งานในครัวเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว นางจึงเข้าไปเตรียมที่หลับที่นอนของสามคืนนี้ เพราะเคยอยู่อย่างยากลำบาก แค่นอนในห้องเก็บฟืนนางจึงไม่รู้สึกว่าเดือดร้อนอะไรนัก นางเตรียมเสื่อให้ตัวเองและหยิบเชิงเทียนเข้าไปไว้ จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เดินเร็วๆ กลับไปที่ห้องของตนเอง หอบผ้าห่มกับหมอนและยังคล้องตะกร้าใส่อุปกรณ์เย็บปักด้วย จะว่าไปการไปนอนในห้องเก็บฟืนก็ดีไม่น้อย นั่นหมายถึงนางไม่ต้องอยู่รับใช้ท่านจอมมารที่ชอบเขมือบหญิงงามทุกคืน
ผู้ติดตามจางเย่วถิงเห็นร่างเล็กหอบของพะรุงพะรังก็เดินเข้าไปหาหมายจะช่วยเหลือ ระหว่างสามวันสามคืนที่ผู้เป็นายหญิงถอนพิษร้อยชายอยู่นั้น ผู้ติดตามทั้งสองไม่มีสิ่งใดต้องทำ และจำได้ว่าเด็กสาวคนนี้แม้มีฐานะเป็หญิงรับใช้อุปนิสัยเป็คนน่ารักไม่น้อย คอยดูแลความเป็อยู่ของผู้ติดตามอย่างดียิ่ง
“มิเป็ไรเ้าค่ะ” ซินหรานรีบปฏิเสธ “พวกท่านเป็แขก อย่าได้ลำบากเพราะบ่าวเลยเ้าค่ะ”
“เหตุใดเ้าต้องไปนอนที่อื่นเล่า”
“เื่นั้นบ่าวมิอาจรู้ได้ รู้แต่เป็คำสั่งของนายท่าน”
ผู้ติดตามสาวทั้งสองอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ปิดปากแล้วส่งยิ้มให้เด็กสาวแทน ซินหรานเห็นทั้งสองไม่ซักถามอะไรแล้วจึงรีบเดินเร็วๆ จากไป นางจึงไม่ได้ยินการสนทนาที่ดังคล้อยหลังนางแค่ไม่กี่ก้าว
“ที่แท้นางเป็คนโปรดของท่านจอมารเหิงหยางเซิง”
“ประมุขของเราก็ถูกใจนางไม่น้อย”
“หรือ้านาง?”
ผู้ติดตามทั้งสองมองหน้ากันแล้วลอบถอนหายใจ เป็ไปได้หรือนี่ ดอกไม้ขาวพิสุทธิ์กลับเบ่งบานในสถานที่ที่โสมมที่สุด
ซินหรานกินอาหารเย็นร่วมกันผู้อื่นแล้วจัดการช่วยเก็บล้างถ้วยชามคว่ำเป็ระเบียบเรียบร้อย แต่ละคนแยกกันไปพักผ่อน ส่วนนางเดินไปที่ห้องเก็บฟืนที่อยู่ด้านหลังครัว
“จุดเทียนก็ระวังด้วย เวลานอนอย่าลืมดับเทียนให้สนิท”
“เ้าค่ะ พ่อครัวเจี่ยน” นางส่งยิ้มทะเล้นให้ทำให้พ่อครัวเจี่ยนแสร้งขึงตาใส่ แต่นางไม่เคยรู้สึกกลัวเลยสักนิด
พ่อครัวเจี่ยนมองไปรอบๆ ยังดีที่ที่นี่เป็ห้องเก็บฟืน ต่อให้ฝนตกก็ยังไม่เปียกปอน อาจจะหนาวสักหน่อยแต่เห็นนางเอาผ้าห่มมาเพิ่มก็วางใจ อย่างไรเขาก็รู้สึกห่วงใยเ้าเด็กซุกซนคนนี้เหมือนเป็ลูกเป็หลาน เห็นนางมาั้แ่แปดขวบ ตอนนี้เป็หญิงสาววัยสิบหกแล้ว
“รีบนอนเสีย ยังมีงานให้ทำแต่เช้า”
“ข้าทราบแล้วเ้าค่ะ”
นางยังแย้มยิ้มราวกับโทษที่ได้รับครั้งนี้เป็ของขวัญมากกว่าโทษ เมื่อพ่อครัวใหญ่ออกไปแล้ว นางจึงปิดประตูแล้วจัดที่หลับที่นอนให้เรียบร้อยก่อนจะนั่งบนเสื่อ หยิบเอาผ้าออกมาตัดเป็รูปฝ่ามือของ อู่เฉียง มือของเขาทั้งหยาบกระด้างและมีรอยแผลเป็ ยามหิมะโปรยปรายเขาต้องเ็ปจนเข้ากระดูกเป็แน่ นางตัดผ้าเสร็จแล้วกำลังจะร้อยด้ายกับเข็มเพื่อเนาผ้าสองชิ้นนี้เสียก่อน แต่เปลวเทียนในห้องวูบไหว มือเล็กจึงชะงักไปและเพียงครู่หนึ่ง ฝนก็เทลงมา
