หลินฟางเฉาเดินตามทางไปเรื่อยๆ
ระหว่างที่ใกล้จะถึงตลาด เธอเริ่มสังเกตเห็นว่าผู้คนที่เดินสวนไปมามีจำนวนมากกว่าที่ผ่านมา ถนนสายเล็กๆนี้เป็เส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังแหล่งชุมชนหลักของเมือง
ตลาดสดที่เธอมุ่งหน้าไปนั้นตั้งอยู่ห่างจากบ้านของหลินเหมยเพียงสองซอย เป็ตลาดที่ใกล้ที่สุดและถือเป็ศูนย์กลางการจับจ่ายใช้สอยในย่านนี้ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ตลาดใหญ่หากเทียบกับที่อื่น แต่มันก็มีความคึกคักและมีชีวิตชีวาในแบบของมันเอง อีกทั้งยังสะดวกต่อการเดินทางเพราะอยู่ใกล้บ้าน
เธอเลือกที่จะเริ่มจากที่นี่เพราะคิดว่าหากมีโอกาสได้งาน ตลาดใกล้บ้านน่าจะทำให้เธอจัดการกับเวลาช่วยทำงานบ้านและดูแลน้องชายได้ง่ายกว่า
...หากว่าเธอสามารถหางานได้จริงๆ
เมื่อเธอเดินเข้าสู่เขตตลาด ฟางเฉาก็พบว่าที่นี่ค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้าเล็กๆ 10-20 ร้านที่เรียงรายอยู่รอบๆ ส่วนบริเวณกลางตลาดเต็มไปด้วยแผงลอยที่เปิดชั่วคราว บางแผงเป็เพียงโต๊ะไม้เก่าๆ ที่ปูด้วยผ้าใบเพื่อวางสินค้า ในขณะที่บางแผงดูมั่นคงกว่าด้วยหลังคาเต็นท์ผ้าใบ
ฟางเฉาหยุดยืนอยู่ครู่หนึ่งเพื่อสำรวจภาพรวม ก่อนจะเริ่มเดินเข้าไปยังร้านแรกที่เธอสังเกตเห็นว่ามีเ้าของร้านเป็ผู้หญิงวัยกลางคนที่ดูคุยง่าย
ร้านนี้เป็ร้านขายผักสดที่ตั้งอยู่ตรงมุมตลาด เถ้าแก่หญิงเ้าของร้านกำลังจัดเรียงผักหลังจากส่งลูกค้ากลุ่มหนึ่งออกไป
“เถ้าแก่เนี้ย” ฟางเฉากล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงเป็มิตรและถ่อมตัว “ไม่ทราบว่าที่ร้านอยากจะรับคนช่วยงานบ้างหรือเปล่าคะ?”
หญิงเ้าของร้านหยุดมือ มองฟางเฉาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า “ไม่รับหรอก ร้านนี้ลำพังแค่ฉันกับสามีก็พอแล้ว”
ฟางเฉารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธอกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ แต่ก่อนจะเดินจากไป เธอกลับหยิบผักที่วางอยู่ ขยับจัดเรียงให้เล็กน้อยด้วยความคล่องแคล่ว การกระทำของเธอทำให้ผักที่วางอยู่ดูเรียบร้อยและน่ามองยิ่งขึ้น
เ้าของร้านคิดว่าเธอจะซื้อในตอนแรก แต่เมื่อเห็นการกระทำนั้น เธอก็ได้อุทานในใจว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ช่างมีไหวพริบเสียจริง พอผักของเธอวางในรูปแบบนี้ก็เผยส่วนที่สดและชุ่มฉ่ำอย่างเต็มที่ ดูดีขึ้นมากจริงๆ
ดวงตาของหญิงวัยกลางคนเป็ประกาย หากไม่ใช่เพราะตนเองกับตาเฒ่าในครอบครัวทำงานกันเองไหวและไม่อยากเสียค่าแรงให้คนงาน เธอก็อยากจ้างเด็กผู้หญิงตรงหน้าจริงๆ
ดูมือที่ว่องไวนั่นสิ หายากนักที่จะเจอคนทำงานเก่งแบบนี้!
