะเอาสิ่งใดไปบ้าง" ไท่ไท่สามเกลี้ยกล่อม
เฉียวเยว่เอานิ้วชนกัน "เช่นนั้นก็ได้เ้าค่ะ"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้