พูดแล้วเขาก็เดินเข้ามาหาลูกแก้วคริสตัล ทันทีที่มองเขาไปเขาเกือบจะกระอักโลหิตออกมา!
นิ้วมือสั่นระริกนั้นชี้ไปที่คนในลูกแก้วคริสตัล แล้วพูดติดๆ ขัดๆ “นี่นี่นี่...นี่มิใช่นางหรือ? ไฉนนางจึงบุกรุกหอดอกเหมย?”
คนที่อยู่ที่นั่นทั้งหมดต่างมองไปที่เขา!
เห็นเขาร้อนใจจนแทบจะกระทืบเท้า รองอาจารย์ใหญ่ถาม “ท่านาุโกู่ ท่านรู้จักนาง?”
ท่านาุโกู่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “รองอาจารย์ใหญ่ ก่อนหน้านี้ข้ามิใช่เคยแนะนำคนๆ หนึ่งกับท่านหรือ? คนๆ นั้นก็คือนาง!”
บนใบหน้าที่มักจะสงบนิ่งอยู่เสมอนั้นเกิดปรากฏความประหลาดใจอย่างหาได้ยาก “นางก็คือคนๆ นั้นที่ท่านพูดถึง อัจฉริยะที่สามารถท่องตำราแพทย์ทั้งหมดในหอตำราได้ภายในคืนเดียว?”
ครานี้ ท่านาุโเฉิน ท่านาุโเหลียนและท่านาุโฉินทั้งสามคนล้วนตื่นตะลึง!
เกี่ยวกับตำนานในการท่องตำราของหอตำรา เป็เื่ที่ถูกเล่าลือไปทั่วทั้งสำนักศึกษานานแล้ว ส่งผลให้อาจารย์ใหญ่และรองอาจารย์ใหญ่ตื่นตัว ผนวกกับการแนะนำรับรองอย่างแข็งขันของท่านาุโกู่ ทางสำนักศึกษาจึงเก็บสิทธิ์นี้ไว้เป็กรณีพิเศษ ขอเพียงผ่านการสัมภาษณ์ นางก็จะสามารถเข้าเป็ศิษย์ของสำนักศึกษาเทียนหงอย่างราบรื่น
“อะไรนะ? นางก็คือคนที่ท่องตำราแพทย์ในหอตำราได้ในรอบเดียว และเป็อัจฉริยะที่ท่องตำรากลับหลังอย่างคล่องแคล่ว?” ท่านาุโเหลียนตกตะลึงพรึงเพริด
“ไม่ถูกต้อง นางมิใช่ควรไปเข้าสอบของศิษย์หรือ ไฉนจึงมาเข้าร่วมการสอบของอาจารย์เล่า? นี่มิใช่เลอะเลือนหรือไร?” ท่านาุโเฉินไม่สบอารมณ์อย่างหาสาเหตุไม่ได้
ท่านาุโฉินหน้านิ่งแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่สนว่านางจะเป็อัจฉริยะหรือไม่ นางทำผิดกฎของสำนักศึกษา ต้องถูกขับออกจากสำนักศึกษา!”
ท่านาุโกู่ได้ยินว่าจะต้องถูกขับออกจากสำนักศึกษา จึงร้อนใจทันที “อย่าๆๆ! จะขับนางออกไปจากสำนักศึกษาไม่ได้เด็ดขาด! นี่นางเพิ่งมาสำนักศึกษาเป็ครั้งที่สอง นางไม่รู้กฎระเบียบของสำนักศึกษาแม้แต่น้อย การที่นางเดินพลัดหลงเข้าไปในหอดอกเหมยเป็เื่ที่พอจะเข้าใจได้! ข้าเชื่อว่า นางมิได้จงใจทำผิดกฎแน่นอน รอให้ข้าถามนางก่อน เมื่อรู้ความจริงแน่นอนแล้วค่อยตัดสินโทษก็ไม่สาย!”
ท่านาุโเหลียนพยักหน้าเห็นด้วย “หากนางเป็อัจฉริยะจริงๆ พวกเราย่อมต้องรั้งนางเอาไว้ในสำนักศึกษา จะสร้างประโยชน์อย่างใหญ่หลวงให้กับสำนักศึกษาในวันหน้า!”
ท่านาุโฉินไม่เห็นด้วย “เพราะนางเป็อัจฉริยะ พวกเราก็ต้องเมตตานางหรือ? แล้วจะให้ผู้อื่นเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของกฎเกณฑ์ของสำนักศึกษาได้อย่างไรกัน หากมีคนคิดจะเอาเยี่ยงอย่าง ความน่าเชื่อถือของสำนักศึกษาจะมีอยู่อีกหรือไม่? อีกประการหนึ่งลำพังแค่สามารถท่องตำรานับเป็อัจฉริยะไม่ได้! สำนักศึกษาเทียนหงของพวกเรา้าผู้มีความสามารถที่แท้จริงและนำพาให้สำนักศึกษาของเราแข็งแกร่งขึ้นได้ มิใช่หนอนหนังสือ!”
