ผู้าุโหลายคนต่างมองหน้ากันไปมา เนี่ยหลีกล้าหาญชาญชัยเกินไปแล้ว ไม่เห็นท่านประมุขอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ทว่าเนี่ยไห่กับเนี่ยเอินสองคนต่างไม่รู้สึกโกรธเคืองอันใด และพวกเขาก็ไม่ได้ะโออกมาชี้นิ้วตำหนิเนี่ยหลี ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเร็วๆ นี้เอง ท่านประมุขยังเพิ่งออกประกาศว่าต่อไปภายในตระกูลเทียนเหิน ให้ฐานะของเนี่ยหลีเทียบเท่ากับเขา!
คำสั่งนี้ทำให้บรรดาผู้าุโทั้งหลายต่างพากันไม่เข้าใจ ทว่าในเมื่อเป็คำสั่งของท่านประมุข พวกเขาก็ได้แต่ปฏิบัติตาม
“ข้าเพิ่งได้ข่าวมา ตระกูลเสินเซิ่งจะเชิญครอบครัวชนชั้นสูงส่วนหนึ่งในเมืองกวงฮุยเข้าร่วมงานประลองเยาวชนผู้มีพร์ ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเราฉบับหนึ่ง พวกเราจะไปร่วมงานหรือไม่?” เนี่ยไห่จ้องมองเนี่ยหลีและเอ่ยถาม งานประลองเยาวชนผู้มีพร์นี้ หลายปีจะจัดขึ้นโดยหนึ่งในสามตระกูลหลักครั้งหนึ่ง จำนวนผู้คนที่ได้รับเชิญให้มาร่วมประลอง อย่างน้อยมีถึงหนึ่งในสามของครอบครัวผู้มีอิทธิพลต่อเมืองกวงฮุย
หากเป็การประลองรุ่นเยาว์ทั่วไปก็ไม่นับว่าเป็อะไร แต่เนี่ยไห่กังวลใจว่าตระกูลเสินเซิ่งจะคิดไม่ซื่อ ้าลงมือกับตระกูลเทียนเหิน
“ต้องเข้าร่วมการประลองอยู่แล้ว เหตุใดจะไม่เข้าร่วมเล่า? ส่งจดหมายไปที่สมาคมนักปรุงยาวิเศษ แจ้งให้พวกเขามาร่วมชมการประลองก็พอแล้ว!” เนี่ยหลีพูดอย่างสงบ ตระกูลเสินเซิ่งส่งเทียบเชิญมาให้ตระกูลเทียนเหิน พวกเขาจะไม่เข้าร่วมการประลองได้อย่างไร?
ขณะได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี บรรดาผู้าุโต่างพากันหันมามองเนี่ยหลีด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย สมาคมนักปรุงยาวิเศษเชียวนะ คิดเรียกก็เรียกมาได้อย่างไรกัน?