ความชื่นชมที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกอยากพูดคุยและแนะนำอะไรบางอย่างให้แม่หนูคนนี้ เผื่อว่าจะช่วยให้เธอมีโอกาสมากขึ้น
ฟางเฉาสังเกตเห็นความรู้สึกดีนี้โดยธรรมชาติ “เถ้าแก่เนี้ย หนูเพิ่งมาจากชนบทเมื่อวานนี้ ครอบครัวค่อนข้างลำบากและจำเป็ต้องรีบหางานทำ ถ้าเถ้าแก่เนี้ยพอรู้ว่าที่ไหนกำลัง้าคนช่วยงานบ้าง หนูจะขอบคุณมากเลยค่ะ” ฟางเฉาพูดพลางจัดการเรียงผักให้เสร็จเรียบร้อย
เ้าของร้านชะงักไปชั่วครู่ พลางมองสำรวจเด็กสาว แม้เสื้อผ้าที่ใส่จะสะอาดสะอ้านแต่ก็ดูเก่า ดูออกมาว่ามีชีวิตที่ลำบาก เสื้อผ้าปุปะแบบนี้ คาดว่าน่าจะเพิ่งมาจากบ้านนอกจริงๆ เธอจึงพยักหน้าเล็กน้อย
“ถ้าเธอมีความจำเป็จริงๆก็ลองไปดูที่ร้านผลไม้ท้ายตลาดสิ ตรงนั้น” หญิงเ้าของร้านกล่าวพร้อมกับชี้ไปยังปลายตลาด “เ้าของร้านนั้นเคยบอกว่าอยากหาคนช่วยงาน แต่คงไม่อยากจ่ายค่าจ้างแพง ก็เลยไม่ได้ประกาศหาคนเสียที ลองไปถามดูเถอะ” เดิมทีร้านค้าแถวนี้ไม่ได้เป็ร้านใหญ่ งานไม่ได้หนักมากขนาดนั้น คนแก่ขี้เหนียวบางคนจึงยอมทำงานด้วยตัวเองมากกว่าจะหาแรงงานมาช่วย
ฟางเฉาได้ยินความหมายของเธอแล้วก็พยักหน้าขอบคุณด้วยความจริงใจ “ขอบคุณมากค่ะ คุณป้า”
ก่อนจะจากไป ฟางเฉาได้ให้คำแนะนำอีกสองสามคำกับเถ้าแก่เนี้ยเกี่ยวกับการจัดวางของขาย จนหญิงวัยกลางคนมีรอยยิ้มพึงพอใจขณะที่มองดูเธอ
เดินต่อไปจนเกือบถึงท้ายตลาด ฟางเฉาก็เห็นร้านผลไม้ร้านสุดท้ายตรงด้านข้าง คาดว่าน่าจะเป็ร้านที่ถูกพูดถึง
ชายวัยห้าสิบกว่าๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็เ้าของร้าน กำลังนอนเอนหลังบนเก้าอี้ไม้โยก เขาถือพัดไม้ใบเล็กๆ โบกไปมาเพื่อคลายร้อนอยู่ในร่มชายคา
ฟางเฉาเดินเข้าไปใกล้ช้าๆ ก่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ “สวัสดีค่ะคุณลุง ฉันได้ยินจากเถ้าแก่เนี้ยร้านขายผักแนะนำมาว่าที่นี่กำลังหาคนช่วยงานอยู่ ก็เลยมาลองถามดูค่ะ...”