ท่านาุโฉินหยุดไปครู่หนึ่งแล้วหันไปถามท่านาุโกู่ “ท่านาุโกู่ ท่านคิดว่านางนอกจากท่องตำราได้แล้ว ยังมีความสามารถอย่างอื่นอีกหรือไม่? วรยุทธ์ของนางอยู่ในขั้นใด?”
“เื่นี้...” ท่านาุโกู่ถึงกับเป็ใบ้ไปทันที
เท่าที่เขารู้มา ดูเหมือนกระทั่งเทพยุทธ์ขั้นหนึ่งก็ยังไม่ใช่ หากว่ากันตามมาตรฐานของการรับศิษย์แล้ว นางไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ
ท่านาุโเฉินรอดูละครฉากดีๆ ด้วยสีหน้าสาสมใจ “ท่านาุโกู่ ท่านาุโฉินถามท่านอยู่! ตกลงวรยุทธ์ของนางอยู่ในขั้นใดกันแน่?”
ท่านาุโกู่อดกลั้นจนหน้าแดงก่ำ เขากล้ำกลืนอยู่เนิ่นนานจึงเค้นคำพูดออกมาว่า “ไม่ถึงเทพยุทธ์ขั้นหนึ่ง...”
ท่านาุโเฉินหัวเราะ “กระทั่งเทพยุทธ์ขั้นหนึ่งก็ยังไม่ใช่ นี่น่ะหรือที่ท่านเรียกว่าอัจฉริยะ?”
ท่านาุโกู่หน้าแดงก่ำ “แต่นางท่องตำราแพทย์ได้...”
“นั่นพิสูจน์ได้เพียงว่านางเป็หนอนหนังสือคนหนึ่ง” ท่านาุโเฉินตัดบทเขา แล้วหันไปพูดกับรองอาจารย์ใหญ่ “รองอาจารย์ใหญ่ ข้าเห็นด้วยกับท่านาุโฉิน เสนอให้ขับคนผู้นี้ออกไปจากสำนักศึกษาทันที!”
“เ้า...” ท่านาุโกู่ร้อนใจ
“ช้าก่อน!” รองอาจารย์ใหญ่พลันยกมือขึ้นชี้ไปที่ลูกแก้วคริสตัล “ดูเหมือนนางกำลังจะฝ่าด่านค่ายกลเสาดอกเหมยแล้ว”
ได้ยินเช่นนั้น คนที่เหลืออีกสามคนหันไปมองลูกแก้วคริสตัลพร้อมๆ กัน ทันทีที่มองไปแต่ละคนได้แต่โง่งม เห็นเพียงสตรีในอาภรณ์สีขาวมือซ้ายถือกระทะ มือขวาถือจวัก ด้วยท่าทีที่เลื่อนเปื้อนที่สุดปรากฏขึ้นในคลองจักษุของพวกเขา นางกำลังครุ่นคิดว่าจะฝ่าด่านไปได้อย่างไร
“นางคงไม่ได้คิดจะฝ่าด่านด้วยการถือกระทะและจวักหรอกนะ? นี่มันเลอะเทอะเกินไปแล้ว!” ท่านาุโเฉินถึงกับหน้ามืด
ดวงตาทั้งคู่ของท่านาุโกู่แทบจะทะลักออกมานอกเบ้า หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง “เ้าเด็กคนนี้จะกล้าหาญเกินไปแล้ว จะรีบไปหาที่ตายก็ไม่ใช่วิธีการเช่นนี้! ไม่ได้ ข้าต้องไปห้ามนาง!”
พูดแล้วเขาก็หมุนกายหมายจะพุ่งออกไป รองอาจารย์ใหญ่ห้ามเขา “อย่าเพิ่งใจร้อน! ข้าดูท่าทางของแม่นางท่านนี้แล้วสุขุมมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม นางอาจจะมีวิธีฝ่าด่านออกมาสำเร็จก็เป็ได้”
“ไม่มีทางเด็ดขาด!” ท่านาุโเฉินพูดด้วยความมั่นใจ “กระทั่งศิษย์ที่มีความเก่งกาจเช่นโจวเซี่ยนและท่านหญิงชิงเสียที่มีชาติกำเนิดมาจากครอบครัวแม่ทัพยังบุกฝ่าไปไม่ได้ นางเป็แค่หนอนหนังสือที่กระทั่งเทพยุทธ์ขั้นหนึ่งก็ยังไม่ใช่ จะฝ่าด่านไปได้อย่างไรกัน?”
ท่านาุโกู่ส่ายหน้าเช่นกัน “ไม่ได้ นี่เท่ากับนางรนหาที่ตายชัดๆ ข้าจำเป็ต้องขัดขวางนาง!”
รองอาจารย์ใหญ่ห้ามเขาอีกครั้ง “รอดูสถานการณ์ก่อนเถิด!”