ปฏิกิริยาของผู้าุโแต่ละคนแตกต่างกันไป ส่วนเนี่ยไห่และเนี่ยเอินรู้สึกว่านี่เป็เื่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง
“เช่นนั้นก็ต้องรบกวนเ้าเขียนจดหมายฉบับหนึ่งให้แก่ท่านผู้อำนวยการหยางแล้ว!” เนี่ยไห่ยิ้มบางๆ และพูด เขากำลังรอให้เนี่ยหลีพูดคำนี้ออกมาพอดี หากสมาคมนักปรุงยาวิเศษส่งคนไปชมการประลอง เช่นนั้นตระกูลเสินเซิ่งก็ต้องมีความเกรงกลัวอยู่บ้างแล้ว
“การประลองเยาวชนผู้มีพร์ครั้งนี้ สามารถส่งคนเข้าร่วมประลองได้สามที่ เนี่ยหลี เ้าจะลงแข่งหรือไม่?” เนี่ยเอินจ้องมองเนี่ยหลีและพูด เขารู้ว่าพลังของเนี่ยหลีก้าวขึ้นถึงระดับเงินแล้ว อีกทั้งยังหลอมรวมกับจิตอสูรแล้วด้วย
“ข้าย่อมต้องลงแข่งแน่นอน!” เนี่ยหลีพยักหน้าตอบเงียบๆ เขาเพิ่งหลอมรวมกับแพนด้าเขี้ยวเสือมา คิดใช้การต่อสู้จริงมาทดสอบพลังของแพนด้าเขี้ยวเสือ อีกอย่าง ยังมีข้อตกลงกับเสิ่นเฟย เนี่ยหลีจะไม่ลงสนามได้อย่างไร
เนี่ยไห่ เนี่ยเอิน สองคนยามสนทนากับเนี่ยหลี ต่างใช้น้ำเสียงขอร้องอ้อนวอนเนี่ยหลี นี่ทำให้พวกผู้าุโไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่นัก ทว่าเมื่อนึกถึงยาวิเศษทั้งหมดที่เนี่ยหลีเป็ผู้มอบให้แก่ตระกูล พวกเขาก็ค่อยรู้สึกสบายใจขึ้น อีกทั้งยังเข้าใจเื่หนึ่ง นั่นก็คือฐานะของเนี่ยหลีภายในตระกูล แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงแล้วจริงๆ
นอกจากเนี่ยหลีแล้ว ยังมีผู้เยาว์อีกสองคน เป็เนี่ยเสี่ยวเฟิงและเด็กหนุ่มในตระกูลอีกคนหนึ่งนามว่าเนี่ยอวี่* พวกเขาต่างเป็ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเงินสองดาว (*อวี่ ตัวอักษรคนละตัวกับน้องสาวของเนี่ยหลี)
เป็ถึงผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินสองดาวั้แ่อายุเพียงยี่สิบปีเศษถือว่าไม่เลวแล้ว แม้จิตอสูรของพวกเขาไม่นับว่าดีนัก ทว่าก็ยังถือเป็ผู้มีพร์ของตระกูล เนี่ยหลีก็มิได้ขี้เหนียว ให้เนี่ยไห่มอบจิตอสูรระดับเงินที่มีอัตราการเจริญเติบโตระดับโดดเด่นแก่พวกเขา
“การประลองครั้งนี้จะจัดขึ้นในอีกครึ่งเดือนข้างหน้าแล้ว เนี่ยหลี เ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อม! พวกเราได้ข่าวมา ได้ยินว่าผู้ที่เข้าร่วมการประลองจากตระกูลเสินเซิ่ง มีผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินห้าดาวผู้หนึ่งด้วย!” เนี่ยไห่ครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ ในหัวใจก็พลันหนักอึ้งขึ้นมาเล็กน้อย พวกเขายังต้องระมัดระวังกับวิธีการสกปรกของตระกูลเสินเซิ่งด้วย
“อ้อ!” เนี่ยหลีตอบเบาๆ คำหนึ่ง ทว่าท่าทางผ่อนคลายยิ่ง
วิธีการสกปรกของตระกูลเสินเซิ่งรึ? เนี่ยหลีได้ไม่ใส่ใจนัก จะมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงแบบไหนสามารถรอดพ้นไปจากสายตาของเขาได้กัน?
ต่อมา เนี่ยไห่ เนี่ยเอิน เนี่ยิและคณะยังได้ปรึกษาหารือเกี่ยวกับการพัฒนาตระกูลเทียนเหินกับเนี่ยหลี รวมถึงการจ่ายเงินส่วนหนึ่งเพื่อว่าจ้างยอดฝีมือทั่วไปจำนวนมากเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ครอบครัว สำหรับเนี่ยหลี ความเติบโตของตระกูลเทียนเหินก็มีประโยชน์และไร้ซึ่งพิษภัยอันใด
“ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ข้าสามารถสนับสนุนเงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตอสูรให้แก่ตระกูลเพื่อการนี้ได้ ทว่าต้องระวังขณะว่าจ้างคนให้ดี อย่าปล่อยให้พวกสอดแนมของตระกูลเสินเซิ่งกับพวกสมาคมมืดเล็ดรอดเข้ามาได้!” เนี่ยหลีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูด
สนับสนุนเงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตอสูรรึ? เนี่ยิ เนี่ยไคและพวกผู้าุโพากันตาเหลือกจนลูกตาแทบจะถลนออกมาแล้ว เงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตอสูร เนี่ยหลีกลับพูดออกมาอย่างง่ายๆ สบายๆ
จะมีกี่อย่างที่เงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตอสูรสามารถทำได้? เกรงว่าหากคิดจะจ้างผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองสักร้อยคนก็ยังไม่มีปัญหา!