ชายเ้าของร้านชะงักและมองหลินฟางเฉาด้วยความสงสัย “เถ้าแก่เนี้ยร้านขายผัก...ชุนหงน่ะเหรอ?” เขาถามพลางโบกพัดของตัวเองอย่างช้าๆ
“ใช่ค่ะ” ฟางเฉาตอบพลางพยักหน้า
ชายเ้าของร้านเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ร้านฉัน้าคนที่ทำงานหลายอย่างได้ เด็กอย่างเธอจะทำงานหนักไหวเหรอ?”
ฟางเฉารีบบอก “ฉันเคยช่วยงานในบ้านมาตลอด ฉันสามารถทำงานหนักได้ทุกอย่างเลยจริงๆ” จากนั้นก็พูดเสริม “อีกอย่าง ฉันรู้ว่าฉันยังเด็กและผอมเกินไป คงไม่คุ้มกับค่าจ้างเหมือนคนงานประจำ แต่ฉัน้าแค่งานชั่วคราวแบบเร่งด่วนที่จ่ายเงินรายวันได้ ฉันขอค่าจ้างวันละ 1.5 หยวนก็พอแล้ว”
ดวงตาของชายคนนั้นเป็ประกายขึ้นทันที ค่าแรงปกติของคนงานในตลาดอยู่ที่ 1-3 หยวนต่อวัน 3 หยวนนั้นสำหรับงานยกของหนักที่ต้องใช้แรงผู้ชาย แต่ค่าแรงงานผู้หญิงก็ยังอยู่ที่ 1.8-2.5 หยวน แล้ว ดังนั้น 1.5 หยวนก็ยังถูกกว่าปกติมาหลายเหมา
แต่กระนั้น เมื่อมองแขนขาที่ผอมบางของฟางเฉา เขาก็ยังคงลังเล “แล้วถ้าฉันจ้างแล้วเธอทำไม่ไหวล่ะ?”
ฟางเฉากล่าว “คุณลุงไม่ต้องกังวลค่ะ ฉันพร้อมเริ่มงานตอนนี้เลย คุณดูฉันทำงานได้ ถ้าฉันทำไม่ดีพอ คุณลุงไม่ต้องจ้าง ไม่ต้องจ่ายเงินก็ได้ค่ะ”
คำพูดที่ตรงไปตรงมาและมีไหวพริบนี้ทำให้ชายเ้าของร้านพยักหน้าช้าๆอย่างพอใจ “เอาเถอะ ลองดูก็ได้ ถ้าเธอทำได้ดี ฉันจะคิดเื่จ้างต่อ”
ฟางเฉายิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ขอบคุณค่ะเถ้าแก่!”
ทันทีที่ได้รับโอกาส เธอเริ่มต้นทำงานทันที เ้าของร้านสั่งให้เธอช่วยยกลังผลไม้จากรถเข็นมาวางเรียงบนแผงขาย ฟางเฉาลงมืออย่างไม่รีรอ แม้ว่าลังผลไม้จะค่อนข้างหนัก แต่เธอก็ยกไปโดยไม่บ่น
ชายเ้าของร้านมองตามด้วยความประหลาดใจ แม้ร่างกายของฟางเฉาจะดูบอบบาง แต่เธอกลับทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หลังจากยกลังผลไม้เสร็จ เธอยังช่วยจัดเรียงผลไม้ให้น่าซื้ออีกด้วย
ไม่กี่ชั่วโมงก็เป็เวลาเที่ยง เถ้าแก่ร้านเดินไปร้านใกล้ๆ ไม่นานก็กลับมาพร้อมชามก๋วยเตี๋ยวและเข่งซาลาปา “เมียฉันไม่อยู่บ้านหลายวัน ่นี้พวกเราต้องกินข้าวข้างนอก” เขาพูดพลางยื่นซาลเปาขนาดเท่าฝ่ามือให้เด็กสาว 3 ลูก “ร้านมีแค่อาหารเที่ยงให้ ตอนเย็นเธอต้องจัดการเองนะ”
“ขอบคุณค่ะ” ฟางเฉากล่าวและรับซาลาเปามาอย่างดีใจ
