วันเวลาผ่านไปรวดเร็วราวกับติดปีก เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านไปสองปีกว่าแล้ว ณ ตอนนี้จุนตงและจุนหนานมีอายุได้สองขวบครึ่งแล้ว เด็กทั้งสองคนได้รับการเลี้ยงดูจากจุนห่าวเป็อย่างดี ทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เวลากินอะไรก็ล้วนอร่อยไปหมดทุกอย่าง
“ท่านพ่อ วันนี้ตอนเย็นข้าอยากกินมันฝรั่งทอด” จุนตงพูดกับจุนห่าว
“ท่านพ่อ ข้าอยากกินเนื้อย่าง” จุนหนานพูดเสริมขึ้น
จุนห่าวมองดูลูก ๆ ที่เขาเลี้ยงมาจนอ้วนท้วมสมบูรณ์ พลางกำมือด้วยความภาคภูมิใจและกล่าวตอบพวกเขาว่า “ได้สิ มีอะไรที่อยากกินอีกไหม? พ่อจะได้ทำให้พวกเ้าทีเดียวเลย” การทำอาหารให้ภรรยาและลูก ๆ คือหนึ่งในกิจกรรมที่จุนห่าวโปรดปรานที่สุด
เมื่อได้ยินจุนห่าวที่กล่าว ดวงตาของจุนตงและจุนหนานก็เป็ประกาย ถึงท่านแม่จะให้พวกเขาคุมอาหาร เพราะบอกว่าพวกเขาอ้วนเกินไปแล้ว ให้กินน้อยลง แถมยังสั่งให้ท่านพ่อทำอาหารให้พวกเขาน้อยลงอีก ซึ่งท่านพ่อก็ดันเชื่อฟังท่านแม่มาก สองวันที่ผ่านมานี้ พวกเขาจึงได้กินของอร่อยน้อยลง
เด็กสองคนยังคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรอีกดี ก็พลันมีเสียงหานรุ่ยพูดกับจุนห่าวว่า “จุนห่าว ที่ข้าพูดไปเ้าลืมแล้วหรือ? พวกเขาอ้วนเกินไปแล้ว พวกเขาจำเป็ต้องลดน้ำหนักนะ”
จุนห่าวกล่าวอย่างเอาใจหานรุ่ยว่า “ข้าจำได้ สิ่งที่เ้าบอกข้า ข้าจะลืมได้อย่างไรกัน! คำพูดของเ้าสำหรับข้าน่ะ ถือว่าเป็คำสั่งจากจักรพรรดิเลยนะ” เมื่อกล่าวจบก็พลันส่งสายตาที่บ่งบอกว่าอยากจะช่วยแต่ไม่อาจช่วยได้ไปทางเด็ก ๆ เพราะท่านแม่ของพวกเขาดุมาแล้ว เขาจึงไม่มีทางเลือก
พอจุนตงและจุนหนานได้ยินที่หานรุ่ยกล่าว แววตาเศร้าสร้อยก็ฉายขึ้นในดวงตาของพวกเขาทันที พลางคิดในใจว่า อาหารมื้อใหญ่เริ่มห่างจากพวกเขาไปไกลขึ้นทุกที เมื่อไหร่พวกเขาจะโตสักทีนะ พวกเขารู้สึกว่าพ่อแม่ปฏิบัติต่อพวกเขาโหดร้ายเกินไปแล้ว
หานรุ่ยมองดูจุนห่าวที่กำลังทำอาหารให้ลูก ๆ พลางคิดในใจว่า รากิญญาฮุ่นตุ้นเป็รากิญญาที่เป็อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะจริง ๆ พลังปราณของจุนห่าวเข้าสู่ขั้นที่ห้าแล้ว ซึ่งจุนห่าวเพิ่งจะฝึกบำเพ็ญเพียรมาแค่สองปี แต่ตัวหานรุ่ยที่เริ่มฝึกใหม่ เวลานี้เพิ่งจะถึงลมปราณขั้นที่สี่ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องขยันให้มากขึ้น มิเช่นนั้นจุนห่าวคงจะทิ้งห่างเขาไปเรื่อย ๆ เป็แน่ ตอนนี้เขาจะต้องตามจุนห่าวให้ทัน