เนี่ยไห่และเนี่ยเอินครั้งนี้สงบกว่าเดิมยิ่ง พวกเขารู้ดีว่าทรัพย์สมบัติของเนี่ยหลีนั้นสามารถทำให้ผู้คนใได้เพียงไหน เงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญนี้ก็แค่ขนเส้นหนึ่งของวัวสักเก้าตัวเท่านั้น! หากมีเงินสักหนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตอสูร พลังของตระกูลเทียนเหินย่อมแผ่ขยายออกไปได้หลายเท่าตัว!
พวกผู้าุโพลันเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเนี่ยไห่จึงยกฐานะให้เนี่ยหลีเท่าเทียมตน ความไม่พอใจต่อเนี่ยหลีทั้งหลายก็พลันสลายหายไป ตระกูลเทียนเหินคือรากฐานของพวกเขา ตราบใดที่เป็ผลประโยชน์ของครอบครัว พวกเขาย่อมสนับสนุน และสำหรับผู้ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัว พวกเขาเ่าั้ย่อมสมควรจะได้รับความเคารพจากทุกคน!
ต่อให้มีฐานะต่ำต้อยอยู่ในตระกูล แต่หากสามารถบริจาคเงินถึงหนึ่งร้อยล้านเหรียญจิตอสูรให้แก่ตระกูลได้ พวกเขาก็พร้อมจะยกระดับคนผู้นั้นขึ้นมาได้
หลังจากปรึกษาหารือกันอยู่หลายชั่วโมง เนี่ยไห่และพวกจึงเริ่มลงมือทำตามแผนงาน ส่งคนไปที่สมาคมผู้ควบคุมจิตอสูรและสมาคมนักสู้เพื่อว่าจ้างคน
สมาคมผู้ควบคุมจิตอสูรและสมาคมนักสู้นั้นแตกต่างจากสมาคมนักปรุงยาวิเศษ พวกเขาไม่มีอำนาจมากมายนัก เพียงรับผิดชอบการลงทะเบียนแก่ผู้ควบคุมจิตอสูรและนักสู้ทั่วไป ปกติแล้ว ผู้ควบคุมจิตอสูรและนักสู้ทั่วไปมักเลือกรับใช้พวกครอบครัวชนชั้นสูง ทำเช่นนั้นพวกเขาจึงจะได้รับการสนับสนุนด้านการฝึกยุทธ์มากกว่าที่อื่น และรายได้ก็มั่นคงกว่า ส่วนพวกครอบครัวชนชั้นสูงก็จะได้เพิ่มความแข็งแกร่งแก่ครอบครัวของตน
ทุกๆ ตระกูลจะมีผู้คุ้มกันจำนวนแน่นอนจำนวนหนึ่งสำหรับครอบครัว ส่วนตระกูลเทียนเหินนี้ ด้วยความเป็จริงที่ขาดแคลนเงินทุน พวกเขาจึงได้ยุบกลุ่มผู้คุ้มกันลงไป บัดนี้ในที่สุดก็สามารถว่าจ้างคนมาเพิ่มได้อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากสนับสนุนเงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญให้แก่ตระกูลแล้ว เนี่ยหลียังมอบเคล็ดวิชายุทธ์ที่ทรงอานุภาพมากมายให้แก่ครอบครัว สมาชิกทุกคนในตระกูลเทียนเหินสามารถฝึกมันได้ สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ตระกูลได้
ในเวลาเดียวกัน ตระกูลเสินเซิ่ง
