Quint hip l femboy
9
/
วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติ–อาจจะเช้ากว่าสิบหรือสิบห้านาทีแต่กระนั้นสำหรับผมแล้วมันก็ ‘เช้ากว่าปกติ’ อยู่ดี
“อื้อออ” คุณร้องครางในลำคออย่างขัดใจเมื่อผมกดจูบลงบนแก้มนิ่มซึ่งมีคราบน้ำลายประดับอยู่เล็กน้อยอย่างนึกมันเขี้ยว
ผมมีเวลานั่งมองคุณก่อนจะลงไปซื้อน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ที่เรามักจะกินเป็อาหารเช้าด้วยกันแทบทุกวัน แม้ว่าวันนั้นความสัมพันธ์จะไปในทางที่ดีหรือมีปากเสียงดั่งเช่นคู่รักทั่วก็ตามแต่...
หลายเดือนมานี้ผมไม่ค่อยรับงานเนื่องจากปัญหาส่วนตัวบวกกับศิลปินหน้าใหม่ที่มักจะผุดขึ้นทุกวันราวกับดอกเห็ดและนั่นทำให้กระแสของผมเริ่มซาลงเหลือเพียงแค่แร็ปเปอร์ที่ไม่มีคำว่าชื่อดังต่อท้ายเฉกเช่นเมื่อก่อน
ผมเข้าใจว่าทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงแต่ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจหายในบางครา
ผมมี่เวลาหมดไฟ เสียใจจนไม่เป็ตัวเองและทุกครั้งผมก็ผ่านมันมาได้โดยมีคุณอยู่ข้างกายเสมอ–ทั้ง ๆ ที่วันนั้นผมไม่ได้เก่ง ซ้ำยังห่วยจนหลายคนพากันหันหลังให้แต่ทว่าคุณก็ยังอยู่…
ยังอยู่แม้วันนั้นผมจะไม่ได้เป็ควินท์ฮิปที่สมบูรณ์แบบแล้วก็ตาม
กริ๊ง กริ๊ง!
นาฬิกาปลุกแผดเสียงดังลั่นจนผมต้องเอื้อมมือไปปิดมันเพราะเกรงว่าจะรบกวนเวลานอนของคุณเข้า
Fact about ปั้นหยา
-ถ้าวันไหนนอนน้อยกว่าแปดชั่วโมง แม่ตัวดีจะดุร้ายพิเศษ—ผมจดใส่หัวสมองและจะไม่ยอมทำพลาดเป็อันขาด
ปลายจมูกโด่งตามประสาลูกครึ่งกดลงบนแก้มนุ่มเป็ครั้งสุดท้ายก่อนจะคว้ากระเป๋าสตางค์และมือถือที่อยู่บนหัวเตียงเพื่อเตรียมไปซื้อมื้อเช้าของเราทั้งคู่...เมื่อเช็กระบบล็อกประตูอัตโนมัติเป็ที่เรียบร้อยผมก็ตรงดิ่งไปยังลิฟต์ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลในทันที
“น้ำเต้าหู้สองปาท่องโก๋แปดตัวเหมือนเดิมนะลูก” ผมเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านและยังไม่ทันได้เอ่ยปากป้าแกก็สวนขึ้นมาก่อน ผมจึงทำได้เพียงพยักหน้าเบา ๆ อย่างไม่นึกแปลกใจที่ป้าแกจำได้เพราะผมสั่ง ‘หู้สองโก๋แปด’ มาั้แ่่ที่คบกับหยาแรก ๆ แล้ว
“เดี๋ยวผมมาเอานะครับ”
“จ้า”
ตลาดเช้าที่มักจะตั้งแผงขายวันเว้นวันตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าซึ่งมีแกงถุง ขนมหวาน พวกของปิ้งย่างวางเรียงรายกันเต็มไปหมด…หากใช้นิ้วมือนับนี่คงเป็ครั้งที่สามที่ผมมาเหยียบสถานที่แห่งนี้เพราะส่วนใหญ่คนที่นอนหลับอุตุอยู่บนห้องจะเป็ฝ่ายมาเสียมากกว่า
“พ่อหนุ่ม วันนี้น้องหยาไม่มาด้วยเหรอ” นั่นไงแม่ค้าร้านผลไม้ที่ครั้งหนึ่งปั้นหยาเคยแต่งหน้าให้วันที่แกต้องไปรับปริญญาลูกสาวเอ่ยทัก
“ไม่ได้มาครับ พอดีเมื่อคืนเขาทำงานดึกผมเลยให้นอนต่อ”
