จี้หนิงตกตะลึง
ทำไมเธอต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย!
เนื่องจากคนรอบๆ ตัวเธอเริ่มเต้นกันแล้ว เจียงซืออวี่กับคนอื่นๆ เองก็ลุกขึ้นยืนด้วยเช่นกัน ตัวของจี้หนิงที่ตอบสนองไวกว่าหัวของเธอก็เริ่มบิดตัวไปตามเสียงเพลงแล้ว
โชคดีที่จี้หนิงเคยเป็สมาชิกชมรมเต้นในมหาวิทยาลัยมาก่อน การเต้นจึงไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหร้บเธอหรือตื่นเวทีแต่อย่างใด
ส่วนเจียงซืออวี่ก็มาเต้นอยู่ข้างๆ และชนเธอเป็ครั้งคราว ทำให้เป็การจุดไฟต่อสู้ในตัวจี้หนิงให้ลุกโชนขึ้นมา ด้วยความชำนาญในการโยกย้ายส่ายสะโพกบวกกับส่วนเว้าโค้งของบั้นท้ายที่น่าภาคภูมิใจของเธอก็ เธอตกเป็ที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชายหลายคน
ในขณะหมุนตัวเต้นไปรอบๆ จี้หนิงพบว่าสาวเศรษฐีสง่างามที่อยู่ข้างๆ นายน้อยฮุยหายตัวไปแล้ว นายน้อยฮุย...ก็ถือโอกาสนี้เดินไปหาสาวงามร่างบอบบางที่อยู่ตรงมุมห้องคนนั้น!
จี้หนิงตกตะลึง แต่เธอไม่สามารถมองค้างอยู่ในทิศทางนั้นได้นานเกินไป จึงได้แต่หันหน้ากลับมาและหันไปมองสิงเยี่ยต่อ
จี้หนิงระงับความตื่นเต้นจากการพบเบาะแสใหม่ของเธอในใจ
เธอก็ตั้งสมาธิมองไปยังสิงเยี่ยขณะกำลังเต้นอยู่พักหนึ่ง แม้เธอจะยังใจเย็นอยู่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกระวนกระวายใจขึ้นมา
ผู้ชายคนนี้ดูหล่อจากระยะไกลมากกว่าระยะใกล้เสียอีก
ด้วยโครงร่างอันยอดเยี่ยมและรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ ท่ามกลางหมู่มวลผู้ชายคนอื่นกลายเป็ฉากหลังทันที เขาเป็เหมือนกับนายแบบที่นั่งอยู่ในรายการโชว์
เมื่อรวมกับใบหน้าอันเ็าภายใต้แสงไฟกะพริบที่ชวนให้เคลิบเคลิ้มแล้ว ยิ่งทำให้มีมิติมากขึ้นไปอีกและยังรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
คิ้วและดวงตาที่ดูลึกลับของสิงเยี่ยจับจ้องมาที่เธอราวกับมีตัวตนเข้ามาลูบไล้ร่างกายของเธอ ทำให้จี้หนิงต้องสูดหายใจสั้นๆ โดยไม่รู้ตัว พลางนึกถึงฉากเซ็กส์อันเร่าร้อนก่อนหน้านี้
เมื่อเห็นมืออันเรียวงามของสิงเยี่ยที่วางอยู่บนหัวเข่า จี้หนิงก็นึกถึงตัวเองตอนตัวสั่นระริกขึ้นมาเมื่อมือนั้นจับและนวดหน้าอกอันขาวเนียน รวมถึงคลื่นความร้อนที่เกิดจากการนวดอันเหนียวเหนอะใต้กางเกงในของเธอ
เมื่อคิดถึงเื่นี้ขึ้นมาใบหน้าของจี้หนิงก็เปลี่ยนเป็สีแดงทันที ่ล่างเกิดอาการไม่ค่อยดีอย่างสุดๆ
ในเวลานี้สาวๆ รอบตัวเธอออกมาเต้นอยู่ข้างหน้าผู้ชายและโยกย้ายส่ายสะโพกแบบตัวต่อตัว พวกเธอยั่วยวนเหล่าผู้ชายจนแทบอดใจเอาไว้ไม่อยู่
เมื่อมองย้อนกลับไป จี้หนิงก็เห็นสิงเยี่ยกำลังกวักนิ้วเรียกเธออยู่
เธอหนีบขาตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปหาเขา
ขณะที่ดนตรียังไม่หยุด การเต้นก็ยังหยุดไม่ได้เช่นกัน จี้หนิงถูกบังคับให้ต้องมายืนอยู่ตรงหน้าสิงเยี่ยและบิดเอวส่ายสะโพก เพื่ออวดเรือนร่างอันอรชรของเธอ
สิงเยี่ยกำลังนั่ง ส่วนเธอกำลังยืน แต่จี้หนิงกลับรู้สึกราวกับว่าตัวเธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าอยู่ ทั้งยังไร้ซึ่งความเป็ส่วนตัวหรือศักดิ์ศรี