เสิ่นิ ผู้าุโใหญ่ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยท่านประมุขในการกำกับดูแลตระกูลเสินเซิ่งกำลังจัดการธุระต่างๆ ในตระกูลเสินเซิ่ง เวลานี้ เด็กหนุ่มสามคนเดินเข้ามา ผู้ที่นำหน้าคือเสิ่นเฟย อีกสองคนด้านหลังเสิ่นเฟยมีอายุราวยี่สิบปีเศษ หน้าตาดุดันจริงจัง
“ท่านผู้าุโใหญ่!” เสิ่นเฟยยกสองมือขึ้นคำนับเล็กน้อย
“คารวะท่านผู้าุโใหญ่!” ชายหนุ่มสองคนด้านหลังเสิ่นเฟยโค้งกายลงคำนับผู้าุโใหญ่ เสิ่นิ ทั้งสองคนเป็สมาชิกสาขาย่อยของตระกูลเสินเซิ่ง ฐานะด้อยกว่าเสิ่นเฟยเป็อันมาก แม้ฝีมือจะสูงกว่าเสิ่นเฟย ทว่าอ่อนน้อมกว่าเสิ่นเฟยเป็อันมาก
“อืม!” เสิ่นิพยักหน้าเบาๆ แอบถอนใจ พร์ของเสิ่นเฟยไม่นับว่าเลว เวลานี้เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินสามดาวแล้ว ทว่าเมื่อเทียบกับเด็กจากสาขาย่อยทั้งสอง เสิ่นหนิง และเสิ่นเซี่ยว ก็ห่างชั้นกันมากเกินไปแล้ว เสิ่นหนิงเพิ่งอายุยี่สิบปี ทว่าก้าวขึ้นเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินห้าดาวแล้ว ส่วนเสิ่นเซี่ยวอายุยังไม่เต็มยี่สิบสามปี เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองผู้หนึ่งแล้ว
พร์ของคุณชายแห่งตระกูลหลักกลับสู้เด็กหนุ่มจากตระกูลสาขาไม่ได้ สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในรุ่นก่อนๆ
“คุณชายเสิ่นเฟย ท่านแน่ใจหรือว่า้าเข้าร่วมการแข่งขันงานประลองเยาวชนผู้มีพร์?” เสิ่นิเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าเนี่ยหลีจากตระกูลเทียนเหินจะเข้าร่วมงานประลองเยาวชนผู้มีพร์ครั้งนี้ด้วย?” เสิ่นเฟยจ้องมองเสิ่นิ สองคิ้วเลิกสูงเล็กน้อยและเอ่ยถาม เพราะเื่เกี่ยวกับเซียวหนิงเอ๋อ ในใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความโกรธแค้นต่อเนี่ยหลี เมื่อได้ยินว่าตระกูลเทียนเหินจะเข้าร่วมงานประลองเยาวชนผู้มีพร์ครั้งนี้ด้วย แม้พลังของเขายังไม่เพียงพอนัก แต่ก็ยังอาสาจะเข้าร่วมงานประลอง
“พวกเราได้รับจดหมายตอบกลับมาจากตระกูลเทียนเหินแล้ว ได้รับการยืนยันว่าตระกูลเทียนเหินจะเข้าร่วมงานประลองเยาวชนผู้มีพร์! เนี่ยหลีผู้นั้นก็คงจะเข้าร่วมการประลองด้วย!” เสิ่นิพยักหน้าน้อยๆ ตอบ
“ในเมื่อเป็เช่นนั้น ข้าจะต้องเข้าร่วมงานประลองครั้งนี้ให้ได้ ข้าจะเหยียบเ้าเด็กนั่นให้จมเท้าเลยทีเดียว จากนั้นค่อยทำให้มันอับอาย!” ดวงตาของเสิ่นเฟยเต็มไปด้วยความเย็นเยียบขณะพูด ครุ่นคิดถึงเซียวหนิงเอ๋อ ในใจของเสิ่นเฟยก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้นเนี่ยหลี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้