“ตายแล้ว ๆ งั้นป้าฝากแอปเปิ้ลเขียวกับสตอเบอรี่ไปให้น้องหยาหน่อยนะ กินสด ๆ หรือเอาไปปั่นก็ได้เปรี้ยวหวานกำลังดี” เ้าหล่อนหยิบสตอเบอรี่กล่องใหญ่กับแอปเปิ้ลเขียวหนึ่งแพคใส่ถุงใบเดียวกันก่อนจะยัดใส่มือโดยที่ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากปฏิเสธเลยด้วยซ้ำ
“ผมขอจ่ายเงินดีกว่าครับ เกรงใจ”
“รับไปเถอะนา ถือว่าเป็น้ำใจจากป้าก็ได้จ้ะ” ผมยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะอุดหนุนส้มจีนซึ่งเป็ของโปรดอีกอย่างหนึ่งของหยาเป็การตอบแทนสำหรับผลไม้ราคาแพงทั้งสองอย่าง…
ขากลับผมเดิมลัดเลาะมาทางหลังตลาดและไม่ลืมที่จะแวะรับน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ที่สั่งเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วจึงเดินขึ้นห้องไปอย่างเร่งรีบเพราะเกรงว่าหากคุณตื่นมาแล้วจะหิวเอาได้
เสียงสัญญาณปลดล็อกดังขึ้นเมื่อผมแนบคีย์ลงบนเครื่องสแกนและทันทีที่บานประตูถูกเปิดคนที่นอนเยอะเสียจนหน้าบวมฉึ่งก็ยืนจังก้ากอดอกแน่นทั้งยังเอียงคอขมวดคิ้วมุ่นราวกับไม่พอใจกันอยู่
“นาน” แม่ตัวดีบ่นมุบมิบในลำคอและผมเลือกที่จะง้อด้วยการฝังจมูกลงบนขมับขาวจากนั้นก็จับจูงมือของคุณเข้าไปในห้องเพื่อเตรียมตัวสำหรับมื้อเช้าซึ่งเวลาล่วงเลยไปเกือบสิบนาทีแล้วเห็นจะได้
“ทำไมวันนี้ไปนาน ส่งข้อความไปก็ไม่ยอมตอบอีกนิดเค้าจะวิ่งไปตามแล้วนะ” คุณเอ่ยหน้ายู่
“หิวขนาดนั้นเลย?”
“นิดนึงค่ะ แต่เป็ห่วงมากกว่า” แขนเรียวโอบกอดรอบเอวของผมเอาไว้ก่อนจะช้อนสายตามองกันอย่างออดอ้อน
“ขอโทษที่ทำให้เป็ห่วงครับพอดีแวะไปตลาดเช้ามา ป้าคนขายผลไม้ที่เธอเคยไปแต่งหน้าให้ฝากของมาให้ด้วยนะ”
“ไหนนน เค้าดูหน่อย” คุณเริ่มรื้อของออกมาจากถุงก่อนจะทำตาวาววับเมื่อพบว่ามีของโปรดของตัวเองอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด—คุณคว้ามือถือขึ้นมาถ่ายรูปและผมเหลือบไปเห็นว่าคุณส่งภาพพร้อมคำขอบคุณยาวเหยียดไปในห้องแชตของใครบางคนซึ่งหากให้เดาก็คงเป็แม้ค้าขายผลไม้คนนั้นนั่นแหละ
ก็ไม่แปลกใจที่ใคร ๆ ก็รักคุณ
“มากินมื้อเช้าก่อนครับ ยังร้อน ๆ อยู่เลย” ผมเอ่ยพร้อมกับวางแก้วลักษณะคล้ายกันทั้งสองใบลงตรงหน้าก่อนจะทิ้งตัวนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วฉีกปาท่องโก๋เป็ชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบกิน
“เรียบร้อย อันนี้แก้วของเธอ”
“ขอบคุณครับ”
เรานั่งคุยกันพลาง ๆ ในระหว่างมื้ออาหารอย่างผ่อนคลาย–ผมลอบมองใบหน้าของคุณสลับกับริมฝีปากที่พูดเจื้อยแจ้วออกมาไม่มีหยุดซึ่งนั่นมันทำให้ผมนึกถึงวันแรกที่เราพบกันแม้จะผ่านมานานหลายปีแล้วก็เถอะ
“มองอะไร”
“มองคนสวยครับ”
“แก่แล้ว เอาอะไรมาสวย” สามสิบต้น ๆ เนี่ยนะแก่?