ท่านาุโกู่จนใจ ได้แต่รั้งอยู่ที่นั่นดูเหตุการณ์ต่อไป
ในหอดอกเหมย เฟิ่งเฉี่ยนที่พร้อมด้วยกระทะและจวัก ทำให้โจวเซี่ยนและท่านหญิงชิงเสียถึงกับตกตะลึง
“มันบ้าอะไรกัน” โจวเซี่ยนมีสีหน้าราวกับเห็นสัตว์ประหลาด
ท่านหญิงชิงเสียหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “เ้าแน่ใจว่าเ้าจะบุกฝ่าเข้าไปเช่นนี้ ค่ายกลธนูของเสาดอกเหมยมิใช่เื่เล่นๆ!”
เฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะ “ลองดูก็มิใช่รู้แล้วหรือ?”
นางะโขึ้นไปเหยียบบนเสาดอกเหมยต้นแรก วินาทีที่เท้าทั้งคู่เหยียบลงบนเสาดอกเหมย ค่ายกลธนูเริ่มทำงานทันที!
ราวกับธนูแต่ละดอกมีดวงตามองเห็นอย่างไรอย่างนั้น พวกมันพุ่งเข้าหาเฟิ่งเฉี่ยนพร้อมเพรียงกัน!
เฟิ่งเฉี่ยนใช้กระทะเป็โล่ ใช้จวักเป็หอก ริมฝีปากส่งเสียงออกมาเบาๆ “ัเหิน!” แล้วเริ่มเยื้องกรายด้วยท่วงท่าประหลาด มุ่งหน้าไปยังเสาดอกเหมยอีกต้นหนึ่ง!
“นางแย่แล้ว” ท่านผู้าุโเหลียนส่ายหน้าเสียดาย
“ช่างไม่รู้จักประมาณตน” ท่านาุโเฉินแค่นเสียงฮึขึ้นจมูก
ท่านาุโฉินสีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์
รองอาจารย์ใหญ่ยังคงจ้องมองลูกแก้วคริสตัลเพื่อสังเกตการณ์ต่อไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ข้าควรไปห้ามนางจริงๆ!” ท่านาุโกู่หลับตาลงด้วยทนดูไม่ได้ เขาไม่กล้าดู
ทันใดนั้น เสียงสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความใดังขึ้น เป็เสียงของท่านาุโเหลียน “นี่...นี่เป็ไปได้อย่างไร?”
ต่อมามีเสียงสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความใอีกเสียงหนึ่ง เป็เสียงของท่านาุโเฉิน “ให้ตายเถอะ! นี่ไม่ใช่เื่จริงกระมัง”
กระทั่งท่านาุโฉินที่เป็คนพูดน้อยเสมอมาก็ยังอดที่จะส่งเสียงออกมาไม่ได้ว่า “เอ๊ะ?”
สุดท้ายเป็เสียงหัวเราะอันอบอุ่นของรองอาจารย์ใหญ่ “ฮ่าๆ น่าสนใจ!”
ท่านาุโกู่ที่หลับตามาตลอดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเสียงประหลาดๆ จากรอบกาย เขาจึงลืมตาขึ้นอย่างทนไม่ได้ในที่สุด จากนั้นมองไปที่ลูกแก้วคริสตัล...
ทันทีที่มองเข้าไปเขาถึงกับงงงัน ั์ตาขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ เกือบจะหลุดออกมานอกเบ้า
นิ่งอยู่นาน ในที่สุดเขาก็เค้นคำพูดออกมาได้ประโยคหนึ่ง “ให้ตายเถอะ!”
เห็นเพียงในลูกแก้วคริสตัล เงาร่างผอมบางในอาภรณ์สีขาวนั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วบนเสาดอกเหมย บอกว่าเงาร่างสีขาวไม่เกินไปแม้แต่นิดเดียว!
นางเคลื่อนไหวรวดเร็วและแปลกประหลาดเกินไป!
หากกล่าวว่าระบำหิมะเก้าตำหนักของท่านหญิงชิงเสียเมื่อสักครู่สง่างาม เช่นนั้นัเหินของเฟิ่งเฉี่ยนเรียกได้ว่ามหัศจรรย์ แต่ละก้าวนั้นเปลี่ยนแปลงทุกท่วงท่า และไม่เป็ไปตามหลักการโดยทั่วไป!
ทั้งๆ ที่เห็นกับตาว่าเท้าของนางก้าวไปทางขวา แต่คนกลับเดินไปทางซ้าย!
ทั้งๆ ที่เห็นว่านางก้าวถอยหลัง แต่คนกลับเดินไปข้างหน้า!
อีกทั้งอิริยาบถเป็ไปด้วยความรวดเร็วอย่างที่สุด ทำให้ร่างของนางกลายเป็เงาสีขาวสายหนึ่งเคลื่อนไหวสวนทางกับค่ายกลธนูในเสาดอกเหมย ราวกับัสีขาวตัวหนึ่งที่กำลังว่ายวนฉวัดเฉวียนอย่างย่ามใจ ได้แต่ทำให้คนตบโต๊ะชื่นชมว่าเยี่ยมยอด!
การเยื้องย่างในกระบวนท่านี้ของนาง แปลกประหลาดอย่างที่สุด เปิดหูเปิดตาผู้คนยิ่งนัก!
ท่านาุโหลายท่าน รวมไปถึงรองอาจารย์ใหญ่ล้วนดูจนตาค้าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้