องค์หญิงหวายหนิงชำเลืองตามองกูเฟยเยี่ยนเพียงปราดเดียว นางโกรธจนร่างทั้งร่างเกิดความไม่สบาย หญิงสาวยืนกระทืบเท้าอยู่ที่เดิม ไม่เต็มใจที่จะหลีกถอยให้สักนิด
ผ่านไปไม่นานหม่านกงกงก็โน้มกายแสดงความเคารพอีกครั้งพลางยิ้มบางๆ ส่งไปทางองค์หญิงแสดงถึงการเร่งรัด ส่วนเตี้ยนเซี่ยที่ประทับอยู่ภายในเกี้ยวพระที่นั่งนั้นไร้ซึ่งคำพูดั้แ่ต้นจนจบ
องค์หญิงหวายหนิงทราบดีว่าจิ้งหวางจะไม่เปล่งเสียงอันใดออกมาอีก และหากนางไม่ถอย ในท้ายที่สุดแล้วก็จะเป็นางที่เกิดความอึดอัดอับอายขึ้นมาเสียเอง นางจ้องตาเขียวปัดไปยังกูเฟยเยี่ยน ก่อนที่จะก้าวขึ้นไปยังรถม้าแล้วรับสั่งอย่างไม่เต็มพระทัย “ทหาร ถอยหลัง หลบทางให้ท่านพี่จิ้งหวาง!”
ในยามนั้นคนขับรถม้าและหญิงรับใช้ล้วนไม่กล้าที่จะโอ้เอ้เสียเวลาอีก คนหนึ่งผลักดันม้า อีกคนหนึ่งช่วยผลักดันรถ ทันทีที่รถม้าหลีกถอยออกไป หม่านกงกงก็ะโร้องให้หามเกี้ยวพระที่นั่งเพื่อเดินหน้าต่อทันที
รถม้าหลีกถอย เกี้ยวพระที่นั่งเดินต่อ องค์หญิงหวายหนิงก็ยังไม่เลิกที่จะจ้องมองไปยังกูเฟยเยี่ยน กูเฟยเยี่ยนขยับถอยสองก้าว สายพระเนตรขององค์หญิงหวายหนิงจึงถูกเกี้ยวพระที่นั่งของจิ้งหวางบดบังเสียสนิท
มีเพียง์ที่ทราบดีว่าสีพระพักตร์ขององค์หญิงหวายหนิงย่ำแย่สักเพียงใด? กูเฟยเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ในขณะที่นางกำลังจะเดินหนี ทว่าสุดท้ายกลับหยุดชะงัก ก่อนจะหมุดกายหันไปยังเื้ัของรถม้าแล้วโค้งกายขอบคุณอย่างตั้งใจและจะจากไป
แม้ว่าจะเป็เพียงเหตุบังเอิญ ทว่าอย่างไรก็ตามจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็ได้ช่วยชีวิตของนางเอาไว้ แม้ว่านางจะมองไม่เห็นรูปโฉมที่แท้จริงของหวางเย่ผู้ที่เป็ราวกับตำนาน ทว่าบุญคุณในครั้งนี้ นางจะจดจำเอาไว้แน่นอน
บนโลกใบนี้จะมีเหตุบังเอิญมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร!
ในยามนั้น จวินจิ่วเฉินที่ประทับอยู่บนเกี้ยวพระที่นั่งได้เลิกผ้าม่านมุมหนึ่งด้านหลังขึ้นมาสักพักแล้ว พระองค์ทรงทอดพระเนตรไปยังเงาร่างด้านหลังของกูเฟยเยี่ยนที่อยู่ไกลออกไป แววตาซ่อนเร้นส่อประกายความสนุกสนานที่ไม่เคยมีต่อสตรีผู้ใดมาก่อน ทว่าก็เป็เพียงการเล่นสนุกเท่านั้น
ใน่ระยะเวลาสั้นๆ ห้ามเกิดเื่ใดต่อหญิงสาวผู้นี้เป็อันขาด หลังจากที่เฉิงอี้เฟยหายดีจักต้องนำใบสั่งยามาตรวจสอบอย่างแน่นอน เขาค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นนักว่าเฉิงอี้เฟยจะสามารถงัดแงะข้อมูลอันใดออกมาจากปากของนางได้บ้าง
กูเฟยเยี่ยนใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดหลบหนีออกมาจากตรอกและจงใจอ้อมไกลไปยังเส้นทางที่อีกสายหนึ่งเพื่อกลับไปยังห้องยาสำนักหมอหลวง เมื่อไปถึงห้องนำส่งเพื่อรายงานผล ดวงจันทร์ก็ได้โผล่พ้นออกมาจากขอบฟ้าแล้ว นางสามารถเรียกได้ว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาด
นางคาดเดาเอาไว้ว่าผู้ที่ชื่นชอบเฉิงอี้เฟยได้มาสร้างความยุ่งยากน่ารำคาญแก่นางแล้ว ผู้ที่ชื่นชอบฉีอวี้ ก็ได้มาสร้างความยุ่งยากน่ารำคาญแก่นางแล้วเช่นกัน ดังนั้นในระยะเวลาชั่วคราวนี้ก็ควรจะไม่มีผู้ใดมาหานางเพื่อก่อปัญหาอีกแล้วถูกหรือไม่? นางสามารถถอนหายใจได้แล้วใช่หรือไม่?