“แก่อะไร ป้า ๆ ที่ตลาดยังเรียกน้องหยาอยู่เลย” มือบางปั้นทิชชูให้เป็ก้อน ๆ จากนั้นก็ปามันใส่หัวผมด้วยน้ำหนักมือที่แรงอยู่มากโข แน่นอนว่าผมไม่ใช่พวกขี้ป๊อดเสียด้วยสิ แกล้งมาแกล้งกลับไม่โกง!
“เธออิ่มยัง”
“ฮะ? อ๋อ อ…อิ่มแล้ว”
“โอเค”
ผมโอบอุ้มแม่ตัวดีพาดบ่าก่อนจะสาวเท้ายาว ๆ ไปยังหน้าทีวีจากนั้นก็วางร่างขาวลงบนพื้นพรมแล้วเริ่มแก้แค้นด้วยการกดปลายนิ้วลงที่เอวทั้งสองข้างจนคนที่อยู่ใต้ร่างนั้นตาเหลือกดิ้นพล่านด้วยความจั๊กจี้
“ฮ่า ๆ ควินท์ ฮื่อ อย่าแกล้งเค้า”
“เมื่อกี้ใครเก่งกับควินท์ฮึ?” ใบหน้าคมที่เริ่มมีตอหนวดอยู่ประปรายซุกไซร้บริเวณซอกคออย่างรุนแรงสลับกับหอมเบา ๆ เป็เชิงปลอบประโลม
“เค้าเอง อื้อ เค้าขอโทษ”
“ยอมหรือยัง”
“ย…ยอมแล้วค่ะ ฮ่า ๆ” ผมผละใบหน้าออกมาจากส่วนนั้นก่อนจะไล่สายตามองใบหน้าหวานที่บัดนี้ขึ้นสีแดงก่ำเพราะการกลั่นแกล้งเมื่อครู่นี้...
ผมรักคุณจัง–ประโยคหวานล้ำผุดขึ้นมาในหัวโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัวแต่อย่างใด
“ขอบคุณนะครับ”
“หือ เื่อะไรคะ”
“ก็…ทุกเื่นั่นแหละ ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันนะครับ”
ทั้งในวันที่ผมสูงส่งหรือแม้กระทั่งในวันที่ผมตกต่ำ
“ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย เธอก็รู้นี่ว่าเค้ายินดีที่จะทำ”
“ควินท์รักเธอนะ”
“มาแปลก” เพราะคบกันมานานคำหวานที่เคยพูดบ่อย ๆ ก็เริ่มลดลงแล้วแทนที่ด้วยการกระทำจะมีก็แต่นาน ๆ ครั้งที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเอ่ยมันออกมาเหมือนกับครั้งนี้
“ควินท์รักเธอมันแปลกตรงไหน”
“ไม่ใช่ แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงมาบอก”
“อาจเป็เพราะ…วันนี้อาการศดีมั้ง” ผมยิ้มก่อนจะจุมพิศลงบนอวัยวะเดียวกันอย่างแ่เบาแล้วจึงผละออก
“...”