เดิมทีเธอยังคิดว่าอาจจะต้องกลับไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านอาหญิง เพราะตนเองก็ไม่คิดว่าจะได้งานเร็วขนาดนี้ แม้ว่าค่าจ้างจะน้อยไปบ้างก็ตาม
ฟางเฉานั่งอยู่ในมุมหนึ่ง กินซาลาเปาลูกใหญ่สองลูกอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็เพียงซาลาเปาไส้ผักที่ธรรมดาที่สุด แต่มันก็ทำให้ร่างกายอิ่มท้องมากกว่า่เวลาที่อยู่บ้านย่า
ในมือของเธอยังมีซาลาเปาอุ่นๆอยู่ ในใจคิดอยากจะเก็บไปกินหลังเลิกงาน น่าเสียดายก็แต่แป้งอาจจะเย็นชืดจนแข็งไปหมดเมื่อถึงเวลา
แต่เมื่อคิดว่าจะเก็บมันไว้ ซาลาเปาที่เดิมอยู่ในมือก็หายไปทันที
เด็กสาวพลันตกตะลึง
จากนั้นเธอก็หันมองรอบๆและพบว่าไม่มีใครที่กำลังมองมา ส่วนเถ้าแก่ก็ยังก้มหน้ากินก๋วยเตี๋ยวในชามอยู่
มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอคิดได้เมื่อสิ่งของหายไปกลางคัน นั่นก็คือพื้นที่โกดังของเธอเอง
เธอซุกตัวอยู่ตรงมุมโดยปิดบังสายตาจากคนอื่น แล้วลองคิดถึงซาลาเปาที่เพิ่งหายไปเมื่อครู่ จากนั้นก็พบว่ามันปรากฏอกมาอีกครั้งตามที่เธอคิด
ฟางเฉาพลันยิ้ม จากนั้นก็เก็บสิ่งของไว้ในโกดังมิติดังเดิม
่บ่าย เด็กสาวต้องจดจำราคาผลไม้และขายของให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้ออยู่เรื่อยๆ พอมีเวลาสักหน่อยก็ต้องเพิ่มของและทำความสะอาดร้านบางส่วนโดยแทบจะไม่มีว่างเลย
แม้ว่าเธอจะยุ่งอยู่ตลอด แต่ก็ทำให้เ้าของร้านพอใจมาก ความขยันและคล่องแคล่วที่แสดงออกมาตลอดทั้งวันทำให้เขาตัดสินใจจ้างเธอ
“วันนี้เธอเริ่มงานช้า ดังนั้นฉันจะจ่ายให้ 1.2 หยวนก่อน” เถ้าแก่เถียนว่า
หลินฟางเฉาพยักหน้า “ฉันเข้าใจค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะมาตรงเวลาแน่นอน”
ชายวัยกลางคนจ่ายเงินตามที่พูด จากนั้นยังมอบผลไม้ให้หนึ่งถุงใหญ่ “พวกนี้เป็ของมีตำหนิ บางลูกก็ช้ำ มีแมลงเจาะ ลูกค้าไม่มีใครอยากได้ ถ้าเธอ้าก็เอากลับไปได้ คัดดูดี ๆ หน่อยก็พอกินได้อยู่”
“ขอบคุณค่ะเถ้าแก่” ฟางเฉารับมาอย่างร่าเริง
แม้จะเป็ของที่ไม่มีใคร้า แต่บางส่วนก็ยังมีประโยชน์ สำหรับเธอแล้ว ในยุคที่เศรษฐกิจเพิ่งเริ่มดีขึ้นแบบนี้ ยังมีน้อยคนที่เต็มใจซื้อผลไม้มากิน อย่างน้อยผลไม้ในถุงนี้ หากคัดดูดี ๆ ก็น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1 หยวนเลยทีเดียว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้