แต่ความรู้สึกน่าอับอายนี้กลับดูเหมือนเป็ยาปลุกกำหนัด ก่อให้เกิดความหื่นกระหายในตัวเธอ บังคับให้มีอาการเสียวกระสันกระตือรือร้นที่จะถูกย่ำยีและถูกร่างกาย
จี้หนิงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมน้ำและขาดออกซิเจนขึ้นมา ทำให้เธอต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ด้วยการหายใจเข้าลึกๆ นี้ทำให้หน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลง ซึ่งดึงดูดใจเกินกว่าจะเพิกเฉยได้
ดวงตาของสิงเยี่ยเริ่มมืดดำขึ้นมา ความ้าของเขากลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
ทันทีที่ดนตรีหยุดลงขาของจี้หนิงก็อ่อนแรงจนเธอแทบจะยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ สิงเยี่ยเอื้อมมือไปดึงตัวเธอไว้ ทำให้ตัวเธอเซถลาและล้มลงไปในอ้อมแขนของเขา
คางของจี้หนิงชนกับหน้าผากของสิงเยี่ย หน้าอกอันอ่อนนุ่มของเธอก็ชนเข้ากับคางของเขา
สิงเยี่ยกอดบั้นท้ายของเธอเพื่อพยุงเธอขึ้นมา ก่อนยิ้มและพูดเสียงเบาว่า “รีบขนาดนั้นเลยเหรอ?”
จี้หนิงเขินอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
เธอจับไหล่ของสิงเยี่ยและประคองตัวเองขึ้นมานั่งหันข้างอยู่บนตักของเขา แต่สิงเยี่ยกลับแยกขาของเธอออกและให้นั่งในท่านั่งคร่อมแทน
เมื่ออยู่ในท่านั่งคร่อม จี้หนิงรู้สึกว่าตรงนั้นของเธอแยกออกจากกันทั้งสองด้าน ความรู้สึกไม่ค่อยดีอย่างเห็นได้ชัดทำให้เธอยากที่จะเพิกเฉยต่อความเหนียวเหนอะจาก่ล่างของเธอ ในขณะเดียวกันเธอรู้สึกอ้างว้างและโหยหามากขึ้น
ในเวลานี้ผู้ที่รับผิดชอบด้านแสงไฟก็ค่อยๆ หรี่ไฟลงไปหลายดวงอย่าง ‘รู้งาน’ ทำให้ห้องนั้นมืดสลัวลง
เสียงครวญครางและเสียงหายใจดังขึ้นจากรอบด้าน บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นที่บอกไม่ถูก
จี้หนิงลดเอวของเธอโดยไม่รู้ตัวและขยับเข้าใกล้สิงเยี่ย
อย่างไรก็ตาม สิงเยี่ยเองถูกเธอยั่วยวนเสียจนเขาหมดความอดทนไปนานแล้ว แทบจะวินาทีต่อมาหลังจากแสงไฟสลัวลง เขาสอดนิ้วหัวแม่มือทั้งสองเข้ามาที่สายคล้องคอเสื้อว่ายน้ำของจี้หนิง แล้วถอดสิ่งที่พันธนาการเอาไว้ออกมา
เ้ากระต่ายกลมๆ สีขาวราวหิมะคู่หนึ่งสะบัดไปมา
ทันใดนั้นสิงเยี่ยก็จับเนื้อนุ่มๆ คู่นั้นด้วยมือทั้งสองข้างและนวดมันอย่างเมามัน พลางถอนหายใจออกมาอย่างพึงพอใจ
อย่างไรก็ตามนี่มันยังไม่เพียงพอ
จี้หนิงมองลงมาพร้อมแก้มแดงระเรื่อ ท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิดนี้เธอมองเห็นเรือนร่างของชายตรงหน้าได้แค่รางๆ เหมือนมองเห็นเป็แค่เงาตะคุ่มๆ เท่านั้น
หลังจากเขาััหน้าอกของเธออย่างพอใจแล้ว เขาก็โน้มตัวมาข้างหน้าและดูดยอดอกนุ่มของเธอ แล้วใช้ลิ้นเลียกลับไปกลับมาบนหน้าอกที่อ่อนไหวของเธออย่างรวดเร็ว
ด้วยการกระตุ้นอย่างถึงขีดสุดนี้ ความเสียวซ่านพุ่งไปถึงกระดูกก้นกบของเธอ แม้จะมีผู้คนอยู่รอบๆ แต่จี้หนิงก็อดไม่ได้ที่จะกอดหัวของสิงเยี่ยอย่างดุเดือดและร้องครวญคราง “อื๊ออ๊า...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้