“เสี่ยวรุ่ย เ้าอยากกินอะไรล่ะ? เดี๋ยวข้าจะทำให้เ้าด้วย” จุนห่าวเอ่ยถามหานรุ่ย แม้กำลังทำอาหารให้ลูก ๆ แต่ก็ต้องไม่ลืมภรรยาด้วยเช่นกัน
“ข้ากินอะไรก็ได้ แล้วแต่เ้าเลย!” หานรุ่ยกล่าว เพราะอย่างไรอาหารที่จุนห่าวทำ ไม่ว่าอะไรก็อร่อยอยู่แล้ว
“ท่านพ่อ มีคนมาหาท่าน ข้าพาพวกเขาเข้ามาแล้ว” จุนหนานวิ่งมายังห้องครัวพลางพูดกับจุนห่าว จากนั้นก็มองจุนห่าวด้วยดวงตากลมโตพลางกระพริบตาปริบ ๆ ราวกับกำลังพูดว่า ทำไมไม่ชมข้าล่ะ ข้าเก่งกาจถึงเพียงนี้เลยนะ
จุนตงที่เพิ่งเดินเข้ามา พอเห็นสีหน้าของน้องชาย ก็กล่าวขึ้นว่า “เ้าโง่” จุนตงคิดในใจ นี่เ้าน้องชายยังไม่รู้หรือว่า อีกฝ่ายเป็คนดีหรือคนเลวน่ะ แค่ได้ยินว่ามาหาท่านพ่อ ก็พาเข้ามาแล้ว แม้เขาจะพยายามห้ามแล้ว แต่ก็ไม่ทัน ทำได้เพียงเดินตามมาดูสถานการณ์
จุนห่าว: ...... จุนหนานไม่ได้ถือว่าโง่ แต่ถูกจุนตงด่าจนกลายเป็คนโง่ จุนตงพูดทุกวันจนกลายเป็เื่จริงไปซะแล้ว “จุนหนานเก่งมาก แต่ว่าจากนี้ไปเ้าต้องฟังพี่ชายเยอะ ๆ นะ อย่าพาคนแปลกหน้าเข้าบ้านแบบนี้อีก เดี๋ยวพ่อจะออกไปดูสักประเดี๋ยว” จุนห่าววางของในมือ แล้วเดินมาที่ห้องโถง ครั้นถึงหน้าประตูก็พลันได้ยินเสียงหานรุ่ยกำลังพูดอยู่
“พวกท่านสองคนคือใคร? ทำไมถึงรู้ว่าจุนห่าวอยู่ที่นี่ล่ะ!” หานรุ่ยเอ่ยถาม เพราะเขาจำได้ว่าจุนห่าวไม่ได้บอกที่อยู่ให้ใครรู้
“ข้าคือจุนฟาน ส่วนคนนี้คือจุนเช่อ น้องสี่เป็คนบอกที่อยู่ให้กับพวกเรา” จุนฟานเอ่ยขึ้นพร้อมชี้ที่ตัวเขาและอีกคน หนึ่งปีก่อนพวกเขาได้เข้าไปทำภารกิจในป่าหลานอู จึงเผอิญได้พบกับจุนห่าวที่กำลังล่าสัตว์อยู่ เวลานั้นจุนห่าวได้บอกที่อยู่ให้พวกเขารู้ เผื่อพวกเขามีเื่ที่้าความช่วยเหลือ ซึ่งในยามนี้พวกเขาไม่มีทางเลือก เพราะถูกตามฆ่าไปจนถึงป่าหลานอู และพี่รองจุนเช่อกำลังาเ็สาหัส เขาจึงพาพี่รองบากหน้ามา เพื่อพึ่งพาอาศัยจุนห่าว
“นี่คือพี่รองและพี่สาม ข้าเป็คนบอกที่อยู่กับพวกเขาเอง ตอนกลับมาข้าลืมบอกเ้าน่ะ” จุนห่าวกล่าวพร้อมเดินเข้ามา ครานั้นเขาคิดว่าไม่ใช่เื่สำคัญอะไร จึงลืมไปซะสนิท