ทว่าอย่างไรก็ตาม!
ในราตรีนั้น ฉีอวี้ตัวการที่ก่อให้เกิดปัญหาความยุ่งยากพวกนี้ก็ได้มาเยือนถึงหน้าประตู!
กูเฟยเยี่ยนนอนหลับสบาย หลี่โมโมะ [1] ที่เป็ผู้ดูแลกลับมาเคาะประตูเพื่อแจ้งว่าคนจากตระกูลกูได้มารออยู่หน้าประตูพระราชวังแล้ว เนื่องจากในตระกูลเกิดเื่ราวฉุกเฉินใหญ่โต หลี่โมโมะขอให้นางไปลางานแล้วกลับจวนตนเองทันที!
แพทย์หญิงต้องปฏิบัติหน้าที่สิบวัน พักผ่อนหนึ่งวัน เช้าสายบ่าย สามเวลาทำงาน งานเวลาส่วนใหญ่ล้วนอยู่ภายในพระราชวัง โดยพื้นฐานแล้วไม่อนุญาตให้ขอลางานออกนอกพระราชวังได้ ตามกฎระเบียบแล้วโมโมะผู้ดูแลจะปฏิเสธคนจากตระกูลกูทันทีนอกเสียจากว่าจะได้รับการติดสินบน
บิดามารดาของกูเฟยเยี่ยนจากไปนานแล้ว หลังจากที่ท่านปู่จากไปหัวหน้าครอบครัวผลัดเปลี่ยนเป็ท่านอารองกูเอ้อร์เย่ กูเอ้อร์เย่คือบุรุษจอมปลอมและขี้เหนียว! กูเฟยเยี่ยนเกิดความรู้สึกงงงวย ตระกูลกูเกิดเหตุใหญ่เหตุใดขึ้นกันแน่ถึงกับสามารถทำให้กูเอ้อร์เย่ใช้เงินมหาศาลในการพานางออกจากพระราชวังกลางดึกกลางดื่นเช่นนี้?
หลี่โมโมะเร่งอย่างกดดัน กูเฟยเยี่ยนไม่มีเวลาแม้แต่จะหวีผมและแต่งตัว นางสวมเสื้อนวมปุยฝ้ายขาดๆ หนึ่งตัวในการปะทะกับเสียงแผดก้องจากลมเหนือ นางวิ่งไปตลอดทาง จวบจนถึงหน้าประตูพระราชวัง หลังจากที่เห็นคนรับใช้ของตระกูลกูนางจึงเข้าใจได้ว่าที่เรียกว่าเหตุด่วนจริงๆ แล้วคือตระกูลฉีมาเยือนตระกูลนางในค่ำคืนนั้นเพราะ้าจะถอนหมั้นนาง
“ตอนนี้หรือ? ” กูเฟยเยี่ยนเอ่ยถามออกเพราะคาดไม่ถึง
“ใช่แล้ว คุณหนูใหญ่รีบขึ้นรถเถิด ทุกคนกำลังรอท่านอยู่” น้ำเสียงของคนรับใช้ไร้ซึ่งความเกรงอกเกรงใจ
กูเฟยเยี่ยนเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ที่ทอแสงสว่างในยามคืนดึกสงัด ก่อนจะก้มหน้าด่าไปหนึ่งคำ “บัดซบ!”
มีผู้คนที่ไหนที่มาถอนหมั้นกันตอนกลางดึกกลางดื่นเช่นนี้กัน?
ฉีอวี้ตัวการที่ก่อกรรมทำชั่วผู้นี้ถึงกับร้อนอกร้อนใจรอไม่ไหวแล้วอย่างนั้นหรือ? ตกลงแล้วเขารังเกียจนางถึงเพียงใดกัน? รอจนฟ้าสว่างค่อยมาแล้วจะตายเชียวหรือ? จำเป็ที่จะต้องสบประมาทเหยียดหยามกันถึงเพียงนี้เชียว?
“เ้าพูดว่าอะไรนะ? ” คนรับใช้ได้ยินคำด่าของกูเฟยเยี่ยนไม่ชัด
กูเฟยเยี่ยนไม่เอ่ยตอบ นางรีบก้าวขึ้นไปยังรถม้าก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “กลับไป เร็วเข้า!”
ถอนหมั้นก็ถอนหมั้น!
เป็เพราะชื่อและสมญานาม “คู่หมั้นของฉีอวี้” นี้เองที่พาปัญหาความยุ่งยาก รวมถึงความผิดมามากมายมาให้นาง ดังนั้นแล้วถึงแม้ว่าฉีอวี้จะไม่มา นางก็จะไปหาเขาด้วยตนเอง…
--------------------
เชิงอรรถ
[1] โมโมะ หมายถึง สรรพนามที่ใช้เรียกนางกำนัลรับใช้าุโที่เคยแต่งงานแล้วหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแม่นม