“ควินท์อยากกอดเธอ อยากอยู่กับเธอไปจนแก่ มันอาจจะฟังดูเว่อร์ไปหน่อยแต่
ควินท์คิดภาพอนาคตที่ไม่มีเธอไม่ออกจริง ๆ นะ” ผมทิ้งตัวนอนลงข้าง ๆ กับคุณก่อนจะไล่สายตามองดาวประดับเรืองแสงที่พวกเราช่วยกันติดเมื่อคริสต์มาสปีก่อน
‘ทีนี้ก็ไม่ต้องบ่นว่ากรุงเทพไม่มีดาวแล้วนะ’
‘มันเหมือนกันที่ไหนเล่า!’
“ควินท์”
“ครับ”
“แต่งงานกันไหม?”
ผมหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างกายด้วยแววตาสั่นไหว–เราต่างเงียบทำเพียงแค่สบตากันจะมีก็แต่เสียงลมหายใจที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของสองเรา
“...”
“...”
พรึ่บ
คนตัวขาวลุกขึ้นนั่งก่อนจะคว้าห่อขนมปังที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟามาแกะเอาลวดที่ม้วนบริเวณปากถุงมาทำเป็แหวนเฉพาะกิจ
“เรามีสองคำตอบให้เธอเลือก ตกลงกับตกลงเท่านั้น” ผมหลุดขำเสียงดังลั่นจนคุณรู้สึกอับอายเลยงอนตุ้บป๋องเดินหนีไปนั่งในครัวไม่แม้แต่จะหันมามองผมที่นอนกุมท้องอยู่กลางห้องเลยด้วยซ้ำ
ไม่ได้หัวเราะเพราะมันตลก
แต่หัวเราะเพราะคุณแม่งน่ารัก
“ที่รักกก”
“...”
“พี่หยาขา”
“ออกไปเลย ไม่ต้องมาใกล้”
ผมเมินเฉยกับการผลักไสก่อนจะทิ้งกายคุกเข่าแล้วแย่งแหวนจากมือคุณมาถือเอาไว้แทน…ผมประทับรอยจูบลงบนฝ่ามือจากนั้นก็ประคองมือซ้ายขึ้นมาแล้วบรรจงสวมมันลงบนนิ้วนางอย่างทะนุถนอม
“แต่งครับ”
จุ๊บ
“ควินท์สัญญาจะเป็สามีที่ดี คนรักที่ดีและเป็คู่ชีวิตที่ดีของเธอตลอดไป”
“...”
“ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ” ผมเอ่ยถามพร้อมกับจดจ้องใบหน้าหวานของคุณเพื่อรอฟังคำตอบ
“ฮื่อ อย่ามองนะ”
“ทำไมครับ?”
“เค้า...เค้าเขิน”
โอ๊ยยยยแม่ง น่าเอ็นดูจังวะ
/
40 News
‘แชร์โมเม้นท์สุดน่ารักของแร็ปเปอร์ชื่อดังที่คุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงานด้วยลวดขนมปังสุดน่ารัก!’
เป็ที่ฮือฮาเมื่อแร็ปเปอร์หนุ่มที่ผู้คนต่างรู้จักกันดีในนามของ ‘ควินท์ฮิป’
โพสต์ภาพตัวเองและแฟนสาวนอกวงการพร้อมกับแคปชั่นสั้น ๆ ว่า แต่งครับ โดยมีเหล่าเพื่อนสนิทของเ้าตัวต่างคอมเมนท์แสดงความยินดีกันอย่างล้นหลาม
คอมเมนท์ยอดนิยม
Unknow แสดงความคิดเห็น : ยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ
Unknow แสดงความคิดเห็น : เขียนเพลงไปเปิดในงานแต่งเลยครับพี่ ( (ยุยง ๆๆ) )
Unknow แสดงความคิดเห็น : เอ็นดูแหวน
Quint hip แสดงความคิดเห็น : ขอบพระคุณทาง 40 News มาก ๆ เลยนะครับที่ให้เกียรติแฟนสาวของผม
40 News ตอบกลับความคิดเห็น : ยินดีค่า ทางแอดมินและแฟนคลับอีกหลาย ๆ ท่านรอผลงานเพลงใหม่อยู่นะคะ!
The end
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้