“พี่รองและพี่สามนี่เอง โปรดยกโทษให้ข้าที่อาจทำให้ขุ่นเคืองด้วย” หลังจากที่หานรุ่ยได้ฟังจุนห่าวพูดเื่ที่บอกที่อยู่ให้กับพวกเขา และจุนห่าวยังรู้จักกับสองพี่น้องคู่นี้ ในเมื่อพวกเขาคือพี่ชายของจุนห่าว พวกเขาก็เหมือนกับพี่ชายของเขาเช่นกัน
“น้องสะใภ้เกรงใจพวกข้าเกินไปแล้ว พวกข้าต่างหากที่พรวดพราดเข้ามา” จุนฟานเอ่ยขึ้น
“พี่รอง เกิดเื่อันใดกับท่านหรือ?” จุนห่าวเห็นจุนเช่อพิงซบจุนฟานด้วยใบหน้าซีดเผือด ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าจุนเช่อาเ็ภายในอย่างสาหัส
“พี่รองได้รับาเ็ภายใน อวัยวะภายในถูกทำลาย พี่รองาเ็สาหัสเช่นนี้ก็เพราะเพื่อช่วยข้า” จุนฟานกล่าวอย่างรู้สึกผิด
“เ้าอย่าโทษตัวเองเลย เ้าคือน้องชายข้า ข้าช่วยเ้าก็สมควรแล้ว” จุนเช่อเอ่ยขึ้น ตอนที่ท่านแม่เสีย เขารับปากท่านแม่ไว้ว่าจะดูแลจุนฟานให้ดี
“พี่รอง นี่เป็ความผิดของข้า” จุนฟานพูดด้วยดวงตาแดง ๆ
จุนห่าวมองดูจุนฟานที่กำลังรู้สึกผิด พลันกล่าวขึ้นว่า “ท่านไม่ต้องร้องหรอก ชายชาตรีย่อมมีการหลั่งเื แต่ไม่มีการหลั่งน้ำตา หากท่านร้องไห้ ข้าจะดูถูกท่านเอาได้ อีกอย่างพี่รองก็ยังไม่ตายนะ รอเขาตายเสียก่อน ท่านค่อยร้องไห้ก็ยังไม่สาย”
จุนฟาน: ...... น้องสี่แปรเปลี่ยนเป็คนปากร้ายจัดแบบนี้ ั้แ่เมื่อไหร่กัน
จุนเช่อ: ...... นี่น้องสี่กำลังสาปแช่งให้ข้าตายจริง ๆ อยู่ใช่ไหม?
หานรุ่ย: ...... จุนห่าวนี่เป็คนที่อยากจะพูดอะไร ก็พูดจริง ๆ เลย
“ใครตายเหรอ ใครตาย?” จุนหนานที่เดินตามติดมาเอ่ยถาม
จุนตง: เ้าโง่ ทำไมข้าถึงมีน้องชายที่โง่เง่าขนาดนี้กันเนี่ย
“ไม่มีใครตายหรอก ลูก ท่านลุงรองของเ้าาเ็มา พ่อเ้ากำลังให้คำแนะนำท่านลุงสามอยู่” หานรุ่ยพูดขึ้น มีเื่เกิดขึ้นที่ใด จุนหนานก็มักจะอยู่ที่นั่นเสมอ ราวกับเกรงว่าโลกไม่ควรที่จะเงียบสงบอย่างไรอย่างนั้น
“ท่านลุงรองได้รับาเ็อย่างนั้นหรือ ทำไมท่านพ่อถึงไม่ปลอบใจท่านลุงรอง แต่กลับมาปลอบใจท่านลุงสามล่ะ?” จุนหนานถามจุนตงอย่างไม่เข้าใจ
จุนตงตอบอย่างเ็าว่า “ไม่รู้”
“นั่นเป็เพราะว่าท่านลุงรองของเ้า ช่วยท่านลุงสามจนได้รับาเ็ ท่านลุงสามเลยรู้สึกผิด พ่อเ้าจึบปลอบใจเขาน่ะ” หานรุ่ยพูดกับจุนหนาน “เ้าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พ่อเ้ากำลังดูอาการาเ็ให้กับท่านลุงรองอยู่ อย่าไปรบกวนพวกเขา” หานรุ่ยเกรงว่าจุนหนานจะถามอะไรขึ้นมาอีก จึงบอกให้พวกเขาหยุดพูด