นางนั่งบนเสื่อ กระเถิบตัวเองไปชิดผนังด้านหนึ่ง อีกด้านคือท่อนไม้ขนาดต่างๆ ที่เรียงอย่างเป็ระเบียบเพื่อสะดวกในการนำมาใช้งาน แน่นอนว่าเป็คำสั่งของพ่อครัวเจี่ยน นางไม่ใช่คนกลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า อยู่ในพรรคเพลิงอัคนีมาแปดปี ได้ยินเสียงก้องกัมปนาทกว่าเสียงฟ้าผ่ามาแล้ว แต่อากาศรอบกายที่เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นางต้องคว้าผ้ามาห่มกายทั้งที่ยังนั่งเย็บผ้าอยู่ ทว่าแรงลมที่รอดผ่านเข้ามาทำให้แสงเทียนวูบไหวทำให้นางไม่อาจเย็บผ้าได้ เกรงว่าถุงมือของอู่เฉียงจะนิ้วไม่ครบนางจึงต้องหยุดเย็บผ้าเก็บใส่ตะกร้าตามเดิม
เสียงฟ้าร้องลั่นคำรามดังมาจากทางหุบเขาทำให้นางสะดุ้ง ลมวูบหนึ่งพัดเข้ามาจนเปลวเทียนดับลง ร่างเล็กขดตัวกอดเข่า พยายามสงบใจไม่คิดถึงเื่ที่น่ากลัว ป่านนี้อู่เฉียงคงออกไปพ้นเกาะแล้ว อาจจะขึ้นฝั่งไปแล้วก็ได้ เด็กๆ ที่หุบเขาจะเป็อย่างไรนะ เด็กที่ถูกเลี้ยงถูกฝึกฝนให้เป็นักฆ่า หญิงสาวถอนหายใจบางเบา นางโชคดีแล้วที่ไม่ถูกส่งไปฝึกที่หุบเขานั้น มือเรียวดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกายจนมิดลำคอ นางเอนตัวลงนอนฟังเสียงฝนที่กระหน่ำลงอย่างหนัก ฟังเสียงฝนจนผล็อยหลับไปในที่สุด
หญิงสาวหลับไปนานเพียงใดไม่รู้ เลยกลางดึกไปแล้ว บานประตูเปิดออกพร้อมเงาร่างในชุดดำก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบและลมฝนที่แทรกตัวเข้ามา ร่างเล็กััไอเย็นจึงขยับตัวกระชับผ้าห่มโดยไม่รู้สึกตัว ทว่าในชั่วลมหายใจต่อมารับรู้ถึงไออุ่นที่แผ่กระจายอยู่ในห้อง
ปลายนิ้วเย็นเฉียบดุจน้ำแข็งยื่นไปแตะผิวแก้มของหญิงสาวอย่างเบามือ แม้ร่างกายมีไอร้อนแต่ผิวกายเยียบเย็นดุจแผ่นน้ำแข็งในฤดูหนาว ปลายจมูกของนางขยับกระดุกกระดิกเห็นแล้วนึกถึงลูกแมวตัวเล็ก นางยกมือปัดสิ่งเย็นๆ ที่มาแตะแก้มของตนด้วยนึกไปว่าเป็หยดน้ำ รุ่งเช้านางจะรายงานพ่อบ้านจูโหย่งเจาให้คนมาซ่อมหลังคาห้องเก็บฟืน
เสียงหัวเราะบางเบาที่ไม่มีใครเคยได้ยินดังขึ้นในห้องเก็บฟืน ร่างสูงใหญ่โน้มหน้าลงประทับริมฝีปากของตนกับแก้มอิ่มของหญิงสาว สูดดมกลิ่นนางเข้าไว้เต็มปอด ให้ร่างกายได้ดูดซับกลิ่นนางจนรู้สึกได้ว่านางอยู่ในกายของเขาแล้วจึงได้ผละถอยออกมาอย่างช้าๆ ก้าวออกไปอย่างไร้ร่องรอย
หญิงสาวในชุดสีแดงเืนกยืนกอดอกมองบุรุษในชุดดำที่ก้าวออกมาจากห้องเก็บฟืน ใบหน้างามกระตุกยิ้ม เป็อย่างที่นางคาดเดาไม่ผิด หากซินหรานเป็เพียงหญิงรับใช้ เหตุใดจอมมารประมุขพรรคเพลิงอัคนีถึงต้องลดตัวลงมาหานางที่ห้องเก็บฟืนด้วยเล่า
“ข้านึกว่าเ้าหมดสิ้นเรี่ยวแรงหลับไปแล้ว” เหิงหยางเซิงรู้ว่า จางเย่วถิงยืนอยู่ไม่ไกลนัก เขาเดินเข้าไปใกล้ แววตาเปิดเผยความไม่พอใจที่เห็นนางมาอยู่ที่นี่
“ก็เพราะเ้าช่วยขับพิษให้ข้า กำลังวังชาของข้าจึงฟื้นตัวเร็วเช่นนี้” จางเย่วถิงหัวเราะร่วน ไม่สนใจน้ำฝนที่สาดกระทบร่างนางจนเสื้อผ้าแนบเนื้อรัดเรือนร่างเผยสัดสวนอันเย้ายวน
“ปกติข้าไม่ชอบกินของเดิมซ้ำ หากเ้าถูกใจคนในพรรคเพลิงอัคนีก็ชี้นิ้วสั่งเอาได้”
“เช่นนั้นข้าก็เอานางไปได้ใช่หรือไม่”
